บทที่ 131 ฐานทัพจงไห้ฉันมาถึงแล้ว!
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ในที่สุดกระบวนการทั้งหมดก็สิ้นสุดลง
ณ จุดนี้เอง
เย่เทียนกลายเป็นราชาที่แท้จริงแล้ว
“แล้วอายุขัย…
เย่เทียนตรวจสอบอย่างละเอียดและพบว่าในตอนนี้อายุขัยของเขามีอย่างน้อย 800 ปี
อายุขัย 800 ปีแม้จะยาวนานเพียงใดแต่เย่เทียนยังคงไม่พอใจสิ่งที่เขาต้องการไม่ใช่ 800 ปีแต่มีชีวิตยืนยาวชั่วนิจนิรันดร์
หากเป็นเมื่อร้อยปีก่อนมันคงเป็นไปไม่ได้ แต่เขาข้ามมิติมาสู่ยุคสมัยนี้ ทั้งยังมีพรสวรรค์ที่แสนโกงอย่างพรสวรรค์ในการคัดลอก หากไม่ไล่ตามความเป็นอมตะไม่ใช่ว่าสิ่งที่เขามีเหนือคนอื่นจะ สูญเปล่าหรอกหรือ?
“ได้เวลาออกเดินทางแล้ว!”
เย่เทียนพึมพํา
หลังจากเตรียมการทุกอย่างเสร็จสิ้นเขาก็จะออกเดินทางไปยังฐานทัพระดับสุดยอดฐานจงไห่ทันที
เช้าวันต่อมา
เย่เทียนได้ไปเยี่ยมเย่วหมิงและเย่วหลิงอีกครั้งและบอกพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องที่เขากําลังจะออกจากฐานทะเลมารและขอให้พวกเขาช่วยดูแลและช่วยเหลือเย่หยให้มากที่สุดเมื่อยามที่เหยูเจอกับปัญหา
แน่นอนว่าเย่วหมิงและเย่วหลิงตอบตกลงและสัญญาว่า จะไม่มีใครกล้ายั่วยุเย่หยุตราบใดที่พวกเขาอยู่ในฐานทะเลมาร
เมื่อกลับถึงบ้าน.
เย่เทียนเก็บร่างเทียมตัวตายตัวแทนไว้ในมิติส่วนตัวจากนั้นเขาก็พาเย่หยุมายังห้องลับใต้ดิน
“เสียวยู่นี่คือห้องลับที่ติดตั้งค่ายกลรวบรวมลมปราณระดับสูงน้องสามารถฝึกฝนที่นี่ได้ในภายหลังจําไว้ว่าอย่าเปิดเผยความลับของที่นี่หากมีใครรู้จะต้องเกิดปัญหามากมายตามมา”เย่เทียนก่าชับ
“อืม พี่ชาย น้องเข้าใจแล้ว!”
เย่หยไม่ได้ตื่นเต้นอะไร แต่กลับรู้สึกผิดหวัง เธอไม่ต้องการให้พี่ชายของเธอจากไปเพราะเธอไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนถึงจะได้พบเจอกันอีกครั้ง
ในอดีตแม้ว่าพี่ชายของเธอจะออกไปล่าสัตว์อสูรในป่าอยู่บ่อยครั้งแต่เพียงไม่กี่เดือนเขาก็กลับมาแต่ครั้งนี้พี่ชายของเธอไม่สามารถบอกเธอได้ว่าอีกนานแค่ไหนเขาถึงจะกลับมา
“ถุงเก็บสมบัติเหล่านี้มีทรัพยากรมากมายในอนาคตน้องจะต้องใช้ทรัพยากรในการฝึกฝนอีกมากหากไม่จําเป็นอย่าได้พยายามออกไปล่าสัตว์อสูรในป่า!”
เย่เทียนยื่นถุงเก็บสมบัติให้เย่หยู
เย่หยุเก็บถุงเก็บสมบัติอย่างเงียบๆเธอรู้ว่าเย่เทียนเป็นห่วงเธอ ดังนั้นจึงก่าชับเธอเช่นนี้
หลังจากนั้น เย่เทียนได้พูดคุยกับเย่หยูอยู่เป็นเวลานานก่อนจะออกจากบ้านพร้อมกับเสี่ยวเสวียน
เสี่ยวจินและเสี่ยวจ่อเขาไม่ได้พาพวกมันไปด้วยเพราะตอนนี้พวกมันเป็นสัตว์เลี้ยงของเย่หยุแล้ว
เมื่อออกจากฐานทะเลมารเย่เทียนก็มุ่งหน้าไปทางตะวันตกเฉียงใต้
ในเวลานั้น เย่เทียนนั่งอยู่บนหลังของเสี่ยวเสวียน หันจ้องมองไปยังฐานทัพทะเลมารและไม่นานเขาก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของฐานทะเลมาร
ตลอดทางไม่มีสัตว์อสูรบินตัวใดมาขวางทาง เพราะเสี่ยวเสวียนเป็นสัตว์อสูรระดับราชาแล้วถึงแม้ว่ามันจะกลายเป็นสัตว์อสูรระดับราชาแต่มันก็สามารถเปิดจุดชีพจรได้ 5 จุดแล้ว
ที่จริงแล้วความเร็วในการยกระดับของเสียวเสวียนยังคงช้ามาก ตามการคาดเดาของเย่เทียนพรสวรรค์ทางสายเลือดระดับตะวันไม่ควรเป็นเช่นนี้
แต่ตามที่เสี่ยวเสวียนบอก ตอนนี้มันอยู่ในวัยเยาว์การเติมโตจึงเป็นไปอย่างช้าๆ แต่เมื่อผ่านวัยเยาว์ไปแล้วความเร็วในการยกระดับของมันก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
10,000 กิโลเมตร!
20,000 กิโลเมตร!
30,000 กิโลเมตร! 40,000 กิโลเมตร
เสี่ยวเสวียนบินไปอย่างไม่รีบร้อน ตลอดเส้นทางยังได้พบกับสัตว์อสูรระดับราชาอีกหลายตัวแต่ก่อนที่สัตว์อสูรเรานั้นจะได้เข้าใกล้พวกมันก็ถูกเผาโดยเพลิงแห่งมังกรในที่สุด
เย่เทียนและเสี่ยวเสวียนมาถึงแม่น้าที่อยู่ห่างจากฐานทะเลมา 500,000 กิโลเมตร
แม่น้ำแห่งนี้กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา เปรียบได้กับทะเล
“แม่น้ำฉางหลิง ซึ่งเป็นแม่น้ำสายย่อยที่แยกออกมาจากแม่น้ำแยงซี มันมีความกว้าง 10,000 กิโลเมตร ด้วยความเร็วของเสี่ยวเสวียนสามารถข้ามผ่านแม่น้ำนี้ได้ในระยะเวลาอันสั้น แต่ในแม่น าแห่งนี้มีสัตว์อสูรมากมาย และยังมีสัตว์อสูรที่น่ากลัวที่มีระดับสูงกว่าระดับราชาอีกด้วย!”
เย่เทียนพึมพําและรู้สึกกลัวอยู่เล็กน้อย
ด้วยความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้ แม้แต่ระดับราชาไร้เทียมทานเขาก็ยังไม่สามารถรับมือ ได้ ไม่ต้องพูดถึงสัตว์อสูรที่มีระดับสูงกว่าระดับราชา
“เสี่ยวเสวียน บินให้เร็วที่สุด!” เย่เทียนสั่ง
“ครับ นายท่าน!”
เสียวเสวียนเองก็จริงจังเช่นกัน ในฐานะเจ้าแห่งสัตว์อสูร มันรับรู้ถึงอันตรายของแม่น้าสายนี้ โดยสัญชาตญาณ มันสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่มันไม่อาจต่อกรได้ ถึงแม้ว่าสัตว์อสูรที่น่าสะพรึงกลัว นั้นมีสายเลือดระดับต่ํากว่ามันแต่ด้วยเวลาที่เติบโตมาอย่างยาวนาน มังกรที่พึ่งฟักออกมาเช่นมัน ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของสัตว์อสูรเหล่านี้
มันต้องบินให้เร็วที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงจากอันตราย นั่นคือความคิดของมัน!
ความเร็วของเสียวเสวียนเพิ่มขึ้นจนถึงขีดสุด ร่างของมันกลายเป็นล่าแสงพุ่งผ่านอากาศอย่าง รวดเร็ว อย่างไรก็ตามไม่ว่าความเร็วของมันจะเร็วแค่ไหนสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งใต้น้าก็ยังรู้สึกถึง มัน!!!!
แม่น้ำหมื่นลี้พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า สัตว์อสูรจํานวนมากพุ่งทะยานขึ้นมาปิดล้อมเสี่ยวเสวียนและเย่เทียน บางส่วนเป็นสัตว์อสูรระดับราชา อีกส่วนหนึ่งเป็นสัตว์อสูรชั้นยอด
“ตาย!
เย่เทียนถือดาบเวทย์เวทย์ระดับสูงในมือเจตจํานงแห่งดาบระเบิดออกมาดาบมากมายนับไม่ถ้วนปรากฏออกมาและพุ่งผ่านอากาศสังหารสัตว์อสูรที่ขวางทางและตกลงไปในแม่น้าฉางหลิง
1000 กิโลเมตร!
2000 กิโลเมตร
3000 กิโลเมตร!
พวกเขาฝ่าออกไปเข้ามาอีกฝั่งของแม่น้ำขึ้นเรื่อยๆ แต่จํานวนของสัตว์อสูรก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน
ขณะที่เย่เทียนและเสี่ยวเสวียนกําลังจะมาถึงฝั่งตรงข้าม ปลายักษ์ที่มีรางยาว 300เมตรก็พุ่งขึ้นมาจากน้ำปากขนาดใหญ่ราวกับหลุมดําที่สามารถกลืนกินดวงอาทิตย์ได้
แน่นอนว่านี่เป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น ปลาตัวนี้ไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นมันเป็นเพียงสัตว์อสูรระดับราชาเท่านั้นแต่ท่ามกลางสัตว์อสูรระดับราชามันกลับไม่ได้อ่อนแอ
“ดาบสังหารสวรรค์!”
เย่เทียนฟันดาบโจมตีออกไป และเป็นครั้งแรกที่เขาใช้ทักษะดาบระดับเงินกับศัตรูแสงจากดาบพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว ราวกับมันฉีกกระชากห้วงเวลา
ดาบนี้รวดเร็วเกินกว่าความเร็วสูงสุดของระดับราชาทั่วไปอย่างสิ้นเชิง
พรูด!!!
แสงจากดาบตัดปลายักษ์ออกเป็นสองส่วน ศพของมันร่วงหล่นตกลงไปในแม่น้าคลื่นน้าสูงร้อยเมตรสาดกระเซ็นไปทั่วทันใดนั้นสัตว์อสูรจํานวนมากในน้าก็หยุดและแยกย้ายกันไป
เย่เทียนข้ามแม่น้าได้สําเร็จ
“แม่น้ฉางหลิงนั้นผู้ฝึกยุทธระดับราชาทั่วไปไม่มีทางจะข้ามผ่านได้ระดับราชาในฐานทะเลมารมีผู้ที่มีความสามารถข้ามผ่านแม่น้ำนี้ได้ไม่เกิน 5 คน!”เย่เทียนกล่าว
เสี่ยวเสวียนยังคงบินต่อไป
ตลอดเส้นทางในครั้งนี้นั้นเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีอันตรายใดๆ สัตว์อสูรระดับราชาที่พบเจอเป็นครั้งคราวก็ไม่กล้าที่จะยั่วยุเสี่ยวเสวี่ยน
เพียงไม่นาน
พวกเขาก็เข้าใกล้ฐานทัพจงไห้มากขึ้นเรื่อยๆแต่เนื่องจากพวกเขาไม่รู้ตําแหน่งที่แน่นอนเย่เทียนและเสี่ยวเสวียนจึงใช้เวลาไปกว่าสามวันเต็มๆกว่าจะพบฐานทัพจงไห่
“เจอแล้ว!”
เย่เทียนมองไปยังฐานทัพขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าเขา และถอนหายใจด้วยความโล่งอก
ฐานทัพนี้ใหญ่กว่าฐานทะเลมารถึงสิบเท่า และยังมีเรือเหาะมากมายลอยอยู่บนท้องฟ้าและบางครั้งก็มีเรือเหาะก็บินมาจากที่ไกลๆ
เรือเหาะทุกล่านั้นแข็งแกร่งและมีขนาดใหญ่กว่าเรือเหาะเห็นวายุของฐานทะเลมารหลายเท่า”ต้องเป็นฐานทัพจงไห่อย่างแน่นอน!” เย่เทียนกล่าวอย่างมั่นใจ
พรึบ!
เย่เทียนขี่เสี่ยวเสวียนไปยังประตูสู่ฐานทัพจงไห่
ไม่นานเขามาถึงประตู
ประตูบานนี้มีขนาดใหญ่มาก แม้แต่หอคอยด้านข้างของประตูก็มีความสูงหลายร้อยเมตรและยังมีอักขระลวดลายมากมายถูกสลักไว้
เย่เทียนเป็นจอมเวทย์ค่ายกลระดับสูง ดังนั้นเขาจึงสามารถบอกได้ว่าประตูและหอคอยแห่งนี้มีค่ายกลชั้นยอดมากมายแม้แต่ระดับราชาไร้เทียมทานก็อย่าแม้แต่จะคิดว่าจะเปิดมันได้
“บัตรประจําตัวประชาชน!”
หนึ่งในผู้เฝ้าประตูหอคอยกล่าว