บทที่ 141 พรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับตะวัน!
(แก้ไขท้ายเรื่องตอนที่แล้วไม่ใช่ 9 มังกรนะครับ)
หากเย่เทียนบรรลุถึงจุดสูงสุดของระดับราชาพละกําลังของเขาจะอยู่ที่ 10,000 ช้างเมื่อใช้พลังปราณพละกําลังจะเพิ่มขึ้นเป็น 20,000 ช้างบวกกับพรสวรรค์ด้านพละกําลังระดับลึกลับที่ช่วยเพิ่มพละกําลัง 30 เท่าและทักษะดาบระดับเงินอีก 12 เท่า
หลังจากคิดดูแล้วพลังโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาจะเท่ากับ 7.2 ล้านช้างหรือก็คือ 7.2
พลังมังกร
“หลังจากที่ฉันไปถึงขีดจํากัดของระดับราชา ฉันมีพลังเพียง 7.2 มังกรเท่านั้นจักรพรรดิขวานสงครามมีพลัง 8.2 มังกรได้อย่างไร?
นี่เป็นครั้งแรกที่เย่เทียนพบว่าพรสวรรค์ของเขาด้อยกว่าคนอื่น
แน่นอน
เขาไม่ได้รู้สึกหดหู่ กลับกันมันทําให้เขารู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก
พรสวรรค์ของจักรพรรดิขวานสงครามนั้นต้องยอดเยี่ยมมากแน่ๆ
ถ้าเขาคัดลอกพรสวรรค์ของจักรพรรดิขวานสงคราม ความแข็งแกร่งของเขาจะพุ่งสูงขึ้นใน
พริบตาเลยไม่ใช่หรือ?
ตามการคาดเดาของเย่เทียน จักรพรรดิขวานสงครามจะต้องมีพรสวรรค์ด้านพละกําลังระดับ
ลึกลับ บางทีตอนนี้อาจกลายเป็นพรสวรรค์ระดับลึกลับที่แท้จริงแล้วก็ได้อีกอย่างจักรพรรดิขวานสงครามต้องมีพรสวรรค์ประเภทการใช้อาวุธขวานอย่างแน่นอนและจะต้องเป็นก่อนตะวันระดับ
สูงสุดเป็นอย่างน้อย
“จักรพรรดิขวานสงครามใช้ขวานเป็นอาวุธทักษะขวานของเขาเป็นที่เลื่องลืออย่างมากเขาน่าจะมีพรสวรรค์ด้านขวานระดับสูงสุด!”เย่เทียนคาดเดา
พรสวรรค์ด้านพละกําลังระดับลึกลับที่สูงกว่าเย่เทียน บวกกับพรสวรรค์ด้านขวานเมื่อถึงขีดจํากัดของระดับราชาพละกําลังของจักรพรรดิขวางสงครามต้องมากกว่า 20,000 ช้างจึงทําให้ จักรพรรดิขวานสงครามสามารถปลดปล่อยพลังโจมตีได้ถึงยักษ์ 8.2 มังกร
หลังจากนั้น
เย่เทียนมองไปที่บันทึกสถิติของการป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุด และพบว่าเขาก็ไม่สามารถทํา
ลายมันได้เช่นกัน
[บันทึกการป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดของระดับราชา: สามารถทนต่อการโจมตี 2 มังกรไดโดยไม่ได้รับบาดเจ็บผู้สร้างสถิติ:ฉินเฟิง!]
ผู้ฝึกยุทธระดับราชาขั้นสูงสุดสามารถทนต่อพลังโจมตี 20,000 ช้างได้โดยไม่ตายหากเย่เทียนไปถึงจุดสูงสุดของระดับราชาบวกกับพรสวรรค์ด้านการป้องกันระดับลึกลับพลังการป้องกันของเขาจะเพิ่มขึ้นอีก 50 เท่าเขาจะสามารถทนต่อพลังโจมตี 1 มังกรได้ หากรวมกับพรสวรรค์กระดูกเพชรระดับลึกลับเขาจะสามารถทนต่อการโจมตีได้อีก 1.5 มังกรโดยไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส
นั่นคือขีดจํากัดสูงสุดของเขาแล้ว
ด้วยการป้องกันพลังโจมตี 1.5 มังกร ก็ยังไม่สามารถทําลายสถิติการป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุด
ของระดับราชาได้ เว้นเสียแต่ว่าเย่เทียนจะสามารถคัดลอกพรสวรรค์ด้านการป้องกันระดับความลึกลับได้
เย่เทียนตรวจดูบันทึกสถิติอื่นๆและพบว่าในตอนนี้เขาไม่สามารถทําลายสถิติใดได้เลย”ฐานจงไห่มีพวกวิปริตมากมายแต่นั่นก็ถือเป็นเรื่องดีสําหรับเราเราสามารถคัดลอกพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมได้อีกเป็นจํานวนมาก!”
เย่เทียนลอบคิดพลางหัวเราะ
เมื่อใดก็ตามที่เขาสามารถคัดลอกพรสวรรค์ของคนเหล่านั้นแล้ว เขาจะสามารถทําลายสถิติใน
บันทึกระดับราชาได้ทีละรายการ
อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถทําตัวเองให้โดดเด่นจนเกินไปเขาแค่ทําลายสถิติสองหรือสาม
รายการเพื่อไว้หน้าคนอื่น
ในเมื่อไม่สามารถทําลายสถิติใดได้ในขณะนี้เย่เทียนจึงออกจากหอคอยเทพสงคราม”คูลดาวน์พรสวรรค์การคัดลอกสิ้นสุดลงแล้ว เราสามารถคัดลอกพรสวรรค์ได้อีก 2 อย่างแต่การยืนรออยู่ที่นี่นั้นเสียเวลามากไปเราควรจะไปยังสํานักงานใหญ่ของกลุ่มกําลังต่างๆ ที่เหล่านั้นน่าจะมีพรสวรรค์ที่เราต้องการ!”
เย่เทียนวางแผน
ดังนั้นเย่เทียนจึงตรงไปที่สํานักงานใหญ่ของพันธมิตรพเนจรเป็นแห่งแรกสํานักงานใหญ่ของพันธมิตรพเนจรอยู่ไม่ไกลจากหอคอยเทพสงครามมากนักเพราะมันตั้งอยู่
ในพื้นที่ส่วนกลางของฐานจงไห่
สํานักงานใหญ่ของพันธมิตรพเนจรถูกสร้างขึ้นอย่างโอ่อ่าและสง่างามครอบคลุมพื้นที่กว่า 10
ลี้ และแบ่งออกเป็น 10 ชั้น
หลังจากเข้าไปในสํานักงานใหญ่ของพันธมิตรพเนจรแล้ว เย่เทียนก็เดินไปรอบๆ
พรสวรรค์ในการคัดลอกของเขาตอนนี้ครอบคลุมขอบเขต 1,500 เมตรแต่ด้วยความที่
สํานักงานใหญ่ของพันธมิตรพเนจรนั้นมีขนาดใหญ่เกินไปขอบเขตของพรสวรรค์ในการคัดลอกจึง
ไม่สามารถครอบคลุมได้ทั่วบริเวณ ดังนั้นเขาจึงทําได้เพียงค่อยๆตรวจสอบพรสวรรค์ของผู้คนเมื่อเย่เทียนมาถึงใจกลางของชั้นแรก เย่เทียนก็พบกับผู้ฝึกยุทธที่มีพรสวรรค์ระดับจันทราถึง 2 คน
เย่เทียนเลือกที่จะคัดลอกพรสวรรค์ระดับจันทรามาเพียงครั้งเดียว เพราะในตอนนี้ขาดการ
หลอมรวมอีกเพียงครั้งเดียวก็สามารถยกระดับพรสวรรค์ในการบ่มเพาะของเขาให้กลายเป็นระดับตะวันได
ครึ่งชั่วโมงต่อมา เย่เทียนเดินตรวจสอบสํานักงานใหญ่ของพันธมิตรพเนจรจนทั่วแต่สุดท้ายเขาก็พบเพียงผู้ที่มีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับจันทราเพียง 2 คนเท่านั้น
“มีโอกาส 70-80%ที่ผู้มีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับดาราจะสามารถบรรลุถึงขอบเขตศักดิ์สิทธิ์ได้ส่วนผู้มีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับจันทรามีโอกาส 70-80% ที่จะสามารถกลายเป็นระดับจักรพรรดิได้และเราที่มีรากฐานที่สมบูรณ์แบบด้วยพรตะวันระดับจันทราก็มีโอกาส 100% ที่จะบรรลุขอบเขตจักรพรรดิซึ่งในฐานทัพจงไห้ระดับจักรพรรดิคือระดับที่แข็งแกร่งที่สุด
แต่ขอบเขตจักรพรรดินั้นไม่มีใครเลยที่จะมีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับตะวัน หากคํานวณ
ตามนี้พรสวรรค์ในการบ่มเพาะที่ดีที่สุดของฐานทัพจงไห่น่าจะเป็นเพียงพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับจันทรา”เย่เทียนอนุมานเช่นนี้
ดูเหมือนว่าพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับจันทราจะหาได้ยากแม้กระทั่งในฐานทัพระดับสุดยอดอย่างฐานจงไห่แม้แต่ในพันธมิตรพเนจรก็ไม่น่าจะมีมากนักคงจะไม่เกินตัวเลข 2 หลัก”ถ้าเช่นนั้น หลังจากที่เรากลับไปข้าหลอมรวมพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับจันทราและยก
ระดับพรสวรรค์ของเราให้กลายเป็นระดับตะวันเป็นไปได้ว่าเราจะกลายเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะแข็งแกร่งที่สุดในฐานทัพจงไห่”เย่เทียนแอบดีใจ
นี่เป็นสถิติเช่นกัน แต่น่าเสียดายที่หอคอยเทพสงครามไม่มีการบันทึกสถิตินี้แต่ต่อให้มีเย่
เทียนก็ไม่กล้าเปิดเผยพรสวรรค์ของเขา!
“ยังเหลือโอกาสคัดลอกอีกครั้ง!”
เย่เทียนตั้งเป้าหมายไว้ว่าอย่างน้อยต้องเป็นพรสวรรค์ระดับลึกลับ แต่สุดท้ายเขาก็พบพรสวรรค์ระดับลึกลับ 2 ชนิดที่เขาไม่ต้องการ หนึ่งคือพรสวรรค์เขตแดนอัคคีระดับลึกลับและอีก
คนคือพรสวรรค์วารีระดับลึกลับ
พรสวรรค์ระดับลึกลับสองอย่างนี้ไม่มีประโยชน์อะไรกับเขามากนัก เขายังไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่…
“ช่างมันเถอะ คัดลอกพรสวรรค์เขตแดนอัคคีระดับลึกลับไปก่อน เพราะตอนนี้ไม่มีอะไรดีไป
กว่านี้แล้ว!”เย่เทียนลอบคิดกับตัวเอง
จากนั้นเขาก็คัดลอกพรสวรรค์เขตแดนอัคคีระดับลึกลับทันที
“เรียบร้อย!”
เมื่อเสร็จสิ้นตามเป้าหมายแล้วเย่เทียนก็ไม่ต้องการอยู่ในสํานักงานใหญ่ของพันธมิตรพเนจร
อีกต่อไป ถึงแม้ว่าที่นี่จะมีสมบัติมากมายให้เลือกชม แต่น่าเสียดายเขาไม่สามารถแลกเปลี่ยนพวกมันได้เย่เทียนจึงมุ่งหน้ากลับบ้านของเขาในทันทีเมื่อกลับถึงบ้าน
เย่เทียนเริ่มหลอมรวมพรสวรรค์เขตแคนจักรอัคคีระดับลึกลับและเข้าใจพรสวรรค์นี้ได้อย่างรวดเร็ว
จะว่าไปแล้วพรสวรรค์นี้ก็ไม่เลวนักมันเป็นพรสวรรค์ประเภทการโจมตีที่ครอบคลุมพื้นที่วงกว้างสามารถเปลี่ยนพื้นที่รัศมีหลายสิบลี้ให้กลายเป็นเขตแดนแห่งเปลวเพลิงได้สิ่งมีชีวิตใดๆที่อยู่ภายใต้เขตแดนนี้จะถูกโจมตีด้วยเปลวไฟจํานวนนับไม่ถ้วน”พรสวรรค์นี้นับว่าไม่เลวเลยมันช่วยชดเชยข้อบกพร่องของเราไปอย่างหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นพรสวรรค์ระดับลึกลับปลอม 30%อีกด้วย!”
จากนั้นเย่เทียนก็เริ่มหลอมรวมพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับจันทราอีกครั้ง
คราวนี้เป็นกระบวนการยกระดับพรสวรรค์ในการบ่มเพาะของเขาให้กลายเป็นระดับที่สูงขึ้น
ตูม!!!!
ความเจ็บปวดไร้ที่สิ้นสุดจู่โจมร่างกายของเย่เทียนอย่างรวดเร็ว มันทําให้เขาทั้งรู้สึกทรมาน
และมีความสุขไปพร้อมๆกัน
“มาเลย พรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับตะวัน!”
เย่เทียนตะโกนในใจ
ตูม!!!!
ความเจ็บปวดระลอกแล้วระลอกแล่นผ่านเข้ามาผิวหนังของเย่เทียนราวกับกลายเป็นกุ้ง
ก้ามกรามที่ปรุงสุกแล้ว
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ในที่สุดเย่เทียนก็เริ่มได้สติขึ้นมา
เขาเพิ่งสลบไป
“น่าขายหน้าไปหน่อยคิดว่าจะทนได้ซะอีก!”
แน่นอนว่าการหมดสติไปขณะกระบวนการหลอมรวมไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการหลอมรวม
พรสวรรค์กระบวนการหลอมรวมก็สามารถเสร็จสิ้นได้เช่นเดิม
[พรสวรรค์ในการบ่มเพาะ: ระดับตะวัน]
เย่เทียนหัวเราะอย่างบ้าคลั่งเมื่อเห็นว่าพรสวรรค์ในการบ่มเพาะของเขากลายเป็นพรสวรรค์ระดับตะวัน
“ฮ่าฮ่าฮ่า ในที่สุดก็มีพรสวรรค์ระดับเดียวกันกับเสี่ยวเสวียนแล้ว เป็นถึงเจ้านายของเสี่ยว
เสวียนแต่กลับมีพรสวรรค์ด้อยกว่าสัตว์เลี้ยงของตัวเองเป็นเรื่องที่น่าขายหน้าจริงๆ”
น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถแบ่งปันความสุขนี้กับเสี่ยวเสวียนได้ เพราะเสี่ยวเสวียนหลับใหล
เพื่อวิวัฒนาการ
ตามที่มันบอกกล่าวกับเขา
มันกําลังจะเปลี่ยนจากมังกรวัยเด็กกลายเป็นมังกรวัยหนุ่มเมื่อมันสามารถกลายเป็นมังกรวัยหนุ่มแล้วความเร็วในการเติบโตของมันจะเร็วขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่า
“ฉันจะทดสอบความเร็วในการบ่มเพาะของพรสวรรค์ระดับตะวัน!”
เย่เทียนอดใจรอไม่ไหวแล้ว