บทที่ 176 สมบัติ 24 ชิ้น!
อีกไม่กี่วันเย่เทียนก็รู้ดีว่าเขาจะต้องถูกเรียกตัวให้เข้าไปในรอยแยกมิติเพื่อปกป้องแนวรบ
สําหรับเรื่องนี้ มันไม่ได้เหนือความคาดหมายของเขาแน่นอนว่ามนุษย์ที่แข็งแกร่งจะต้องกลายเป็นผู้พิทักษ์หากว่าอันตรายมาถึงแล้วยังเลือกที่จะหลบหนีแล้วละก็ เช่นนั้นยังสามารถเรียกตัวเองว่าเป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์ได้อีกหรือ ?
ดังนั้นเขาจะไม่หนีหรือรู้สึกกลัว
เมื่อเทียบกับผู้ฝึกยุทธระดับศักดิ์สิทธิ์คนอื่นๆแล้ว เย่เทียนมีวิธีรักษาชีวิตตนเองอยู่มากมาย
เว้นเสียแต่ว่าเขาจะโชคร้ายพบกับสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิที่มีพรสวรรค์ในการโจมตีจิตวิญญาณพริบตาเดียวสามวันก็ผ่านไป
พันธมิตรพเนจรส่งข่าวมา ว่าเขาต้องรีบไปรายงานตัวที่ฐานของมนุษย์ในโลกของสัตว์อสูรภายใน 10 วัน
“สิบวันยังมีเวลาเตรียมตัว!”
เย่เหียนพึมพ่า
เขายังมีทรัพยากรอยู่ไม่น้อย ส่วนหนึ่งได้ถูกจัดวางอยู่ในหอสวรรค์ และอีกส่วนหนึ่งก็ยังขายออกไปได้ เช่น โอสถหลอมจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์
ตอนแรกเขามีโอสถหลอมจิตศักดิ์สิทธิ์อยู่ 3 เม็ดก่อนหน้านี้ได้มอบให้หวังเยี่ยนหนึ่งเม็ดตอนนี้เขาจึงเหลือมันอยู่อีก 2 เม็ด
มูลค่าของโอสถหลอมจิตศักดิ์สิทธิ์ที่ฐานจงไห่นั้นสูงมาก ลูกหลานของจักรพรรดิ์จํานวนมากมีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับหลุดพ้นทําให้ยากที่จะทะลวงเข้าสู่ระดับศักดิ์สิทธิ์ได้และโอสถ หลอมจิตศักดิ์สิทธิ์จะเพิ่มโอกาสที่พวกเขาจะทะลวงเข้าสู่ระดับศักดิ์สิทธิ์ได้มากยิ่งขึ้นระดับจักรพรรดิต้องไม่เมินเฉยต่อโอสถหลอมจิตศักดิ์สิทธิ์อย่างแน่นอน
“โอสถหลอมจิตศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 2 เม็ดแลกเปลี่ยนกับสมบัติที่ช่วยเปิดพื้นที่สมองแม้ว่าความเร็วในการฝึกฝนของเราจะสูงกว่าคนอื่น แต่หากมีสมบัติที่ช่วยเปิดสมองได้มันก็จะยิ่งดีกับตัวเรา
เย่เทียนวางแผน
ความแข็งแกร่งเป็นสิ่งสําคัญที่สุด และโอสถหลอมจิตศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่มีประโยชน์สําหรับเขาและน้องสาวของเขาเย่หยูก็เป็นอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับดาราแล้วในอนาคตเธอไม่จําเป็นต้องใช้มันเช่นกันสําหรับสมาชิกของหอสวรรค์พวกเขาจําเป็นต้องพึ่งพาตนเองหลังจากนั้น
เย่เทียนได้ออกประกาศข้อมูลการซื้อขายของโอสถหลอมจิตศักดิ์สิทธิ์ไว้ที่สํานักงานใหญ่
ของพันธมิตรพเนจร เงื่อนไขคือโอสถหลอมจิตศักดิ์สิทธิ์ 1 เม็ดแลกเปลี่ยนกับสมบัติที่ช่วยเปิดพื้นที่สมอง 10 ชิ้น
กล่าวคือโอสถหลอมจิตศักดิ์สิทธิ์สองเม็ดสามารถแลกเปลี่ยนเป็นสมบัติที่ช่วยในการเปิดพื้นที่สมองได้ถึง 20 ชิ้น
ทันทีที่ข้อมูลการซื้อขายปรากฎขึ้นก็มีคนติดต่อมาเลยทันทีเห็นได้ชัดว่าสมบัติอย่างโอสถหลอมจิตศักดิ์สิทธิ์นั้นหายากมากหากช้ากว่านี้จะถูกคนแย่งไปเพียงไม่นาน
เมื่อเย่เทียนพบกับคนที่ต้องการแลกเปลี่ยนกับเขา เป็นผู้ฝึกยุทธ 2 คน คนหนึ่งเป็นผู้ฝึกยุทธระดับราชาและอีกคนคือผู้ฝึกยุทธระดับจักรพรรดิ
“นี่…”
เย่เทียนมองไปที่จักรพรรดิ์ ที่จริงแล้วจากข้อมูลคนที่เขาควรจะแลกเปลี่ยนด้วยควรจะเป็นระดับราชา เขาไม่รู้ว่าทําไมจักรพรรดิคนนี้ถึงมาปรากฏตัวที่นี่ทันที
ด้วยการตรวจสอบพรสวรรค์ของพรสวรรค์ในการคัดลอก เย่เทียนรู้ที่มาของจักรพรรดิคนนี้
ฉินชานเป็นชาวฉินและเป็นหนึ่งในจักรพรรดิของกองกําลังฉินจง
แต่นี้เป็นการแลกเปลี่ยนของพันธมิตรพเนจร การที่มีจักรพรรดิของชาวฉินมาแลกเปลี่ยนเช่นนี้มันผิดกฎ!
“นี่คือจักรพรรดิฉินชานมาจากกองกําลังฉินจง ท่านมหาปราชญ์เย่เทียนอย่าเพิ่งกังวลผมรู้ดีว่ามันผิดกฎแต่เรายินดีที่จะเพิ่มสิ่งของแลกเปลี่ยน ” ระดับราชาคนนั้นรีบเอ่ยปาก
“เข้าใจแล้ว การค้าครั้งนี้ไม่ได้อยู่ในข้อตกลงจักรพรรดิฉินชาน คุณจะยอมจ่ายราคาเท่าไหร่เพื่อซื้อโอสถหลอมจิตศักดิ์สิทธิ์สองเม็ดในมือผม?”เย่เทียนเอ่ยถาม
การแลกเปลี่ยนโอสถหลอมจิตศักดิ์สิทธิ์สองเม็ดในครั้งนี้ถือว่าผิดกฎดังนั้นจักรพรรดิฉินชานจึงต้องจ่ายเพิ่มหากต้องการแลกเปลี่ยนโอสถหลอมจิตศักดิ์สิทธิ์สองเม็ด
“สมบัติที่ช่วยในการเปิดพื้นที่สมอง 24 ชิ้น แต่ละชิ้นสามารถทําให้เปิดพื้นที่สมองได้ 0.5% ภายในเวลาครึ่งเดือนโดยสมบัติ 24 ชิ้นนี้ สามารถช่วยให้ผู้ที่มีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับจันทราเปิดพื้นที่สมองได้ 12% ภายในหนึ่งปีแต่สําหรับพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับดาราจะช่วยเปิดพื้นที่สมองได้เพียง 4% ภายในหนึ่งนี่คือราคาสูงสุดที่ฉันสามารถจ่ายได้แล้วคุณคงจะรู้มูลค่าของมันดี!” ฉินชานกัดฟันและกล่าว
“ตกลง!”
เย่เทียนพยักหน้าเห็นด้วย
“ดี งั้นพวกเราสาบานกันเลย!” ฉินชานกล่าวด้วยความยินดี
เขาแลกเปลี่ยนโอสถหลอมจิตศักดิ์สิทธิ์สองเม็ดเพื่อลูกๆของเขา เขาเพิ่งแต่งงานและได้ให้กําเนิดบุตรชายหนึ่งคนและบุตรสาวอีกหนึ่งคนอีกคนชื่อฉินเหอนับว่าเป็นอัจฉริยะคนหนึ่งในอนาคตเขามีโอกาสที่จะกลายเป็นราชา 5 ดาราได้เพียงแต่ว่าเขามีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับหลุดพ้นเท่านั้นส่วนลูกสาวของเขาอายุน้อยกว่าและเพิ่งเลื่อนเป็นระดับราชาเธอก็มีพรสวรรค์ใน
การบ่มเพาะระดับหลุดพ้นเช่นกันดังนั้นฉินชานจึงต้องเตรียมสมบัติเช่นโอสถหลอมจิตศักดิ์สิทธิ์สําหรับบุตรชายและบุตรสาวของเขาสมบัติประเภทนี้หาได้ยากมากแม้แต่ในกองกําลังฉินจงอีกทั้งตําแหน่งของเขาในกองกําลังฉินจงไม่ได้สูงมากนักมีคนมากมายที่ต้องการสมบัติเช่นนี้ไม่ว่ามันจะปรากฏออกมามากเพียงใดก็ไม่เพียงพอ
เขาไม่สามารถหาสมบัติเช่นโอสถหลอมจิตศักดิ์สิทธิ์และเขาก็เคยส่งคนไปยังมิติวิหารแห่งแสงมาก่อนแต่ก็ไม่มีใครได้รับโอสถหลอมจิตศักดิ์สิทธิ์
เขาจึงจ่าใจทําได้เพียงค้นหาข้อมูลการซื้อขายเท่านั้น หวังว่าใครซักคนจะนํามันออกมาแลกเปลี่ยนในที่สุดราชาของพันธมิตรพเนจรก็ติดต่อเขาและให้ข้อมูลการซื้อขายโอสถหลอมจิตศักดิ์สิทธิ์แก่เขา
เมืองกาญซื้อขายประสบความสําเร็จ
ฉินชานก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก”ตอนนี้ลูกสองคนของฉันมีความหวังที่จะทะลวงเข้าสู่ขอบเขตศักดิ์สิทธิ์แล้ว!”
เย่เทียนได้รับสมบัติที่ช่วยในการเปิดสมองมา 24 ชิ้น ซึ่งมากกว่าที่เขาคาดไว้ถึง 4 ชิ้นอีกอย่างคุณภาพของสมบัติที่ใช้ในการฝึกสมองเหล่านี้ดีกว่าปกติมาก
การซื้อขายในครั้งนี้ทําให้เขาได้รับกําไรอย่างแท้จริง
หลังจากกลับมาถึงบ้าน เย่เทียนก็เริ่มใช้สมบัติที่ช่วยในการเปิดสมองจากนั้นเขาก็ใช้
พรสวรรค์ด้านเวลาเร่งความเร็วของเวลาขึ้น 3 เท่าตูม!!!!
พื้นที่สมองค่อยๆเปิดขึ้นอย่างรวดเร็วภายใต้อิทธิพลของสมบัติที่ช่วยในการเปิดสมองพื้นที่สมองขยายออกไปเร็วกว่าที่ผ่านมาหลายเท่า
“สมบัติชิ้นนี้สามารถทําให้ผู้มีพรสวรรค์ระดับจันทราสามารถเปิดได้ 0.5% ในครึ่งเดือนอย่างไรก็ตามเรามีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับตะวันทําให้เราสามารถเปิดพื้นที่สมองได้ 0.5% ภายใน 3 วัน นอกจากนี้เรายังสามารถเร่งเวลาขึ้นได้สามเท่า เท่ากับว่าเราสามารถเปิดพื้นที่สมองได้ 0.5% ต่อวัน!”
เย่เทยนพึมพา
เป็นไปตามคาดหลังจากเก็บตัวบ่มเพาะหนึ่งวัน เย่เทียนก็สามารถเปิดพื้นที่สมองเพิ่มขึ้น0.5%
กุญแจสําคัญคือสมบัติชิ้นหนึ่งจะถูกใช้หมดภายใน 2 วันกล่าวคือสมบัติ 1 ชิ้นสามารถเปิดพื้นที่สมองได้ 1% เขาสามารถใช้สมบัติ 24 ชิ้นหมดภายใน48 วันซึ่งจะทําให้เขาสามารถเปิดพื้นที่สมองเพิ่มขึ้นได้ 24%ความเร็วนี้น่าเหลือเชื่อมาก!
“เราต้องเร่งใช้สมบัติเหล่านี้ ตอนนี้สมองของเราถูกเปิดไปแล้ว 12% เมื่อใช้สมบัติเหล่านี้จนหมดเราจะสามารถเปิดพื้นที่สมองได้ถึง 36% เมื่อถึงตอนนั้นความแข็งแกร่งของเราจะพุ่งสูงขึ้นอย่างแน่นอน!”
เย่เทียนพูดอย่างตื่นเต้นฝึกฝน
เหลือเวลาอีกเกือบ 9 วันก่อนจะถึงวันเรียกตัว พริบตาเดียว 8 วันก็ผ่านไปในเวลานี้พื้นที่สมองของเย่เทียนได้เปิดขึ้นถึง 16.5% แล้ว
“ถึงเวลาเดินทางแล้ว!”
เย่เทียนออกจากการเก็บตัว และเตรียมที่จะมุ่งหน้าไปยังรอยแยกมิติระดับห้าดาวก่อนที่เขาจะจากไปเขากําชับเย่หยูและคนอื่นๆจากหอสวรรค์ไม่ให้ออกจากฐานทัพจงไห่ชั่วคราว
700,000 กิโลเมตร ทางตะวันออกเฉียงเหนือ
นี่คือที่ป้อมปราการของฐานทัพจงไห่ซึ่งตั้งอยู่ที่รอยแยกมิติระดับ 5 ดาว
เย่เทียนบินมาถึงที่นี่และเห็นรอยแยกมิติขนาดใหญ่ที่ยาวหลายพันเมตรราวกับว่าท้องฟ้าถูกเจาะเป็นแผล
เมื่อมองไปที่รอยแยกของมิติ เย่เทียนก็รู้สึกว่าหากเทียบกันแล้วรอยแยกมิติระดับ 3 ดาวใกล้กับฐานทะเลมารนั้นเป็นเพียงเด็กทารกเท่านั้น
บริเวณด้านหนึ่งของรอยแยกมิติได้ถูกติดตั้งค่ายกลขนาดใหญ่ไว้มากมายค่ายกลขนาดใหญ่
จํานวนมากเหล่านี้มีพลังมากกว่าค่ายกลระดับสูงสุด มันน่าจะเป็นค่ายกลระดับดาราในเวลาเดียวกันที่นี่ก็เต็มไปด้วยยอดฝีมือระดับราชา ระดับศักดิ์สิทธิ์หรือแม้แต่ระดับจักรพรรดิจํานวนมาก
เย่เทียนรู้สึกถึงกลิ่นอายที่น่าเกรงขามที่แผ่ออกมาจากปราสาทซึ่งทําให้เขารู้สึกประหลาดใจ
เย่เทียนมุ่งหน้าเข้าใกล้รอยแยกเพียงไม่นานราชาคนหนึ่งก็เดินมาหาเขาพร้อมประสานมือ
และกล่าวว่า “ท่านมหาปราชญ์เย่เทียนโปรดตามข้ามา!”