บทที่ 195 การขัดเกลาร่างกายในภูเขาไฟ และก้าวเข้าสู่ระดับจักรพรรดิ!
“ก่อนอื่นเราต้องทะลวงเข้าสู่ระดับจักรพรรดิก่อนจากนั้นใช้พรสวรรค์ปลอมแปลงเพื่อปลอมตัว
เป็นสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิแล้วค่อยใช้พรสวรรค์ล่องหนเพื่อแอบเข้าไปยังต้นมังกรศักดิ์สิทธิ์
แม้ว่าจะถูกมองทะลุพรสวรรค์ล่องหนหรือไม่ก็ตามสัตว์อสูรเหล่านั้นก็ต้องคิดว่าเราเป็นสัตว์อสูร
ระดับจักรพรรดิเช่นเดียวกับพวกมัน!”
เย่เทียนรู้สึกว่าวิธีนี้ไม่เลวเลย
แต่เขาต้องบรรลุถึงระดับจักรพรรดิให้ได้เสียก่อน จึงจะสามารถดําเนินตามแผนการนี้ได้มิฉะนั้นถ้าเขาปลอมตัวเป็นสัตว์อสูรระดับศักดิ์สิทธิ์เขาจะต้องถูกสังหารอย่างแน่นอน
สัตว์อสูรระดับศักดิ์สิทธิ์ที่เดินทางไปยังต้นมังกรศักดิ์สิทธิ์นี่เปรียบเสมือนการยั่วยุสัตว์อสูร
ระดับจักรพรรดิหากเป็นเช่นนั้นเขาคงจะถูกโจมตีจากสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิเหล่านั้นอย่างแน่นอน
“ห้าเดือน เราต้องบรรลุถึงระดับจักรพรรดิให้ได้!”
เย่เทียนรู้สึกว่าเป้าหมายนี้ไม่ได้ยากเย็นนัก
ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เขาใช้พรสวรรค์ล่าสมบัติเพื่อหาสมุนไพรวิเศษมากมายหลังจากตรวจสอบแล้วมีสมุนไพรหลายชนิดที่สามารถช่วยเปิดพื้นที่สมองของเขาได้ดังนั้นความเร็วใน
การฝึกฝนของเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ตราบเท่าที่เขาพยายามอย่างหนักเพื่อบ่มเพาะและใช้สมบัติที่ช่วยในการเปิดพื้นที่สมองภายในไม่กี่เดือนเขาจะสามารถบรรลุไปถึงระดับจักรพรรดิได้อย่างแน่นอน
ตอนนี้เย่เทียนตัดสินใจแล้วในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านอกจากการหาพรสวรรค์ระดับลึกลับเขาจะทุ่มเวลาทั้งหมดไปกับการฝึกฝนและค้นหาสมุนไพรวิญญาณที่ช่วยในการเปิดสมอง
เขามีพรสวรรค์ล่าสมบัติและสะกดจิตเขาสามารถสะกดจิตสัตว์อสูรเพื่อสอบถามตําแหน่งของ
สมบัติเช่นสมุนไพรวิญญาณและใช้พรสวรรค์ล่าสมบัติเพื่อค้นหาสมบัติเหล่านั้นได้เช่นนี้มันจะไม่ทําให้เขาเสียเวลา
“บ่มเพาะ!”
“ออกค้นหาสมุนไพรวิญญาณ!”
เย่เทียนเริ่มยุ่งกับการฝึกฝนทั้งกลางวันและกลางคืนเขาทุ่มเทหนักกว่าเมื่อก่อนมากทุกครั้งที่เขาเริ่มบ่มเพาะเขาจะใช้พรสวรรค์ด้านเวลาเร่งความเร็วของเวลาขึ้น 3 เท่า
เดือนแรก เย่เทียนเปิดพื้นที่สมองไป 3% ทําให้พื้นที่สมองของเขาถูกเปิดไปแล้ว 93%เดือนที่สองเขาโชคดีมากที่ได้รับสมุนไพรวิญญาณซึ่งทําให้เขาสามารถเปิดพื้นที่สมองได้อีก
4% ซึ่งเท่ากับว่าเขาเปิดสมองไป 97%
เดือนที่สามโชคของเย่เทียนไม่ดีนักถึงแม้เขาจะได้รับสมุนไพรวิญญาณอื่นๆมามากมายแต่เขาก็ไม่พบสมุนไพรวิญญาณที่ช่วยในการเปิดสมองได้ ดังนั้นความเร็วของเขาจึงช้าลงเขาสามารถเปิดสมองเพิ่มขึ้นได้เพียง 2% เท่านั้น
ในเดือนที่สี่ เย่เทียนใช้พลังทั้งหมดของเขาในการเปิดสมองที่เหลืออีก 1% และใช้เวลาทั้ง
เดือนในการเปิดสมองจนสําเร็จ 100%
ตอนนี้เย่เทียนถึงจุดสูงสุดของระดับศักดิ์สิทธิ์แล้ว
ในเวลานี้เขารู้สึกว่าจิตวิญญาณของเขาแข็งแกร่งขึ้นมากความทรงจําของเขามาถึงระดับที่น่าสะพรึงกลัวราวกับว่าเขามีความสามารถในการทํานายเหตุการณ์ล่วงหน้า
บางทีการคาดเดาการโจมตีล่วงหน้าอาจจะมีอยู่จริง
“ฉันเคยอ่านเจอในนิยายแฟนตาซีบางเรื่องหนึ่งในนั้นมีตัวละครชื่อต้าหนิงซึ่งมีความสามารถ
ยังรู้เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้าแม้ว่าจะเกิดขึ้นไกลแสนไกลก็ตามบางทีสักวันหนึ่งเราอาจจะมีความสามารถนี้ขึ้นมาจริงๆ!”
เย่เทียนส่ายหัวและหยุดคิดถึงเรื่องนี้
สิ่งที่สําคัญที่สุดในตอนนี้คือเขาต้องทะลวงเข้าสู่ระดับจักรพรรดิ!
ก่อนหน้านี้ เขาได้พูดคุยกับเยว่เอ๋อเกี่ยวกับกุญแจสําคัญในการทะลวงเข้าสู่ระดับจักรพรรดิไม่
ว่าจะเป็นการใช้พลังปราณของเขาเพื่อขัดเกลาร่างกายหรือใช้พลังพิเศษเพื่อขัดเกลาร่างกายเพื่อทะลวงขีดจํากัดของร่างกายก้าวไปสู่ระดับจักรพรรดิ
“การใช้พลังลมปราณเพื่อขัดเกลาร่างกายนั้นช้าเกินไปอีกหนึ่งเดือนก็จะถึงวันครบกําหนด
เก็บเกี่ยวผลมังกรศักดิ์สิทธิ์แล้วหากใช้พลังปราณเพื่อขัดเกลาร่างกายให้ทะลวงเข้าสู่ระดับจักรพรรดิหนึ่งเดือนไม่เพียงพอเราต้องใช้วิธีอื่นเพื่อทะลวงเข้าสู่ระดับจักรพรรดิโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้!”เย่เทียนคิด
โลกของสัตว์อสูรนั้นกว้างใหญ่ไพศาลมันต้องมีสถานที่ที่เหมาะสมให้เขาใช้ทะลวงระดับจักรพรรดิอย่างแน่นอน
เย่เทียนใช้พรสวรรค์สะกดจิตเพื่อสอบถามจากสัตว์อสูรและได้รู้สถานที่ที่เขาตามหาซึ่งก็คือภูเขามังกรเพลิง
ภูเขามังกรเพลิงเปรียบเสมือนภูเขาที่มีชีวิตซึ่งเต็มไปด้วยลมปราณธาตุไฟเย่เทียนมีพรสวรรค์
เขตแดนอัคคีระดับลึกลับ เขาสามารถดูดซับพลังจากภูเขาไฟชักนํามันมาขัดเกลาร่างกายของเขาได้
การขัดเกลาร่างกายเป็นครั้งแรกนั้นเป็นเรื่องง่ายที่จะทําลายขีดจํากัดของร่างกาย หากใช้พลัง
ของภูเขาไฟเพื่อขัดเกลาร่างกายเขาจะสามารถทําลายขีดจํากัดของร่างกายและเลื่อนขั้นเป็นจักรพรรดิได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ผู้ที่มีรากฐานที่สมบูรณ์แบบมีข้อได้เปรียบในการทําลายขีดจํากัดของร่างกายและนี่คือสิ่งที่เยว่เอ๋อได้บอกเย่เทียน
“มันอยู่ตรงนี้!”
เย่เทียนมองไปยังภูเขาไฟขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าเขารูปลักษณ์ของมันคล้ายกับมังกรลาวาที่ไหลออกมาราวกับว่าเป็นเส้นโลหิตของมังกรแต่ตําแหน่งหัวมังกรกลับเป็นปล่องภูเขาไฟสถานที่แบบนี้ถูกเรียกว่าชีพจรมังกรเพลิง
ชีพจรมังกรเพลิงเหมาะสําหรับสัตว์อสูรธาตุไฟดังนั้นที่นี่จึงมีสัตว์อสูรจํานวนมากมารวมตัวกันอยูรที่นี่และภูเขามังกรเพลิงนี้มีสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิครอบครองอยู่วู๊ซซ!
เย่เทียนเคลื่อนที่เข้าใกล้ภูเขามังกรเพลิง
ในเวลาเดียวกันสัตว์อสูรที่มีรูปร่างคล้ายมังกรขนาดใหญ่ก็พุ่งออกมาจากปากปล่องภูเขาไฟประเภท: มังกรเพลิง
พรสวรรค์ทางสายเลือด:จันทรา
พรสวรรค์ในการป้องกัน:สูงสุด
พรสวรรค์เปลวเพลิง:ลึกลับ
พรสวรรค์ด้านความเร็ว:ระดับเริ่มต้น
พรสวรรค์ด้านพละกําลัง:ปานกลาง
“นอกจากพรสวรรค์เปลวเพลิงแล้วพรสวรรค์อื่นๆของสัตว์อสูรมังกรเพลิงตัวนี้ต่ำต้อยเสียจริง!”
เย่เทียนเคยเห็นสัตว์อสูณระดับจักรพรรดิมามากมายสัตว์อสูรระดับจักรพรรดิเหล่านั้นต่างก็มีพรสวรรค์ระดับสูงสุดพวกมันคงใช้สมุนไพรช่วยยกระดับพรสวรรค์ในโลกของสัตว์อสูรนี้มีสมุนไพรเช่นนั้นอยู่ไม่น้อย
หากโชคดีมากพอก็สามารถพัฒนาขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง
แต่สัตว์อสูรระดับจักรพรรดิที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นคาดว่าหลังจากที่มันครอบครองภูเขามังกร
เพลิงแห่งนี้มันไม่เคยออกจากภูเขาอีกหรือนั่นเป็นเหตุผลที่ทําให้พรสวรรค์ด้านความเร็วและพละกําลังของมันต่ำต้อยถึงเพียงนี้
“ตาย!”
เย่เทียนสังหารมังกรเพลิงในพริบตา
วู๊ซ!
จากนั้นเขาก็ก้าวไปยังปากทางเข้าภูเขามังกรเพลิง
เย่เทียนเห็นลาวาจํานวนมหาศาลอยู่ภายในภูเขาภายในลาวาเหล่านั้นเขาสัมผัสได้ถึงปราณอัคคีที่เข้มบัน
“เป็นดินแดนล้ําค่าจริงๆ ด้วย!”
เย่เทียนถอดเสื้อผ้าออกและกระโดดลงไปในลาวา
ในฐานะที่เป็นผู้ฝึกยุทธระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงสุดลาวาพวกนี้สําหรับเขาแล้วมันคล้ายกับน้ำพุร้อน
“ดูดซับ!”
ปราณอัคคีจํานวนมหาศาลถูกเย่เทียนดูดซับเข้าไปในร่างกาย จากนั้นเขาโคจรตราประทับพรสวรรค์เขตแดนอัคคีเพื่อจัดระเบียบปราณอัคคีที่ดูดซับมาเพื่อใช้ในการขัดเกลาร่างกาย
ภายใต้การขัดเกลาของปราณอัคคีมากมายร่างกายของเย่เทียนถูกปกคลุมด้วยเปลวเพลิงที่ร้อนแรงราวกับว่าร่างกายของเขากําลังถูกเผาไหม้
ในตอนนี้ เย่เทียนราวกับเปลี่ยนตัวเองเป็นเหล็กก้อนหนึ่งและใช้เปลวเพลิงแผดเผากําจัดสิ่งเจือปนในร่างกายจนหมดสิ้นผลที่ได้คือร่างกายของเขาค่อยๆยกระดับขึ้น
เดิมทีการขัดเกลาร่างกายด้วยปราณอัคคีเช่นนี้จะทุกข์ทรมานเป็นอย่างมากแต่เย่เทียนมีพรสวรรค์เขตแดนอัคคีระดับลึกลับปราณอัคคีเหล่านี้กลับทําให้เขารู้สึกอบอุ่นไม่มีความเจ็บปวด
เลยแม้แต่น้อยกลับ
เวลาค่อยๆไหลผ่านไป!
ร่างกายของเย่เทียนเริ่มแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่องในที่สุดเขาก็ได้สัมผัสได้ถึงกับขีดจํากัดของร่างกายเป็นครั้งแรกในวันที่สิบ
หากเป็นผู้ฝึกยุทธที่มีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับดาราแม้ว่าพวกเขาจะสัมผัสขีดจํากัดของร่างกายเป็นครั้งแรกได้แล้ว แต่การที่จะทําลายขีดจํากัดของร่างกายได้นั้นยังเป็นเรื่องที่ยากเย็น
แสนเข็น เว้นเสียแต่ว่าจะมีสมบัติที่ต่อต้านสวรรค์ที่ช่วยทําลายขีดจํากัดของร่างกาย
อย่างไรก็ตามมันต่างจากตอนที่ระดับปรมาจารย์เคยทําลายขีดจํากัดการขัดเกลาผิวหนังกล้ามเนื้อกระดูกเลือดและอวัยวะภายใน นั่นคือการทําลายขีดจํากัดของร่างกายทีละส่วน
การทําลายขีดจํากัดในครั้งนี้เป็นการทําลายขีดจํากัดของร่างกายทั้งหมดเพื่อกดดันให้ร่างกายวิวัฒนาการ
ใช่แล้วมันคือการวิวัฒนาการ
สําหรับผู้มีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับจันทราการใช้ปราณอัคคีเหล่านี้ทําลายขีดจํากัดของร่างกายครั้งแรกนั้นง่ายดายเป็นอย่างมาก และเย่เทียนก็มีพรสวรรค์ในการบ่มเพาะระดับตะวันซึ่งมันไม่ได้มีปัญหาใดๆกับเขาเลย
“หาลาย!”
เย่เทียนตะโกนอยู่ในใจ
ขีดจํากัดของร่างกายพรั่งพรูไปด้วยปราณอัคคีจํานวนมหาศาลไม่นานมันก็ถูกทําลายลงในตอนนี้ความแข็งแกร่งของร่างกายเย่เทียนเพิ่มขึ้นนับสิบเท่าซึ่งมันเทียบเท่ากับ 100 มังกร
อีกทั้งความเร็วและพลังป้องกันของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก
และที่สําคัญอายุขัยของเขายังเพิ่มขึ้นถึง 3,000 ปี
จนถึงตอนนี้เย่เทียนได้ก้าวเข้าสู่ระดับจักรพรรดิอย่างเป็นทางการแล้ว!