าพแวดล้อมอันประกอบไปด้วยผู้คนมากมายและคึกคักไปกับการต่อสู้อันส่งผลให้เกิดเสียงจอแจอื้ออึ้งนั้น พลันมลายหายสิ้นในพริบตา
ปล่าวหรอก ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆก็หายไป เพียงแต่ข้าได้ปิดการรับรู้สิ่งต่างๆเหล่านั้น
สิ่งเดียวที่ข้ารับรู้ได้ ณ ตอนนี้ ผ่านโสตสัมผัสและสายตา คือ รองหัวหน้าหน่วยอัศวิน เฮนบริทช์
เมื่อใจนิ่งสงบดั่งทะเลไร้คลื่น จึงจับสังเกตเห็นช่วงจังหวะที่เขาพุ่งเข้าหาข้า
ให้มันได้อย่างนี้สิ ชายคนนี้ใจสู้ดีแฮะ
แต่ถึงอย่างนั้น ข้าก็พอมองเห็นช่องโหว่บางประการ
“…ย๊ากกก!”
เฮนบริทช์ตะโกนเสียงกู่ก้องออกมาขณะโจมตีเข้าใส่ข้า
อืม ดูเหมือนจะเป็นท่าฟันเหนือศรีษะพาดเฉียงซ้ายมั้ง?
ท่าฟันไม่เลว แต่ถ้าคิดจะทำอย่างนั้น มันก็ต้องมีการสืบเท้ามาข้างหน้าอย่างเลี่ยงไม่ได้
แล้วนั่นจะทำให้คู่ต่อสู้อ่านการเคลื่อนไหวออก หรือถ้าคู่ต่อสู้หลบได้แล้วสวนกลับก็ยากที่จะหลบพ้น
“- ชี่ส์..!”
ข้าอ่านการโจมตีของเขาแล้วใช้ดาบไม้ในมือยกขึ้นเหนือศรีษะรับไว้
จะก้าวถอยหลังหลบท่านี้มันก็ทำได้อยู่ แต่คิดอีกที ข้าควรจะแสดงให้เขาเห็นข้อได้เปรียบหากอ่านท่าฟันนี้ได้ถูกต้องจะดีกว่า ข้าจึงจงใจรับดาบไว้
เสียงดาบไม้กระทบกันดังก้องลานฝึก
เทียบกับการฟันดาบต้านกลับไป การรับดาบที่ฟาดลงมาและเบี่ยงทิศทางของแรงฟาดนั้น มันใช้แรงไม่มากเท่าไร พอบิดข้อมือ ข้าก็เบนวิถีดาบที่ฟาดลงมาเหนือศรีษะออกไปได้
และถ้าข้าเคลื่อนตัวเข้าไปช้อนดาบของคู่ต่อสู้ขึ้น จะทำให้ดาบที่ฟันลงมาไหลแฉลบออกนอกวิถีให้อ่อนกำลังลง ส่งผลให้เฮนบริทช์เสียเชิงดาบในทันใด
“หะ….หา!?”
โอ้ ข้ามองเห็นช่องโหว่ ไร้การป้องกันแล้วนะ คุณเฮนบริทช์
แต่โชคร้ายหน่อย ที่ดาบไม้ของข้าไม่รอให้เจ้าได้ทันระวังตัวหรอก
ข้าถ่ายน้ำหนักเคลื่อนสู่ดาบไม้ ตวัดดาบฟาดลงไปที่คอของเฮนบริทช์
ถึงจะทำได้ตามนั้น แต่ข้าก็ยั้งดาบเอาไว้ก่อนที่จะถึงตัว
ข้าไม่อยากให้การประลองยุติลงเพียงเท่านี้ หนำซ้ำถ้าฟาดดาบลงไปจริงๆด้วยมุมกระทบและความเร็วขณะนั้น อาจเป็นอันตรายได้
การประลองนี้แค่ต้องการทดสอบความสามารถในการอ่านการเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้และการเคลื่อนประชิดเพื่อโต้กลับของข้าเท่านั้นเอง
“เฮ้ย ครูฝึกสวนกลับท่านั้นได้ด้วย…โคตรทึ่งเลยว่ะ..”หนึ่งในอัศวินมุงอึ้ง
“แล้วเอ็งมองทันท่าฟันของรองหัวหน้ามั้ย…? นี่มันบ้าชัดๆ..”อีกเสียงหนึ่งตอบกลับ
อะ ไม่ได้ๆ คงเพราะทุกอย่างมันผ่านไปด้วยดี เลยทำให้ข้าผ่อนคลายลง
และกลับมาได้ยินเสียงคนรอบข้างอีกครั้ง เสียสมาธิง่ายๆแบบนี้ มันจะดูไม่ดีในฐานะครูฝึกพิเศษเอานะ
รวบรวมสมาธิอีกครั้ง มาถึงขนาดนี้แล้วก็ไม่อยากให้จบแบบเห่ยๆหรอกนะ!
“หยะ- ยังหรอกน่า!” เฮนบริทช์โวย แล้วฟาดดาบโจมตีเข้าใส่ข้าอีกครั้งหลังจากที่ข้าปัดดาบของเขาลงพื้น
นี่ก็ท่าฟันขวาเข้าลำตัวช่วงบนงั้นรึ? ดูเหมือนคราวนี้จะทุ่มสุดตัวเลยแฮะ
แต่นั่นกลับทำให้แย่หนักเข้าไปอีก
การเหวี่ยงดาบเป็นแนวระนาบสุดแรงแบบนั้น มันจะแพ้ทางต่อแรงกระแทกแนวตั้งฉาก
ข้าจึงรับดาบของเขาด้วยการฟาดดาบแนวตั้งและเบียงแรงโจมตีนั้นออกไป
ตลอดเวลาที่สู้กัน ข้าต้องคอยระวังให้มือข้ากุมดาบให้มั่น ด้วยเพราะดาบไม้แบบนี้มันไม่มีทั้งกระบังมือหรือด้ามดาบ
ความแข็งแกร่งของเฮนบริทช์ก็ไม่ใช่ระดับธรรมดาสามัญ ถ้าข้ารับดาบพลาด คงเจ็บตัวไม่น้อย
“โชะ…..อ้าว”
ข้าปัดท่าฟันของเขาออก แล้วเหวี่ยงไหล่ส่งส่วนท้ายของดาบกระแทกเข้าใส่เฮนบริทช์
“อุ๊บ!?”
อ้าว เวรแล้วไง
กะจะหยุดก่อนถึงตัว ดันฟาดเข้าใส่คางของเฮนบริทช์เข้าเต็มๆ
แรงกระแทกถึงกับทำให้ศรีษะของเขาสะบัดหงายขึ้นเลย
“ขะ – ขอโทษ!” ข้าตกใจ ครวญถามเขาด้วยความเป็นห่วง “เจ้าไม่เป็นไรใช่มั้ย?”
ถึงอย่างนั้น ดวงตาของเฮนบริทช์ก็ยังลุกโชนไปด้วยใจสู้
ดูท่าการซ้อมประลองจะยังไม่จบเพียงเท่านี้
“-ไม่ต้องห่วง ยังไหว!” เฮนบริทช์ตอบกลับ สะบัดศรีษะให้หายมึน “สู้ต่อเลย!”
จากที่โจมตีหนักๆ เขาเปลี่ยนมาเพิ่มความเร็วในการโจมตีให้มากขึ้นแทน
ตอนนี้ท่าดาบของเขาจึงฟาดฟันรวดเร็วกว่าก่อนหน้านี้อีก
พอฟันล่างมา ข้าก็ถอยครึ่งก้าวหลบ แล้วก้าวเข้าไปฟันลำตัวในช่วงจังหวะที่เขาชักดาบกลับ
ปัดดาบออก โอ๊ะ นี่ข้าเผลอเปิดหน้าอีกแล้ว
ไม่ดีแล้วสิ พลาดซ้ำสองแบบนี้เสียขี้หน้าแย่เลย
โห แล้วนี่ก็จะหมุนตัวฟันใช่มั้ยเนี่ย?
การประสานท่วงท่าไม่เลว ความเร็วเยี่ยม
คงถึงคราวที่ข้าจะได้แสดงฝีมือบ้างแล้ว
“….?!”
“ตอนนี้ข้าไม่ได้มองเห็นหน้าของเฮนบริทช์แล้ว
เพราะช่วงขณะที่เขาเริ่มหมุนตัว ข้าก็ได้มุดลอดไปยังข้างหลังของเขา
แต่ถึงไม่เห็นหน้า ข้าก็พอรู้ว่าเขาคงประหลาดใจอยู่เพราะเขาชะงักดาบแล้ว
“โดน” ข้ากล่าวก่อนจะปล่อยดาบตกใส่หลังหัวของเฮนบริทช์ ที่ตอนนี้มีแต่อากาศเปล่าๆ ไร้การป้องกันใดๆ
“ฮ๊ะ!?” เฮนบริทช์ถึงกับร้อง
จากนั้นก็มีเสียงดัง ป๊อก! ดังก้องออกมา
“….เจ้าจะสู้ต่อรึไม่?”
นี่แหละ ใช่เลย ไอ้ความรู้สึกเหมือนตอนได้ต่อสู้ด้วยดาบครั้งแรกที่ไม่ได้สัมผัสมานาน
ทำเอาข้าคึกคะนองขึ้นมาด้วย ซึ่งปกติข้าไม่ห้าวพอจะถามคำถามแบบนี้หรอกนะ
“นะ-แน่อยู่แล้ว!” เฮนบริทช์ตอบกลับแล้วก็ยังโถมการโจมตีเข้าใส่ข้าต่อไปแบบนี้อีกมากกว่าสี่ครั้ง
การซ้อมประลองก็ยังดำเนินต่อไปด้วยดี จนกระทั่ง-
“…ข้ายอมแพ้…!” เฮนบริทช์หอบหายใจจนตัวโยน ทรุดตัวลงนั่งคุกเข่ากับพื้นลานประลอง แล้วประกาศยอมแพ้อย่างหมดท่า
ไม่หรอก นี่เป็นการประลองที่ค่อนข้างกินเวลานานเลย
ปกติแล้วข้าไม่ได้ซ้อมประลองกับใครยาวนานขนาดนี้
ทำเอาข้าถึงกับชื่นชมในความอึดทรหดของเฮนบริทช์ทีเดียว
แต่ก็เป็นครั้งแรกที่ได้ออกกำลังกายดีๆแบบนี้ได้พักหนึ่งเลย
แล้วข้าก็ไม่ทำให้ตนเองต้องเสียหน้าด้วย ดังนั้นผลลัพธ์ที่ได้ก็ถือว่าไม่เลว
“คะ- โคตรทึ่งเลยว่ะ…!” หนึ่งในอัศวินมุงถึงกับเหวอ
“ท่านรองหัวหน้ายังไม่สามารถฟันเขาโดนได้แม้แต่ดาบเดียว !?”
“ปฎิกิริยาโต้ตอบไวอะไรขนาดนี้กันเนี่ย…?”
พอสมาธิข้าหย่อนลง เสียงฮือฮารอบข้างก็ดังเข้าหูมาเลย
ไม่นี่ ไม่เห็นมีอะไรน่าประหลาดใจขนาดนั้น
ว่ากันตามตรง ความเร็วและพลังของเฮนบริทช์นี่ช่างน่าเหลือเชื่อ
แต่ท่าร่าง ทักษะการเคลื่อนไหวของเขามันออกจะเป็นเส้นตรงไปสักหน่อย
ข้าแค่ทะลวงเข้าช่องโหว่ในการโจมตีของเขา และเบี่ยงวิถีดาบเขาออกด้วยท่าฟันตั้งฉาก
ข้าไม่เห็นว่าจะมีอะไรพิเศษตรงไหน
“ยอดเยี่ยมจริงๆค่ะ ท่านอาจารย์”
“อ๊ะ ขอบใจนะ อลิเซีย” ข้ายิ้มและตอบกลับคำชมของอลิเซีย
ก่อนที่ข้าจะรู้ตัว อลิเซียก็ได้ยื่นผ้ามาให้ข้าเช็ดเหงื่อที่ไหลซึมหลังการซ้อมประลอง
“หึๆๆ” อลิเซียหัวเราะในลำคอ “แล้วเจ้าล่ะ เป็นไงบ้าง เฮนบริทช์”
“….ข้าพ่ายแพ้โดยสมบูรณ์เลยครับ” เขากล่าวต่อ “ข้าคาดไม่ถึงว่าจะเป็นแบบนี้……..ข้าขออภัยอย่างสุดซึ้งครับ ท่านเบริล”
“ไม่เป็นไรหรอก ข้าไม่ได้ติดใจอะไร” ข้าตอบกลับเขาอย่างเข้าใจ
“ถ้ามีใครที่ไหนไม่รู้โผล่มาอย่างข้า มันก็สมเหตุสมผลที่จะเคลือบแคลงสงสัยอยู่แล้วล่ะ”
สายตาอำมหิตของเขาได้มลายหายไปหมดสิ้นและรู้สึกได้ว่าตัวข้าในมุมมองของเขาได้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
อย่างไรก็ตาม ใบหน้าเชิดๆที่เปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจของอลิเซียเนี่ย มันจะเด่นออกนอกหน้าเกินไปแล้วนะ
ข้าล่ะอยากให้เธอหยุดทำหน้าแบบนั้นสักที ข้าอายนะเหวย
“แต่ข้าก็ดีใจนะที่ยังมีบางสิ่งบางอย่างให้ข้าได้สอนทุกคนอยู่บ้าง” ข้าพูดเพื่อเปลี่ยนบทสนทนา
“ขอกล่าวด้วยความนอบน้อมอีกครั้งค่ะ” อลิเซียตอบกลับทันใด “พวกเรายังมีอะไรอีกมากที่ต้องเรียนรู้จากท่านค่ะ ท่านอาจารย์”
ไม่สิ ข้าไม่ได้ถ่อมตัวหรอกนะ
ข้าก็แค่คนที่หมกมุ่นในวิชาดาบนิดหน่อย และเป็นตาแก่ที่มีประสามสัมผัสตอบสนองไวกว่าคนทั่วไปเล็กน้อย
ที่มันออกมาดีแบบนี้ได้ก็เพราะรูปแบบการโจมตีที่อ่านง่ายของเฮนบริทช์นั่นแหละ
นอกจากนี้ยังมีเรื่องของความแตกต่างทางด้านวัยและประสบการณ์
กลยุทธ วิธีรับมือแต่ละบุคคลนั้นมันไม่ใช่อะไรบางอย่างที่สามารถเรียนรู้ได้สำเร็จในชั่วเวลาข้ามคืน
ถ้าข้าได้สู้กับเขาในช่วงที่ข้าอายุเท่าตัวเขาเอง บางทีผลลัพธ์อาจจะต่างออกไปจากนี้
กล่าวอีกนัยหนึ่ง นั่นแหละคือความแตกต่างระหว่างข้ากับเฮนบริทช์
“ไหนๆทุกคนก็มารวมตัวกันแล้ว งั้นเรามาฝึกกันต่อเลยนะคะ”
“เอาสิ ข้าเห็นด้วย” ข้าตอบกลับอลิเซีย
เปรียบเทียบกับตอนเจอกันครั้งหลังสุด ข้าพบว่าคนอื่นๆนอกจากเฮนบริทช์ก็มองข้าต่างไปจากเดิม
เออ ดีๆ พอความตะขิดตะขวงใจหมดไปแบบนี้ อย่างน้อยก็ทำให้ข้าทำงานได้ง่ายขึ้นล่ะวะ
ข้ามันเป็นแค่ตาลุงบ้านๆ แต่ก็จะดีใจถ้าทุกคนจะเป็นกันเองกับข้ามากกว่ามองข้าเป็นศัตรู
นอกจากนี้การได้สอนวิชาดาบนอกโรงฝึกบ้าง ก็เป็นการเปลี่ยนบรรยากาศให้สดชื่นด้วย
“ถ้าอย่างนั้น ก่อนอื่นขอดูว่าแต่ละคนถนัดถือดาบข้างไหนกันบ้าง”
“ฮิ ฮิ ขอความกรุณาด้วยนะคะ ท่านอาจารย์” อลิเซียตอบกลับข้า
เมื่อข้ามองไปรอบๆขณะพูด ข้ามองเห็นความเคารพ ยำเกรงและความตึงเครียดส่งตรงมาที่ข้า
เอ่อ ถึงความระแวงสงสัยจะหายไปแล้ว แต่นี่ก็ดูตึงเกินไปหน่อยแฮะ
“…อ่าาา ตกลงตามนี้มั้ย?”
“คะ…ครับ!!” เหล่าอัศวินตอบรับ เสียงดังก้อง
“…กะ-ก็ดี พวกเธอไม่ต้องเกร็งกันขนาดนั้นจะได้มั้ย?”
ไม่เห็นต้องกลัวกันขนาดนั้น ถึงข้าจะเป็นครูฝึกสอนพิเศษ แต่ก็เป็นแค่ตาลุงคนหนึ่งเท่านั้น
….ช่างเถอะ
เดี๋ยวอยู่ๆกันไป เข้ากันได้ดีขึ้น ก็หายเกร็งกันไปเอง