ตอนที่ 42 เขาคือยอดฝีมือทำครัว?
ตอนนี้เยี่ยเว่ยหมิงยังอยู่ห่างจากเงื่อนไขขั้นพื้นฐานในการเรียน ‘เคล็ดวิชาจักรวาล’ ยังขาดค่าตระหนักรู้หนึ่งแต้ม ค่าสติปัญญาห้าแต้ม รวมทั้งเลเวลสกิล ‘เคล็ดชำระปราณ’ อีกสามระดับ
ตอนนี้ยังหาวิธีการดีๆ ในการเพิ่มค่าสติปัญญาไม่ได้ ส่วนเคล็ดชำระปราณก็แค่ต้องฝึกอัปเลเวลมากๆ ตีมอนสเตอร์ เก็บศพ ฝังศพก็ทำให้เลเวลเพิ่มได้แล้ว ส่วนค่าตระหนักรู้ตอนนี้ยังขาดอีกหนึ่งแต้ม อิงตามรายการราคาในโรงเรียน หากอ่านตำราร้อยสกุลจบก็จะเพิ่มค่าตระหนักรู้หนึ่งแต้ม เติมเต็มเงื่อนไขในการฝึก ‘เคล็ดวิชาจักรวาล’ ได้พอดี
เมื่อเทียบกับพวกสุดยอดงานประพันธ์ที่ซื้อไม่กี่เล่มก็หมดเป็นพัน ราคาหนึ่งร้อยเหรียญทองก็ถือว่ายังพอรับได้
แต่ยอมรับราคาไหวก็ไม่ได้แปลว่าตอนนี้จะเรียนไหว ก่อนจะทำอย่างนั้นได้ สิ่งสำคัญที่สุดที่เขาต้องทำก่อนก็คือรวบรวมเงิน ถือโอกาสอัปเลเวลสกิล ‘เคล็ดชำระปราณ’ สักหน่อย!
หลังจากมีเป้าหมายแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงก็ยิ่งกระตือรือร้นต่อการอัปเลเวลอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ในช่วงเวลาต่อจากนั้น เขาก็เริ่มทำภารกิจจับกุมต่างๆ อย่างบ้าคลั่ง เขามักจะคาดเดาเบาะแสล่วงหน้าก่อน จากนั้นรับภารกิจจับกุมหลายภารกิจต่อเนื่องกัน แล้วทำภารกิจให้เสร็จสิ้นในคราวเดียว
…
ฉึก!
เยี่ยเว่ยหมิงชักกระบี่ชิงจู๋อาบเลือดออกจากหัวใจ BOSS เลเวลยี่สิบที่ชื่อว่าหลิวเสวี่ยเฉี่ยว จากนั้นก็สะบัดมือพึ่บๆ สลัดเลือดสดที่เปื้อนบนคมกระบี่ออก
[ติ๊ง! คุณสังหารหลิวเสวี่ยเฉี่ยว ฉายาวานรพ่าย มหาโจรลำน้ำคาบสมุทรที่ปล้นชิงชาวบ้านและสตรี ได้รับรางวัลภารกิจ:
ค่าประสบการณ์ 2000 แต้ม
ค่าตบะ 200 แต้ม
เงิน 50 เหรียญเงิน]
ตอนที่ประกาศแจ้งเตือนจากระบบดังเข้ามาในหู เยี่ยเว่ยหมิงก็เริ่มตรวจคลำศพด้วยความชำนาญแล้ว
ไม่ผิดไปจากที่คาด BOSS ที่ชื่อหลิวเสวี่ยเฉี่ยวไม่ดรอปตำราลับทักษะยุทธ์ใดๆ แต่ดรอปอุปกรณ์สีฟ้าหลายชิ้น แม้จะไม่มีสักชิ้นที่ดีกว่าชุดอุปกรณ์สำนักมือปราบเทพบนตัวเขา แต่เมื่ออยู่บนตลาดก็ทำเงินได้จำนวนหนึ่งเช่นกัน ตอนไปเมืองลั่วหยางจะได้ขายทิ้งไว้ในร้านอุปกรณ์หลานพ่างจื่อของเจียวไท่หลางได้เลย
จะว่าไปแล้ว พ่อค้าเจ้าเล่ห์นั่นแม้จะน่ารังเกียจ แต่ใช้บริการร้านค้าของเขาก็ถือว่าสะดวกมาก
ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ เยี่ยเว่ยหมิงรับภารกิจปราบโจรจากหน่วยงานที่จ่านเจาไปรับตำแหน่งใหม่มาเป็นเป็นกอง สถานที่ปรากฏตัวของผู้ร้ายคือตั้งแต่เมืองเปี้ยนเหลียงถึงเมืองลั่วหยาง วาดเส้นทางเป็นเส้นตรงบนแผนที่คร่าวๆ ได้ จากนั้นเขาก็เริ่มสังหารจากเมืองเปี้ยนเหลียงไปถึงลั่วหยางตลอดทางโดยอิงตามเส้นทางเส้นตรงนี้ ปราบไปแล้วสามค่ายภูเขา ประหารผู้ร้ายตามประกาศจับกุมไปแล้วสิบสองคน
เพียงแต่ใช้เวลาในเกมมานานขนาดนี้ เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่เขาจะทำเฟิร์สคิลได้ทั้งหมด ยังดีที่หลังจากผู้ร้ายตามประกาศจับพวกนี้ถูกกำจัดแล้วยังรีเฟรชใหม่ได้อีก ไม่ต้องกังวลว่าจะทำภารกิจไม่สำเร็จ
ในบรรดาค่ายภูเขาสามแห่งที่เขาปราบ ก็ยิ่งมีสองแห่งที่กลายเป็นดันเจี้ยนไปแล้ว ไอเทมที่ดรอปได้จาก BOSS น้อยลงกว่าตอนทำเฟิร์สคิลเยอะมาก ยังดีที่รางวัลภารกิจไม่ได้ลดลงเพราะสิ่งนี้
ผ่านการต่อสู้อันยาวนานขนาดนี้ ความสามารถของเยี่ยเว่ยหมิงเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ตอนนี้เลเวลและค่าสเตตัสของเขาเปลี่ยนแล้ว…
[เยี่ยเว่ยหมิง เลเวล: 18
……
พลังชีวิต: 970/970
กำลังภายใน: 760/760
ความแข็งแกร่ง: 81
พละกำลัง: 81
ท่าร่าง: 206
ความว่องไว: 81
สติปัญญา: 25
ค่าตระหนักรู้: 29
เคล็ดชำระปราณ (ไม่เข้าขั้น) เลเวล: 8
ค่าประสบการณ์: 11208/12800
……
พลังชีวิต +400
กำลังภายใน +400
ความแข็งแกร่ง +40
พละกำลัง +40
ท่าร่าง +40
ความว่องไว +40
……
[ทักษะยุทธ์]
[เคล็ดกระบี่วีรสตรี (ไม่เข้าขั้น)]เลเวล: 8
ค่าประสบการณ์: 8636/12800
ประสิทธิภาพ +80%
แม่นยำ +80%
……
[มังกรร่อนล่อหงส์ (ระดับกลาง)]เลเวล: 4
ค่าประสบการณ์: 3578/4000
ป้องกัน +80%
แม่นยำ +80%
หลบหลีก +40%
เอฟเฟ็กต์พิเศษ: ดีบัฟ (ตอนสัมผัสคมอาวุธ สามารถลดพลังโจมตีของฝ่ายตรงข้าม ทำให้ตัวเองไม่แพ้)
…..
[แปดก้าวไล่ทันคางคก (ระดับต้น)]เลเวล: 6
ค่าประสบการณ์: 1314/8000
ท่าร่าง +120
……
[ไท้ซัวเป็นไฉน (สุดยอดวิชา)]เลเวล: 2
ค่าประสบการณ์: 1211/2000
ดาเมจโจมตี +20%
แม่นยำ +20%
ดาเมจคริติคอล +20%
สามารถเปิดใช้แอคทีฟสกิลขณะต่อสู้ ประเมินช่องโหว่ในกระบวนท่าของศัตรู โจมตีครั้งเดียวศัตรูแตกพ่าย!
……
[อุปกรณ์]
เป็นต้น
…
[เงิน: 74 เหรียญทอง 60 เหรียญเงิน 27 เหรียญทองแดง]
……
สำหรับเคล็ดกระบี่ระดับกลาง ‘มังกรร่อนล่อหงส์’ ที่หัวหน้าโหยวมอบให้เป็นรางวัลภารกิจ เมื่อไรที่เยี่ยเว่ยหมิงเห็นมัน ก็อยากจะจิกกัดมันทุกครั้งไป
ในฐานะเคล็ดกระบี่ นายดูสิว่ามันเพิ่มอะไรไปบ้าง?
ป้องกัน แม่นยำ หลบหลีก ดีบัฟ…ไม่มีผลเพิ่มโบนัสโจมตีเลยสักนิด
แต่ความสามารถในการปกป้องตัวของของเคล็ดกระบี่ก็ไม่ต้องพูดถึงเลยจริงๆ ด้วยค่าสเตตัสของเยี่ยเว่ยหมิงตอนนี้ เขาถามตัวเองว่าหากสู้กับ BOSS เลเวลสามสิบจะเป็นอย่างไร ก็พบว่าอาศัยเคล็ดกระบี่เส็งเคร็งนี้สู้กับอีกฝ่ายได้อย่างสูสีเช่นกัน
ส่วนเอฟเฟ็กต์โจมตีน่ะหรือ…หึหึ นั่นไม่ใช่ปัญหาว่าการโจมตีแข็งแกร่งหรืออ่อนแอ เพราะตอนที่ใช้เคล็ดกระบี่นี้ มันทำดาเมจไม่ได้เลยยังไงล่ะ
เคล็ดกระบี่ระดับกลางไม่ได้เรื่อง ดังนั้นช่วงนี้เวลาเยี่ยเว่ยหมิงรีเฟรชภารกิจ ก็ยังใช้แค่ ‘เคล็ดกระบี่วีรสตรี’ ที่ไม่เข้าขั้นเหมือนเดิม ทำให้ค่าประสบการณ์ของ ‘เคล็ดกระบี่วีรสตรี’ เพิ่มขึ้นเร็วมาก ส่งผลให้เขาเข้าใกล้เงื่อนไขการฝึกขั้นเก้าขึ้นเรื่อยๆ แล้ว
ไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อไรจะฝึกเคล็ดกระบี่ระดับสูงเส็งเคร็งนั่นได้
ไม่ต้องเป็นระดับสูงเสมอไป ต่อให้เป็นระดับกลาง หรือแม้แต่ระดับต้นก็ยังได้เหมือนกัน!
เยี่ยเว่ยหมิงนำเสื่อออกมาจัดการศพของหลิวเสวี่ยเฉี่ยวอย่างชำนาญ ได้รับ ‘ตระหนักรู้วิชาตัวเบา’ ×1
หลังจากใช้งานแล้ว ค่าประสบการณ์ของวิชาตัวเบาแปดก้าวไล่ทันคางคกก็เพิ่มขึ้นหนึ่งพันสองร้อยแต้ม
ตอนนี้สีท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีแดงยามอัสดงแล้ว
หลังจากยืนยันทิศทางจนแน่ใจแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงก็ใช้ท่าร่างแปดก้าวไล่ทันคางคกขั้นห้าวิ่งปรื๋อไปทางเมืองลั่วหยางโดยตรง ภารกิจที่รับมาก่อนหน้านี้ อันไหนที่ควรจะทำก็ทำสำเร็จแล้ว บนตัวมีไอเทมเพิ่มขึ้นเป็นกอง เขาโยนทั้งหมดเข้าไปขายในร้านค้าอุปกรณ์ของเจียวไท่หลาง ทำให้รวบรวมเงินหนึ่งร้อยเหรียญทองสำหรับค่าเรียนตำรา ‘ร้อยสกุล’ ได้แล้ว
ระหว่างที่เดินทาง สีของท้องฟ้าก็มืดสนิท เยี่ยเว่ยหมิงรู้สึกถึงความหิวโหย เพิ่งจะพบว่าค่าความหิวสูงถึงเส้นตักเตือนเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว เขาอยากจะกินหมั่นโถวแก้หิวสักสองลูก แต่กลับพบว่าหมั่นโถวที่ซื้อไว้ก่อนออกจากเมืองเปี้ยนเหลียงก่อนหน้านี้ถูกกินไปหมดแล้วเมื่อตอนเที่ยง
อิงตามความเร็วของตัวเองตอนนี้ จะหิวตายก่อนถึงเมืองลั่วหยางหรือเปล่า
นี่ก็คือปัญหาหนึ่ง!
หลังจากเยี่ยเว่ยหมิงนำแผนที่ออกมาคำนวณคร่าวๆ ก็พบปัญหาหนึ่งที่เคยมองข้ามไป
หรือพูดได้อีกอย่างว่า หากแก้ไขปัญหาเรื่องปากท้องไม่ได้โดยเร็ว เขาก็มีโอกาสอย่างน้อยห้าสิบเปอร์เซ็นต์ที่จะหิวตายก่อนถึงเมืองลั่วหยาง
คาดการณ์ผิดพลาดซะแล้ว!
“โบร๋ว…”
ตอนที่ร่างกายของเยี่ยเว่ยหมิงกำลังกลัดกลุ้ม จู่ๆ เสียงหมาป่าหอนที่ดังมาจากจุดที่ไม่ไกลก็ทำให้เขาตาเป็นประกายทันที
เยี่ยเว่ยหมิงรื้อค้นกระเป๋าสะพายหลังครู่หนึ่ง นำกระบี่ร้อยขัดเกลาที่เป็นอุปกรณ์สีฟ้ามาออกมา แล้วพุ่งไปตามทิศเสียงหอนของหมาป่าทันที
ทำไมต้องใช้กระบี่เล่มนี่น่ะหรือ
อย่าลืมว่ากระบี่ชิงจู๋เป็นกระบี่พิษ เลือดเนื้อของเหยื่อที่ถูกมันสังหารตายก็จะเป็นพิษ นำมากินไม่ได้เลย
หมาป่ารัตติกาลมีเลเวลสิบเจ็ดโดยเฉลี่ย ด้วยความสามารถของเยี่ยเว่ยหมิงตอนนี้ เขาฟันสังหารได้อย่างไม่เปลืองแรงเลย
หลังจากนั้นสิบนาที เยี่ยเว่ยหมิงก็ก่อกองไฟกองหนึ่ง แล้วเริ่มย่างเนื้อหมาป่าอย่างสบายอารมณ์
หลังจากผ่านไปอีกยี่สิบนาที…
[เนื้อหมาป่ากึ่งไหม้กึ่งดิบ: คุณภาพ: แย่ กินแล้วลดค่าความหิว 50 แต้ม ภายในหนึ่งชั่วโมงจะลดพลังชีวิตนาทีละ 1 แต้ม]
เนื้อนี่ยังมีพิษอีกเหรอ!
เมื่อใช้กระบี่ตัดเนื้อส่วนไหม้เกรียมด้านนอกสุดออก ค่าสเตตัสก็เปลี่ยนแปลงอีกครั้ง…
[เนื้อหมาป่ากึ่งสุกกึ่งดิบ: คุณภาพ: 0 กินแล้วจะลดค่าความหิว 20 แต้ม]
แม้จะลดลงเกินครึ่ง แต่ก็ไม่ต้องกังวลถึงปัญหาพิษปนเปื้อนในอาหารแล้ว ขณะมองผลงานอันสุดแสนน่าเกลียดในมือ เยี่ยเว่ยหมิงกำลังคิดจะเริ่มกิน จู่ๆ ก็พบว่าตรงจุดที่ไม่ไกลมีเด็กชายเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งปรากฏตัวขึ้น กำลังมองเนื้อย่างในมือตนตาปริบๆ ทั้งยังกลืนน้ำลายด้วย
ในป่าภูเขาที่รกร้างไร้ผู้คน ทำไมมีเด็กโผล่ออกมาได้?
สิ่งเดียวที่แน่ใจได้ก็คือ เด็กคนนี้คือ NPC เพราะในระหว่างการอพยพไปต่างโลกไม่มีเด็กอายุเท่านี้ร่วมเดินทาง
เยี่ยเว่ยหมิงกวักมือเรียกเด็กชายตัวน้อยคนนั้น แล้วถามพร้อมรอยยิ้ม “ผู้ใหญ่บ้านเจ้าล่ะ”
“แม่ข้าหายตัวไป อาหวงก็หายไปเหมือนกัน ข้ากำลังตามหาพวกเขาอยู่” ปากก็ตอบอย่างนี้ แต่ดวงตาของเด็กน้อยยังคงจ้องเนื้อหมาป่าในมือเยี่ยเว่ยหมิงไม่ละสายตา
“อยากกินหรือเปล่า” เยี่ยเว่ยหมิงยิ้มทันที
เด็กชายตัวน้อยพยักหน้า
“เอาไปกินสิ”
เด็กชายตัวน้อยรับเนื้อหมาป่าย่างไว้ แล้วเริ่มกินคำใหญ่อย่างมูมมาม เนื้อย่างที่หน้าตาแย่จนแม้แต่เยี่ยเว่ยหมิงเองยังทำใจกินไม่ลง แต่เด็กน้อยกลับกินอย่างออกรสออกชาติ
ขณะมองท่าทางของเด็กชายตัวน้อย เยี่ยเว่ยหมิงก็พลันเกิดความรู้สึกประสบความสำเร็จแปลกๆ โดยไร้เหตุผล ถามไปเรื่อยเปื่อยโดยจิตใต้สำนึกว่า “อร่อยไหม”
“ไม่อร่อย” เด็กชายตัวน้อยตอบเสียงอู้อี้ จากนั้นก็ก้มหน้าก้มตากินต่อไป
เยี่ยเว่ยหมิง “…”
เด็กคนนี้ช่างจริงใจ แต่เขาก็โทษเด็กน้อยไม่ได้เช่นกัน อย่างไรเสียสิ่งที่เขาย่างออกมา แม้แต่ตัวเองก็ยังกระดากใจจะนับว่ามันเป็นอาหารที่ได้มาตรฐาน
เพียงแต่เพื่อหน้าตาศักดิ์ศรี เยี่ยเว่ยหมิงยังหน้าด้านแก้ตัวว่า “ที่จริงสาเหตุหลักเป็นเพราะอยู่ในป่าเขารกร้าง ไม่มีเครื่องปรุงรส…”
ใครจะคาดคิด ยังไม่ทันรอให้เยี่ยเว่ยหมิงพูดจบ เด็กชายตัวน้อยก็กินเนื้อย่างที่ถูกตัดแบ่งออกไปเกินครึ่งหมดแล้ว และพูดตัดบทเขาว่า “ไม่ใช่ปัญหาเรื่องเครื่องปรุง เป็นเพราะควบคุมไฟได้ไม่ดี ตอนที่ย่างเนื้อ จะนำเนื้อวางไว้บนเปลวไฟโดยตรงไม่ได้เด็ดขาด ต้องรอให้ถ่านไหม้เป็นสีแดงก่อน จากนั้น…”
[ติ๊ง! คุณได้รับคำชี้แนะจากยอดฝีมือทำครัว ค่าประสบการณ์ทำครัวเพิ่ม 1000 แต้ม ทักษะการทำครัวเพิ่มเป็นเลเวล 4]
เด็กชายตัวน้อยคนนี้เป็นยอดฝีมือทำครัวหรอกหรือ
“น้องชายตัวน้อย เจ้าชื่ออะไร”