ตอนที่ 43 หนุ่มน้อยอาจ่ง
“น้องชายตัวน้อย เจ้าชื่ออะไร”
เด็กชายตัวน้อยส่ายหน้า “ข้าไม่ได้ชื่อน้องชายตัวน้อย”
เยี่ยเว่ยหมิงถามต่อ “เช่นนั้นเจ้าชื่ออะไร”
“โก่วจ๋าจ่ง[1]”
เป็นอย่างที่คาดไว้ ในป่าภูเขารกร้างมีแค่หมีเท่านั้นที่จะโผล่มา จะมีเด็กน้อยได้ยังไงกัน?
ต่อให้มี ก็คงจะเป็นเด็กเปรต!
เด็กเปรตอกตัญญู พอออ้าปากก็กินเนื้อ พอหุบปากก็ด่าเลย!
เยี่ยเว่ยหมิงด่าทันที “ไอ้เด็กเปรตนี่ ทำไมมาด่ากันซะแล้ว”
เด็กชายตัวน้อยกล่าวอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรม “ข้าไม่ได้ชื่อเด็กเปรต ข้าชื่อโก่วจ๋าจ่ง แถมท่านก็ถามข้าก่อน ข้าถึงได้บอก ไม่ได้ด่าคนเสียหน่อย”
เยี่ยเว่ยหมิงหายโกรธ พร้อมยกนิ้วหัวแม่มือให้เด็กชายตัวน้อย “ชื่อของเจ้าช่างไม่เหมือนใครจริงๆ เพียงแต่ชื่อนี้ คนมีการศึกษาอย่างข้าเรียกไม่ไหวหรอก พวกเราเปลี่ยนให้ง่ายขึ้นหน่อยแล้วกัน ข้าจะเรียกเจ้าว่าอาจ่ง แล้วเจ้าก็เรียกข้าว่าพี่ใหญ่ แบบนี้เป็นอย่างไร”
แม้เด็กจะมีชื่ออย่างนั้น แต่ในฐานะที่เป็นคนมีการศึกษา เยี่ยเว่ยหมิงรู้สึกว่าเอ่ยสามคำนั้นออกมาไม่ได้ จิตใต้สำนึกของเขาบอกว่าถ้าพูดไปอย่างนั้น เมื่อไรแตกคอกัน เมื่อนั้นก็มีเรื่องแน่
“ได้เลย” อาจ่งตอบอย่างกะทัดรัดได้ใจความ
“อาจ่งเอ๊ย” หลังจากแน่ใจชื่อเรียกแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงก็นำเนื้อหมาป่าสิบกว่าชิ้นที่รวบรวมไว้ก่อนหน้านี้ออกจากกระเป๋า หลังจากปูกระดาษแผ่นหนึ่งบนพื้น ก็นำเนื้อหมาป่าทั้งหมดกองไว้บนนั้น ตามด้วยแนะนำว่า “ฟังจากที่เจ้าพูด เนื้อที่เจ้าย่างจะต้องออกมาอร่อยกว่าเนื้อที่ข้าย่างแน่นอน เอาอย่างนี้ไหม ข้าออกวัตถุดิบ ส่วนเจ้าแสดงฝีมือทำครัว พอย่างเสร็จแล้วก็แบ่งอาหารเท่าๆ กัน แบบนี้เป็นอย่างไร”
“ไม่ต้องแบ่งเท่ากันก็ได้ ข้ากินไม่เยอะหรอก” ปากก็พูดอย่างนี้ แต่อาจ่งหยิบเนื้อส่วนหนึ่งมาร้อยเป็นพวงไว้บนกิ่งไม้แห้งแล้ว “เนื้อเยอะขนาดนี้ หากจะย่างให้สุกทั้งหมด ฟืนที่มีอยู่ตอนนี้ไม่พอแน่นอน ข้าต้องไปเก็บฟืนกลับมาก่อน”
“ข้าไปเอง” เยี่ยเว่ยหมิงกล่าวกลั้วหัวเราะ “ก่อนหน้านี้ข้าบอกไว้แล้วว่าจะรับผิดชอบเรื่องวัตถุดิบ”
หากจะเก็บฟืนก็ยุ่งยากนิดหน่อย ไม่เหมือนฟืนเปียกที่ฟันเอาบนกิ่งไม้ได้เลย ต้องค่อยๆ หาด้วยความอดทน เพียงแต่พ่อครัวนั้นหายาก เยี่ยเว่ยหมิงคำนึงถึงอาหารในมือ ใช้เวลาไปเกือบครึ่งชั่วโมงเพื่อเก็บฟืนแห้งกองใหญ่กลับมา
เดิมทีเขาคิดจะเก็บฟืนให้มากกว่านี้อีกสักหน่อย แต่ตอนที่กลิ่นหอมสุดเย้ายวนโชยมา ในที่สุดเขาก็ต้านทานความต้องการของร่างกายไม่ไหว วิ่งส่ายก้นกลับไปตรงกองไฟแล้ว
ตอนนี้เนื้อหมาป่าส่วนหนึ่งถูกย่างจนกรอบนอกนุ่มใน เนื้อกลายเป็นสีเหลืองทอง เด็กชายตัวน้อยทำตามที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ นำเนื้อส่วนหนึ่งยื่นให้เยี่ยเว่ยหมิง แล้วกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ย่างเรียบร้อยแล้ว กินได้แล้ว”
พอรับเนื้อย่างมาแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงก็มองอยู่ครู่หนึ่ง แต่กลับแทบจะทำมันหลุดมือตกพื้น
[เนื้อหมาป่าย่าง: คุณภาพ 65 กินแล้วจะลดค่าความหิวได้ 50 แต้ม ภายในเวลาหนึ่งชั่วโมงเพิ่ม พละกำลัง 97 แต้ม]
นี่มันใช่ของกินเหรอ
ไม่ใช่หรอก!
นี่เป็นการเพิ่ม BUFF แท้ๆ เลย!
ทั้งยังเป็นประเภทที่เพิ่มพลังโจมตีของเขาให้สูงขึ้นเกือบหนึ่งเท่าในชั่วพริบตาเดียว!
กลิ่นหอมยั่วยวนของเนื้อย่างโชยเข้าจมูก กระตุ้นประสาทการรับกลิ่นของเขา น้ำลายแทบจะไหลออกจากปากเขาอย่างควบคุมไม่ได้
หากไม่ใช่เพราะไม่มีอย่างอื่นให้กินแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงก็อยากจะเก็บเนื้อหมาป่าส่วนนี้ไว้ก่อนจริงๆ เก็บไว้เพิ่มพลังต่อสู้ตอนใกล้จะต่อสู้ เพียงแต่ตอนนี้ รู้สึกได้ว่ามีเสียงประท้วงจากกระเพาะดังมาเป็นระยะ ในที่สุดเยี่ยเว่ยหมิงก็อดใจไม่ไหว หยิบเนื้อย่างมาจ่อปากแล้วกัดไปคำหนึ่ง
ชั่วพริบตาที่เนื้อย่างเข้าปาก เยี่ยเว่ยหมิงก็รู้สึกได้ทันทีว่าน้ำมันในเนื้อไหลเข้าช่องปาก กลิ่นหอมเข้มข้นกำลังกระตุ้นปุ่มแยกรสชาติบนลิ้นของเขา ทำให้มือปราบภูมิฐานไส้แห้งที่ไม่เคยลิ้มรสของคาวเลยตั้งแต่เข้าเกมมารู้สึกซาบซึ้งใจจนน้ำตาแทบไหล
อร่อยเกินไปแล้ว รสชาติเลิศสุดๆ!
หอมจริงๆ!
แม้จะไม่มีเครื่องปรุงใดๆ แต่อาจ่งกลับดึงรสชาติของเนื้อโดยธรรมชาติออกมาได้จนถึงขีดสุด ทำให้เวลากัดไปคำหนึ่งแล้ว ก็อยากจะกลืนลิ้นตัวเองลงไปด้วย
อาจ่งมุมานะมาก ทำเหมือนที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ นำเนื้อหมาป่าที่เหลือย่างให้หมด จากนั้นส่งทั้งหมดให้เยี่ยเว่ยหมิง “ข้าไม่ใช่ผู้เล่น ไม่มีกระเป๋าของระบบที่รักษาอาหารให้สดใหม่ได้ ถ้าเก็บไว้ที่ตัว ไม่ถึงหนึ่งวันเนื้อย่างก็เปลี่ยนคุณภาพแล้ว ในเมื่อท่านชอบ ท่านก็เก็บติดตัวไว้เถอะ ข้าง่วงแล้ว ขอตัวไปนอนก่อนนะ”
เยี่ยเว่ยหมิงแทบหลั่งน้ำตา ช่างเป็นเด็กดีอะไรอย่างนี้!
“อาจ่ง ต่อไปเจ้ามีแผนจะทำอะไร”
คร่อก…
อาจ่งพูดจาคำไหนคำนั้น ชั่วประเดี๋ยวเดียวก็นอนหลับไปแล้ว…
ตามที่ได้อ่านคำแนะนำของระบบก่อนล็อกอินเข้าเกม เยี่ยเว่ยหมิงรู้แล้วว่ายิ่งเป็น NPC เลเวลสูง สติปัญญาก็ยิ่งมาก
ส่วนเด็กชายตัวน้อยตรงหน้านี้ ไม่น่าเชื่อว่าจะรู้ถึงความแตกต่างระหว่างผู้เล่นและ NPC ถึงขั้นรู้ด้วยว่ากระเป๋าสะพายหลังของผู้เล่นมีฟังก์ชั่นรักษาความสดใหม่ของอาหาร ดูจากสติปัญญาแล้ว เกรงว่าคงเข้าใกล้เลเวลสูงสุดแล้วสินะ
เพียงแต่คำแนะนำสองสามประโยคจากอีกฝ่าย ก็ทำให้ฝีมือทำครัวของตนเพิ่มขึ้นหนึ่งเลเวลแล้ว ถ้าจะบอกว่าเขาคือ NPC เลเวลสูงสุดก็ไม่มีปัญหาเลยจริงๆ เพียงแต่ว่า…
มี NPC เลเวลสูงที่ชื่อน่าเกลียดขนาดนั้นด้วยหรือ
ในเกมนี้ บางด้านก็ออกแบบมาไร้สาระจริงๆ…
หลังจากลังเลอยู่พักหนึ่ง เยี่ยเว่ยหมิงก็ยังอดใจไม่กินเนื้อย่างชิ้นที่สอง อย่างไรเสีย ด้วยสภาพตอนนี้ก็เพียงพอจะทำให้ยืนหยัดไปจนถึงเมืองลั่วหยาง เหล็กดีต้องใช้ลับบนคมมีด!
ไม่พูดไม่จาทั้งคืน เช้าตรู่วันต่อมาตอนที่เด็กชายตัวน้อยตื่นจากฝัน ก็พบว่าเยี่ยเว่ยหมิงยังนั่งอยู่ข้างๆ กำลังโยนฟืนท่อนหนึ่งเข้าไปในกองไฟอย่างเบื่อหน่าย
“มีเวลาตั้งหนึ่งคืน ไม่น่าเชื่อว่าท่านจะไม่ได้ออกไปจากที่นี่” อาจ่งเบิกตากว้างเอ่ยถาม
เขาไม่ได้ถามว่าเหตุใดเยี่ยเว่ยหมิงถึงไม่หลับไม่นอน เพราะตอนที่ผู้เล่นเข้าเกมมาก็อยู่ในสภาวะกึ่งนอนพักการเจริญเติบโตอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องนอนเมื่ออยู่ในเกม ต่อให้หมุนตัวต่อเนื่องยี่สิบสี่ชั่วโมงก็ไม่มีปัญหาอะไร
“เจ้าตื่นแล้วหรือ” เยี่ยเว่ยหมิงยิ้ม “ที่นี่เป็นป่าเขารกร้าง ข้ากลัวสัตว์ร้ายแถวนี้จะฉวยโอกาสตอนเจ้าหลับมาคาบเจ้าไปกิน แล้วข้างๆ ก็ยังมีกองไฟอยู่ด้วย แบบนี้เจ้าจะได้ไม่หนาวอย่างไรล่ะ”
อาจ่งไม่ได้กล่าวขอบคุณ แต่ดูจากแววตาของเขาแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงเห็นรางๆ ว่าค่าความรู้สึกดีกำลังเพิ่มขึ้น
หลังจากเงียบไปสองวินาที เด็กชายตัวน้อยก็พลันเอ่ยว่า “ที่จริงท่านไม่จำเป็นต้องปกป้องข้าหรอก เพราะสัตว์ร้ายพวกนั้นไม่มีทางโจมตีข้าได้เลย ต่อให้ข้าถูกผู้เล่นฆ่าตาย แต่ก็ถูกรีเฟรชใหม่ได้อยู่ดี นอกจากจำไม่ได้ว่าถูกใครข้าตายแล้ว ความทรงจำอย่างอื่นก็รักษาไว้ได้หมด”
เจ้าเด็กคนนี้หัวไวทีเดียว ทำไมเขารู้เรื่องเซ็ตติ้งในเกมชัดเจนยิ่งกว่าผู้เล่นอย่างฉันซะอีก
พอปัดฝุ่นบนตัวแล้ว อาจ่งก็ลุกขึ้นยืน “พี่ใหญ่ ข้าจะไปตามหาท่านแม่กับอาหวงต่อ ลาก่อน”
“เจ้ารอเดี๋ยว”
เยี่ยเว่ยหมิงเรียกอาจ่งให้หยุดก่อน แล้วนำตะบันไฟที่ใช้จุดไฟก่อนหน้านี้ออกมาจากกระเป๋า “ตะบันไฟอันนี้ข้าก็ให้เจ้าเหมือนกัน อาศัยฝีมือทำครัวอย่างเจ้า ถ้ามีมันไว้ ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ไม่ถึงขั้นท้องหิวหรอก”
อาจ่งรับตะบันไฟมา ยังไม่ได้กล่าวขอบคุณอยู่ดี แต่ยื่นหนังสือเล่มหนึ่งให้เยี่ยเว่ยหมิงแทน
[ตำราปรุงไก่ขอทาน: ตำราปรุงอาหารที่บันทึกวิธีการทำ ‘ไก่ขอทาน’ เอาไว้]
พอใช้มือตบหนึ่งที ตำราปรุงไก่ขอทานก็กลายเป็นแสงสีขาว
[ติ๊ง! ยินดีด้วย คุณได้เรียนรู้วิธีการทำไก่ขอทานแล้ว]
“พี่ใหญ่ ท่านใช้งานตำราสกิลโดยตรงแบบนี้สิ้นเปลืองมาก หากท่านมีความอดทนมากพอ แล้วอ่านทุกตัวอักษรโดยละเอียด ท่านไม่เพียงแค่จะได้เรียนรู้วิธีทำไก่ขอทาน ท่านจะได้ค่าประสบการณ์ฝีมือทำครัวเพิ่มเป็นพิเศษด้วยนะ”
“มีเรื่องแบบนี้ด้วยหรือ” เยี่ยเว่ยหมิงประหลาดใจ แต่ก็ยังบอกว่า “แม้ข้าจะไม่รู้ว่าแม่ของเจ้ากับอาหวงเป็นใคร แต่ข้าจะพยายามช่วยสังเกตให้เจ้า”
อาจ่งมองเยี่ยเว่ยหมิงอย่างซาบซึ้งใจ ออกแรงพยักหน้าตอบรับ จากนั้นก็วิ่งจากไปไกล
[ติ๊ง! คุณได้รับภารกิจลับตามหาท่านแม่ระดับภารกิจ: ยังไม่ทราบ
ช่วยอาจ่งตามหาท่านแม่ของเขา
รางวัลภารกิจ: ยังไม่ทราบ]
……
[ติ๊ง! ได้รับภารกิจลับตามหาอาหวง
ระดับภารกิจ: ยังไม่ทราบ
ช่วยอาจ่งตามหาอาหวง
รางวัลภารกิจ: ยังไม่ทราบ]
[1] โก่วจ๋าจ่ง 狗杂种 เป็นคำด่า แปลว่า ลูกไอ้สำส่อน