ตอนที่ 406 เพิ่มเลเวล กระบี่เก้าสะท้านฟ้า
เมื่อเห็นพวกผู้เล่นพากันมองตนด้วยสายตาเฝ้าคอ ตู๋กูฉิวไป้ก็โบกมือเรียกปราณกระบี่หกสายให้ลอยไปหาพวกเยี่ยเว่ยหมิงเสียเลย ความเร็วของปราณกระบี่จมเข้ามาอยู่ในตัวของพวกเขาก่อนที่พวกเขาจะรู้ตัวเสียอีก
“ปราณกระบี่หกสายของข้านี้ ทุกสายล้วนช่วยให้วิทยายุทธ์ระดับสุดยอดวิชาของพวกเจ้าเพิ่มขึ้นหนึ่งขอบเขตได้ ส่วนรายละเอียดว่าจะเพิ่มอย่างไร พวกเจ้าไปจัดการกันเอาเอง” ตู๋กูฉิวไป้เป็นคนที่คล่องแคล่วว่องไว หลังจากแนะนำรางวัลที่ตัวเองแจกอย่างง่ายๆ แล้วก็โบกมือทำให้ร่างของทั้งหกกลายเป็นแสงขาวและหายไปพร้อมกัน ส่งพวกเขาออกจากเขตลับตู๋กู ไม่ให้โอกาสพวกเขาพูดหรือเอ่ยถามอะไรเลย
ส่วนถ้าถามว่าปราณกระบี่เหล่านั้นใช้งานอย่างไรกันแน่
ก็ไปศึกษาเอาเองสิ!
ถ้าแม้แต่วิธีการยังศึกษาไม่เข้าใจ ก็สมน้ำหน้าแล้วที่เจ้าไม่ได้เพิ่มระดับความสามารถ!
ตอนนี้ทั้งเขตลับตู๋กูเหลือเพียงตู๋กูฉิวไป้กับเยี่ยเว่ยหมิงสองคน
ตู๋กูฉิวไป้มองเยี่ยเว่ยหมิงด้วยแววตาหลากหลายอารมณ์ ส่วนเยี่ยเว่ยหมิงก็สบตากับเขาอย่างสงบนิ่ง ท่าทีไม่ได้แข็งกร้าวหรือถ่อมตนเกินไป
หลังจากคนกับอสูรสบตากันอย่างนี้อยู่นาน ในอากาศก็ราวกับถูกเสียดสีให้เกิดประกายไฟของขอบเขตกระบี่ที่ชนกัน ในที่สุดตู๋กูฉิวไป้ก็พูดก่อน “ถึงวิธีการของเจ้าจะค่อนข้างน่ารังเกียจ แต่ข้าก็ยังต้องขอบคุณเจ้าให้ดี”
เยี่ยเว่ยหมิงยิ้มบางๆ แล้วถามกลับกึ่งหยอกล้อว่า “ขอบคุณที่ข้าไร้ยางอายกว่าท่านน่ะหรือ”
ครั้งนี้ไม่น่าเชื่อว่าตู๋กูฉิวไป้จะไม่โกรธที่ถูกเยี่ยเว่ยหมิงหยอกล้อ กลับโบกมืออย่างสบายๆ มาก “ก็ใช่น่ะสิ ถ้าเจ้าเป็นคนหน้าบาง เกรงว่าความปรารถนาทั้งชีวิตข้าคงไม่มีวันเป็นจริงได้ ดังนั้นข้าต้องมอบรางวัลภารกิจที่เหมาะสมกับเจ้าที่สุด”
เยี่ยเว่ยหมิงได้ยินแล้วตาเป็นประกายทันที “ฉายาเพียงหนึ่งเดียวที่จัดอยู่ในฉายาของผู้ที่มีแนวทางกระบี่ยอดเยี่ยม ตั้งให้ข้าไพเราะกว่านี้ได้ไหม”
ตู๋กูฉิวไป้ยิ้มกว้างกว่าเดิม แล้วตอบอย่างอ้อมค้อมว่า “ไม่ได้!”
“ที่จริงความปรารถนาของท่านยังไม่เป็นจริงหรอก” เยี่ยเว่ยหมิงเอามือนวดจมูก “ท่านพูดมาตลอดว่าทั้งชีวิตนี้อยากพ่ายแพ้แต่กลับไม่เคยพ่ายแพ้ ที่จริงจนกระทั่งตอนนี้ก็ถือว่าประโยคนั้นพูดไว้ไม่ผิด เพราะตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ท่านยังไม่ได้พบข้า”
เมื่อเห็นว่าเยี่ยเว่ยหมิงรู้แล้วว่าแก้ไขฉายา ‘คนกระบี่’ ไม่ได้ จึงเริ่มพูดให้ตู๋กูชิวป้ายรังเกียจตนทันที
ตู๋กูฉิวไป้ก็เริ่มสนใจ หรี่ตายิ้มพร้อมถามว่า “ในเมื่อความปรารถนาของข้ายังไม่เป็นจริง เช่นนั้นรางวัลภารกิจพิเศษของเจ้า ข้าก็ไม่ต้องให้แล้วเหมือนกันน่ะสิ”
ตอนนี้เยี่ยเว่ยหมิงอยากจะตบบ้องหูตัวเองแรงๆ สักที ต่อให้ต้องการจะทำให้ตู๋กูฉิวไป้รังเกียจ ก็ควรรอให้ได้รางวัลภารกิจมาก่อนสิ!
ต่อให้ปากไม่ดีแต่ก็ต้องรู้จักเวล่ำเวลาบ้าง
แต่กลุ้มใจก็ส่งกลุ้มใจ ผลประโยชน์ที่ควรช่วงชิงก็ต้องช่วงชิงไว้
ดังนั้น เยี่ยเว่ยหมิงจึงเปลี่ยนแปลงท่าทีที่เคยเป็นปฏิปักษ์ หัวเราะแห้งแล้วบอกว่า “ที่จริงหากผู้อาวุโสอยากจะตระหนี่รางวัลภารกิจพวกนี้จริงๆ คนที่จิตใจเมตตาและรักความยุติธรรมอย่างผู้น้อยก็ไม่สะดวกจะฝืนใจผี แต่การไม่ให้รางวัลภารกิจกับผู้เล่น กลับทำรายชื่อเสียงบารมีของผู้ที่มีแนวทางกระบี่เป็นอันดับหนึ่งของท่านอย่างเลี่ยงไม่ได้…
…ที่จริงแล้ว ข้ายังนับถือผู้อาวุโสตู๋กูมาก…
…หลังจากพบกระดูกของท่านที่เสินหนงจย้า ข้าก็ตั้งใจใช้โลงศพหลิวหลีที่มีมูลค่าสูงมาเก็บกระดูกของท่าน ทั้งยังนำไปฝังตรงสุสานที่ดีที่สุดเท่าที่ผู้น้อยหาได้ นั่นก็คือสำนักสุสานโบราณ ให้หยางกั้วที่เป็นผู้เฝ้าสำนักสุสานโบราณจุดธูปเซ่นไหว้ท่านทุกวัน…
…ส่วนเตียงหินที่ท่านเคยนั่งสิ้นอายุขัยปีนั้น ผู้น้อยก็เก็บมาไว้ในบ้านเช่นกัน ทุกครั้งที่เห็นเตียงหิน ก็จะนึกถึงวีรกรรมของผู้อาวุโสที่แหวกโค่นดงหนามไม่หยุดเพื่อก้าวไปให้ถึงจุดสูงสุดของเคล็ดกระบี่”
สิ่งที่เยี่ยเว่ยหมิงกล่าวมาข้างต้นเป็นความจริงทุกประโยค
แน่นอน เขาไม่ได้บอกว่าตัวเองใช้โลงศพที่ดีที่สุดเก็บกระดูกของตู๋กูฉิวไป้เพื่อดรอปตำราลับตระหนักรู้ และนำไปส่งต่อให้หยางกั้วที่สุสานโบราณเพื่อลดความยุ่งยากของตัวเอง
อย่างไรเสีย โลงศพที่มีคุณภาพสูงก็มีขั้นตอนการทำงานที่ยุ่งยากกว่า
ยกตัวอย่างเช่นโรงไม้หนานมู่ ตอนที่ฝังศพจะต้องตั้งป้ายสุสานด้วย ส่วนโลงศพหลิวหลีก็เห็นได้ชัดว่ามีขั้นตอนยุ่งยากกว่านั้นมาก ขุดดินกลบเรื่อยเปื่อยเพื่อให้เสร็จเรื่องไม่ได้แน่นอน
ส่วนจุดประสงค์ที่ย้ายเตียงหินมาไว้ในบ้าน นั่นก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงแล้ว!
มือปราบผู้มีจิตใจดีและไม่เห็นแก่ตัวบางคนพูดให้เรื่องพรรค์นี้ฟังดูมีคุณธรรมได้ ไม่มีใครทำได้แบบนี้อีกแล้ว
โชคดีที่น้องดาบไม่ได้อยู่ตรงนี้ ไม่อย่างนั้นนางคงต้องกลั้นขำอย่างหนักทั้งที่อาการบาดเจ็บภายในยังไม่หายดี
“ดังนั้น” เยี่ยเว่ยหมิงกล่าวเสียงดังอย่างเต็มไปด้วยเหตุผล “แม้ผู้น้อยจะไม่หวังรางวัลภารกิจเลยสักนิด แต่กลับไม่กล้าปล่อยให้ผู้อาวุโสตู๋กูกลายเป็นคนไร้คุณธรรมเด็ดขาด!”
เมื่อเห็นท่าทางหน้าด้านหน้าทนของเยี่ยเว่ยหมิง ตู๋กูฉิวไป้ก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี หลังจากเงียบไปสองวินาที ก็ทำได้เพียงพูดความคิดแท้จริงที่อยู่ในใจลึกๆ ออกมา “ฉายาคนกระบี่นั่น เหมาะกับเจ้าแล้วจริงๆ”
พอพูดจบ เขาก็ไม่รอให้เยี่ยเว่ยหมิงพูดอะไรอีก แต่ถลันร่างไปตรงหน้าเยี่ยเว่ยหมิง แล้วใช้นิ้วกลางกับนิ้วชี้จิ้มบนหว่างคิ้วของเยี่ยเว่ยหมิง
[ติ๊ง! คุณได้รับการชี้แนะจากวิญญาณของอสูรกระบี่ตู๋กูฉิวไป้ คุณภาพของ ‘กระบี่เก้าสะท้านฟ้า’ เพิ่มขึ้นเล็กน้อย กรุณาอ่านรายละเอียดที่คอลัมน์สกิล]
ไม่น่าเชื่อว่าจะเพิ่มคุณภาพ ‘กระบี่เก้าสะท้านฟ้า’ แล้ว!
เยี่ยเว่ยหมิงได้ยินแล้วตาเป็นประกายทันที เป็นอย่างที่คาดไว้ เมื่อเทียบกับการเพิ่มขอบเขตวิทยายุทธ์ รางวัลภารกิจที่ตู๋กูฉิวไป้มอบให้เจ๋งกว่าเยอะ!
หลังจากเพิ่มขอบเขตวิทยายุทธ์แล้ว ก็ทำให้ความสามารถของตัวเองก้าวหน้าขึ้นเยอะมากภายในเวลาสั้นๆ แต่การเพิ่มคุณภาพของวิทยายุทธ์กลับเป็นข้อจำกัดที่ใหญ่มาก!
ถ้าเป็นวิทยายุทธ์ทั่วไปก็ว่าไปอย่าง แต่ ‘กระบี่เก้าสะท้านฟ้า’ เป็นวิชาที่เก่งกาจที่สุดที่เยี่ยเว่ยหมิงเรียนรู้ตอนนี้ จะบอกว่าเป็นไพ่ลับของเขาก็ไม่ถือว่ากล่าวเกินไป
การเพิ่มคุณภาพของวิทยายุทธ์นี้ สำหรับเยี่ยเว่ยหมิงถือเป็นเรื่องที่ได้ประโยชน์ไม่จบไม่สิ้นจริงๆ!
เขารีบเปิดแถบสกิลแล้วอ่านค่าสเตตัสของ ‘กระบี่เก้าสะท้านฟ้า’ แต่เมื่อเทียบกับเมื่อก่อน ก็เหมือนไม่ได้แตกต่างกันมาก
ไม่ถูกสิ เห็นได้ชัดว่าเพิ่มขึ้นตั้งเยอะ!
[กระบี่เก้าสะท้านฟ้า (สุดยอดวิชา) (ไม่สมบูรณ์)]
ท่ากระบี่อันน่าตื่นตะลึงที่สร้างขึ้นจากการรวมสองแก่นแท้วิทยายุทธ์ของบรรพชนผู้แข็งแกร่งแห่งยุค!
เลเวล: 5 (+1)
ค่าประสบการณ์: 0/1000000
โจมตี +300% (+60%)
แม่นยำ +300% (+60%)
เอฟเฟ็กต์พิเศษ: เจาะเกราะ ทำลายกระบวนท่า
เจาะเกราะ: โจมตีโดยมองข้ามการป้องกันของคู่ต่อสู้ (นอกจากอุปกรณ์ป้องกันพิเศษกับปราณแท้ป้องกันตัว)
ทำลายกระบวนท่า: มีโอกาสทำลายกระบวนท่าของฝ่ายตรงข้ามขณะที่กำลังใช้กระบวนท่าสู้กัน โจมตีสร้างบดขยี้ที่เกือบอันตรายถึงชีวิตได้โดยตรง!
หมายเหตุ: เนื่องจากเป็นกระบวนท่าของสุดยอดวิชาที่ไม่สมบูรณ์ จึงมีขีดจำกัดของเลเวล ถ้าจะเพิ่มให้ถึงเลเวลหก ผู้เล่นต้องมีเลเวลห้าสิบขึ้นไป
……
หลังจากเพิ่มคุณภาพแล้ว ค่าสเตตัสพื้นฐานของ ‘กระบี่เก้าสะท้านฟ้า’ ก็ไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงใดๆ แต่ด้านล่างกลับมีเอฟเฟ็กต์พิเศษเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งรายการ
เมื่อดูจากคำอธิบายของคำว่าทำลายกระบวนท่า ก็ถือเป็นเอฟเฟ็กต์พิเศษที่สุดยอดมากจริงๆ!
ตอนนี้กลับได้ยินตู๋กูฉิวไป้พูดต่อว่า “เจ้าเด็กนี่ช่างปราดเปรื่อง ไม่น่าเชื่อว่าจะนำสมบัติที่ข้าทิ้งไว้ไปให้หวงฉาง หลังจากเจ้าหมอนั่นรวมแก่นแท้วิทยายุทธ์ของข้ากับของเขาก็สร้างเป็น ‘กระบี่เก้าสะท้านฟ้า’ ให้เจ้า ช่างมีลักษณะของผู้อยู่เหนือผู้คนอื่นจริงๆ เพียงแต่…”
เมื่อได้ยินตู๋กูฉิวไป้กำลังจะพูดถึงปัญหาที่อยู่ใน ‘กระบี่เก้าสะท้านฟ้า’ เยี่ยเว่ยหมิงก็ฮึกเหิมทันที รีบซักไซ้ว่า “เพียงแต่อะไรขอรับ”