ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ – ตอนที่ 411 นี่มันเนื้อเรื่องอะไรกัน

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 411 นี่มันเนื้อเรื่องอะไรกัน

ตอนที่ 411 นี่มันเนื้อเรื่องอะไรกัน

เยี่ยเว่ยหมิงกับซานเย่ว์สบตากันแล้วยิ้ม เยี่ยเว่ยหมิงถามยืนยันอีกครั้ง “ท่านคือซ่งปิงอี่ที่อดีตประมุขพรรคหงกับผู้อาวุโสเผิงเอ่ยถึง ผู้อาวุโสซ่ง?”

ขอทานหนุ่มยิ้มอย่างภาคภูมิใจ ทั้งยังสะบัดผมทำท่าเหมือนตัวเองหล่อมาก กล่าวยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า “ไม่ผิดหรอก ข้าเอง”

ซานเย่ว์ส่งข้อความในช่องทีม [เขาพูดจริง!]

เยี่ยเว่ยหมิงย่อมรู้อยู่แล้วว่าเขาพูดจริง สาเหตุที่ตอนแรกถามไปอย่างนั้น โดยเฉพาะที่บอกว่าต้องการยืนยันตัวตนของอีกฝ่าย ไม่สู้บอกว่ากำลังบอกอีกฝ่ายดีกว่า ว่าพวกเรามาเพราะหงชีกงกับอาวุโสเผิงแนะนำ

เพียงแต่ประโยคเดียวกัน หากเปลี่ยนมุมใหม่ตอนพูดออกมา ระดับของการโอ้อวดก็ไม่เหมือนกันแล้ว

อย่างน้อยเยี่ยเว่ยหมิงก็รู้สึกว่า ใช้วิธีการเอ่ยชื่อสองคนนั้นออกมาฟังดูดีมีระดับกว่าการรายงานชื่อออกมาโดยตรง

เป็นอย่างที่คาดไว้ หลังจากได้ยินสองชื่อนี้แล้ว ซ่งปิงอี่ก็ตาเป็นประกาย แล้วบอกทันทีว่า “ตามปกติแล้ว อาวุโสเผิงไม่มีทางเป็นฝ่ายแนะนำให้คนมาหาข้าที่นี่ ดังนั้น อดีตประมุขพรรคหงเป็นคนแนะนำพวกเจ้ามาหรือ”

เยี่ยเว่ยหมิงพยักหน้า จากนั้นบอกจุดประสงค์ของตัวเองออกมาตรงๆ “เรื่องเป็นอย่างนี้ ผู้น้อยเยี่ยเว่ยหมิงจากสำนักมือปราบเทพ นี่คือซานเย่ว์ ศิษย์น้องของข้า ผู้น้อยตกลงกับอดีตประมุขพรรคหงไว้ เดิมทีเขาเตรียมจะถ่ายทอด ‘สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร’ ให้ข้า ตอนนี้ผู้น้อยได้เรียนแล้วสามฝ่ามือ…” ขณะที่พูด มือซ้ายของเยี่ยเว่ยหมิงก็ก่อพลังฝ่ามือรูปมังกรขึ้นมาแล้ว ต้องการสื่อให้รู้ว่าตัวเองไม่ได้โกหก “แต่ติดที่กฎกติกาบางอย่าง เขาไม่อาจสอน ‘มังกรผยองได้สำนึก’ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของสิบแปดฝ่ามือให้ข้าได้ แต่เขาบอกว่าผู้อาวุโสซ่งไม่ติดข้อจำกัดนี้ ข้าจึงมาที่นี่”

ซ่งปิงอี่ได้ฟังแล้วมองเยี่ยเว่ยหมิงอย่างสงสัย “พูดจริงหรือ”

เยี่ยเว่ยหมิงพยักหน้า “หรือไม่อย่างนั้น ท่านคิดว่าข้ารู้มาจากไหนว่าท่านก็รู้กระบวนท่ามังกรผยองได้สำนึกเหมือนกัน ทั้งยังสอนให้คนอื่นได้ด้วย”

“มีเหตุผล!”

ซ่งปิงอี่พยักหน้า ถือว่ายอมรับกับสิ่งที่เยี่ยเว่ยหมิงพูดแล้ว จากนั้นหันไปมองซานเย่ว์ที่ยืนอยู่ข้างกายเยี่ยเว่ยหมิงแล้วกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “เรื่องราวประหลาดเกิดขึ้นได้ทุกปีจริงๆ แต่ปีนี้บ่อยกว่าปีอื่น ข้าท่องยุทธภพมาหลายปีขนาดนี้ มือปราบที่เคยเจอมา ไม่มีสักคนที่ไม่ใช่ประเภทจับโจรไม่เก่ง แต่เก่งเรื่องรังแกชาวบ้าน ข้าไม่เคยเจอคนดีๆ เลย ช่วงครึ่งปีมานี้ ข้าไม่ได้เจอปราชญ์จอมยุทธ์สักคนเดียว ไม่น่าเชื่อว่าปีนี้จะได้เจอคราวเดียวสองคน แต่กลับเป็นคนของทางการ”

“ขุนนางปราชญ์จอมยุทธ์? แปลกดี น่าสนใจ!”

เมื่อได้ยินอีกฝ่ายสบประมาทอาชีพและสำนักของตน เยี่ยเว่ยหมิงก็ไม่สบอารมณ์ทันที

เราสนิทกันเหรอ!

เยี่ยเว่ยหมิงเป็นคนประเภทที่โดนแขวะแล้วยังยิ้มรับได้อย่างนั้นหรือ

เหลวไหล!

อย่าว่าแต่ซ่งปิงอี่เลย ต่อให้เป็นตู๋กูฉิวไป้แล้วอย่างไร

รอยยิ้มบนใบหน้ายังอบอุ่นเหมือนเดิม เยี่ยเว่ยหมิงกล่าวเนิบๆ ว่า “ที่จริงก็ไม่มีอะไรแปลกหรอก ตอนแรกที่อดีตประมุขพรรคหงเจอข้า ก็ไม่ได้เกิดความรู้สึกอคติใดๆ เพราะอาชีพของข้าเลย ถึงอย่างไรเขาก็นับว่าเป็นจอมยุทธ์ที่แท้จริง ในสายตาของจอมยุทธ์ บางทีทุกคนในโลกคงเป็นจอมยุทธ์เหมือนกันหมด”

ซ่งปิงอี่ได้ยินแล้วถลึงตา “นี่เจ้ากำลังด่าข้าแบบอ้อมค้อมชัดๆ! ไม่กลัวว่าข้าจะไม่พอใจแล้วไม่แจกภารกิจให้เจ้าอย่างนั้นหรือ”

เยี่ยเว่ยหมิงยักไหล่ “ข้ารู้สึกว่า เมื่อเทียบกับสิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกรแล้ว มันสมองปราดเปรื่องสำคัญที่สุด”

ซ่งปิงอี่ได้ยินก็จ้องเยี่ยเว่ยหมิงอยู่พักใหญ่ แล้วจู่ๆ ก็หัวเราะลั่น “เจ้าเด็กนี่ตรงไปตรงมาใช้ได้เลย สมกับเป็นคนที่อดีตประมุขพรรคหงให้ความสำคัญ เจ้าอยากเรียน ‘มังกรผยองได้สำนึก’ ก็ใช่ว่าจะไม่ได้ แต่กฎการทำงานของโลกนี้ ข้าว่าเจ้าก็น่าจะรู้อยู่บ้าง ต้องทำภารกิจสิ…”

เยี่ยเว่ยหมิงรีบเปิดรายชื่อเพื่อน ลบข้อความส่วนตัวที่เตรียมส่งไปถามอินปู้คุยว่าซ่งปิงอี่มีประวัติอาชญากรรมอะไรที่เลวร้ายจนเขาฆ่าทิ้งเพื่อดรอปไอเทมได้หรือไม่ พร้อมกล่าวกลั้วหัวเราะว่า “ผู้อาวุโสซ่งมีเรื่องจะให้ผู้น้อยช่วยก็บอกมาได้เลยขอรับ พวกเราสองคนเป็นขุนนางปราชญ์จอมยุทธ์ ไม่ทำให้ท่านผิดหวังแน่นอน”

“เรื่องนี้ไม่รีบหรอก” ซ่งปิงอี่ที่ไม่รู้เลยว่าตัวเองเกือบถูกมือกระบี่สืบกำพืดกล่าว แล้วหันมาถามซานเย่ว์อีก “แม่นางซานเย่ว์ ไหนๆ ก็มาแล้ว เจ้าเองก็เป็นขุนนางปราชญ์จอมยุทธ์เหมือนกัน คงไม่ดีหากข้าปล่อยให้เจ้ามาเสียเที่ยว บอกมาเถอะว่าเจ้าเรียนวรยุทธ์อะไรมา แล้วข้าจะตัดสินใจอีกทีว่าจะแจกภารกิจแบบไหนให้เจ้า ถ้าสะดวก ข้าอาจจะแจกภารกิจที่เหมือนกันให้พวกเจ้าก็ได้”

ซานเย่ว์ได้ยินแล้วตาเป็นประกาย “จริงหรือ”

ซ่งปิงอี่พยักหน้า “ว่ามาสิ เจ้าอยากเรียนอะไร”

ซานเย่ว์ลังเลครู่หนึ่ง แล้วสุดท้ายก็บอกว่า “ตอนนี้จุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดของข้าก็คือกำลังภายใน ถ้าได้กำลังภายในสักวิชาที่เหมาะกับข้า…”

“ที่ข้ามีกำลังภายในระดับสูงอยู่วิชาหนึ่ง แม้จะเทียบกับ ‘สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร’ ไม่ได้แน่นอน แต่นั่นกลับเป็นวิชาระดับสูงที่สมบูรณ์ ทั้งยังสอดคล้องกับที่เจ้าบอกมากด้วย”

ตอนนี้ซ่งปิงอี่แสดงออกอย่างใจกว้าง “แต่ประเด็นสำคัญกว่านั้นก็คือ ที่ข้ามีภารกิจหนึ่งที่สำคัญมาก อาศัยกำลังของคนคนเดียวทำให้สำเร็จได้ยากมาก ถ้าพวกเจ้าสองคนทำด้วยกัน ก็ถือว่ามีเงื่อนไขพร้อมที่จะรับภารกิจนี้”

พอซานเย่ว์ได้ยินว่าจะได้ตั้งทีมกับเยี่ยเว่ยหมิงเพื่อทำภารกิจ นางก็เริ่มดีใจทันที “ท่านพูดจริงหรือ”

“แน่นอน!” ซ่งปิงอี่อย่างตรงไปตรงมามาก “พวกเจ้าอย่ามองว่าข้าเป็นเพียงขอทานคนหนึ่งนะ ข้ากับต้วนเจิ้งหมิง จักรพรรดิเป่าติ้งแห่งแคว้นต้าหลี่เป็นสหายที่ดีต่อกันนะ เจ้าเชื่อหรือไม่”

ซานเย่ว์พยักหน้า เยี่ยเว่ยหมิงพูดเสริมอยู่ข้างๆ “ขอเพียงท่านมอบหมายภารกิจ ‘มังกรผยองได้สำนึก’ ให้ ไม่ว่าท่านจะพูดอะไรข้าก็เชื่อทั้งนั้น”

“ฉลาด!” ซ่งปิงอี่ยกนิ้วหัวแม่มือให้เยี่ยเว่ยหมิง แล้วบอกว่า “ที่จริงแล้ว ขันทองในมือข้า จักรพรรดิต้าหลี่สั่งให้คนงานใช้ทองคำบริสุทธิ์ทำส่งมาให้ข้าโดยเฉพาะ และเพื่อเป็นการตอบแทน ข้าจึงเก็บตำราลับ ‘มังกรผยองได้สำนึก’ ไว้ที่เขาชั่วคราว เขารักษามันไว้แทนข้า”

เมื่อได้ยินซ่งปิงอี่พูดแบบนี้ เยี่ยเว่ยหมิงก็ตกใจสุดขีด

นำตำราลับส่วนที่เป็นหัวใจสำคัญของ ‘สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร’ ไปฝากไว้ในมือจักรพรรดิต่างแดน เจ้าไม่กลัวว่าหงชีกงจะซัดเจ้าตายด้วยหนึ่งฝ่ามือเลยหรือ

ตอนนี้เขากลับได้ยินซ่งปิงอี่พูดต่อว่า “ตอนนี้พบปัญหานิดหน่อย ข้ามีลูกเมียเป็นโขยง แยกตัวไปไม่ได้ หากทั้งสองยอมช่วย ไม่สู้ไปที่พระราชวังต้าหลี่แทนข้าสักรอบ ไปช่วยสหายจักรพรรดิคนนั้นของข้าก็พอ ขอเพียงเจ้าเอ่ยชื่อของข้า ตำราลับของ ‘มังกรผยองได้สำนึก’ ก็จะกลายเป็นรางวัลภารกิจของเจ้า!”

รอยยิ้มของซ่งปิงอี่เจ้าเล่ห์นิดหน่อย ตอนที่เยี่ยเว่ยหมิงกำลังเดาว่าอีกฝ่ายมีแผนลับอะไร เสียงแจ้งเตือนระบบกลับดังขึ้นข้างหู

[ติ๊ง! คุณได้รับภารกิจพิเศษ ‘มังกรผยองได้สำนึก’]

[มังกรผยองได้สำนึก]

ช่วยจักรพรรดิแคว้นต้าหลี่ต้วนเจิ้งหมิงแก้ไขเรื่องยุ่งยากใจ

ระดับภารกิจ: 6 ดาว

รางวัลภารกิจ: ‘มังกรผยองได้สำนึก’ ตำราลับ ×1

บทลงโทษภารกิจล้มเหลว: คุณจะไม่มีทางได้รับภารกิจใดๆ จากซ่งปิงอี่อีก

……

อ่านภารกิจนี้ปราดหนึ่ง ก็เหมือนจะไม่มีปัญหาอะไร

ตอนนี้เอง ซานเย่ว์ก็จับภาพส่งมาในช่องทีมแล้ว

[วิชานางฟ้ามังกรเทพ]

ช่วยเตาไป๋เฟิ่ง หวังเฟยของต้วนเจิ้งฉุนซึ่งเป็นองค์ชายฝั่งใต้ของแคว้นต้าหลี่แก้ไขเรื่องยุ่งยากใจให้นาง

ระดับภารกิจ: 6 ดาว

รางวัลภารกิจ: ‘วิชานางฟ้ามังกรเทพ’ ตำราลับ ×1

บทลงโทษภารกิจล้มเหลว: คุณจะไม่มีทางได้รับภารกิจใดๆ จากซ่งปิงอี่อีก

……

ด้านล่างภาพยังแนบข้อความที่เต็มไปด้วยความสงสัยของซานเย่ว์ [ตอนแรกมี ‘สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร’ ตอนนี้มี ‘วิชานางฟ้ามังกรเทพ’ โผล่มาอีก จะว่าไปแล้ว ทำไมวิชาของพรรคกระยาจกถึงเกี่ยวข้องกับมังกรหมดเลย]

เยี่ยเว่ยหมิงกลับส่ายหน้า “สิ่งที่ข้าสงสัยมากกว่านั้น ก็คือทำไมชายาของจักรพรรดิและท่านอ๋องแคว้นต้าหลี่ถึงมีเรื่องยุ่งยากใจเหมือนกัน นี่มันเนื้อเรื่องแนวยอดยุทธ์คุณธรรม ไม่ใช่แนววังหลังจริงๆ ใช่ไหม”

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ

Status: Ongoing
ไหนๆ ก็โดน NPC หลอกมาเข้าสำนักมือปราบที่ไม่มีวิทยายุทธ์ให้ฝึกแล้ว อย่างน้อยก็ขอสกิลดีๆ หน่อยแล้วกัน!นิยายแฟนตาซีแนวเกมออนไลน์ที่จะพาคุณไปท่องยุทธภพและไขคดีสไตล์มือปราบขั้นเทพ!เยี่ยเว่ยหมิง หนึ่งในเด็กหนุ่มที่ลงทะเบียนสมัครใจอพยพไปต่างโลกเพื่อป้องกันสมองตายระหว่างหลับจำศีลตอนเดินทางในอวกาศเขาจึงต้องร่วมเล่นเกมออนไลน์ที่มีฉากหลังเป็นยุทธภพก่อนจะโดน NPC ลึกลับหลอกเข้าสำนักมือปราบที่ไม่มีวิทยายุทธ์ให้ฝึกแต่ถึงกระนั้นก็ใช่ว่าสำนักมือปราบจะไม่มีอะไรเลยเพราะหลังจากที่เยี่ยเว่ยหมิงทำแบบทดสอบของใต้เท้าซ่งผ่านเขาก็ได้รับสกิลตัดสินคดีที่พ่วงมาด้วยเวทชันสูตรศพและเวทบรรจุศพซึ่งเวทบรรจุศพนี้เองทำให้เขาสามารถรับของที่ซ่อนไว้บนตัวผู้ตายได้รวมถึงดูดเอาค่าประสบการณ์ทักษะยุทธ์ของผู้ตายได้อีกด้วยเยี่ยมเลย! ตอนนี้เขาพร้อมที่จะออกไปไขคดีทั่วยุทธภพแล้ว!…[ติ๊ง! เปิดใช้พาสซีฟสกิล ‘เวทชันสูตรศพ’ คุณพบ…][ติ๊ง! สกิลพิเศษ ‘เวทบรรจุศพ’ : สามารถดูดเอาค่าประสบการณ์ทักษะยุทธ์ของผู้ตายโดยการจัดการศพ BOSS][ติ๊ง! จัดการศพผู้อาวุโสสำนักไท่ซาน ได้รับ ‘ตระหนักรู้เคล็ดกระบี่’ เพิ่มค่าประสบการณ์เคล็ดกระบี่ 5000 แต้ม]

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท