ตอนที่ 413 ละครจริยธรรมความรักจอมยุทธ์ธีมชุดโบราณฟอร์มยักษ์
ถ้าจะบอกว่าต้วนเจิ้งหมิงประสบปัญหา ก็ต้องเริ่มเล่าตั้งแต่องค์ชายรัชทายาทต้วนอวี้แห่งแคว้นต้าหลี่
ต้วนเจิ้งหมิงแม้จะเป็นจักรพรรดิแคว้นต้าหลี่ แต่กลับเป็นฆราวาสผู้เลื่อมใสในศาสนาพุทธ และธรรมเนียมของแคว้นต้าหลี่ก็คือ เมื่อฮ่องเต้หลายพระองค์หลังจากเลี้ยงดูอบรมทายาทจนรู้สึกว่าอีกฝ่ายรับหน้าที่สำคัญได้แล้วก็จะส่งต่อบัลลังก์อย่างไม่ลังเล ส่วนตัวเองก็ไปโกนผมบวชเป็นพระที่วัดมังกรฟ้าอย่างไม่อาลัยอาวรณ์เลยแม้แต่น้อย
บอกประมาณว่าอำนาจของกษัตริย์มีเกียรติและล้ำค่า แต่อยากจะรักษาศีลเท่านั้น…
และต้วนเจิ้งหมิงก็อาศัยว่าตัวเองมีน้องชายคนหนึ่ง จึงทำเรื่องพวกนี้มากกว่าจักรพรรดิแคว้นต้าหลี่พระองค์อื่น
อีกฝ่ายยังไม่ทันแต่งงานมีภรรยาสักคน ก็ส่งต่อหน้าที่สืบทอดทายาทสกุลต้วนให้ต้วนเจิ้งฉุนผู้เป็นน้องชายรับผิดชอบหมด ตัวเองเพียงเตรียมตัวรอเวลาให้อายุถึงเกณฑ์ ก็จะไปหาที่พึ่งทางใจที่วัดมังกรฟ้าทันที
ส่วนการสืบทอดตำแหน่งจักรพรรดิ ถ้าเป็นภาคกลางก็จะยึดหลักน้องชายสืบบัลลังก์ต่อจากพี่ชาย บุตรชายสืบบัลลังก์ต่อจากบิดา แต่ต้าหลี่ไม่ต้องรอให้ฮ่องเต้สิ้นพระชนม์ก่อนแล้วค่อยเปลี่ยนใหม่ เมื่ออายุถึงเกณฑ์แล้วก็จะเป็นฝ่ายสละราชบัลลังก์เอง แต่ขั้นตอนเหมือนกันหมด
ส่วนต้วนเจิ้งฉุน น้องชายที่ต้วนเจิ้งหมิงฝากความหวังเอาไว้มากก็ไม่ทำให้พี่ชายผิดหวัง ชีวิตส่วนตัวฟู่ฟ่าและมีสีสันมาก กล่าวได้ว่าเสพสุขชีวิตวังหลังที่พี่ชายไม่เคยได้สัมผัสอย่างเต็มที่
แต่ในสายตาของเยี่ยเว่ยหมิงกับซานเย่ว์ ชีวิตส่วนตัวของต้วนเจิ้งฉุนนั่นก็นับว่าเป็นชีวิตในวังหลังไม่ได้ อย่างมากก็เป็นเพียงม้าพ่อพันธุ์ตัวหนึ่งเท่านั้น
ถ้าถามว่า วังหลังกับม้าพ่อพันธุ์ต่างกันตรงไหน
คำตอบก็คือ อยู่วังหลังต้องรับผิดชอบผู้หญิงทุกคน ส่วนม้าพ่อพันธุ์ก็รับหน้าที่ผสมพันธุ์อย่างเดียว พูดแบบไร้หัวใจหน่อยก็คือมนุษย์พ่อพันธุ์
ยังดีที่แม้ชีวิตส่วนตัวของต้วนเจิ้งฉุนจะวุ่นวาย แต่เขากลับได้ลูกชายที่ได้เรื่องมากคนหนึ่ง
องค์ชายรัชทายาทต้วนอวี้ฉลาดล้ำมาตั้งแต่เด็ก ปราดเปรื่องหลักธรรมคำสอนรวมทั้งพิณ ภาพ หมาก อักษร…คล้ายหลี่อวี้แห่งราชวงศ์ถัง จ้าวจีแห่งราชวงศ์ซ่งอยู่หลายส่วน ได้รับความโปรดปรานจากต้วนเจิ้งหมิงและต้วนเจิ้งฉุน
แต่ต้วนอวี้ก็มีข้อเสียอยู่สองอย่าง นั่นก็คือเขาเป็นคนจิตใจดีเกินไป ชื่นชอบเพียงงานด้านวรรณกรรม เล่นหมากล้อมบูชาพระ แต่กลับไม่แยแสวิทยายุทธ์ที่สืบทอดจากสกุลต้วนแห่งต้าหลี่ ทั้งยังเป็นคนหนุ่มที่ชอบเที่ยวเล่น เมื่อไม่นานมานี้แอบไปทำตัวเสเพลที่เขาอู๋เลี่ยง ผลปรากฏว่าเกือบตายอยู่ที่นั่น
แต่ยังดีที่เจ้าเด็กนี่ดวงแข็ง แม้ในระหว่างนั้นจะมีอันตรายมากมาย แต่จุดจบก็งดงามมาก
หลังจากผ่านเหตุการณ์ครั้งนั้น ต้วนเจิ้งหมิงก็พบว่าต้วนอวี้เรียนรู้ทักษะยุทธ์มาแล้ว!
ท่าร่างของเขาว่องไวและอิสระเสรี ถึงขั้นเหนือกว่าวิทยายุทธ์ของตระกูลด้วย!
ตอนนี้แม้แต่ฐานะในยุทธภพของสกุลต้วนแห่งต้าหลี่ก็รักษาไว้ได้แล้ว!
อีกทั้งต้วนอวี้คนนี้ก็เหมือนจะได้รับนิสัยมาจากบิดาของเขา กล่าวได้ว่าได้รับธรรมเนียมอันดีงามมาจากม้าพ่อพันธุ์เฒ่าต้วนเจิ้งฉุน ออกไปทำตัวเสเพลข้างนอกรอบเดียว นอกจากได้เรียนรู้ทักษายุทธ์ลึกลับแล้ว ยังลักพาตัวน้องสาวนางหนึ่งกลับมาด้วย
สำหรับต้วนเจิ้งหมิงและน้องชายของเขา ข่าวนี้น่าตื่นเต้นกว่าข่าวที่ต้วนอวี้เรียนรู้ทักษะยุทธ์จริงๆ
ต้องทราบไว้ว่า เมื่อสกุลต้วนอยู่มาถึงรุ่นของต้วนอวี้ ก็เหลือเพียงเขาที่เป็นเหมือนต้นกล้าต้นเดียวของตระกูล หากเขาต้องการเอาเยี่ยงอย่างต้วนเจิ้งหมิง สกุลต้วนก็จะสิ้นทายาท!
ทว่าตอนที่กำลังตื่นเต้นเร้าใจแบบนี้ กลับเกิดเหตุการณ์หักมุมแล้ว
ตอนที่ภรรยาของต้วนเจิ้งฉุนคุยเล่นกับแม่นางมู่หว่านชิงที่ต้วนอวี้พากลับมา จู่ๆ มู่หว่านชิงก็เกิดโทสะขึ้นมากะทันหัน ต้องการจะสังหารเตาไป๋เฟิ่งหวังเฟย
แต่ทักษะยุทธ์ของมู่หว่านชิงแตกต่างกับเตาไป๋เฟิ่งมากอยู่แล้ว ประกอบกับมียอดฝีมืออย่างต้วนเจิ้งฉุนอยู่ข้างๆ แน่นอนว่านางทำไม่สำเร็จ
แต่ติดที่ต้วนอวี้ พวกเขาจึงไม่สะดวกจะทำอะไรกับสาวที่เขาพามาโดยตรง ถามไถ่สถานการณ์ก่อนแล้วค่อยตัดสินใจดีกว่า
แต่พอถามไปถามมา…ก็ถามจนได้เรื่อง!
ถามจนได้เรื่องใหญ่โต!
ที่แท้น้องสาวที่ต้วนอวี้พากลับมาด้วย ก็เป็นน้องสาวจริงๆ ทั้งยังเป็นน้องสาวแท้ๆ ของต้วนอวี้ด้วย!
เวรกรรมเรื่องความเจ้าชู้ในวัยหนุ่มของต้วนเจิ้งฉุน สุดท้ายผลกรรมก็มาตกอยู่ที่ลูกชายของเขา ทำให้คู่รักคู่หนึ่งกลายเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน
เจ้ากล้าเชื่อไหมล่ะ
จากนั้นฉินหงเหมียน คนรักเก่าของต้วนเจิ้งฉุน หรือคนที่เดิมทีอาจจะกลายมาเป็นแม่ยายของต้วนอวี้ แต่ตอนนี้กลับกลายมาเป็นศัตรูหัวใจของแม่ต้วนอวี้แล้ว
ฉินหงเหมียนนั่นมีฉายาว่าดาบอสูร หลังจากมาถึงพระราชวังก็เกิดเรื่องราวอันซับซ้อนทันที จากนั้นเรื่องราวความรักความแค้นที่เป็นฉากน้ำเน่าต่างๆ ก็เกิดขึ้นในพระราชวังต้าหลี่
ฉากแบบนั้น เจ้าก็ลองคิดเอาเองแล้วกัน…
ผลปรากฏว่าตอนนี้เอง เย่ว์เหล่าซานกับอวิ๋นจงเฮ่อจากสี่คนโฉดก็โผล่มา ฉวยโอกาสตอนที่ทั้งครอบครัวตกอยู่ในสถานการณ์เลวร้ายจี้ตัวต้วนอวี้ไป ทั้งยังทิ้งข้อความไว้ว่า
ถ้าต้องการช่วยคน ไปที่หุบเขาว่านเจี๋ย
เรื่องราวครึ่งแรกจบไป
หลังจากฟังที่ต้วนเจิ้งหมิงเล่า บนหน้าเยี่ยเว่ยหมิงกับซานเย่ว์ก็เขียนคำว่าอึ้งเต็มไปหมด เยี่ยเว่ยหมิงถึงขั้นส่งพิราบสื่อสารไปถามอินปู้คุยว่าเนื้อเรื่องน้ำเน่าแบบนี้เป็นฝีมือจากปลายปากกาของจอมยุทธ์หญิงท่านไหน
จะว่าไปแล้ว ต่อให้เป็นนิยายแนวความรัก แต่ก็มีหลายเรื่องที่ไม่กล้าเขียนออกมาแบบนี้!
เยี่ยเว่ยหมิงพยายามข่มความปรารถนาที่จะถากถางแล้วถามอย่างใจเย็นว่า “หรือพูดได้อีกอย่างว่า ฝ่าบาทต้องการให้พวกเราช่วยองค์ชายรัชทายาทต้วนอวี้จากสี่คนโฉดนั่นหรือขอรับ”
ต้วนเจิ้งหมิงพยักหน้า จากนั้นพลันลุกขึ้นมา กุมหมัดคารวะทั้งสอง “สี่คนโฉดนั่นรับมือยากมาก มิหนำซ้ำ ตามข้อมูลที่พวกเราเข้าใจ หุบเขาว่านเจี๋ยนั่นเหมือนจะไม่เป็นมิตรกับสกุลต้วนของพวกเรานัก ครั้งนี้ขอเพียงทั้งสองช่วยพวกเราสืบรายละเอียดของหุบเขาว่านเจี๋ยกับสี่คนโฉด ก็ถือว่าทำภารกิจครั้งนี้สำเร็จแล้ว…
…เมื่อถึงตอนนั้น ไม่ว่าจะเป็นตำราลับ ‘มังกรผยองได้สำนึก’ หรือหลักฐานที่พิสูจน์ว่าแม่นางซานเย่ว์ทำภารกิจสำเร็จแล้ว ต้วนเจิ้งหมิงล้วนเต็มใจมอบให้”
[ติ๊ง! ภารกิจมีการเปลี่ยนแปลง! รายละเอียดภารกิจ ‘มังกรผยองได้สำนึก’ มีการเปลี่ยนแปลง กรุณาตรวจดูในแถบภารกิจ]
[มังกรผยองได้สำนึก]
ไปที่หุบเขาว่านเจี๋ย สืบหาเบาะแสของหุบเขาว่านเจี๋ยกับสี่คนโฉด
ระดับภารกิจ: 6 ดาว
รางวัลภารกิจ: ‘มังกรผยองได้สำนึก’ ตำราลับ ×1
บทลงโทษภารกิจล้มเหลว: คุณจะไม่มีทางรับภารกิจจากซ่งปิงอี่ได้อีกต่อไป
……
เยี่ยเว่ยหมิงหันกลับไปมองซานเย่ว์แวบหนึ่ง นางจับภารกิจส่งมาให้อย่างรู้ความทันที ส่วนที่มีการเปลี่ยนแปลงของภารกิจเหมือนกับเยี่ยเว่ยหมิงไม่มีผิด เมื่อเปิดแผนที่ของระบบดูอีก ก็ค้นพบว่าบริเวณที่ชื่อว่าหุบเขาว่านเจี๋ยบนแผนที่ของพวกเขาสว่างขึ้นมาแล้ว
เมื่อได้ภารกิจที่ต้องการมาไว้ในมือแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงกับซานเย่ว์ก็กล่าวอำลาต้วนเจิ้งหมิง หลังจากออกจากพระราชวังต้าหลี่แล้วก็มุ่งตรงไปยังหุบเขาว่านเจี๋ยทันที
พิราบสื่อสารตัวหนึ่งบินออกจากตัวเยี่ยเว่ยหมิง บินตรงไปทางเขาอู่ตัง ตอนนี้กลับได้ยินซานเย่ว์ที่อยู่ข้างๆ บอกว่า “ข้าเพิ่งสังเกตสีหน้าท่าทาง พบว่าทุกประโยคที่ต้วนเจิ้งฉุนพูดเป็นความจริงทั้งนั้น ไม่พูดโกหกสักประโยคเดียว หรือไม่เขาก็อาจปิดบังไว้”
เยี่ยเว่ยหมิงพยักหน้า “ก่อนหน้านี้ข้าอาจจะคิดมากไป แต่พอมาคิดดูตอนนี้แล้ว จุดที่ข้ารู้สึกว่าไม่ชอบมาพากลก่อนหน้านี้ ที่จริงแล้วไม่ใช่สิ่งที่ภารกิจของพวกเราเกี่ยวข้องด้วยได้”
ก็เหมือนภารกิจประลองยุทธ์เลือกคู่ก่อนหน้านี้ นั่นก็แปลกเหมือนกัน แต่ความจริงที่ทำให้เกิดเรื่องแปลกอย่างนั้นก็มาจากชาติกำเนิดของหยางคัง
ที่จริงแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะเยี่ยเว่ยหมิงดึงดันจะฆ่าหยางคังให้ตายในภารกิจครั้งนั้น ชาติกำเนิดของเขาก็จะถูกเปิดเผยในภารกิจภาคต่อในภายหลัง
ขณะที่เขากับซานเย่ว์ใช้ท่าร่างวิ่งตะบึงไปบนทางภูเขาด้วยกัน ต้นหญ้าที่อยู่ใต้เท้าก็ถูกเขาเหยียบจนงอแต่ไม่ขาด เขาวิเคราะห์ต่อว่า “แสดงว่าภารกิจเนื้อเรื่องที่พวกเราได้รับตอนนี้ มีศักยภาพแฝงที่ควรค่าแก่การขุด หรือไม่ก็มีภารกิจภาคต่อเจ๋งๆ ให้รับได้…
…แต่เรื่องด่วนของพวกเราตอนนี้ก็คือรีบคว้าตำราลับ ‘มังกรผยองได้สำนึก’ กับ ‘วิชานางฟ้ามังกรเทพ’ มาไว้ในมือก่อน แล้วเรื่องที่เหลือค่อยว่ากันก็ได้”
ซานเย่ว์ได้ยินแล้วพยักหน้า ตอนที่มีตัวหลักอย่างเยี่ยเว่ยหมิงอยู่ด้วย นางชอบเป็นผู้ปฏิบัติมากกว่า ไม่แสดงความสงสัยใดๆ ต่อการตัดสินใจของเยี่ยเว่ยหมิงเลย
ตอนนี้จดหมายของอินปู้คุยบินกลับมาแล้ว
[จะว่าไปก็บังเอิญจริงๆ เมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้ สหายหลิวอวิ๋นเพิ่งจะถามคำถามเดียวกันเลย
แต่ในต้นฉบับที่ข้ารู้มา เนื้อเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสี่คนโฉดและสกุลต้วนแห่งต้าหลี่มีเยอะมาก บุญคุณความแค้นต่างๆ ซับซ้อนเกินไป ต่อให้พูดถึงแต่ประเด็นสำคัญ แต่ภายในเวลาสั้นๆ ก็พูดได้ไม่ชัดเจนอยู่ดี
ตอนนี้ข้ากำลังทำภารกิจที่ค่อนข้างสำคัญอยู่ภารกิจหนึ่ง อีกประมาณสองชั่วโมงจะตอบกลับข้อความเจ้า]…อินปู้คุย
สำหรับคำวิจารณ์ของอินปู้คุย เยี่ยเว่ยหมิงที่รู้เรื่องราวด้านหนึ่งมาจากต้วนเจิ้งหมิงแล้วเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง
เรื่องแบบนี้ถ้าจะให้เล่าก็ยาวมาก เป็นไปได้ว่ายิ่งพูดก็ยิ่งยุ่งเหยิง ต้องเล่าถึงต้นสายปลายเหตุให้ชัดเจนเท่านั้น
แต่ในเมื่อตอนนี้ปู้คุยค่อนข้างยุ่ง เยี่ยเว่ยหมิงก็เกรงใจที่จะไปรบกวนภารกิจสำคัญของอีกฝ่าย จึงส่งข้อความกลับไปบอกว่าไม่มีปัญหา
จากนั้นเยี่ยเว่ยหมิงก็ส่งพิราบสื่อสารไปหาหลิวอวิ๋น แต่กลับได้รับข้อความว่าอีกฝ่ายอยู่ในแผนที่พิเศษ ไม่มีทางติดต่อได้
ตอนนี้เอง เยี่ยเว่ยหมิงพลันขมวดคิ้วขึ้นมา
พอเขาหันไปมองทางซานเย่ว์ กลับเห็นชายอัปลักษณ์ที่ผอมแห้งคนหนึ่งลอยออกมาจากป่าทึบที่อยู่ด้านข้างของทั้งสอง ไม่น่าเชื่อว่าอีกฝ่ายจะอาศัยท่าร่างอันยอดเยี่ยมของตัวเอง ใช้กรงเล็บขยุ้มมาทางหลังคอของซ่านเย่ว์เงียบๆ จากมุมที่นางไม่มีทางมองเห็น
ผู้ที่มาไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นคนที่เยี่ยเว่ยหมิงกับสะพานสวรรค์น้อยเคยร่วมมือกันสังหารไปแล้วครั้งหนึ่งตอนอยู่ที่ตีนเขาชิงเฉิง น้องคนสุดท้องจากสี่คนโฉด…อวิ๋นจงเฮ่อชั่วโฉด!
อิงตามความคิดเดิมของทั้งสอง ในเมื่อต้องการจะสืบข่าว เช่นนั้นก็ต้องเข้ามาในหุบเขาเงียบๆ อย่าส่งเสียงดัง ผลปรากฏว่าตอนที่เพิ่งมาถึงปากหุบเขาก็ถูกพบร่องรอยการเดินทางเสียแล้ว แล้วยังจะเป็นการแฝงตัวเข้ามาอย่างลับๆ ได้อย่างไรอีก
เพียงแต่อวิ๋นจงเฮ่อที่โผล่มาวันนี้ เมื่อเทียบกับที่เจอตอนอยู่ตีนเขาชิงเฉิงครั้งก่อน กลับเหมือนอ่อนแอลงเยอะ
[อวิ๋นจงเฮ่อ]
น้องเล็กสุดในสี่คนโฉด หนึ่งในโจรราคาที่โด่งดังที่สุดในยุทธภพ
เลเวล: 65
พลังชีวิต: 210000/210000
กำลังภายใน: 160000/160000
……
เป็นเวอร์ชั่นถูกตอนในโหมดภารกิจเหมือนกัน พียงแต่ครั้งนี้เขาถูกตอนโหดไปหน่อย!
ดังนั้น เพื่อรับประกันว่าจะปฏิบัติการแฝงตัวเข้าหุบเขาว่านเจี๋ยได้อย่างราบรื่น ก็ทำได้เพียงเชิญให้พี่เฒ่าโจรราคะท่านนี้ตายอีกรอบ