ตอนที่ 427 ได้ตำราลับ ‘มังกรผยองได้สำนึก’ แล้ว!
ในเมื่อตัดสินใจแล้วว่าต้องให้ตัวตายตัวแทน…ถุย! เพื่อสหายรบแสนดีรับบาปในภารกิจครั้งนี้ เยี่ยเว่ยหมิงพร่ำบอกเขาทันทีว่า “ข้าว่านะสหายต้วน ถึงอย่างไรก็เป็นภารกิจสกุลต้วนต้าหลี่ของพวกเจ้า ทั้งยังได้รักษาศักดิ์ศรีหน้าตาสกุลต้วนต้าหลี่ของพวกเจ้าด้วย สำหรับพวกเราแล้วไม่ได้แตกต่างกันมาก แต่ส่งผลกระทบต่อความก้าวหน้าในเกมของเจ้าโดยตรง ดังนั้นเรื่องนี้มีความหมายต่อเจ้าแตกต่างกับพวกเรามาก…
…อีกทั้งเกมนี้ คิดว่าคงให้ความสำคัญกับสัดส่วนการทุ่มเทและผลตอบแทน ยิ่งเจ้าออกแรงในภารกิจนี้มาก ตอนหลังเจ้าก็จะได้รับผลตอบแทนมากขึ้น รวมทั้งค่าความรู้สึกดีจากสองพี่น้องต้วนเจิ้งหมิงกับต้วนเจิ้งฉุน ดังนั้น…”
ขณะที่พูด เยี่ยเว่ยหมิงก็ออกแรงตบบ่าต้วนอาทิตย์อัสดงไร้ซุ่มเสียง “เรื่องคิดหาวิธีการถอนพิษ อยู่ในความรับผิดชอบของเจ้าแล้วสหาย”
ต้วนอาทิตย์อัสดงไร้ซุ่มเสียงมองเยี่ยเว่ยหมิงอย่างพูดไม่ออก แม้เขาจะรู้ว่าสิ่งที่เยี่ยเว่ยหมิงพูดเป็นความจริง แต่เรื่องแบบนี้สุดท้ายไม่ว่าจะพูดออกมาจากปากใคร ก็ฟังดูต่ำทรามเกินไปทั้งนั้น เสียหน้าสุดๆ!
ทว่าถ้าทำอย่างที่เยี่ยเว่ยหมิงบอก แม้เสียหน้าเหมือนกัน แต่ในบรรดาพวกเขา มีเพียงเขาที่เสียหน้าแล้วจะได้ประโยชน์มากสุด
ดังนั้นเรื่องนี้ต้องให้เขาออกหน้าเท่านั้น
หลังจากลังเลอยู่นานมาก ในที่สุดต้วนอาทิตย์อัสดงไร้ซุ่มเสียงก็หลับตาพร้อมสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง แล้วพยายามพูดกับจงหลิงอย่างอ้อมค้อมว่า “แม่นางจง ข้ารู้วิธีการถอนพิษโดยที่ไม่ต้องใช้ยาถอนพิษ”
ท่ามกลางสายตารังเกียจของสหายร่วมทีมผู้ไม่เป็นมิตร ต้วนอาทิตย์อัสดงไร้ซุ่มเสียงกดเสียงต่ำพูดต่อไปว่า “คืออย่างนี้ เดี๋ยวเจ้ากลับไปแล้วหาโอกาสบอกพี่ต้วนกับพี่มู่ของเจ้านะ บอกเรื่องถอนพิษ ต้องอาศัยแรงมือทั้งสองข้างของพวกเขา แต่ถ้ายังถอนพิษไม่ได้อีก ก็ลองให้พวกเขาช่วยกัน…”
เมื่อเห็นสายตาไร้เดียงสาของจงหลิง ทำท่าทางเหมือนเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจ จึงกล่าวเสริมสิ่งที่แม้จงหลิงจะฟังเข้าใจ แต่กลับไม่เข้าใจว่าทำแบบนี้เกี่ยวข้องกับการถอนพิษอย่างไรย ยกตัวอย่างเช่น ‘วอกลิงระกาไก่[1]’ อะไรทำนองนั้น ทั้งยังกำชับให้นางจำให้ดีด้วย ต้องถ่ายทอดคำเดิมให้ถึงหูต้วนอวี้กับมู่หว่านชิง
……
เมื่อเลเวลและความสามารถของผู้เล่นเพิ่มขึ้น ค่าสเตตัสแต่ละด้านก็เข้มแข็งขึ้น ยกตัวอย่างเช่นการฟังก็เป็นหนึ่งในนั้น
เพื่อรับประกันว่าจงหลิงจะได้ยินสิ่งที่ตนพูดชัดเจน ต้วนอาทิตย์อัสดงไร้ซุ่มเสียงย่อมไม่มีทางกดเเสียงให้ต่ำเบาเกินไป เสียงต่ำแบบนี้ย่อมปิดบังสหายร่วมที่อยู่ข้างหลังไม่ได้เช่นกัน
พอได้ยินประโยคสุดท้ายที่เขาพูดกับจงหลิง ผู้หญิงสองคนในทีมก็ไม่ได้มีปฏิกิริยาพิเศษอะไร แต่อีกสามหนุ่มกลับเริ่มทำสีหน้าแปลกๆ แล้ว
พอมองไปทางต้วนอาทิตย์อัสดงไร้ซุ่มเสียงอีกครั้ง สายตาของพวกเขาก็เต็มไปด้วย ‘ความเคารพ’ และ ‘นับถือ’ จากก้นบึ้งของหัวใจ เหมือนมือใหม่ไร้ประสบการณ์ที่แหงนมองผู้ช่ำชอง
ท่ามกลางสายตาที่เต็มไปด้วย ‘ความนับถือ’ ของทั้งสามคน ต้วนอาทิตย์อัสดงไร้ซุ่มเสียงรู้สึกอึดอัดไปทั้งตัว แต่เพื่อทำให้ภารกิจสำเร็จได้ดีขึ้นกว่าเดิม เขาก็ยังยืนยันกับจงหลิงอย่างแนบเนียนอีกครั้ง หลังจากแน่ใจว่านางจำคำพูดของตนแม่นยำแล้ว ถึงได้ใช้มือปิดหน้า แล้วใช้ท่าร่างวิ่งตะบึงออกจากป่าสนว่านเจี๋ยด้วยความเร็วสูงสุด
เสียภาพพจน์หมดแล้ว!
ไม่มีหน้าไปเจอพ่อกับพี่ชายที่บ้านเกิดแล้ว!
……
เมื่อเห็นต้วนอาทิตย์อัสดงไร้ซุ่มเสียงทำ ‘งานสกปรก’ เสร็จเรียบร้อยแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงก็เผยรอยยิ้มสดใสเหมือนดวงอาทิตย์ ใช้น้ำเสียงที่อ่อนโยนสุขุมพูดกับจงหลิงว่า “แม่นางจงหลิง รอให้พวกเราคิดหาทางช่วยพี่ต้วนของพวกเจ้าได้แล้ว อาจจะมีเรื่องให้เจ้าช่วยนิดหน่อย เมื่อถึงตอนนั้นพวกเราจะติดต่อเจ้าได้อย่างไร”
“อะ! อันนี้ให้เจ้า!” ตอนนี้จงหลิงนำนกหวีดไม้ไผ่ขนาดสองชุ่นออกมาจากหน้าอก แล้วยื่นให้เยี่ยเว่ยหมิง “ขอเพียงเจ้าเป่าสิ่งนี้ตอนอยู่นอกหุบเขาว่านเจี๋ย ข้าก็จะหนีออกมาเจอพวกเจ้าทันที”
เยี่ยเว่ยหมิงอมยิ้มขณะเก็บนกหวีดไม้ไผ่เข้ากระเป๋า จากนั้นกล่าวอำลาจงหลิง แล้วเรียกเพื่อนๆ ออกจากป่าสนพร้อมกัน
อาจเป็นเพราะตอนนี้ยังรู้สึกอับอายเวลาเจอหน้าเพื่อนๆ ดังนั้นตอนที่พวกเเยี่ยเว่ยหมิงออกมาจากป่าสนก็ไม่เห็นเงาของต้วนอาทิตย์อัสดงไร้ซุ่มเสียงแล้ว คาดว่าคงกลับเมืองต้าหลี่ไปก่อนแล้ว
ตอนเพิ่งก้าวพ้นต้นสนใหญ่ที่เขียนข้อความไว้ว่า ‘คนแซ่ต้วนที่เข้ามา ฆ่าไม่ละเว้น’ ก็มีพิราบขาวสื่อสารสองตัวบินมาตรงหน้าผู้เล่นกลุ่มนี้ จากนั้นก็เกาะบนตัวเยี่ยเว่ยหมิงและหลิวอวิ๋นก่อนจะหายไป
จดหมายส่งมาจากอินปู้คุย ในนั้นบันทึกเนื้อเรื่องเกี่ยวกับหุบเขาว่านเจี๋ยที่เขาเคยถามไปก่อนหน้านี้แต่ตอนนี้มีกลยุทธ์ตัวเป็นๆ อยู่ข้างกายแล้ว กอปรกับทุกคนรีบกลับไปรายงานผลภารกิจ จึงไม่มีเวลานั่งอ่านให้ละเอียด จึงทำได้เพียงต่างคนต่างตอบกลับจดหมายขอบคุณอินปู้คุย จากนั้นพวกเขาก็ใช้ท่าร่างวิ่งตะบึงไปทางเมืองต้าหลี่
อิงตามทฤษฎีถังไม้ เดิมทีเยี่ยเว่ยหมิงนึกว่าเจ้าอ้วนชนะฟ้าจะเป็นคนที่ถ่วงแข้งถ่วงขาทีม ทว่าพอเจ้าหมอนี่วิ่งขึ้นมา นอกจากท่วงท่าสง่างามแล้ว ความเร็วก็ไม่ได้แย่สักนิดเลยด้วย ในบรรดาหกคนนี้ เป็นรองเพียงเยี่ยเว่ยหมิงกับหลิวอวิ๋นนิดหน่อยเท่านั้น ถึงขั้นเร็วกว่าเพื่อนในทีมอีกสามคนที่เหลือด้วย
พอเยี่ยเว่ยหมิงเห็นสถานการณ์ดังนั้น ก็อดถามอย่างแปลกใจไม่ได้ว่า “ข้าจำได้ว่าก่อนหน้านี้น้องดาบเคยบอกข้าว่าเหมือนเจ้าจะไม่เป็นทักษะยุทธ์อะไรทำนองนั้น แต่ดูจากท่าร่างนี้ของเจ้าแล้ว เหมือนนางจะโกหกข้ามาตลอดนะ”
“ที่จริงนางก็ไม่ได้โกหกหรอก” เจ้าอ้วนชนะฟ้าส่ายหน้า “ในชีวิตจริงข้าไม่ได้เรียนทักษะยุทธ์ประจำตระกูล แต่พอเข้ามาในเกม จะไม่เรียนทักษะยุทธ์สักนิดเลยได้เสียที่ไหน เพียงแต่ตอนอยู่หมู่บ้านมือใหม่ ข้าฝึกกำลังภายในกับเคล็ดกระบี่มานิดหน่อยเท่านั้น หลังจากออกจากหมู่บ้านมือใหม่แล้ว แต้มค่าตบะทั้งหมดล้วนนำมาใช้เรียนวิชาตัวเบาหมดแล้ว”
พอชะงักไปครู่เดียว เจ้าอ้วนชนะฟ้าก็กล่าวอย่างมีเหตุผลเต็มปากเต็มคำว่า “เวลาเล่นหมากล้อมมีค่า ข้าไม่อยากใช้เวลากับการเดินทางมากเกินไป”
คาดคะเนตามทฤษฎีถังไม้เช่นกัน ความเร็วในการเดินทางของพวกเขา เท่ากับความเร็วของซานเย่ว์ ขุนเขาลำธารย่อมพานพบและเซียนสาวน้อยนักกิน ซึ่งเป็นสามคนที่วิ่งได้ช้าที่สุด ดังนั้นเวลาที่พวกเขาใช้ตอนออกจากหุบเขาว่านเจี๋ยกลับมาเมืองต้าหลี่จึงไม่ต่างจากตอนมาเท่าไร หลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมง หกคนนี้ก็กลับถึงเมืองต้าหลี่อย่างปลอดภัย
ตรงประตูเมือง พวกเขาเห็นต้วนอาทิตย์อัสดงไร้ซุ่มเสียงที่มารออยู่ตรงนี้นานแล้ว เนื่องจากครึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้มีเวลาสงบจิตใจ สามชายท้องเดียวกันในทีมจึงไม่มีอารมณ์มาล้อเลียนผู้ช่ำชองที่วางมาดสง่าภูมิฐานอย่างเขาแล้ว หลังจากปรึกษากันนิดหน่อยและทิ้งช่องทางการติดต่อให้กันและกันไว้ พวกเขาก็แยกเป็นสองกลุ่ม แยกกันไปทางพระราชวังและจวนองค์ชายฝั่งใต้ของเมืองต้าหลี่ตามภารกิจที่ตัวเองได้รับจาก NPC
……
[ติ๊ง! คุณทำภารกิจ ‘มังกรผยองได้สำนึก’ สำเร็จแล้ว ไดรับรางวัล ตำราลับ ‘มังกรผยองได้สำนึก’ ×1]
เหนือความคาดหมายของเยี่ยเว่ยหมิง หลังจากรู้ฐานะและจุดประสงค์ของต้วนเหยียนชิ่งจากปากของเขา ไม่น่าเชื่อว่าต้วนเจิ้งหมิงจะนำตำราลับ ‘มังกรผยองได้สำนึก’ ที่ซ่งปิงอี่ซ่อนไว้ที่เขาให้เยี่ยเว่ยหมิงทันที
เหมือนจะไม่สอดคล้องกับที่เขาจินตนาการไว้ก่อนหน้านี้!
อิงตามความคิดของเยี่ยเว่ยหมิงก่อนหน้านี้ เหมือนว่าแก่นแท้และหัวใจสำคัญของ ‘สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร’ อย่าง ‘มังกรผยองได้สำนึก’ นี้ การได้มาไว้ในมือจะต้องยากกว่าตอนได้ ‘มังกรซ่อนกบดาน’ ‘มังกรโรมรันกลางไพร’ และ ‘สะท้านขวัญร้อยลี้’ สิถึงจะถูก
ถึงขั้นยากกว่าเคล็ดฝ่ามือสามกระบวนท่าข้างต้นรวมกันก็เป็นไปได้!
ยิ่งไปกว่านั้น อิงตามที่ภารกิจอธิบายไว้ก่อนหน้านี้ ก็บอกไว้ว่าให้แก้ไขเรื่องยุ่งยากใจให้ต้วนเจิ้งหมิงเช่นกัน การที่ต้วนอวี้ถูกจับตัวไปเป็นเรื่องยุ่งยากใจที่ใหญ่มาก
แต่ตอนนี้ความยุ่งยากใจยังไม่ถูกแก้ไข ก็แค่สืบข่าวมาจากปากต้วนเหยียนชิ่งเท่านั้น แค่นี้ก็ได้ตำราลับเล่มหนึ่งแล้ว
การได้ ‘มังกรผยองได้สำนึก’ มาไว้ในมือแบบนี้ ง่ายเกินไปหรือเปล่า!
เยี่ยเว่ยหมิงมองตำราลับในมือที่ดูแล้วงานหยาบกว่าสมุดแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ของเด็กประถมด้วยความสงสัย
[มังกรผยองได้สำนึก (ส่วนหนึ่งของสุดยอดวิชา): ตำราลับที่บันทึก ‘มังกรผยองได้สำนึก’ หนึ่งในกระบวนท่าของ ‘สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร’]
เพื่อตรวจนับรางวัลภารกิจต่อหน้า และเพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายผิดสัญญาหลังจากออกจากหน้าต่างนี้ไปแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงรีบเปิดตำราลับ ‘มังกรผยองได้สำนึก’ อ่านต่อหน้าต้วนเจิ้งหมิง
อิงตามประสบการณ์ที่ผ่านมา ‘สิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกร’ เดิมทีเป็นวิชาที่มีอานุภาพมาก แต่กระบวนท่ากลับเรียบง่าย ทั้งยังเป็นสุดยอดวิชาที่หน้าเนื้อใจเสือ ไม่ใช่วิถีทางที่ใช้การเปลี่ยนแปลงกระบวนท่าเอาชนะ ต่อให้อ่านต่อหน้ารอบเดียวก็ใช้เวลาไม่มากอยู่ดี
แต่พออ่านแล้ว เขากลับเริ่มขมวดคิ้วทันที
เขาคิดว่า ‘มังกรผยองได้สำนึก’ เป็นหัวใจสำคัญของเคล็ดฝ่ามือ อาจจะง่ายเหมือนเคล็ดฝ่ามือสามกระบวนท่าที่เขาเคยเรียนก่อนหน้านี้ แต่กลับคิดไม่ถึงว่ามันจะง่ายถึงขนาดนี้!
พอเปิดหน้าแรกของตำราลับก็มีเพียงภาพวาดง่ายๆ ภาพหนึ่ง ในภาพนั้นใช้ลายเส้นง่ายๆ วาดคนตัวเล็กคนหนึ่งในท่าโบกฝ่ามือ แค่มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าไม่ใช่วิทยายุทธ์ล้ำลึกอะไร ที่ด้านบนของคนตัวเล็ก ยังมีอักษรหวัดตัวเล็กเขียนไว้สี่ตัวว่า…ผู้สืบทอดมังกร!
ชั่วพริบตานั้น เยี่ยเว่ยหมิงก็สงสัยว่าสิ่งที่ตัวเองได้มาเป็นตำราลับปลอมหรือเปล่า
เขารีบเปิดหน้าที่สอง ยังคงเป็นภาพที่เรียบง่ายเหมือนก่อนหน้านี้ แต่ด้านบนของภาพกลับเขียนว่า มังกรหงส์มงคล?
พอเปิดต่อไปอีก…
กำลังม้าวังชามังกร!?
หงส์ร่อนมังกรเหิน!!??
ปรารถนาสามีเป็นมังกร!!!!????
……
นี่มันของเล่นอะไรกัน!?
หลังจากอ่านตำราลับสะเปะสะปะเล่มนี้จบแล้ว เยี่ยเว่ยหมิงก็ได้ยินเสียงแจ้งเตือนของระบบจริงๆ
[ติ๊ง! เนื่องจากคุณอ่านจับประเด็นสำคัญจากตำราลับไม่ได้ การเรียนรู้ ‘มังกรผยองได้สำนึก’ ล้มเหลว!]
ด้วยความที่ไม่เชื่อ เยี่ยเว่ยหมิงจึงตัดสินใจทิ้งค่าประสบการณ์เล็กน้อยเหมือนขายุงอย่างไม่ลังเล หลังจากปิดตำราลับแล้ว ก็ตบไปเรื่อยเปื่อยหนึ่งที…
[ติ๊ง! เนื่องจาก ‘มังกรผยองได้สำนึก’ จัดเป็นตำราลับพิเศษ ไม่มีทางเรียนรู้ได้ถ้ายังอ่านไม่เข้าใจ!]
มารดามันเถอะ!
เมื่อเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง สายตาที่ไม่เป็นมิตรของเยี่ยเว่ยหมิงก็มองไปทางต้วนเจิ้งหมิงที่สีหน้ายิ้มแย้มอ่อนโยน บนใบหน้าราวกับเขียนไว้ว่า ‘นี่เจ้ากำลังล้อข้าเล่นหรือ’
สำหรับสายตาที่ไม่พอใจของเยี่ยเว่ยหมิง ต้วนเจิ้งหมิงกลับแสร้งทำเป็นไม่เห็น เอาแต่พึมพำกับตัวเองว่า “เฮ้อ!…หลานชายข้าคนนั้นเจอเคราะห์ใหญ่ หวังว่าจอมยุทธ์ทุกท่านจะทุ่มกำลังช่วยเหลือ…บลาๆๆ…พรุ่งนี้พวกเราจะแยกกันเคลื่อนไหว ต่างคนต่างคิดหาทางช่วยหลานชายชะตาลำเค็ญของข้าออกมา ขอเพียงจอมยุทธ์น้อยเยี่ยทำได้ดีเป็นพิเศษในภารกิจ คาดว่าซ่งปิงอี่เจ้าหมอนั่นต้องบอกความลับที่อยู่ในตำราลับ ‘มังกรผยองได้สำนึก’ ให้เจ้ารู้แน่นอน”
[ติ๊ง! คุณได้รับภารกิจ ‘มังกรผยองได้สำนึก 2’]
[มังกรผยองได้สำนึก 2]
ช่วยจักรพรรดิเป่าติ้งต้วนเจิ้งหมิงแห่งต้าหลี่ช่วยต้วนอวี้ที่ถูกขังออกมา
ระดับภารกิจ: 7 ดาว
รางวัลภารกิจ: อิงตามการแสดงความสามารถของคุณในภารกิจ ซ่งปิงอี่จะตัดสินใจว่าจะบอกวิธีการเปิดใช้งานที่ถูกต้องของตำราลับ ‘มังกรผยองได้สำนึก’ หรือไม่
บทลงโทษภารกิจล้มเหลว: ถ้าต้วนอวี้ตายในภารกิจครั้งนี้จะถือว่าภารกิจล้มเหลว จะไม่ได้รับภารกิจใดๆ จากซ่งปิงอี่อีก
[1] วอกลิงระกาไก่ 申猴酉鸡 ภาษาจีนออกเสียงว่า เซินโหวโหย่วจี พ้องเสียงกับ 深喉有鸡 ที่แปลว่า อวัยวะเพศชายอยู่ในลำคอลึก