ตอนที่ 525 ลูกบอลกลิ้ง
ที่แท้ตอนที่เยี่ยเว่ยหมิงกดดันติงปู๋ซื่อจนลนลานทำอะไรไม่ถูก ในที่สุดขุนเขาลำธารย่อมพานพบกับเซียนสาวน้อยนักกินก็หาโอกาสได้แล้ว พวกเขาใช้ดาบและกระบี่โจมตีท่อนล่างของติงปู๋ซื่อโดยตรง
ติงปู๋ซื่อถูกบีบให้กระโดดขึ้นฟ้า แต่กลับทำให้เขาหาโอกาสได้เช่นกัน เขาฉวยโอกาสฟาดแส้มังกรทองในมือออกมา พันกระบี่หยดโลหิตอาทิตย์อัสดงที่เยี่ยเว่ยหมิงควบคุมผ่านอากาศ
หลังจากทำสำเร็จแล้ว ติงปู๋ซื่อก็ดีใจมาก จากนั้นสะบัดมือเตรียมโยนกระบี่ล้ำค่าที่ทำให้เขาเจ็บเล่มนี้ออกไปให้ไกล จากนั้นก็อาศัยกำลังจากอาวุธจัดการกับเจ้าคนรุ่นหลังพวกนี้
คาดไม่ถึงว่าการสะบัดครั้งนี้กลับสะบัดไม่ไป!
พอตั้งใจจ้องถึงได้พบว่า ที่แท้เยี่ยเว่ยหมิงก็พุ่งมาตรงหน้าอีกครั้งตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ มือขวาจับด้ามกระบี่หยดโลหิตอาทิตย์อัสดงไว้แน่น ทำให้เขาดึงไม่ไปไหน
นี่ก็เป็นข้อดีมากอีกอย่างหลังจากอัปเกรด ‘วิชาควบคุมกระบี่’ ให้เป็น ‘ท่ากระบี่แยกจาก’ นอกจากประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นสูงมากแล้ว การเชื่อมต่อกับเคล็ดกระบี่อีกหลายท่าใน ‘กระบี่เก้าสะท้านฟ้า’ ก็ยิ่งแน่นแฟ้นมากขึ้นเรื่อยๆ
แม้จะบอกว่าเป็นกระบี่แยกจาก แต่ระหว่างคนกับกระบี่ใช่ว่าจะแยกจากกันโดยสิ้นเชิงเสียทีเดียว ก่อนที่กระบี่จะบินออกจากมือไป ไม่แน่ว่าอาจยังใช้หนึ่งท่าไม่ทันจบ ก็กลับมาอยู่ในมือเยี่ยเว่ยหมิงอีกครั้งแล้วก็ได้
รวมตัวและแยกจากกันได้ตามอำเภอใจ
นี่ต่างหากคือจุดที่น่ากลัวที่แท้แท้จริงของ ‘ท่ากระบี่แยกจาก’!
ก็เหมือนกับตอนนี้ที่ติงปู๋ซื่อสะบัดกระบี่ล้ำค่าออกจากเยี่ยเว่ยหมิงไม่ได้ แต่เมื่อเยี่ยเว่ยหมิงกุมกระบี่ดึงไปข้างหลัง กลับดึงให้ติงปู๋ซื่อที่เพิ่งกระโดดขึ้นกลางอากาศแต่ไม่มีจุดอาศัยแรงกลับลงมาได้
จากนั้นเยี่ยเว่ยหมิงก็ใช้มือซ้ายวาดวงกลมวงหนึ่ง ต้อนรับติงปู๋ซื่อที่ถูกดึงกลับมาด้วยท่า ‘มังกรผยองได้สำนึก’
ขณะเดียวกันนี้เอง สองสหายร่วมทีมอย่างขุนเขาลำธารย่อมพานพบและเซียนสาวน้อยนักกินก็ไม่ได้อยู่เฉยๆ เมื่อเห็นติงปู๋ซื่อถูกดึงให้บินอย่างไม่เป็นอิสระ รอบตัวมีแต่จุดอ่อน กระบี่ภูเขาหิมะและดาบวิหคทองในมือพวกเขาก็เข้าไปทักทายที่จุดสำคัญบนตัวอีกฝ่ายอย่างไม่เกรงใจ
“โอ๊ย!~”
ฉึก!~
“อุบ!~”
-12135
-12527!
-13345!
ติงปู๋ซื่อที่อยู่ในสถานการณ์ที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ ทำได้เพียงฝืนยกแขนซ้ายขึ้นมาต้านสิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกรของเยี่ยเว่ยหมิงไว้ แต่จุดสำคัญอย่างแผ่นหลังตรงหัวใจกับหลังคอกลับถูกดาบและกระบี่แทงจุดละแผล
ส่วนสิบแปดฝ่ามือพิชิตมังกรของเยี่ยเว่ยหมิงก็ดุดันเกินไปจริงๆ แม้อีกฝ่ายจะพยายามโบกมือต้านไว้ แต่ก็ยังถูกโจมตีจนเกิดดาเมจมหาศาลอยู่ดี ความสูงของดาเมจเหนือกว่าหนึ่งดาบและหนึ่งกระบี่ก่อนหน้านี้เสียอีก!
ยิ่งไปกว่านั้น เขาที่ไม่มีจุดให้อาศัยแรงก็ถูกเยี่ยเว่ยหมิงใช้ฝ่ามือตบจนพุ่งขึ้นฟ้าโดยตรง เหมือนกับเป็นกระสอบทรายขนาดใหญ่
ขณะที่ร่างถูกโจมตีจนกระเด็นออกไป ติงปู๋ซื่อก็รีบสะบัดแส้เก้าข้อในมือ หมายจะหลุดออกจากตัวกระบี่หยดโลหิตอาทิตย์อัสดงไฮณ๊ฯดฯฌซ,
ทว่าเยี่ยเว่ยหมิงกลับคาดเดาวิธีการนี้ของเขาไว้ตั้งนานแล้ว ตอนที่ติงปู๋ซื่อสะบัดแส้ กระบี่หยดโลหิตอาทิตย์อัสดงในมือก็หมุนหลายรอบ พอเป็นแบบนี้ นอกจากแส้เก้าข้อก็หลุดออกจากตัวกระบี่ไม่ได้แล้ว กลับรัดแน่นขึ้นด้วยซ้ำ
ตอนที่อาวุธของอีกฝ่ายกำลังถูกรัดไว้แน่น กระบี่ในมือขวาของเยี่ยเว่ยหมิงกลับดึงเข้ามาข้างกาย ลากติงปู๋ซื่อที่สภาพเหมือนกระสอบทรายออกมาอีกครั้ง
จากนั้นก็ใช้ฝ่ามือพิชิตมังกร กระบี่ภูเขาหิมะ ดาบวิหคทองทักทายบนตัวกระสอบทรายพร้อมกัน
เมื่อเห็น BOSS ฝ่ายตัวเองถูกคนดึงไปดึงมา เหยียบย่ำเหมือนเป็นกระสอบทรายอย่างนั้น แล้วดูเจ้าคนงุ่มง่ามตรงหน้าตัวเองอีกครั้ง แต่กลับพบว่าตัวเองทำอะไรอาจ่งไม่ได้เลย ในใจเซี่ยวเฉินกับตู๋กูฉิวเพี่ยวก็รู้สึกหนาวยะเยือก
ใครจะไปคิดว่าหลังคาจะรั่วในคืนฝนกระหน่ำ ตอนที่พวกเขาสองคนกำลังแบ่งสมาธิ เซี่ยวเฉินก็ตอบสนองช้าไปครึ่งหนึ่ง ถูกอาจ่งฉวยโอกาสจับตรงจุดลมปราณสองจุดบนบ่าขวาและบ่าซ้ายของเขาแล้ว
เซี่ยวเฉินตกใจไม่เบา ถึงขั้นรู้สึกว่าตัวเองหลอนไปเองหรือเปล่า
ต้องทราบไปว่า ‘วิชามือคว้าจับสกุลติง’ ที่อาจ่งเรียนเพียงวิทยายุทธ์ระดับกลางเท่านั้น ทั้งยังเริ่มฝึกเป็นครั้งแรกด้วย ดูจากวิธีการใช้มือแล้ว น่าจะเลเวลประมาณสามถึงสี่เท่านั้น
อีกทั้ง ‘วิชากรงเล็บมังกรเส้าหลิน’ ของเขาเดิมทีก็เป็นวิทยายุทธ์ระดับสูงอยู่แล้ว ประกอบกับเขาฝึกวิชากรงเล็บอย่างเดียวจนถึงเลเวลเก้าแล้ว ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นกระบวนท่า หรือความต่างของระดับทักษะยุทธ์ เขาก็เป็นฝ่ายเหนือกว่าโดยสมบูรณ์ทั้งนั้น
ทั้งสองล้วนใช้วิชาคว้าจับเหมือนกัน แต่เขามีข้อได้เปรียบมากขนาดนี้ ต่อให้กำลังแบ่งสมาธิไปคิดเรื่องอื่นอยู่ แต่ตามหลักแล้วก็ไม่น่าจะถูกกระบวนท่าของอาจ่งเอาเปรียบได้
ทว่าวิธีการที่อาจ่งคว้าจับจุดลมปราณของเขาเมื่อครู่นี้ ใช่ ‘วิชามือคว้าจับสกุลติง’ เสียที่ไหนกัน?
นั่นคือกระบวนท่าใน ‘วิชากรงเล็บมังกรเส้าหลิน’ ที่เขาเคยใช้ในการต่อสู้ก่อนหน้านี้ต่างหาก!
การเลียนแบบทักษะยุทธ์ของศัตรูตอนต่อสู้แบบนี้ เป็นทักษะอะไรกันแน่
ยืมพลังฟาดพลัง?
ในใจเซี่ยวเฉินขื่นขม!
อาจ่งเลียนแบบความสามารถของเขาเพื่อมาสู้กับเขา แต่เขากลับไม่มีทางเรียนรู้วิชาของอาจ่งเพื่อเอาตัวรอดได้เลย
วิธีการของอาจ่งไม่ได้ซับซ้อนสักนิดเลยเช่นกัน ตรงกันข้ามคือเรียบง่ายเกินไป แค่พ่นกำลังภายในในร่างกายอกมาตามอำเภอใจ ทำให้มือของอีกฝ่ายสะเทือนออกไปก็ได้แล้ว เงื่อนไขเดียวที่ต้องตัดสินใจก่อนก็คือ กำลังภายในของเจ้าจะต้องสูงกว่าอีกฝ่ายไม่ใช่แค่ระดับเดียว!
หากเขามีค่าตบะกำลังภายในอย่างนั้นจริงๆ ก่อนหน้านี้คงไม่ถูกอาจ่งทำให้กระเด็นออกมาง่ายๆ!
ตอนนี้ถูกอาจ่งคว้าจับไว้อย่างง่ายดาย อย่าว่าจะปลีกตัวหนีออกมาเลย แม้แต่กระดูกก็เกือบถูกบีบให้แตกแล้ว
นี่ยังถือว่าอาจ่งจิตใจงาม ตอนลงมือเพิ่มความระมัดระวัง เพราะกลัวว่าจะทำให้เขาได้รับบาดเจ็บ
หลังจากคว้าจับเซี่ยวเฉินได้แล้ว อาจ่งก็พลิกมือโยนอย่างชำนาญ เทคนิคการออกแรงนี้เมื่อก่อนเซี่ยวเฉินก็เคยใช้บนตัวอาจ่งเหมือนกัน เพียงแต่นอกจากเซี่ยวเฉินจะทำให้เขาล้มไม่ได้แล้ว กลับสะเทือนออกมาเพราะกำลังภายในของเขาด้วย โจมตีสร้างงดาเมจไม่ใช่น้อยๆ
ตอนนี้อาจ่งแสดงความสามารถออกมา เซี่ยวเฉินที่ไร้ความสามารถดิ้นรนกลับทำได้เพียงทรมานเพราะการกระทำของตัวเอง ถูกอาจ่งสะบัดกระเด็นออกไปตกอยู่บนตัวตู๋กูฉิวเพี่ยวที่รีบโบกกระบี่ตามมาช่วยอย่างแรง
กระแทกตู๋กูฉิวเพี่ยว!
พรึ่บ!
โครม…
เด็กโชคร้ายสองคนถูกอาจ่งโยนจนกลิ้งเป็นน้ำเต้าทันที หกล้มไม่เป็นท่า
ยังดีที่อาจ่งผู้มีจิตใจงดงามไม่ได้ฉวยโอกาสไล่ตามโจมตีต่อ ไม่อย่างนั้นขอเพียงตอนนี้เติมไปอีกสองฝ่ามือ ก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาดับทั้งทีมได้เลย!
“ปัดโธ่เว้ย ตอนต่อสู้เจ้ามีสมาธิหน่อยได้ไหม ข้าเกือบตายเพราะเจ้าแล้วนะ!” พอผลักเซี่ยวเฉินออกจากร่างกายตัวเอง ตู๋กูฉิวเพี่ยวก็บ่นด่าไปประโยคหนึ่ง จากนั้นก็โบกกระบี่โจมตีเข้าไปหาอาจ่งอีกครั้ง
เมื่อเคยได้รับบทเรียนนี้มาแล้ว พวกเขาก็ไม่กล้าเสียสมาธิอีกแม้แต่น้อย
ส่วนอีกด้านหนึ่ง ติงปู๋ซื่อยังคงถูกเยี่ยเว่ยหมิงดึงไปดึงมาเหมือนลูกบอล ขุนเขาลำธารย่อมพานพบกับเซียนสาวน้อยนักกินคอยซ้ำอยู่ข้างหลังโดบไม่พูดอะไรสักคำ
อาจเพราะรังเกียจที่ทั้งสามคนโจมตีช้าเกินไป เซียนสาวน้อยนักกินถึงขั้นปล่อยพังพอนสายฟ้าของนางออกมาแล้ว ปล่อยให้มันเข้าไปกัดติงปู๋ซื่ออยู่พักหนึ่ง ทำให้อีกฝ่ายถูกโจมตีจนสภาพเหมือนสุนัขตกน้ำ
เมื่อเห็นพลังชีวิตเหนือศีรษะตกลงอย่างบ้าคลั่งจนต่ำกว่าครึ่ง ในที่สุดติงปู๋ซื่อก็ต้องทำใจทิ้งของรัก ปล่อยมือขวาออกจากแส้มังกรทอง แล้วปล่อยพลังฝ่ามือสองข้างออกมาพร้อมกัน ใช้ท่า ‘ยอดเขาพลันผงาด’ รับกับ ‘มังกรผยองได้สำนึก’ ครั้งที่สามของเยี่ยเว่ยมิง
อา!
ผุบ!
ซี้ด!
-18354
-12121!
-11332!
-685
ถูกพิษ!
ดาเมจบดขยี้บวกกับคริติคอลดาเมจสองครั้ง ส่วนอันสุดท้ายคือดาเมจที่พังพอนสายฟ้ากัดก้นติงปู๋ซื่อ
แต่อาศัยการต่อสู้ครั้งนี้ ในที่สุดติงปู๋ซื่อก็ยอมทิ้งอาวุธของตัวเองแล้วอาศัยจุดผ่อนแรงกระโดดออกไปนอกวงล้อม หลีกเลี่ยงชะตากรรมโหดร้ายที่จะถูกคนสามคนกับพังพอนหนึ่งตัวล้อมโจมตีจนถึงแก่ความตาย
ทว่าในเมื่อเยี่ยเว่ยหมิงทำสำเร็จแล้ว มีหรือที่จะยอมให้เขาปลีกตัวออกมาง่ายๆ
เมื่อเห็นติงปู๋ซื่อมีเจตนาจะหนีไป แต่กระบี่หยดโลหิตอาทิตย์อัสดงในมือเขากลับมีแส้พันอยู่เส้นหนึ่ง เวลาจะใช้งานขึ้นมาก็อึดอัดมาก
แต่ยังดีที่เยี่ยเว่ยหมิงสะสมของไว้เยอะ จึงเก็บกระบี่หยดโลหิตอาทิตย์อัสดงแล้วเปลี่ยนเป็นนำกระบี่รอยมังกรออกมาแทน จากนั้นพุ่งตัวตามกระบี่ไป ใช้ท่าปลุกปั่นกระบี่แทงจากข้างล่างขึ้นข้างบนโดยคาดคะเนไว้ก่อน ฟันไปตรงจุดที่ติงปู๋ซื่อต้องตกลงมาแน่ๆ
เมื่อเห็นว่าติงปู๋ซื่อหลบกระบี่นี้ไม่ได้แล้ว จู่ๆ กลับมีกล้องยาสูบยื่นออกมาแท่งหนึ่งในแนวเฉียงลง ต้านการโจมตีที่ถึงแก่ชีวิตของเยี่ยไว้หมิงให้ติงปู๋ซื่อแล้ว
แกร๊ง!?