ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ – ตอนที่ 538 กระบวนทัพสี่ร้อย

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ - ตอนที่ 538 กระบวนทัพสี่ร้อย

ตอนที่ 538 กระบวนทัพสี่ร้อย

อย่าบอกนะว่าฐานะของอ๋าวป้ายก็คือทหารกล้าบนสนามรบคนหนึ่ง ดังนั้นการท้าสู้ร่างแท้ของเขา ก็จะต้องเด็ดหัวแม่ทัพท่ามกลางกองทหารนับหมื่น

ตกลงว่านี่เป็นดันเจี้ยนหรือเป็นสนามรบกันแน่

ตำแหน่งที่เยี่ยเว่ยหมิงกับโหยวโหยวปรากฏตัวคือตรงตีนเขา ห่างจากจุดบนสุดของเนินดินซึ่งเป็นที่ตั้งของกระบวนทัพฝ่ายศัตรูประมาณสองร้อยเมตร

เนื่องจากไม่มีสิ่งกำบังใดๆ ตอนที่ทั้งสองเห็นอีกฝ่าย ก็เท่ากับเปิดเผยตำแหน่งของตัวเองเช่นกัน

เพียงแต่อีกฝ่ายไม่มีท่าทีว่าจะรุกโจมตีใดๆ เพียงคงไว้ซึ่งรูปทัพเดิมที่สง่างามพร้อมรบ!

แต่พวกเขาจะไม่เป็นฝ่ายถูกโจมตี ให้พวกเขารุกโจมตีดีกว่า

ถ้าให้ทหารเหล่านี้รุกไล่โจมตีก่อน ก็จะต้องเผยจุดอ่อนแน่นอน เยี่ยเว่ยหมิงกับโหยวโหยวก็จะอาศัยความได้เปรียบด้านกระบวนของตัวเองใช้กลยุทธ์ชักว่าว[1]โจมตีให้กระบวนทัพของพวกเขาปั่นป่วน จากนั้นก็กำจัดทหารพวกนี้ให้หมดสิ้น!

แต่ตอนนี้…

ขณะที่เยี่ยเว่ยหมิงกับโหยวโหยวมองกระบวนรบตรงหน้าที่แข็งแกร่งมั่นคง พวกเขาก็อดขมวดคิ้วไม่ได้

[ติ๊ง! คุณเข้าสู่บททดสอบสุดท้ายของดันเจี้ยน ‘ปาถูหลู่’ กรุณาตีฝ่ากระบวนทัพของฝ่ายศัตรูเพื่อสังหารอ๋าวป้าย!]

หมายเหตุ: เนื่องจากด่านนี้มีระดับความยากสูงมาก ผู้เล่นที่ตะลุยด่านจะได้รับข้อมูลบางส่วนของฝ่ายศัตรูก่อน

เลเวลของอ๋าวป้ายคือ 95 เป็น BOSS ร่างแท้โหมดปกติ

ทหารในกองทัพคุ้มกันของอ๋าวป้ายมีเลเวล 55 ค่าสเตตัสเหมือนมอนสเตอร์อีลิทนอกเมืองที่เลเวลเดียวกัน แบ่งเป็น

พลดาบโล่: 100 คน

พลหอก: 100 คน

พลธนู: 200 คน

รวม: 400 คน!

ทีมของคุณฉวยโอกาสตอนอ๋าวป้ายออกไปล่าสัตว์ข้างนอกจู่โจมกะทันหัน อ๋าวป้ายส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือทันที เพียงแต่กองกำลังที่เตรียมสนับสนุนอ๋าวป้ายถูกพระราชโองการขัดขวางไว้ ทหารผู้จงรักภักดีต่ออ๋าวป้ายยังตามมาสนับสนุนที่สนามรบไม่ได้ในเร็วๆ นี้

ตอนนี้เป็นโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับโจมตีสังหารอ๋าวป้าย กรุณาจัดการอย่างเรียบร้อยเหมาะสม!

หมายเหตุ ทหารกองหนุนของอ๋าวป้ายจะมาถึงสนามรบภายในห้าชั่วโมง กรุณารักษาเวลาให้ดี!

……

ห้าชั่วโมง?

ถือว่าผู้ออกแบบเกมนี้ยังมีมโนธรรมอยู่บ้าง สุดท้ายก็ไม่ได้จัดภารกิจไร้เหตุผลที่ให้ผู้เล่นฝ่าทัพนับหมื่นเข้าไปเด็ดหัวอ๋าวป้ายโดยใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที

เมื่อได้ยินเสียงแจ้งเตือนของระบบแล้ว โหยวโหยวก็อดแขวะไม่ได้ว่า “นี่มันใช่เรื่องหรือ นี่ขนาดเป็นพวกเรานะ ถ้าเปลี่ยนเป็นผู้เล่นทั่วไปสองคน ถึงขั้นว่าเป็นผู้เล่นยอดฝีมือทั่วไป เจอการท้าสู้ระดับนี้มีแต่จะเอาชีวิตไปทิ้งเท่านั้นกระมัง”

โหยวโหยวที่มีอาชีพเดิมเป็นทหารเข้าใจชัดเจนกว่าใครว่ากองทัพที่ฝึกมาอย่างเข้มงวด เมื่ออยู่บนสนามจะแสดงพลังต่อสู้ได้น่ากลัวระดับไหน

พลังต่อสู้แบบนี้เพียงพอที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงด้านคุณภาพได้ ทำให้ผู้ที่เรียกว่ายอดฝีมือบู๊ลิ้มเห็นแล้วต้องถอย!

“แบบนี้ปกติมาก” เยี่ยเว่ยหมิงส่ายหน้าเล็กน้อย “เพราะด่านนี้เดิมทีก็ไม่ได้เตรียมมาเพื่อผู้เล่นคนสองคนอยู่แล้ว ถ้าตั้งทีมที่มีห้าถึงสิบคน แม้จะเป็นผู้เล่นทั่วไป แต่ถ้ามีกลยุทธ์เหมาะสม ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสเลย…

…ถึงอย่างไรระบบก็ให้เวลาผู้เล่นตั้งห้าชั่วโมงเต็มๆ ขอเพียงผู้เล่นไม่ถูกอาวุธรุมปลิดชีพ ก็จะอาศัยความได้เปรียบที่ตัวเองกินยาฟื้นฟูพลังชีวิตได้ค่อยๆ ทำให้ฝ่ายตรงข้ามเสียพลังชีวิตได้แล้ว”

โหยวโหยวได้ยินแล้วยิ้ม “บอกทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับระดับความสำเร็จของเจ้าให้ข้าฟังหน่อยสิ”

เยี่ยเว่ยหมิงได้ยินแล้วหลุดขำ ทฤษฎีนี้เยี่ยเว่ยหมิงจำได้ว่าเคยพูดให้นางฟังไปแล้วครั้งหนึ่ง นึกไม่ถึงว่าจนป่านนี้แล้วโหยวโหยวยังจำได้อีก ทั้งยังเป็นทฤษฎีแรกที่นึกออกตอนนี้อีก “ในเมื่อระบบให้เวลาห้าชั่วโมง นั่นก็คงจะเป็นขีดจำกัดสูงสุดสำหรับการทำภารกิจให้สำเร็จแล้ว ข้ารู้สึกว่าในดันเจี้ยนนี้ จำนวนศัตรูที่ฆ่าได้กลับเป็นเรื่องรอง สิ่งที่ส่งผลต่อระดับความสำเร็จจริงๆ น่าจะเป็นเวลาในการทำภารกิจมากกว่า ยิ่งเร็วก็ยิ่งดี”

โหยวโหยวพยักหน้าเล็กน้อย จากนั้นก็ถามอีกว่า “กลยุทธ์ล่ะ?”

“รู้เขารู้เรา ถึงจะรบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง ตอนนี้ความเข้าใจที่พวกเรามีต่อศัตรูแทบจะเป็นศูนย์ จะคิดกลยุทธ์ได้อย่างไร เจ้ารอข้าไปรวมรวมข้อมูลก่อนสักหน่อย…” ขณะที่พูด เยี่ยเว่ยหมิงก็ถลันตัวเข้าไป ลอยออกไปทางกระบวนทัพคุ้มครองอ๋าวป้ายแล้ว

ระยะห่างสองร้อยเมตรลดลงอย่างรวดเร็วภายใต้การเคลื่อนไหวอันว่องไวของเขา…

ร้อยห้าสิบเมตร!

ร้อยเมตร!

แปดสิบเมตร!

……

จนกระทั่งเยี่ยเว่ยหมิงพาร่างตัวเองเข้าไปใกล้กระบวนทัพฝ่ายศัตรูสี่สิบเจ็ดเมตร พลธนูในทัพของอ๋าวป้ายก็เริ่มง้างสายธนู ลูกธนูเกือบร้อยดอกยิงขึ้นฟ้าพร้อมกัน หลังจากวาดผ่านฟ้าเป็นเส้นโค้งเหมือนพาราโบลา ก็ตกลงตรงจุดที่เยี่ยเว่ยหมิงยืนอยู่เสียงดังฟิ้วๆ

โจมตีในขอบเขต!

ทว่าความเร็วของลูกธนูพวกนี้ สุดท้ายก็ยังช้าไปครึ่งจังหวะ ตอนที่พวกมันร่วงลงมา เยี่ยเว่ยหมิงหลบออกจากขอบเขตของลูกธนูไปแล้ว ตอนที่พุ่งเข้ามาใกล้กระบวนทัพของศัตรูสิบแปดเมตร ลูกธนูระลอกที่สองก็มาถึงแล้ว

เป็นการโจมตีระยะไกลด้วยลูกธนูเช่นเดียวกัน

เพียงแต่ครั้งนี้ พลธนูของฝ่ายศัตรูกลับแบ่งเป็นสองกลุ่ม พวกที่ยืนอยู่แถวหลังยังคงใช้วิธีการยิงสาดแนวโค้งเพื่อโจมตีให้ครอบคลุม ส่วนพลธนูที่ยืนอยู่แถวหน้าเล็งลูกธนูมายังเยี่ยเว่ยหมิงโดยตรง ยิงโจมตีในแนวราบ!

เห็นได้ชัดว่าการยิงในแนวราบแม่นยำกว่ายิงแนวโค้ง เยี่ยเว่ยหมิงถลันตัวหลบไม่ทัน แขนซ้ายถูกลูกธนูยิงหนึ่งดอก เสียค่าพลังชีวิตไปหกร้อยหกสิบ ร่างกายนิ่งค้างขณะรู้สึกเจ็บปวด แล้วก็ถูกยิงแนวโค้งอีกครั้ง พลังชีวิตหายไปอีกเจ็ดร้อยสี่สิบสอง

เมื่อถูกธนูยิงต่อเนื่องสองดอก เยี่ยเว่ยหมิงก็โจมตีกลับทันที เขาพลิกข้อมือขวา ใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วกลางดีดลูกดีดเหล็กสามลูกออกไปอย่างต่อเนื่อง ดีดใส่หัวไหล่ของพลธนูหนึ่งคน พลหอกหนึ่งคนและพลธนูอีกหนึ่งคน

ในจำนวนนั้น พลธนูและพลหอกถูกปลิดชีพทันที ส่วนพลดาบโล่นั่นก็ถูกโจมตีจนแถบพลังชีวิตเป็นสีแดงต้องร่นถอยไปรักษาอาการบาดเจ็บ ช่องโหว่ที่เหลือไว้หลังจากเขาถอยไปถูกแทนที่ด้วยสหายรบที่อยู่สองฝั่งอย่างรวดเร็ว

เยี่ยเว่ยหมิงพยักหน้า แต่ไม่ได้โลภอยากได้ผลงานต่อ เขาถลันตัวถอยกลับมาไวกว่าตอนขาไป ตอนที่กลับมาถึงข้างกายโหยวโหยว ก็ดึงลูกธนูสองดอกที่ปักอยู่บนแขนทิ้งเรียบร้อยแล้ว

“หลังจากทดสอบจริง ข้าพบว่าอีกฝ่ายสาดธนูเป็นแนวโค้งได้ไกลสุดห้าสิบเมตร ขอบเขตการยิงในแนวราบที่ได้ผลคือยี่สิบเมตร…

…ตามหลักแล้วยิงในแนวราบสร้างดาเมจประมาณสองพัน ยิงแนวโค้งดาเมจสูงกว่าเล็กน้อย…

…การป้องกันและพลังชีวิตของทหารพวกนี้ไม่ได้สูงมาก นี่เป็นผลลัพธ์ตอนข้าลองใช้พลังของดรรชนีศักดิ์สิทธิ์ห้าส่วน การป้องกันของพลดาบโล่น่าจะประมาณแปดร้อย พลังชีวิตสองหมื่น ทหารแบบอื่นปลิดชีพได้หมด ไม่มีข้อมูลโดยละเอียด แต่ก็ไม่เป็นไร ปฏิบัติกับพวกเขาทั้งหมดเหมือนเป็นหนังกรอบๆ ที่โจมตีง่ายก็พอแล้ว”

เมื่อได้ยินเยี่ยเว่ยหมิงเปิดเผยข้อมูลตัวเลขโดยละเอียดอย่างต่อเนื่อง ใบหน้างดงามเย็นชาของโหยวโหยวก็เผยรอยยิ้มเล็กน้อย “กลยุทธ์ล่ะ”

“ร่วมโจมตีทั้งภาคพื้นดินและทางอากาศไงล่ะ” เยี่ยเว่ยหมิงกล่าวอย่างเป็นธรรมชาติ “เจ้ารับหน้าที่ทิ้งระเบิดกลางอากาศ โจมตีให้กระบวนทัพฝ่ายศัตรูเสียระเบียบ ส่วนข้าจะบุกเก็บกวาดคนที่เหลือรอดบนพื้นอย่างรวดเร็ว…

…อ๋าวป้ายหนังหยาบเนื้อหนา แต่พลังโจมตีอ่อนแอกว่านิดหน่อย ดังนั้นยังไม่ต้องสนใจเขา รอให้พวกเราเก็บกวาดพวกทหารเล็กๆ พวกนี้หมดก่อน แล้วค่อยๆ สั่งสอนเขาก็ยังไม่สาย”

“รับทราบ!” โหยวโหยวได้ยินแล้วส่งเสียงตะโกนอย่างตื่นเต้น จากนั้นก็กระโดดขึ้นฟ้า เรียกเสี่ยวไป๋หรือเจ้าขาวที่เป็นอินทรีขาวของนางออกมา จากนั้นบินไปบนฟ้าเหนือกระบวนทัพของอ๋าวป้าย

เมื่อมีข้อมูลที่รวบรวมจากเยี่ยเว่ยหมิงก่อนหน้านี้แล้ว โหยวโหยวก็ปฏิบัติการได้อย่างมั่นใจมาก นางขี่เสี่ยวไป๋ในระดับความสูงจากพื้นสามสิบเมตรแล้วบินตรงไปยังท้องฟ้าเหนือกระบวนทัพฝ่ายศัตรู

คำนวณจากตัวเลขสองกลุ่มที่เยี่ยเว่ยหมิงสรุปออกมาก่อนหน้านี้ ระดับความสูงที่นางอยู่ตอนนี้เหนือกว่าระยะยิงสูงสุดที่พลธนูของทัพคุ้มกันจะยิงถึง!

จากนั้นไม้ซุง หินกลิ้งและไหยาพิษก็ถูกปล่อยลงมาในรวดเดียว

ส่วนเยี่ยเว่ยหมิงตอนนี้ก็ฟืนฟูพลังชีวิตกับกำลังภายในกลับมาเต็มแล้ว ชั่วพริบตาเดียวก็ใช้ท่าร่าง ‘ชั่วอึดใจหมื่นลี้’ จนถึงขีดำกัดสูงสุด ฉวยโอกาสตอนทัพศัตรูปั่นป่วนเพราะโหยวโหยวทิ้งระเบิด พุ่งเข้าไปในกระบวนทัพศัตรูราวกับเป็นกระบี่คม

ครู่ต่อมา เสียงมังกรคำรามดังขึ้น!

[1] กลยุทธ์ชักว่าว 风筝战术 วิธีการต่อสู้แบบหนึ่งเป็นการโจมตีขณะรีบเคลื่อนไหวเพื่อดึงระยะห่างจากคู่ต่อสู้ ทำให้คู่ต่อสู้ไล่ตามไม่ทัน

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ

ผมมีสกิลดูด EXP ขั้นเทพ

Status: Ongoing
ไหนๆ ก็โดน NPC หลอกมาเข้าสำนักมือปราบที่ไม่มีวิทยายุทธ์ให้ฝึกแล้ว อย่างน้อยก็ขอสกิลดีๆ หน่อยแล้วกัน!นิยายแฟนตาซีแนวเกมออนไลน์ที่จะพาคุณไปท่องยุทธภพและไขคดีสไตล์มือปราบขั้นเทพ!เยี่ยเว่ยหมิง หนึ่งในเด็กหนุ่มที่ลงทะเบียนสมัครใจอพยพไปต่างโลกเพื่อป้องกันสมองตายระหว่างหลับจำศีลตอนเดินทางในอวกาศเขาจึงต้องร่วมเล่นเกมออนไลน์ที่มีฉากหลังเป็นยุทธภพก่อนจะโดน NPC ลึกลับหลอกเข้าสำนักมือปราบที่ไม่มีวิทยายุทธ์ให้ฝึกแต่ถึงกระนั้นก็ใช่ว่าสำนักมือปราบจะไม่มีอะไรเลยเพราะหลังจากที่เยี่ยเว่ยหมิงทำแบบทดสอบของใต้เท้าซ่งผ่านเขาก็ได้รับสกิลตัดสินคดีที่พ่วงมาด้วยเวทชันสูตรศพและเวทบรรจุศพซึ่งเวทบรรจุศพนี้เองทำให้เขาสามารถรับของที่ซ่อนไว้บนตัวผู้ตายได้รวมถึงดูดเอาค่าประสบการณ์ทักษะยุทธ์ของผู้ตายได้อีกด้วยเยี่ยมเลย! ตอนนี้เขาพร้อมที่จะออกไปไขคดีทั่วยุทธภพแล้ว!…[ติ๊ง! เปิดใช้พาสซีฟสกิล ‘เวทชันสูตรศพ’ คุณพบ…][ติ๊ง! สกิลพิเศษ ‘เวทบรรจุศพ’ : สามารถดูดเอาค่าประสบการณ์ทักษะยุทธ์ของผู้ตายโดยการจัดการศพ BOSS][ติ๊ง! จัดการศพผู้อาวุโสสำนักไท่ซาน ได้รับ ‘ตระหนักรู้เคล็ดกระบี่’ เพิ่มค่าประสบการณ์เคล็ดกระบี่ 5000 แต้ม]

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท