รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 182 แม่ยายรัก
โรงแรมเมเปิล
เวลาอาหาร เทวิกานั่งลงข้างๆแม่แท้ๆอย่างเป็นธรรมชาติ
จากนั้นประยสย์กับชเนนทร์ก็นั่งลงสองข้างซ้ายขวาของสองแม่ลูกพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย แบบนี้ ก็แยกยศพัฒน์กับเทวิกาออกจากแล้ว
หลังจากยศพัฒน์นิ่งเงียบไป ก็นั่งลงฝั่งตรงข้ามของเทวิกา
พี่ชายของภรรยาทั้งสองคนทำไมถึงได้ร่วมมือกันเร็วขนาดนี้
กนกอรไม่ได้คิดมากขนาดนั้น เธอดึงเก้าอี้ออกแล้วนั่งลงอย่างไม่เรื่องมาก
เพราะว่ามีประยสย์กับแม่อยู่ด้วย ยศพัฒน์จึงไม่ได้สั่งอาหารไว้ล่วงหน้า เขาจึงยกหน้าที่สั่งอาหารให้พี่ชายของภรรยาทั้งสองคน
ประยสย์รับเมนูอาหารมาอย่างไม่เกรงใจ หันหน้า มองข้ามแม่แท้ๆไป มองไปยังน้องสาวผู้บอบบาง ใบหน้าที่ปกติเย็นชา ก็อ่อนโยน ถามเทวิกาว่า“วิกา น้องชอบกินอะไร”
เทวิกายังไม่ทันได้ตอบ ยศพัฒน์ก็พูดชื่ออาหารที่เทวิกาชอบที่สุดออกมาแล้ว
พี่ชายภรรยาสองคนหันหน้ามามองยศพัฒน์
ชเนนทร์ยกถ้วยชาที่อยู่ตรงหน้าของตัวเองขึ้นมา เหลือบมองน้องเขยพลาง จิบน้ำชาไปพลาง
ยศพัฒน์ยิ้มพลางเอ่ยว่า“ของพวกนี้ล้วนเป็นของที่วิกาชอบกิน วิกาชอบกินอะไร ชอบดื่มอะไร ทำงานอดิเรกอะไร ผมรู้ดีทุกอย่าง พี่ครับ ต่อไปพวกพี่มาถามผมได้”
“พรวด——”
ชเนนทร์พ่นน้ำชาออกมา
จากนั้น เขาก็เริ่มไอ
เทวิการีบลูบหลังพี่ชาย “พี่ พี่เป็นอะไรคะ”
ชเนนทร์สำลักน้ำชา
หลังจากไอออกมาสองสามครั้ง ก็ไม่เป็นไรแล้ว
เขาพูดกับยศพัฒน์ว่า“ยศพัฒน์ แกนี่ลำเอียงเกินไปแล้วนะ ฉันก็เป็นพี่ชายภรรยาแกนะ ไม่เห็นแกเรียกฉันว่าพี่เลย ตอนนี้พอออกมา แกก็เรียกประยสย์ว่าพี่แล้ว”
ประยสย์อายุน้อยกว่ายศพัฒน์ห้าปี
“พวกเราเป็นเพื่อนร่วมชั้นกัน ให้เรียกนายว่าพี่ ฉันเรียกไม่ได้”
ยศพัฒน์พูดอย่างมีเหตุมีผล
เขาไม่กล้าบอกว่าชเนนทร์พี่ชายของภรรยาคนนี้ไม่มีอิทธิพลที่จะข่มขู่อะไร แต่ประยสย์พี่ชายแท้ๆของภรรยาคนนี้มีอิทธิพลมากเป็นพิเศษ เขาต้องเอาใจพี่ชายแท้ๆหน่อย ไม่เช่นนั้นตระกูลสาระทาอาจจะแย่งตัวภรรยาเขากลับไป
พอเอ่ยถึงความสัมพันธ์ของเพื่อนร่วมชั้น ชเนนทร์ก็อยากจะตบโต๊ะมาก
เพราะมีคุณหญิงธิษณาอยู่ด้วย ชเนนทร์จึงอดทนไว้ไม่ได้ตบโต๊ะ เขาดึงกระดาษทิชชู่ด้วยตัวเอง ไม่ต้องให้พนักงานมาบริการ เขาเช็ดบนโต๊ะที่เปียกน้ำชาที่เขาพ่นออกมาเมื่อครู่นี้อย่างแรง พูดอย่างโมโหว่า “แกกล้าพูดว่าพวกเราสองคนเป็นเพื่อนร่วมชั้นกันเหรอ ฉันมีเพื่อนร่วมชั้นแบบแกเหรอ”
ในโรงเรียน ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนถือว่าไม่ได้ดีมากเป็นพิเศษ อยากมากก็นั่งรถไฟความเร็วสูงกลับบ้านด้วยกันสี่ปี
หลังจากสำเร็จการศึกษา แม้จะติดต่อกันบ้าง แต่ก็แค่การเป็นเพื่อนร่วมชั้นเท่านั้น
ใครจะไม่รู้ว่า ไอ้หมอนี่เล็งน้องสาวสุดที่รักของเขาไว้ตั้งนานแล้ว
ในเมื่อเล็งน้องสาวเขาไว้แต่แรกแล้ว ตอนอยู่ในโรงเรียนยังไม่รู้จักเข้าหาเอาใจพี่ชายคนนี้บ้าง
จำได้ว่าเมื่อตอนที่เขาได้ยินข่าวการแต่งงานของยศพัฒน์จากปากของเดชวิทย์ ชเนนทร์ยังคงโทรศัพท์ไปหายศพัฒน์ด้วยความอยากรู้อยากเห็นเรื่องชาวบ้าน จองที่ของกลุ่มเพื่อนเจ้าบ่าวล่วงหน้าด้วย
ผลสรุป——
ไอ้หมอนี้มาหลอกน้องสาวสุดที่รักของเขา ช่างเจ้าเล่ห์เกินไปแล้ว
ต่อมาชเนนทร์ก็เคยถามยศพัฒน์ ยศพัฒน์บอกว่าเขามักจะพูดถึงความดีของน้องสาวอยู่บ่อยๆ ได้ยินมากๆเข้า ยศพัฒน์จึงเกิดความรู้สึกดีๆด้วย นี่จึงทำให้เขานั่งรถไฟความเร็วสูงกลับบ้านพร้อมเขา จากนั้น ก็ได้เจอกับเทวิกา ก็เอาแต่เฝ้าคิดถึง
เขาเป็นคนพาหมาป่าจอมวายร้ายมาหาน้องสาวเขาเองเหรอเนี่ย
ชเนนทร์เสียใจและสำนึกผิดกับสิ่งที่ทำในตอนแรก!
ที่เขาชอบโอ้อวดเรื่องน้องสาว หนึ่งเพราะเขารักน้องมากชอบน้องสาวตัวเองจริงๆ บอกว่าเขาเป็นคนคลั่งน้องสาวก็ได้ สองเพราะเพื่อนสนิทรอบๆตัวเขา มีแต่คนที่มีน้องชาย ไม่มีใครมีน้องสาว มีแต่เขาที่มีน้องสาว เขาก็ยิ่งพยายามอวด
ยศพัฒน์จ้องมองเทวิกาด้วยสายตารักใคร่เสน่หา
แม้จะเป็นสามีภรรยากันแล้ว นอนกลิ้งกันบนผ้าปูที่นอนไม่รู้กี่รอบแล้ว แต่ถูกเขาจ้องมองอย่างลึกซึ้งแบบนี้ต่อหน้าทุกคน เทวิกาก็หน้าแดงขึ้นอย่างไม่เป็นธรรมชาติ
“วิกา”
จู่ๆคุณหญิงธิษณาก็โน้มตัวมาข้างหูเทวิกา กระซิบเบาๆว่า “สามีของเธอรักเธอมากเลยนะ ดูออกจาก สายตาที่เขามองเธอ”
“สามีเธอก็เป็นผู้ชายที่ดี รักษาเขาไว้ให้ดี”
เทวิกามองไปยังแม้แท้ๆ คุณหญิงธิษณายังขยิบตาให้เธอด้วย
เทวิกาอดขำไม่ได้
เธอหัวเราะ คุณหญิงธิษณาเองก็หัวเราะตาม พูดว่า “วิกา ฉันชอบเธอมากจริงๆ เธอเหมือนลูกสาวฉันเลย”
“หนูเป็นลูกสาวให้คุณน้า ดีมั้ยคะ”
เทวิกายังไม่ได้เปลี่ยนมาเรียกเธอว่าแม่
เพราะคำนึงถึงความรู้สึกของพ่อแม่บุญธรรม
ประยสย์บอกแล้วว่า พรุ่งนี้จะไปที่บ้านตระกูลวาชัยยุง
“แต่ว่า พวกเราอายุเท่ากัน”
“แม่ แม่กับวิกาอายุไม่เท่ากันนะครับ แม่อายุมากกว่าวิกาสองรอบแล้วนะ”
คุณหญิงธิษณาถามอย่างตกใจว่า “แม่อายุมากขนาดนี้แล้วเหรอ วิกาบอกว่าเธออายุยี่สิบสี่ งั้นแม่ก็ต้องอายุสี่สิบแปดแล้วเหรอ”
“วิกา เธอมีกระจกมั้ย ให้ฉันยืมใช้หน่อย”
คุณหญิงธิษณาไม่เชื่อว่าตนเองจะแก่ขนาดนี้ อยากจะส่องกระจกดู
เทวิกาไม่มีกระจก เธอเอาโทรศัพท์มือถือให้แม่ ใช้กล้องถ่ายรูป
แม้คุณหญิงธิษณาจะเสียสติมายี่สิบกว่าปีแล้ว แต่กลับดูแลตัวเองอย่างดี มองไปแล้วเหมือนเป็นพี่สาวของเทวิกา
“ฉันแก่ลงไปหน่อย แต่ก็ไม่เหมือนคนอายุสี่สิบแปดนะ ฉันไม่มีทางอายุสี่สิบแปด ฉันเพิ่งคลอดลูกได้ไม่นานเอง……”
คุณหญิงธิษณาบ่นพึมพำกับตัวเองไม่หยุด
เทวิกากับพี่ชายสองคนพี่น้องไม่ได้พูดอะไร ให้เธอค่อยๆคิดออกเอง
ประยสย์สั่งอาหาร
ไม่นาน อาหารก็มา
คุณหญิงธิษณาอาจจะหิวแล้ว พออาหารวางบนโต๊ะ เธอก็หยุดโวยวายว่าตกลงตัวเองอายุเท่าไหร่แล้วกันแน่
ยศพัฒน์ถูกพี่ชายของภรรยาทั้งสองคนร่วมมือกัน แยกเขาออกจากภรรยา แต่ไม่เป็นอุปสรรคในการเอาใจใส่ดูแลเทวิกา
เห็นเขายื่นมือมา คีบอาหาร แกะเปลือกกุ้ง ให้เทวิกาไม่หยุด คุณหญิงธิษณาจึงวางตะเกียบลง
“ยศพัฒน์”
คุณหญิงธิษณาเรียกเขาอย่างสนิทสนม พร้อมกับลุกขึ้นยืน ยิ้มพลางเอ่ยว่า“มา น้าเปลี่ยนที่กับคุณ คุณมานั่งข้างๆวิกา”
โอ้ย แม่ยายช่างดีจริงๆ!
ไม่เสียแรงที่รักและเคารพ!
แม่ยายอีกคนก็ดีกับเขาเป็นพิเศษเช่นกัน
ยศพัฒน์คิดว่าแม้พี่ชายของภรรยาทั้งสองคนจะรับมือยาก แต่แม่ยายทั้งสองคนต่างก็รักเอ็นดูเขา เขายังต้องกังวลอะไรอีก
“ขอบคุณครับคุณแม่”
ยศพัฒน์เปลี่ยนที่นั่งกับแม่ยายอย่างมีความสุข
พี่ชายทั้งสองคนต่างถลึงตาใส่เขา
เขาแกล้งทำเป็นมองไม่เห็น
คุณหญิงธิษณาเปลี่ยนที่นั่งกับยศพัฒน์ไปพลาง ก็ยิ้มพลางเอ่ยว่า“วิกา ยศพัฒน์เรียกฉันว่าแม่แล้ว เธอเองก็ต้องเรียกฉันว่าแม่ด้วย พวกเธอเป็นสามีภรรยากันนี่ ฉันไม่ได้แก่นะ แต่มีเธอกับยศพัฒน์เป็นลูกสาวกับลูกเขยที่ดีขนาดนี้ ฮ่าๆๆ ฉันนี่โชคดีจังเลย อาศัยบารมีของพวกเธอ”
กนกอรแอบขำ
นอกจากสับสนเรื่องอายุ รวมถึงจำประยสย์ไม่ได้ และยังอุ้มตุ๊กตาเป็นลูกแล้ว คุณหญิงธิษณานับวันก็ยิ่งเหมือนคนปกติขึ้นเรื่อยๆแล้ว
“ได้ค่ะ ขอบคุณค่ะแม่”
เทวิกาดีใจมากที่ได้นั่งกับสามี
ได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างดี ช่างหวานชื่นมาก
ทันใดนั้นคุณหญิงธิษณาก็มองไปที่ชเนนทร์
“ชเนนทร์ใช่มั้ย นายดูวิกากับยศพัฒน์สิ พวกเขาสองคนสามีภรรยารักกันมากขนาดไหน คุณไม่อิจฉาเหรอ รีบหาแฟนเร็วเข้า เลิกชีวิตโสดเสียที ฉันไม่ได้ออกไปไหนนานแล้ว ไม่รู้ว่าเพื่อนสนิทพวกนั้นแต่งงานกันไปหรือยัง วันหลังฉันจะลองถามให้ว่าพวกเธอยังโสดหรือเปล่า ถ้ายังโสด ฉันจะแนะนำให้นายรู้จัก”
บทที่ 181 ต้องไม่ใช่หึงหวงแน่
บทที่ 183 เจอกันแล้ว