เมื่อกลับมาถึงคฤหาสน์ที่กรีนทาวน์ ป้ามะนาวก็ออกมาเปิดประตู
ทุกครั้งที่เทวิกาเห็นป้ามะนาว ก็จะนึกถึงคืนนั้นที่เธอพายศพัฒน์มาพบพ่อแม่เธอ
ป้ามะนาวหอบของถุงเล็กถุงใหญ่มาส่งให้ยศพัฒน์ ซ้ำยังเรียกเขาว่าหลานชายอีกต่างหาก
คนเป็นคุณชายก็เล่นละครเก่ง คนเป็นแม่บ้านก็เล่นละครเก่งไม่แพ้กัน คนขับรถก็อีกคน พวกเขาล้วนเป็นนักแสดงมือฉมังที่หลอกเธอจนหัวหมุน
“ป้ามะนาว ยังไม่นอนอีกเหรอคะ?”
ทันทีที่เทวิกาลงจากรถ เธอก็ถามป้ามะนาวด้วยใบหน้าแต้มยิ้ม
“ฉันนอนไปตื่นหนึ่งแล้วล่ะค่ะ”
ป้ามะนาวถามยิ้มๆว่า “คุณนายน้อยจะกินมื้อดึกไหมคะ? ฉันจะไปทำเดี๋ยวนี้”
ทุกวันเธอจะเข้านอนเร็วมาก นอนถึงดึกดื่นก็จะตื่นนอนหนึ่งครั้ง รอจนถึงตีสองก็จึงจะหลับต่อ
เพราะคุณชายน่าจะกลับมาเวลานี้
หากเลยเวลาตีสองแล้วคุณชายยังไม่กลับมา ก็แสดงว่าไปค้างคืนที่บ้านหลังอื่นหลังแล้ว บ้านหลังอื่นเองก็มีพ่อบ้านน้อยและมีเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆคอยรับใช้ ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอแล้ว
“ไม่ต้องแล้วล่ะค่ะ ดึกมากแล้ว ถ้ากินมื้อดึกอีกก็จะหลับไม่สบาย”
ป้ามะนาวมองไปที่คุณชายตัวเอง
“ป้ามะนาว ไปพักผ่อนเถอะ”
ยศพัฒน์ยื่นช่อดอกไม้ให้ภรรยาที่รัก เอ่ยว่า “เธอลืมดอกไม้ช่อนี้ไปแล้ว”
เทวิกายิ้มแหยๆ
เธอกอดช่อดอกไม้เอาไว้ แล้วถูกยศพัฒน์เดินโอบเข้าไปในห้อง
ป้ามะนาวมองสองสามีภรรยาหนุ่มสาวที่รักกันดีอย่างปลาบปลื้ม รอจนกระทั่งพวกเขาเข้าห้องไปแล้ว ป้ามะนาวก็เอ่ยพึมพำว่า “ปีหน้าช่วงเวลานี้ ก็น่าจะมีคุณชายน้อยหรือคุณหนูเพิ่มมาแล้ว”
ความตั้งใจที่คุณชายทุ่มเทมาสิบเอ็ดปี ในที่สุดก็ได้รับผลตอบแทนแล้ว
ป้ามะนาวไม่รู้ว่าลับหลังคุณชายของเธอกำจัดศัตรูหัวใจไปแล้วกี่คน จึงจะสามารถได้สาวงามมาอยู่ในอ้อมกอด
อายุห่างกันห้าปี หลังจากที่เขาบรรลุนิติภาวะ เทวิกาก็เพิ่งจะขึ้นมัธยมชั้นปีที่หนึ่ง เขารอเธอโต รอเธอเรียนจบ รอเธอเป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้อีกหน่อย รอแล้วรออีก รอมานานถึงสิบเอ็ดปี จึงจะได้เด็ดดอกไม้งามที่เขาคอยเฝ้าดูมาโดยตลอด
ไม่ง่ายเลยจริงๆ
หลังสิบนาทีผ่านไป
ยศพัฒน์เพิ่งเข้าไปในห้องน้ำ โทรศัพท์ก็พลันดังขึ้น
เทวิกาเอาโทรศัพท์ขึ้นมาดูสายโทรเข้า เป็นสายที่ไม่ได้ระบุชื่อไว้ ก็ไม่รู้ว่าใครโทรมา
เธอเอาโทรศัพท์เดินไปที่หน้าห้องน้ำ แล้วเอ่ยกับชายหนุ่มที่อยู่ข้างในว่า “พี่พัฒน์ มีคนโทรหาพี่”
“ใครโทรมา?”
ดึกขนาดนี้แล้วยังโทรมาอีก จงใจรังควานเขาแน่ ๆ ไม่อยากให้เขาได้ใช้เวลาร่วมกับภรรยาสุดที่รักของเขา
ไร้ศีลธรรมชะมัด
มาขัดแผนการปั๊มลูกของเขา เขาจะสะสางหนี้แค้นกับอีกฝ่ายแน่ ๆ
“ไม่รู้ว่าใครโทรมา พี่ไม่ได้เมมชื่อเอาไว้ อาจจะเป็นคนแปลกหน้าล่ะมั้ง”
ยศพัฒน์ที่อยู่ในห้องน้ำเงียบครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบว่า
“คนแปลกหน้าไม่รู้เบอร์โทรศัพท์ฉัน ไม่ได้เมมชื่อเอาไว้ เดาว่าก็น่าจะเป็นเปรมา ที่รัก ศัตรูหัวใจของเธอโทรมารังควานสามีเธอตอนดึกดื่นแบบนี้ ก็ฝากให้เธอจัดการละกัน เธอต้องหวงฉันบ้างนะ”
เทวิกา “……”
ให้เธอจัดการงั้นเหรอ
ได้!
ผู้ชายตัวเองก็ต้องปกป้องด้วยตัวเอง
ยศพัฒน์บอกว่าจำเบอร์ของเปรมาไม่ได้ก็อาจจะจำไม่ได้จริงๆ แต่เขารู้ว่าสายโทรเข้าที่ไม่ได้ระบุชื่อเอาไว้ต้องเป็นเปรมาแน่ ๆ
เหมือนที่เขาพูด คนแปลกหน้าไม่มีทางรู้เบอร์มือถือของเขา
ตอนที่เทวิกากำลังจะกดรับสาย อีกฝ่ายก็วางสายไปเองก่อนเสียแล้ว
ทว่าไม่นานก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง
เทวิกากดรับสายของเปรมาทันที
“พัฒน์”
เปรมาคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะรับสาย พลันตื่นเต้นดีใจมากๆ
ตั้งแต่ที่เธอตกหลุมรักยศพัฒน์และสารภาพรักกับเขา ตราบใดที่เป็นสายโทรศัพท์จากเธอ ยศพัฒน์ก็ไม่เคยรับสายอีก
ข้อความที่เธอส่งไป ยศพัฒน์เองก็ไม่เคยตอบ
แต่คืนนี้ เขากลับรับสายเธอ
“พัฒน์ ฉันรู้ตัวว่าผิดแล้ว ความเสียหายของร้านเทวิกา ฉันก็ชดใช้ค่าเสียหายคืนเป็นสองเท่าแล้ว และก็ถูกกักขังมาสิบกว่าวันแล้วด้วย นายหายโกรธหรือยัง? ให้อภัยฉันได้หรือเปล่า?”
“พัฒน์ ฉันทำแบบนั้นเพราะฉันรักนายมากเกินไป ฉันอิจฉาเทวิกา อิจฉาจนจะกลายเป็นบ้าแล้ว เราเป็นเพื่อนสมัยเด็กที่โตมาด้วยกัน รู้จักกันมายี่สิบกว่าปี มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น ยัยเทวิกานั่นมีสิทธิ์อะไรได้แต่งงานกับนาย?”
“นายคือคุณชายของตระกูลอริยชัยกุล และก็เป็นผู้นำตระกูลด้วย ภรรยาของนายจะเป็นคนบ้านนอกคอกนาอย่างยัยเทวิกานั่นได้ยังไง? หล่อนไม่เหมาะสมกับนายเลย ถึงแม้ต่อไปหล่อนจะพยายาม แต่พวกนายแตกต่างกันมากขนาดนั้น ไม่ว่ายังไงหล่อนก็ตามไม่ทันหรอก พัฒน์ เราสองคนต่างหากที่อยู่ในโลกเดียวกัน”
“เราเติบโตมาด้วยกัน มีหัวข้อสนทนาร่วมกัน มีเพื่อนแวดวงเดียวกัน เป็นคนชนชั้นเดียวกัน”
เปรมากลัวมากว่ายศพัฒน์จะวางสาย ดังนั้นจึงรีบพูดในสิ่งที่ตัวเองอยากพูดให้หมดในคราวเดียว
เทวิกาปล่อยให้เธอพูดต่อไป
“พัฒน์ เรามาเจอกันแล้วคุยกันดีๆได้หรือเปล่า? แล้วก็ นายอย่าเข้าใจฉันกับนฤเบศวร์ผิดเชียวนะ คนที่ฉันรักคือนายมาโดยตลอด ฉันไม่เคยรักนฤเบศวร์มาก่อนเลย ฉันก็แค่เห็นนฤเบศวร์เป็นเพื่อนสนิท ระหว่างฉันกับเขาไม่มีอะไรทั้งนั้น”
“พัฒน์ เรารู้จักกันมานานขนาดนี้แล้ว ฉันเพิ่งย้ายกลับมาทำธุรกิจในประเทศ นายก็ทำใจกดขี่ข่มเหงฉันได้อย่างไร้เยื่อใยเลยงั้นเหรอ? นายไร้หัวจิตหัวใจกับฉันขนาดนั้นเลยจริงๆเหรอ? เทวิกาดีตรงไหน? จุดไหนของหล่อนที่ดึงดูดนาย? นายบอกฉัน ฉันยอมไปแก้ ไปเรียนรู้จากเธอ”
เทวิกาลอบเอ่ยในใจ ที่แท้ยศพัฒน์ก็เริ่มโจมตีธุรกิจของเปรมาแล้วงั้นเหรอ
เปรมาทำธุรกิจแฟชั่น ได้ยินว่าเสื้อผ้าที่เธอออกแบบก็โด่งดังพอสมควร
เธออยู่ในวงการแฟชั่นที่เมืองนอกก็ไปได้ดีไม่เลว ยอมย้ายกลับมาทำธุรกิจในประเทศ ก็เพื่อยศพัฒน์ทั้งนั้น
แต่ยศพัฒน์กลับขัดขวางเส้นทางอาชีพของเธอเพื่อเทวิกา
เทวิกายังรู้สึกไม่คุ้มแทนนฤเบศวร์เลย นฤเบศวร์สามารถบุกน้ำลุยไฟเพื่อเปรมาได้ ปรากฏว่าเปรมากลับบอกว่าเห็นนฤเบศวร์เป็นเพียงเพื่อนสนิทผู้ชาย
เหอะ!
เพื่อนสนิท!
ครั้งก่อนตอนที่กนกอรแกล้งเป็นแฟนของนฤเบศวร์ เปรมาก็หึงหวงหาข้ออ้างตบหน้ากนกอรไม่ใช่หรือไง?
เจ้าตัวไม่รู้ แต่คนรอบข้างกลับมองออก
เทวิการู้สึกว่าเปรมามีใจให้นฤเบศวร์ เพียงแต่เธอยึดติดกับยศพัฒน์มากเกินไป ไม่ได้มองใจตัวเองดีๆและละเลยความรู้สึกที่เธอมีต่อนฤเบศวร์
เทวิกาคิดในใจอย่างร้ายกาจว่า หากกนกอรสามารถทำให้นฤเบศวร์เปลี่ยนใจมารักได้ แล้วตอนที่เปรมารับรู้ถึงความรู้สึกที่เธอมีต่อนฤเบศวร์แต่กลับเสียนฤเบศวร์ไปแล้ว ถึงตอนนั้นเปรมาจะเสียใจภายหลังจนช้ำในหรือเปล่า?
กนกอร เป็นกำลังใจให้เธอนะ!
มัดใจนฤเบศวร์ให้ได้ แล้วทำให้เปรมาเสียใจภายหลังเถอะ
“คุณเปรมา คุณยอมเรียนรู้จากฉันเหรอเนี่ย ฉันไม่คิดไม่ฝันเลยจริงๆ เพราะฉันเป็นคนบ้านนอกคอกนา แต่คุณเปรมาเป็นถึงคุณหนูผู้ดี คงลำบากคุณเปรมานะคะถ้าจะเรียนรู้จากฉัน ว่าแต่จะเรียนรู้อะไรจากฉันงั้นเหรอ? ไม่งั้นก็เรียนทำนา? เรียนปลูกผัก? ก็คนบ้านนอกนี่นะ แน่นอนว่าก็ต้องทำนาทำไร่อยู่แล้ว”
หลังจากที่เปรมาได้ยินเสียงของเทวิกาก็พลันช็อกเหมือนถูกฟ้าผ่า
ทำไมเทวิกาถึงเป็นคนรับโทรศัพท์?
เธอพูดบ่นไปตั้งมากมาย ซ้ำยังนินทาเทวิกาอีกต่างหาก ปรากฏว่า คนรับสายกลับเป็นเทวิกา
เปรมาเผยสีหน้าถมึงทึงทันที พลันตวาดเสียงแหลมอย่างโมโหว่า “เทวิกา ใครสั่งให้เธอรับโทรศัพท์ของพัฒน์? เอาโทรศัพท์ให้พัฒน์เดี๋ยวนี้นะ เธอไม่มีสิทธิ์แตะต้องของของพัฒน์!”
เทวิกายิ้มเสียงเหอะๆ “ฉันไม่มีสิทธิ์แล้วใครมีสิทธิ์? ฉันเป็นภรรยาของพัฒน์ เราสองคนจดทะเบียนสมรสกันแล้ว ถ้าโชคดีล่ะก็ ในท้องฉันก็อาจจะมีพัฒน์ตัวน้อยอยู่อีกคนด้วย ทำไมฉันจะไม่มีสิทธิ์แตะต้องโทรศัพท์ของพัฒน์?”