รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 424 ฉวยโอกาสเลยตามเลย
นฤเบศวร์วางแก้วลง รีบไปจับมือของกนกอรไว้ แล้วพูดขอโทษขึ้นมาว่า: “อร ผมขอโทษแทนคำพูดที่ไม่เหมาะสมของคุณแม่ผมด้วย ผมได้บอกกับแม่ผมแล้ว ต่อไปถ้าเธอยังพูดแบบนี้กับคุณอีก และจงใจจะพรากเราสองคนให้แยกจากกัน ผมก็จะไปบวชเป็นพระ”
“จิตใจคุณไม่บริสุทธิ์ วัดเขาคุณเป็นพระหรอก”
ไม่ว่ายังไง เพื่อเธอแล้วเขายอมพูดคำพูดแบบนั้นออกมา กนกอรรู้สึกซาบซึ้งอยู่ในใจ
“ผมรู้จุดอ่อนของแม่ผมดี ต่อไปถ้าเธอยังรังแกคุณอีก ผมก็จะพูดว่าผมจะลาออกจากประธานบริษัทRA กรุ๊ป รับรองว่าเธอไม่กล้าพูดอะไรอีก และไม่กล้าทำอะไรอีกแน่นอน”
จีบกนกอร นฤเบศวร์รู้ดีว่าเขาไม่มีเทคนิคอะไร แต่ถ้าจะให้จัดการคนในครอบครัวหรือจัดการกับคนนอก เขาก็ถือว่ามีความสามารถพอตัวอยู่
ตีงูต้องตีให้ถูกจุด อีกฝ่ายเห็นอะไรสำคัญ ก็ต้องจี้จุดที่อีกฝ่ายเห็นความสำคัญเป็นพิเศษถึงจะได้
เหมือนแม่ของเขา แค่บอกว่าเขาจะไม่เป็นประธานบริษัท แม่ของเขาก็กระวนกระวายกว่าใครเป็นพิเศษ
กนกอรจ้องมองเขานิ่งๆ
เขากำลังพยายามสู้เพื่ออนาคตของพวกเขา
เธอเองก็จะพยายามเช่นเดียวกัน
พยายามหาเงิน เพื่อให้กระเป๋าตังค์ของตัวเองพองโต ถึงแม้จะพองสู้ของนฤเบศวร์ไม่ได้ แต่ก็ต้องให้บัณฑิตาเปลี่ยนมุมมองใหม่ที่มีต่อเธอ และเชื่อว่าที่เธออยู่กับนฤเบศวร์ไม่ใช่เพราะต้องการเงินของเขา
ถ้าเธออยากได้เงินเขาจริงๆ ก็คงไม่หย่ากับเขาหรอก
วิญญูชนต้องการเงินทองทรัพย์สิน ก็ต้องได้มาด้วยวิธีที่ถูกต้อง
สิ่งที่เธอควรได้ เธอก็ต้องได้ สิ่งที่เธอไม่ควรได้ เธอไม่เอาแม้แต่สตางค์แดงเดียว
“ไปกันเถอะ ไปกินข้าวกัน”
“ไป”
นฤเบศวร์ลุกขึ้นมาอย่างดีใจ เขาไปจับมือของกนกอรโดยอัติโนมัต และออกไปจากร้านพร้อมกนกอร
แต่กนกอรกลับหันไปมองกันตภณ。
เธอให้พนักงานสาวในร้านไปเกลี้ยกล่อมกันตภณไม่ให้ดื่มเหล้าเยอะ แต่ดูเหมือนจะเกลี้ยกล่อมไม่สำเร็จ
“ผมโทรศัพท์หา นิรุตต์”
จะแก้ปัญหาก็ต้องหาคนสร้างปัญหาถึงจะแก้ได้
กันตภณมีแต่ นิรุตต์มาถึงจะแก้ไขได้ พวกเธอเกลี้ยกล่อมยังไงก็ไม่สำเร็จหรอก
เพื่อป้องกันไม่ให้กนกอรมุ่งความสนใจไปที่ กันตภณ เขาจึงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเพื่อโทรหา นิรุตต์ทันที
ทุกคนต่างเป็นคนหนุ่มแห่งเมืองนี้ ปรกติก็อยู่ในวงการเดียวกันอยู่แล้ว ถึงแม้จะไม่ได้สนิทกันมาก แต่ต่างฝ่ายต่างก็มีเบอร์โทรศัพท์ของซึ่งกันและกัน
โทรติดนานมาก กว่า นิรุตต์จะรับมันขึ้นมา
“คุณนฤเบศวร์”
เสียงของ นิรุตต์แหบพร่า เหมือนหลอดลมอักเสบ
“มีธุระอะไรเหรอ?”
อารมร์ของ นิรุตต์ไม่ดี เพราะพึ่งทะเลาะกับคนที่บ้าน และทะเลาะกับภณ ทำให้เขาปวดหัวมาก
เขาอยากทิ้งทุกอย่าง แล้วไปหาภณ พาหนีไปให้ไกลๆ
แต่เนื่องจากความรับผิดชอบที่ถูกผู้ใหญ่อบรมให้เป็นทายาทสืบทอดมาตั้งแต่เด็ก จึงทำให้เขาไม่สามารถทิ้งทุกอย่างแล้วพาภณหนีไปไกลๆ ได้
แต่ถ้าไม่พาหนีไป ทุกคนในบ้านก็ยอมรับไม่ได้กับเรื่องที่เขารักเพศเดียวกัน ยิ่งรับไม่ได้ที่เขากับกันตภณอยู่ด้วยกัน
ส่วนตอนนี้ ผู้ใหญ่ทุกคนต่างพากันหาผู้หญิงเพื่อแนะนำให้เขา เพราะคิดว่าถ้าเขาได้เจอกับผู้หญิงมากหน้าหลายตาหน่อย ไม่แน่อาจทำให้เขากลับใจก็ได้
“นิรุตต์ กันตภณดื่มเหล้าอยู่ที่One Day In Coffee ร้านที่กนกอรของผมเปิดเป็นร้านกาแฟ ไม่ใช่ร้านเหล้า ตอนนี้ทำให้ร้านเต็มไปด้วยกลิ่นเหล้า เหม็นไปทั้งร้าน กระทบต่อธุรกิจของกนกอรของผม คุณจะรับผิดชอบไหม?คุณจะรับผิดชอบเขาไหม?ถ้าคุณไม่สนใจเขาแล้ว ก็ได้ เดี๋ยวผมจะโยนเขาออกไปข้างถนนเอง”
กนกอร:ใครเป็นของคุณ?
นฤเบศวร์:ต่อไปก็จะเป็นของผมเอง ผมก็แค่พูดไว้ก่อนเท่านั้น ฝึกฝนไว้ก่อน ต่อไปก็จะพูดได้คล่องเอง
หน้าด้าน!
“เดี๋ยวผมจะรีบไปพาเขากลับ”
นิรุตต์พูดออกมาโดยไม่ต้องคิด เพราะกลัวถ้าเขาลังเลกันตภณก็จะถูกนฤเบศวร์โยนออกไปข้างถนนทันที
เพื่อช่วยเขา กันตใกล้ยอมรับเงื่อนไขของคุณปู่เร็น แกล้งทำเป็นไปจีบกนกอรเพื่อประชดนฤเบศวร์ เรื่องนี้นฤเบศวร์เพิ่งรู้เร็วๆ นี้เอง แต่นิรุตต์กลับรู้เรื่องนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
เขาเองก็เคยหึง กันตภณใช้วิธีของเขารักษาการหึงให้หายขาด
เพื่อเขาแล้วภณเสียสละไปเยอะมาก หลังจากที่เจบี กรุ๊ปผ่านพ้นวิกฤติไปได้แล้ว คนในครอบครัวกลับให้เขาตัดขาดกับภณ นั่นทำให้เขาตกอยู่ในสถานะของคนเนรคุณไปทันทีเลย
“ต่อไป อย่าให้เขามาดื่มเหล้าที่One Day In Coffeeอีก อีกอย่างหนึ่งนิรุตต์คุณอย่าทำให้ผมต้องดูถูกคุณ เวลาต้องการความช่วยเหลือจากคนอื่นก็พูดจาอ่อนหวาน เมื่อไม่ต้องการแล้วก็ตัดสัมพันธ์ทันที ใช่ นักธุรกิจเห็นผลประโยชน์เป็นหลัก แต่คุณก็อย่าใจร้ายเกินไป”
นิรุตต์เงียบไปสักพัก แล้วพูดขึ้นว่า: “ผมจะจัดการเอง”
“สรุปก็คืออย่าให้ผู้ชายของคุณมาที่นี่แล้วดึงดูดความสนใจของผู้หญิงผมไป”
ความสนใจที่กนกอรให้เขาน้อยจนน่าสงสาร ถ้าต้องถูกกันตภณแบ่งไปอีกส่วน เขาก็จะยิ่งน่าสงสารขึ้นไปอีก
ไม่ให้โอกาส นิรุตต์พูดอะไรต่ออีก นฤเบศวร์ตัดสายทิ้งทันที
เขาจะค่อยสังเกตเรื่องระหว่าง นิรุตต์กับกันตภณ ดูสิว่า นิรุตต์จะต่อสู้เพื่อกันตภณหรือเปล่า ถ้าต่อสู้จริง เขาก็จะช่วยกันตภณ ไม่ไม่ต่อสู้แล้วหล่ะก็ กันตภณก็ติดใจเสียดีกว่า ผู้ชายดีๆ มีอีกตั้งเยอะแยะ
โอะ คนที่กันตภณต้องการคือผู้ชาย แต่มีผู้ชายไม่กี่คนที่ยอมเอากันตภณ
ผู้ชายบนโลกนี้มีมากมายก็จริง แต่ไม่ใช่ทุกคนที่พิเศษเหมือน นิรุตต์แบบนั้น
“ไปกันเถอะ เดี๋ยวผู้ชายของเขาจะมาพาเขากลับไปเอง”
หลังจากที่นฤเบศวร์แจ้งให้ นิรุตต์มารับกันตภณกลับไปแล้ว ได้จับมือของกนกอรอีกครั้ง สิบนิ้วประสานกัน เดินออกไปจากร้านกาแฟด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มอันสดใส
ส่วนเรื่องที่นฤเบศวณ์พูดในโทรศัพท์ว่าเธอเป็นคนของเขา กนกอรขี้เกียจจะไปแก้ไขเขาอีก
เมื่อเห็นเธอใจอ่อน เขาก็ฉวยโอกาสเลยตามเลยทันที
จีบกันรักกัน สามารถจีบกันหลายปีค่อยแต่งงานกันก็ได้
กนกอรต้องการรักกันนานหน่อยค่อยแต่งงานกัน
ในทางกลับกันนฤเบศวร์กำลังคิดอยู่ว่า คู่รักในปัจจุบันเมื่อยอมรับความรักของซึ่งกันและกันแล้ว ส่วนใหญ่ก็จะเดินตามความไป ทำเรื่องลึกซึ้งกันโดยธรรมชาติ เขาต้องลองหาโอกาส ว่าสามารถขึ้นรถก่อนค่อยจ่ายตั๋ว
แม้แต่กษิดิที่ซื่อแข็งเหมือนท่อนไม้แบบนั้นยังแต่งงานไปแล้วเลย แถมตอนแต่งงานก็ได้กลายเป็นพ่อคนก่อนแล้ว ไม่มีเหตุผลที่คนอย่างนฤเบศวร์จะจะพ่ายแพ้ให้กับกษิดิ
“ฉันขับรถดีกว่า”
กนกอรเห็นแขนของนฤเบศวร์ยังบาดเจ็บอยู่
นฤเบศวร์ยื่นกุญแจรถไปให้ทันที หลังจากที่ทั้งสองขึ้นรถไปแล้ว เขาได้พูดขึ้นว่า: “อร รถที่ผมซื้อให้คุณ คุณรับมันไว้ได้ไหม?ช่วงนี้ชอบฝนตก มีรถ จะได้มาทำงานสะดวก”
บอดี้การ์ดของนฤเบศวร์รู้หน้าที่ดีไม่ได้ติดตามไปด้วย
กว่าคุณชายใหญ่จะเกลี้ยกล่อมให้คุณกนกอรไปกินข้าวด้วยได้ ถ้าพวกเขาติดตามไปด้วยก็จะกลายเป็นก้างขวางคอ ต้องถูกคุณชายใหญ่หักเงินพิเศษแน่
“ไม่เอา ฉันจะซื้อรถเอง ไม่ใช่เงินคุณหรอก”
ตอนนี้กนกอรมีเงินซื้อรถแล้ว
เธอรู้สึกว่าร้านห่างจากบ้านไม่มากนัก ขี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าสะดวกกว่า ถ้าขับรถ เกิดรถติดขึ้นมา ก็จะขยับไม่ได้ แต่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าไม่เหมือนกัน เลี้ยวไปมาทั้งซอยเล็กซอยใหญ่ได้อย่างสะดวก ไม่นานก็ถึงร้านแล้ว
แต่ว่า ตอนนี้เธอจะซื้อรถแล้วจริงๆ เพราะกลัวเดี๋ยวนฤเบศวร์จะเป็นห่วงเธอที่ไม่มีรถขับ แล้วจะซื้อรถให้เธอ เมื่อซื้อให้ก็จะซื้อรถราคาแพงให้ เธอจะรับไว้ได้ยังไง?
“ของของผมก็คือของของคุณ พวกเราสองคนจะแบ่งแยกชัดเจนขนาดนั้นทำไม อร ที่ผมพูดเป็นความจริงทั้งหมด ขอแค่คุณจดทะเบียนสมรสกับผม ทรัพย์สมบัติทั้งหมดของผมก็จะโอนเป็นชื่อของคุณทันที ให้คุณเป็นสาวร่ำรวย เอาไงดี จะไปจดทะเบียนสมรสกับผมที่เขตไหม?”