รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 497 ฉากละครขนาดใหญ่
ไซม่อนพาภรรยาและลูกๆ เดินมายังห้องหลักศูนย์กลางด้วยการห้อมล้อมของทุกคน
กลัวว่าทุกคนเข้ามาแล้วจะแออัดเกินไป ญาติหลายๆ คนจึงมาส่งคุณท่านที่ประตูทางเข้า จากนั้นก็ขอตัวกลับบ้านอย่างรู้กาลเทศะ
คุณหนูใหญ่กลับมาแล้ว จะต้องจัดงานเลี้ยงใหญ่โตแน่นอน ถึงตอนนั้นคนทั้งตระกูลจะสามารถเข้าร่วมงานเลี้ยงได้ สำหรับเครือญาติอย่างพวกเขา นี่เป็นโอกาสสำคัญที่จะได้คบค้าสมาคมกับบุคคลสำคัญ
“พ่อ แม่ เรากลับมาแล้วครับ”
ไซม่อนและครอบครัวทั้งสี่คนเดินมาตรงหน้าท่านพ่อท่านแม่ เสียงไซม่อนเรียบเฉย
ความสัมพันธ์ของเขากับพ่อแม่นั้นธรรมดาทั่วไป
โดยเฉพาะหลังจากภรรยากลายเป็นบ้า ความสัมพันธ์ของเขากับพ่อแม่ยิ่งเรียบเฉย
แต่เขาคือลูกชายคนโต พ่อแม่ต้องอยู่ยามเกษียณที่บ้านเขา นี่คือหน้าที่ของเขา
อย่างไรก็ตาม มีคนรับใช้ทั้งบ้านคอยปรนนิบัติพ่อแม่วัยชรา บางครั้งเขาก็เป็นห่วง หาเวลาว่างมาทานอาหารกับพ่อแม่วัยชรา ก็ประมาณนี้แหละ
ญาณินเจอหน้าแม่สามี แววตาก็เย็นชา เธอเม้มปาก สุดท้ายก็หันไปหาพ่อสามี ก็กล่าวเรียกคุณพ่อด้วยเสียงที่เรียบเฉย
ตอนเธอเป็นบ้า ถึงแม้พ่อสามีจะไม่เคยทำร้ายเธอ แต่ก็ไม่ได้ช่วยเหลือเธอ
ไซม่อนทำงานยุ่ง ถึงแม้จะให้ป้าอ้อยที่จงรักภักดีมาดูแลเธอ แต่ยังไงป้าอ้อยก็เป็นแค่คนงาน ตอนที่เธอถูกรังแก สิ่งที่ทำได้ก็คือโทรหาไซม่อน หลังจากพ่อสามีเกษียณแล้วก็ว่างไม่มีอะไรทำ ถ้าอยากจะช่วยเธอ เพียงประโยคเดียวก็ทำได้แล้ว
แต่พ่อสามีไม่เอ่ยปาก
บางทีอาจจะรังเกียจที่เธอเป็นบ้าล่ะมั้ง และเนื่องจากครอบครัวเธอพึ่งพาไม่ได้แล้ว
คนพวกนี้มีเหตุมีผลมากเกินไป
ตอนเธอเพิ่งแต่งงานกับไซม่อน ครอบครัวเธอมีหน้ามีตา ถึงแม้แม่สามีเอาแต่ว่ากล่าวเธอที่จับตาดูไซม่อนมากเกินไป ชอบหึงหวง พ่อสามีก็จะว่ากล่าวแม่สามีบ้าง
พอเธอเป็นบ้า ครอบครัวเธอตกอับเหลือแค่เพียงหลานชายคนเดียว พ่อสามีก็ปฏิบัติกับเธอไม่เหมือนเดิม
แต่คนที่ญาณินเกลียดมากที่สุดก็คือแม่สามี
เห็นแก่ลูกชายและลูกสาว เธอจึงเรียกพ่อสามีสักหน่อย
“กลับมา กลับมาก็ดี”
ท่านพ่อพูดอย่างใจดี
ญาณินไม่ตอบ
“คุณปู่ คุณย่า”
ประยสย์และน้องสาว เป็นเด็ก ไม่ว่าคนชราทั้งสองจะเป็นคนยังไง พวกเขาจะไม่ทักทายเขาต่อหน้าไม่ได้
คุณย่าเห็นญาณินไม่ทักทายเธอ รอยยิ้มบนหน้าก็เย็นชาขึ้น อยากจะโมโหตรงนั้นเลย
ได้สติปัญญากลับคืนแล้ว ก็ยังเหมือนตอนเป็นบ้า ไม่เห็นแม่สามีอย่างเธออยู่ในสายตา?
นึกถึงญาณินต้องการหย่ากับลูกชายคนโต คุณย่าก็กลั้นเอาไว้ ไม่โมโห ณ ตรงนั้น
ได้ยินหลานสองคนทักทายเธอ เธอก็รีบปั้นยิ้มใจดีขึ้นมาอีกครั้ง
“คุณปู่ คุณย่า”
ยศพัฒน์ก็เดินเข้าไปทักทายคนชราทั้งสองเช่นกัน
เหล่าบอดี้การ์ดย้ายของขวัญราคาแพงที่ตระกูลอริยชัยกุลเตรียมมาเข้ามาแล้ว ไม่นานก็เป็นกองพะเนินเต็มห้องโถงใหญ่ ไม่มีแม้แต่ที่ให้คนไปยืนใหม่
ตระกูลสาระทาก็เป็นตระกูลเศรษฐีอันดับต้นๆ ก็ยังตกใจกับของขวัญเต็มห้อง ตระกูลอริยชัยกุลนี่ใจกว้างเสียจริง และมองออกว่าตระกูลอริยชัยกุลให้ความสำคัญกับนายน้อยเทวิกาคนนี้เป็นอย่างมาก
“พัฒน์ นายมาเฉยๆ ก็ได้ ไม่ต้องเกรงใจ ให้ของขวัญเยอะแยะแบบนั้นหรอก ครอบครัวเดียวกันแท้ๆ”
คุณย่ายิ้ม เธอชื่นชอบยศพัฒน์หลานเขยคนนี้มาก แน่นอนว่าถ้าหากยศพัฒน์ไม่ใช่สามีของเทวิกา แต่เป็นสามีของหลานสาวคนอื่น เธอจะยิ่งชื่นชอบยศพัฒน์มากกว่านี้
ถึงแม้เทวิกาจะหน้าตาเหมือนเธอมากที่สุด ตอนเพิ่งคลอดออกมา เธอก็รักเทวิกามากที่สุด รักและเอ็นดูเทวิกาเป็นแก้วตาดวงใจ แต่ความสัมพันธ์ของย่าหลานนั้นเกิดขึ้นเพียงครึ่งปี
แยกจากกันมายี่สิบกว่าปี ตอนนี้เทวิกากลับมาแล้ว ไม่สนิทกับเธอเลยสักนิด
ดูสิ แค่เรียกเธอว่าคุณย่าอย่างจืดชืด และไม่มีคำพูดอื่นแล้ว
ยังจำได้ว่าตอนวิกาวัยสามสี่เดือน แค่เห็นคุณย่าอย่างเธอ ก็จะยิ้มแย้ม
ยิ้มจนใจเธอเบิกบาน อดไม่ได้ที่จะอุ้มเธอ หอมเธอ หยอกล้อเธอกลับ
เนื่องจากญาณินเป็นบ้ามายี่สิบกว่าปี ในอดีตเธอทำอะไรเด็ดขาดมาก ไม่คิดว่าจะมีวันที่หาตัวหลานสาวกลับมา ไม่คิดว่าจะมีวันที่ญาณินได้สติกลับมา เธออยากฟื้นฟูความสัมพันธ์ย่าหลานกับวิกา ก็เป็นเรื่องเหมือนฝัน
มีประยสย์คนที่มีอคติและไม่กตัญญู ในสายตาวิกา ย่าแท้ๆ อย่างเธอคนนี้คงจะเป็นหญิงชราที่เลวร้ายล่ะมั้ง
“เป็นของขวัญเล็กๆ น้อยๆ ที่เตรียมมอบให้ทุกคนครับ”
พัฒน์มีท่วงท่างดงาม ไม่ว่าเมื่อก่อนสมาชิกในตระกูลสาระทาปฏิบัติกับแม่ยายยังไง ตอนนี้เขาต้องแสดงออกอย่างสมบูรณ์แบบ ถึงจะเป็นการให้เกียรติแม่ยายและภรรยา
เขายิ้มเหมือนสายลมในฤดูใบไม้ผลิ คนในบ้านไม่ว่าจะเป็นชายหญิงคนชราหรือเด็ก ล้วนชื่นชมในท่วงท่าสง่างามของยศพัฒน์กันหมด
ผู้ที่มีลูกสาวอิจฉาเทวิกาเป็นพิเศษ โชคดีจังนะ ที่ได้แต่งงานกับยศพัฒน์ผู้ชายที่ยอดเยี่ยมแบบนี้
“วิกา”
คุณย่ายิ้มขณะกวักมือเรียกเทวิกา “มา ให้ย่าดูหลานดีๆ หน่อย คราวก่อนที่จากลากันไป ย่าไม่ได้เห็นหลานมานานมาก ย่าคิดถึงหลานทุกวันเลยนะ หวังว่าหลานจะกลับมาเร็วๆ”
คุณย่าเล่นละครเก่ง เทวิกาก็เล่นละครเก่งเหมือนกัน
จากปากพี่ เธอรู้มาว่าพวกป้าๆ ของเธอชอบแย่งชิงความโปรดปรานจากคุณย่าเธอ
ด้วยใบหน้าเธอที่เหมือนกับคุณย่าสมัยวัยรุ่นเป๊ะๆ หากเธอต้องการชิงดีชิงเด่นด้วย ใครจะสู้เธอได้?
ถึงแม้เธอจะไม่อยากให้อภัยคุณย่าเลยก็ตาม แต่ก็ไม่อาจขัดขวางเธอในการเล่นละคร เพื่อทำให้คนพวกนั้นโกรธ
ได้ยินว่าคุณย่ามีทรัพย์สินส่วนตัวเยอะมากด้วย เธอเล่นละครสนุกๆ เป็นเพื่อนคุณย่า ไม่แน่อาจจะได้รับค่าตอบแทนก้อนโต
กลับมาในครอบครัวผู้ให้กำเนิด เป้าหมายของเทวิกาชัดเจนมาก เพื่อรับมรดกทรัพย์สินส่วนตัวของคุณพ่อครึ่งหนึ่ง ร่วมมือกับพี่เพื่อแย่งชิง สิ่งที่ควรเป็นของพวกเขาสองพี่น้อง ไม่ให้อาสองและอาสามเอาเปรียบ
ได้รับทรัพย์สินส่วนตัวของคุณย่า และได้โจมตีแก้แค้นครอบครัวลำดับสองและสาม เทวิกายินดีมากที่จะทำมัน
“คุณย่า ฉันก็คิดถึงคุณย่าเหมือนกันค่ะ แต่ฉันทำงานยุ่ง ไม่มีเวลากลับมาเยี่ยมคุณย่าเลย คุณย่าโทษฉันเลยนะคะ”
เทวิกาเดินไปนั่งข้างๆ คุณย่า นั่งลงแล้วก็ควงแขนคุณย่าอย่างสนิทสนม พูดจายิ้มแย้ม แถมยังมีความออดอ้อนเล็กน้อย
ทุกคน:……
ความเสแสร้งของคนชรา การแกล้งทำของเด็ก
ประกอบกันเป็นเสแสร้งแกล้งทำ
สมแล้วที่เป็นย่าหลานกันแท้ๆ เหมือนกันสุดขีด!
“ย่าจะโทษหลานลงได้ยังไงล่ะ ย่ารักหลานจะตายอยู่แล้ว”
คุณย่ายิ้ม ทำหน้าตาหลงใหล และเขกหน้าผากเทวิกาเบาๆ หนึ่งที
เห็นใบหน้าเทวิกาที่เหมือนเธอมาก รอยยิ้มคุณย่าก็จริงใจขึ้นมาก
“ทุกคนนั่งกันเถอะ”
ไซม่อนก็นั่งตาม พร้อมโบกมือต้อนรับพวกเขาทุกคนให้หาที่นั่งกันตามสบาย
ญาณินไม่ได้นั่งข้างๆ สามี เธอนั่งกับลูกชายและลูกเขย
ไม่เห็นความผิดปกติบนใบหน้าไซม่อนสักนิด
คนเต็มบ้านเลย เขาต้องสวมหน้ากากปฏิบัติตัวอีกครั้ง
“วิกา”
คุณย่าถอดสร้อยคอเส้นหนึ่งจากคอตัวเอง แล้ววางสร้อยคอเส้นนั้นในมือเทวิกา แล้วพูดด้วยความรักและเมตตา “นี่เป็นสร้อยคอที่ย่าชอบมากที่สุด ตอนนี้ย่าให้หลาน ยินดีต้อนรับหลานกลับมา!”
เทวิกาสังเกตเห็นสีหน้าอาสะใภ้สองและอาสะใภ้สามเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ในแววตาพรั่งพรูความอิจฉาออกมา ก็รู้ว่าสร้อยคอเส้นนี้มีมูลค่ามาก