รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 499 การปกครองตระกูลสาระทากำลังจะเปลี่ยนแปลง!
หลังจากรู้จักกับญาติแล้ว ก็เริ่มทานอาหารกลางวัน
หลังจากมื้ออาหาร คุณย่ากับคุณปู่ก็บอกว่าเหนื่อยแล้ว ขอตัวกลับห้องไปนอนพักกลางวัน
“วิกา แม่พาลูกขึ้นไปข้างบน”
เมื่อปู่ย่าไปแล้ว ญาณินก็ขี้เกียจคุยกับคนพวกนั้น จูงมือลูกสาวอย่างสนิทสนมแล้วพาเทวิกาขึ้นชั้นบน
เมื่อสองแม่ลูกไปแล้ว คุณนายสองและคุณนายสามก็พาเหล่าลูกๆ กลับบ้านหลังเล็กของพวกเขา
เมื่อเข้าไปในบ้าน คุณนายสามก็พูดกับลูกสาวว่า “ลินน์ ไหนเอากล่องอัญมณีสองกล่องที่คุณย่าให้ลูกให้แม่ดูหน่อยสิ”
ลูกสาวอุ้มกล่องอัญมณีสองกล่องมาอย่างสบายๆ คุณนายสามเกิดลางสังหรณ์ไม่ดี
สิ่งที่คุณย่าให้ลูกสาว อาจจะเป็นกล่องอัญมณีสองกล่องจริงๆ
ยังไงลินน์ก็ยังเด็ก ไม่ได้คิดอะไรมากมาย แค่ดีใจที่ชิงดีชิงเด่นได้สำเร็จ จึงโอ้อวด
ตั้งแต่เธอรู้ประสีประสา ก็เคยได้ยินคนพูดว่า พี่สาวที่ไม่เคยเจอมาก่อนของเธอหน้าตาเหมือนกับคุณย่ามาก ก่อนหายตัวไป ก็เป็นคนโปรดปราน แก้วตาดวงใจของคุณย่า
เมื่อก่อนตอนพี่สาวไม่อยู่ ลินน์ก็ไม่แยแส
จนตามหาพี่สาวเจอ ลินน์ถึงตระหนักได้ว่าคุณหนูคนเล็กตระกูลสาระทาที่ได้รับความโปรดปรานมากที่สุดอย่างเธอคนนี้ เกรงว่าจะรักษาสถานะในใจคุณย่าไม่ได้แล้ว
อีกอย่างต่อไปเมื่อเข้าร่วมงานเลี้ยงต่างๆ กับผู้ใหญ่ คุณหนูคนเล็กสุดของตระกูลสาระทาอย่างเธอ มีความเป็นไปได้สูงว่าจะถูกพี่สาวแย่งซีนไป
พี่สาวเป็นลูกสาวแท้ๆ ของคุณลุง คุณลุงคือเจ้าบ้าน เดิมทีก็มีตำแหน่งสูงกว่าลูกสาวในครอบครัวลำดับสามอย่างเธออยู่แล้ว
อย่าคิดว่าลินน์อายุแค่สิบขวบ จะบริสุทธิ์ไร้เดียงสา การอยู่รอดในครอบครัวใหญ่อย่างตระกูลสาระทา เด็กน้อยก็มีแผนการของเด็กน้อย
“แม่ ให้แม่ค่ะ ต่อไปอะไรที่คุณย่าให้พี่ หนูจะขอแบบเดียวกันกับคุณย่า ไม่ให้พี่มาเปรียบเทียบกับหนู หนูยังอยากเป็นหลานสาวที่คุณย่ารักและชอบมากที่สุด”
ลินน์ยิ้ม เหมือนรู้ประสีประสาอย่างมาก มอบกล่องอัญมณีสองกล่องให้คุณแม่
คุณนายสามรับกล่องอัญมณีมา พอเปิดดู ในนั้นแบ่งเป็นหลายชั้น แต่ทุกชั้นล้วนว่างเปล่า
แม้แต่สร้อยข้อมือยังไม่มี อย่าว่าแต่อัญมณีล้ำค่าเลย
เธอรู้อยู่แล้วว่าจะเป็นแบบนี้
“เอ๋ ทำไมมันว่างเปล่า?”
ลินน์เห็นแล้วตะลึงงัน
ทั้งๆ ที่เธอขอกล่องอัญมณีเหมือนกับของพี่สาว
คุณนายสามเปิดกล่องอัญมณีกล่องที่สอง มันว่างเปล่าเช่นกัน
เธอโยนกล่องอัญมณีลงพื้น ยื่นมือไปเขกหน้าผากลูกสาว แล้วดุด่า “ลูกห้ามบอกว่าต้องการกล่องอัญมณีสองกล่องสิ ในกล่องอัญมณีของพี่ลูกมันมีอะไร ลูกก็ต้องขออันนั้น ลูกบอกว่ากล่องอัญมณีสองกล่อง คุณย่าลูกก็ต้องให้กล่องเปล่าลูกสองกล่องอยู่แล้ว”
ลินน์ก้มศีรษะลงด้วยความน้อยใจ
เธอไม่ได้คิดเยอะขนาดนั้นนี่หน่า
เธอนึกว่าของที่คุณย่าให้เธอเหมือนกับของพี่สาว
ยิ่งคิดก็ยิ่งน้อยใจ ลินน์น้ำตาไหล
คุณย่าทำแบบนี้กับเธอได้ยังไง?
พอพี่สาวกลับมา คุณย่าก็ไม่ชอบเธอแล้วเหรอ?
เธอก็ไม่ชอบพี่สาวเหมือนกัน เธอตัดสินใจแล้ว ต่อไปจะต้องตั้งตัวเป็นศัตรูกับพี่สาว
คุณนายสามเห็นลูกสาวน้อยอกน้อยใจจนน้ำตาไหล ก็ไม่จิ้มหน้าผากลูกสาวอีก กอดลูกสาวในอ้อมอก แล้วปลอบด้วยเสียงอ่อนโยน “เอาล่ะ แม่ไม่โทษลูกแล้ว ลินน์ ต่อไปลูกห้ามโดนคุณย่าลูกหลอกแบบนี้อีกนะ”
ทันใดนั้นเธอก็ด่าขึ้นมาอีก “ตระกูลสาระทาไม่มีใครดีสักคน ฉันตาบอดตั้งแต่แรก ก็เลยแต่งเข้ามา”
ชล: ตอนนี้เธอตาไม่บอดนี่ เธอไปได้เลย หย่าสิ ทำไมเธอไม่ยอมล่ะ?
คุณนายสาม:……
ทางด้านนี้คุณนายสามกำลังตำหนิลูกสาวว่าโง่ และโกรธที่แม่สามีลำเอียง
ทางด้านคุณนายสองก็กำลังว่าลูกสาวของเธอ ธนภรณ์ ลูกสาวของเธอ อีกสองเดือนก็วันเกิดอายุสิบแปดปีแล้ว
“ภรณ์ ลูกดูสิว่าลินน์เจ้าเล่ห์แค่ไหน พอเนตรดาวกลับมา ก็รู้ว่าต้องชิงดีชิงเด่น แต่ลูกดันเหมือนท่อนไม้ ไม่รู้จักสู้ ในคลังส่วนตัวของคุณย่าลูก มีเครื่องประดับอัญมณีเยอะแยะ ครอบครัวของคุณย่าเป็นครอบครัวใหญ่โต เป็นผู้ดีในสมัยก่อน สินเดิมของเธอมีอัญมณีสมัยก่อนมากมาย มีคุณค่าในการเก็บสะสมมากกว่าอัญมณีที่ขายในปัจจุบัน และเป็นของแท้ราคาสมน้ำสมเนื้อ”
“อีกสองเดือนลูกก็อายุสิบแปดแล้ว เป็นผู้ใหญ่แล้ว แค่ลูกเอ่ยปาก คุณย่าไม่มีทางไม่ให้ลูกหรอก”
ในสายตาคุณนายสอง ลินน์เพิ่งสิบขวบ ต้องการอัญมณีสองกล่อง ไม่ใช่เป็นการให้ครอบครัวเจ้าสามหรอกเหรอ?
ตอนนี้เจ้าสามกำลังก่อเรื่องขอหย่า ถ้าหย่าจริงๆ ครอบครัวเจ้าสามก็จะเอาอัญมณีพวกนั้นไปด้วย
อัญมณีมีมูลค่ามากเลยนะ
ใส่แล้วดูสูงศักดิ์ หากขายออกไปก็ได้เงินก้อนโต
ยังไงก็คุ้มค่าหมด
ธนภรณ์นั่งบนโซฟา พูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ “แม่ไม่เห็นลินน์อุ้มกล่องอัญมณีสองกล่องแบบสบายๆ เหรอ? อัญมณีสองกล่องที่คุณย่าให้พี่ รู้สึกว่าพี่จะอุ้มแบบออกแรง”
คุณนายสองอึ้งไป และเกิดปฏิกิริยาทันที ยิ้มขึ้นมา พูดขึ้นอย่างไม่กล้าเชื่อ “คุณย่าลูกคงไม่ให้กล่องอัญมณีสองกล่องเปล่าจริงๆ หรอกนะ?”
“ลินน์เอ่ยปากขอกล่องอัญมณีสองกล่อง คุณย่าก็ไม่ได้ให้ผิดนี่คะ”
คุณนายสองสะอึกทันที
ทันใดนั้นก็หัวเราะสุขใจยิ่งขึ้น
“ไป ภรณ์ ตอนนี้เราไปที่บ้านอาสะใภ้สามของลูกกัน ดูสิว่าสีหน้าอาสะใภ้สามของลูกแย่แค่ไหน”
ขณะที่พูด เธอก็จะจูงมือลูกสาวขึ้น
ธนภรณ์สะบัดมือคุณแม่ออก เธอยืนขึ้นมา แต่เธอหันตัวเดินขึ้นไปชั้นบน เดินพลางพูดไปด้วย “แม่ คุณป้าใหญ่กับพี่กลับมาแล้ว ฉันว่าอาสะใภ้สามก็คงไม่ยอมหย่ากับอาสามง่ายๆ แม่ร่วมมือกับอาสะใภ้สามต่อไปดีกว่านะคะ อย่าไปทำเรื่องซ้ำเติมเลย”
“คุณป้าใหญ่ แม่ตีสนิทไม่ได้หรอก เมื่อก่อนแม่กับอาสะใภ้สามเคยหัวเราะเยาะคุณป้าใหญ่มากเกินไป ทำอะไรเกินเลย ถึงแม่จะยอมดึงหน้าไปประจบเอาใจคุณป้าใหญ่ คุณป้าใหญ่ก็คงไม่สนใจแม่ คนที่แม่สามารถสร้างพันธมิตรด้วยได้ก็คืออาสะใภ้สาม”
ธนภรณ์เดินไปหยุดตรงหน้าบันได หันมาพูดกับคุณแม่ว่า “พี่เป็นคนเสแสร้งว่าอ่อนแอหลอกให้ศัตรูตายใจ ต่อไปแม่เผชิญหน้ากับเธอ ก็ระวังหน่อยนะคะ อย่าโดนเธอใส่ร้าย แล้วก็พี่เขย……อายุมากกว่าพี่ชายฉัน มีประสบการณ์ชีวิตมากกว่า พวกคุณก็ต้องระวังเขาด้วย”
ธนภรณ์ดูเหมือนเป็นท่อนไม้ ไม่เคยทำเรื่องประจบสอพลอ แต่เธอปฏิบัติตัวสุขุม ไม่ว่าจะมองคนหรือมองเรื่องราวต่างๆ ก็ทำได้อย่างละเอียดลึกซึ้ง
นี่เป็นวันแรกที่เทวิกาและสามีเธอกลับมา ก็ถูกเธอมองออกแล้วว่าสามีภรรยาคู่นี้เป็นจิ้งจอก
คุณนายสอง: “……”
ธนภรณ์ขึ้นชั้นบนไปแล้ว
“ภรณ์ ภรณ์! ยัยบ้านี่ เหมือนท่อนไม้เลย โง่เง่า ไม่รู้จักสู้ไม่รู้จักแย่ง ยังมาพูดจาไร้สาระอีก”
คุณนายสองหงุดหงิดที่ลูกสาวไม่ใจสู้
ครอบครัวลำดับสองอย่างพวกเขาอยู่คฤหาสน์หลังใหญ่แห่งนี้ เดิมทีก็ไม่โดดเด่นอยู่แล้ว ลูกๆ ของเธอไม่แก่งแย่งเหมือนครอบครัวลำดับสาม ก็เลยยิ่งไม่โดดเด่น ถ้าเธอไม่เรียกร้องความสนใจที่บ้านคุณย่าบ่อยๆ คนอื่นคงนึกว่าไม่มีครอบครัวลำดับสองของตระกูลสาระทาแล้วล่ะ
สุดท้ายแล้วคุณนายสองก็ไม่ได้ไปหัวเราะเยาะคุณนายสามที่ครอบครัวลำดับสาม
บางคำของลูกสาวก็พูดอย่างมีเหตุผล
ญาณินกลับมาแล้ว
เนตรดาวก็กลับมาแล้ว แถมยังพาเศรษฐีแห่งเมืองแอคเซสซ์กลับมาด้วย
การปกครองเบื้องบนของคฤหาสน์ตระกูลสาระทากำลังจะเปลี่ยนแปลง
หลังจากคิดสักพัก คุณนายสองก็ไปเอาอาหารเสริมบางส่วนมาเอง จากนั้นก็เรียกสาวใช้สองคนช่วยถือ เธอเดินไปที่บ้านหลักศูนย์กลางที่ครอบครัวหลักอาศัยอยู่อีกครั้ง