รักนะจุ๊บๆ คุณสามีพันล้าน บทที่ 698 คุณชุติภาเอาเปรียบคนเก่งจริง ๆ
ณภัทรหันศีรษะไปมองที่ชุติภา
ชุติภากะพริบตา และถามเขาว่า “ทำไมคุณชายสี่ถึงมองฉันแบบนี้คะ?”
ด้วยความที่เธอลำลายหลักฐานด้วยตัวเองทั้งหมด ไม่ทิ้งเบาะแสใด ๆ ไว้เลย ณภัทรหายังไงก็ไม่ลามมาถึงเธอเป็นแน่ ชุติภานั้นมีความมั่นใจและหยิ่งยโส เธอไม่กังวลเลยที่ณภัทรจะรู้ว่า เธอเป็นผู้หญิงที่นอนกับเขาในคืนนั้น
“ผมคิดว่า ดูเหมือนคุณชุติภาจะนั่งผิดที่นั่งนะครับ” ณภัทรเตือนเธอด้วยความหวังดี “พี่ชายสามของผมนั่งตรงนั้นครับ”
แม้ว่า พี่ชายสามจะบอกว่าเขาต้องการให้ชุติภาให้คำแนะนำ ทว่า ณภัทรก็ทำเหมือนเหล่าผู้อาวุโส จับคู่ให้ชุติภาและพี่ของเขาโดยอัตโนมัติ
“ฉันนั่งตรงนี้ไม่ได้เหรอคะ?”
ชุติภาไม่ได้ตั้งใจที่จะนั่งข้างณภัทร เธอนั่งลงเพราะเห็นว่ามีที่นั่งว่าง และหลังจากที่เธอนั่งลง ถึงจะรู้ว่าณภัทรนั่งอยู่ข้างเธอ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอนั่งลงแล้ว ก็ไม่คิดที่จะเปลี่ยนที่นั่ง
เธอยังมองไปที่คุณย่าชนิศาและคนอื่น ๆ ด้วยสีหน้าไร้เดียงสา “คุณย่าชนิศา ฉันนั่งตรงนี้ได้ใช่ไหมคะ?”
เมื่อเธอถามออกไปแบบนี้ ณภัทรก็รู้สึกอยากจะบีบคอเธอจนตาย
สิ่งนี้เหมือนกำลังย่างเขาบนกองไฟเลย ผู้อาวุโสทุกคนก็จ้องมองมาที่เขา
คุณย่าชนิศาก็เหลือบตามองไปยังหลานชายของเธอเช่นกัน แต่เมื่อเธอมองไปที่ชุติภา เธอยิ้มอย่างใจดีและพูดว่า “ได้ นั่งได้สิ ถ้าคุณอยากนั่ง จะนั่งตรงไหนก็ได้ ณภัทร แกยังนั่งทำอะไรอยู่ที่นั่น ไปเทแก้วน้ำให้คุณชุติภาสิ แล้วเอาของว่างและผลไม้มาด้วย”
ณภัทรเบะปาก ตอนที่เขาลุกขึ้น เขาก็ว่าชุติภาเสียงเบา “คุณชุติภาเอาเปรียบคนเก่งจริง ๆ”
ท่าทางไร้เดียงสาของชุติภา
ทำให้ณภัทรรู้สึกโกรธมากจนแทบจะบ้าตาย
ช่างมันเถอะ เพราะเห็นแก่พี่สาม เขาก็เป็นชายร่างใหญ่ที่มีจิตใจกว้างขวาง ดังนั้น เขาจึงไม่คิดแค้นเธอ
ณภัทรไปเทน้ำให้ชุติภา และนำของว่างที่สาว ๆ ชอบกินมาให้ และเติมโต๊ะน้ำชาจนเต็ม
เขาไม่อยากกลับไปนั่งที่เดิม ถ้าเขาไม่กลับไปนั่งที่เดิม ก็คงต้องยืนต่อไป
ณภัทรไม่อยากยืนตลอด ดังนั้นเขาจึงกลับมานั่งข้างชุติภา ก็ได้กลิ่นยาบนตัวเธออีกครั้ง เขาพูดเบา ๆ กับเธอว่า “คุณแช่ยาสมุนไพรทุกวันเลยเหรอ ร่างกายถึงมีกลิ่นยาติดอยู่ตลอด”
ดวงตาที่สวยงามของชุติภาเป็นประกาย เธอแช่ตัวอยู่ในคลังสมุนไพรเป็นเวลานาน ดังนั้น มันจึงเป็นเรื่องปกติที่บนตัวของเธอจะได้กลิ่นยาเล็กน้อย ในคืนนั้น เขาคงจะจำกลิ่นยาของเธอไม่ได้ใช่ไหม
แต่เมื่อเห็นว่าเขาไม่มีอะไรผิดปกติ ชุติภาก็รู้สึกโล่งใจอีกครั้ง
“ฉันเป็นนักศึกษาแพทย์ ฉันแช่น้ำยาสมุนไพรมาตั้งแต่เด็ก ๆ และอาบน้ำยาสมุนไพรบ่อย เป็นเรื่องปกติที่จะมีกลิ่นยา”
ณภัทรเบะปากอีกครั้ง แล้วพึมพำ “พวกคุณที่เรียนแพทย์ก็คล้ายกันกันหมด”
เมื่อได้ยินสิ่งที่เขาพูด ชุติภาก็รู้ว่า เขาจำกลิ่นของยาบนร่างกายของเธอได้จริง ๆ เขาน่าจะไปหาหมอเพื่อหาคนในคืนนั้น รู้ว่าหมอหลายคนมีกลิ่นของยาบนร่างกายของพวกเขา เมื่อได้กลิ่นยาบนตัวเธอ เขาก็ไม่คิดมากแล้ว
“คุณชายสี่ชอบกลิ่นยาเหรอคะ? ฉันสามารถช่วยคุณชายสี่เตรียมยาสำหรับอาบน้ำได้นะ ไม่เพียงแต่มีกลิ่นยาเท่านั้น แต่ยังดีต่อร่างกายของคุณอีกด้วย”
สีหน้าของณภัทรดูไม่ค่อยดีนัก เขาพูดอย่างเย็นชา “ขอบคุณครับ แต่ไม่เป็นไร ผมเกลียดกลิ่นยาน่ะครับ”
ผู้หญิงที่ได้กลิ่นเหมือนยานอนกับเขา แล้วเดินจากไป เหมือนได้กินฟรี ทำให้เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอเป็นใคร
ชุติภายิ้มอย่างอ่อนโยน
ณภัทรไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นคือชุติภา เพราะเขารู้ว่าชุติภาและผู้หญิงชื่อกัญณิศาที่มีกระบนใบหน้าเพิ่งปรากฏตัวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ความบริสุทธิ์ของเขาถูกพรากไปเป็นเวลากว่าหนึ่งเดือนแล้ว
ชุติภาได้รับเชิญจากเซทท์ให้มาเป็นแขกและชมคฤหัสน์เมเปิล หลังจากนั่งคุยกับทุกคนสักพัก คุณย่าชนิศาก็ให้เซทท์พาชุติภาออกไปเดินเล่น
ชุติภาหยิบผลิตภัณฑ์ดูแลผิวแบบโฮมเมดหลายขวด ออกมาจากเบาะรถมอเตอร์ไซค์ของเธอ และมอบให้กับเหล่าคุณหญิงของตระกูลอริยชัยกุล และกล่าวว่า ” ตอนแรก ฉันไม่ต้องการรบกวนคุณย่าชนิศาและทุกคน จึงไม่ได้เตรียม ของขวัญชิ้นใหญ่มา ขอโทษด้วยนะคะ โชคดีที่ฉันมักจะมีนิสัยที่เอาผลิตภัณฑ์ความงามและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ฉันพัฒนาขึ้นเองติดตัวตลอด และขอมอบให้คุณผู้หญิงเป็นของขวัญในการเจอกันครั้งแรก และฉันหวังว่าคุณย่าชนิศาและคุณผู้หญิงทั้งหลายจะไม่รังเกียจนะคะ”
คุณย่าชนิศายิ้มและพูดว่า “เนื่องจากคุณมีความสัมพันธ์ที่ดีกับวิกา และเป็นเพื่อนของวิกา ในสายตาของพวกเราล้วนเป็นครอบครัวเดียวกัน คนในครอบครัวไม่จำเป็นต้องสุภาพมาก คุณสามารถมาได้ทุกเมื่อที่คุณต้องการ และไม่จำเป็นต้องเตรียมของขวัญชิ้นใหญ่ใด ๆ มาด้วย”
พิรัตน์ซึ่งได้รับการเลี้ยงดูจากเทวิกา ได้รับเลือกจากชุติภาให้เป็นศิษย์ ทั้งสองฝ่ายตกลงกันว่า ชุติภาจะรับ พิรัตน์เป็นลูกศิษย์อย่างเป็นทางการเมื่อพิรัตน์อายุครบ 5 ขวบ และจะพาพิรัตน์ออกไปจากเทวิกา โดยให้ไปอยู่กับชุติภาแทน
ดังนั้น แม้ว่าชุติภากับเทวิกาเพิ่งจะรู้จักกัน การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีนั้น ต้องเป็นเพื่อนกัน
คุณย่าชนิศาพูดเช่นนี้แค่ข้ออ้างเท่านั้น เธอไม่สามารถพูดได้ว่า เธอกำลังรอคอยที่ชุติภาจะกลายเป็นหลานสะใภ้ของเธอ เพิ่งเจอกันครั้งแรก มันจะไม่สุภาพเกินไปที่จะพูดสิ่งนี้
ชุติภาไม่เพียงแต่เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น แต่ยังเก่งเรื่องปรุงยาและยาพิษด้วย ผลิตภัณฑ์เพื่อความงามและการดูแลผิวพรรณที่เธอมอบให้มีผลที่ดีอย่างแน่นอน ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ไม่ชอบความงามและการดูแลผิวพรรณ คุณย่าชนิศารับผลิตภัณฑ์ที่ชุติภาให้ก่อน และคุณผู้หญิงอีกหลายคนก็ค่อย ๆ รับมาทีละคน
คุณย่าชนิศาบอกเซทท์ว่า หลังจากไปชมเมเปิลกับชุติภาแล้ว ต้องพาชุติภากลับมาเมเปิล เพื่อทานอาหารเย็น
ชุติภายิ้มและพูดว่า “ในเมื่อฉันมารบกวนแล้ว ฉันก็จะอยู่ทานข้าวเย็นด้วยค่ะ คุณย่าชนิศาอย่าหัวเราะเยาะฉันที่เป็นคนหน้าหนาก็พอค่ะ”
คุณย่าชนิศายิ้มและพูดว่า “นั่นคือสิ่งที่ฉันต้องการอยู่แล้ว”
เด็กคนนี้เป็นคนใจกว้าง ตรงไปตรงมา คิดอะไรก็พูดออกมา คุณย่าชนิศาชอบมาก
รู้สึกว่า ที่หลาน ๆ ไม่เต็มใจที่จะแต่งงานกันสักทีนั้นมีสาเหตุ พวกเขาจะต้องเจอผู้หญิงที่ยอดเยี่ยม และคู่ควรกับพวกเขาก่อน ถึงจะหวั่นไหว
ไม่ต้องพูดถึงเจ้าใหญ่กับเจ้ารอง สองคู่นั้นสามารถบอกได้ว่าเป็นคู่สร้างคู่สมที่เติบโตมาด้วยกัน ส่วนเจ้าเซทท์นั้น ตาถึงจริง ๆ
หลังจากที่เซทท์ออกไปกับชุติภา คุณย่าชนิศาก็มองไปที่ณภัทรที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เมื่อคิดถึงเรื่องที่หลานชายของเธอไปนอนกับคนอื่น และไม่รู้ว่าคู่นอนคือใคร ทำให้คนแก่อย่างเธอ ถอนหายใจออกมาอย่างหนัก
เมื่อเธอถอนหายใจ ใบหน้าของณภัทรก็ไม่ค่อยสู้ดีนัก
“เจ้าภัทร หลานต้องสู้หน่อยนะ!”
หลังจากที่คุณย่าชนิศาพูดจบ เธอก็หันหลังกลับเข้าไปในบ้าน
ใบหน้าของณภัทรก็หม่นหมอง ให้เขาสู้อะไร?
เขาไนั้นไม่ต้องการแต่งงานกับใคร แม้ว่าเขาจะตามหาผู้หญิงใจกล้าคนนั้น เขาแค่ต้องการแสวงหาความยุติธรรมให้กับตัวเอง
รูปร่างหน้าตาเป็นยังไงยังไม่รู้เลย คิดว่าเขาจะตกหลุมรักเหรอ?
คุณนายปสุตาพูดกับลูกชายของเธอ “แม่คิดว่า ตัวเองจะได้เป็นแม่สามีเร็วกว่าป้าสามของลูก ตอนนี้ดูเหมือนว่า ป้าสามของลูกจะกลายเป็นคุณย่าแล้ว แม่ของลูกได้แต่หวังและมองดูคนอื่น”
“แม่ครับ ผมอายุยังไม่ถึงสามสิบเลย จะรีบร้อนทำไม? พี่ใหญ่ก็เพิ่งจดทะเบียนสมรสปีนี้ งานแต่งงานก็ยังไม่ได้จัดเลย”
ณภัทรลากพี่ชายคนโตของตัวเองออกมาพูด ด้วยใบหน้าที่หล่อที่บึ้งตึง
พี่ชายใหญ่ก็แต่งงานเร็วเกินไป เขาควรรอจนอายุ 35 ปี ถ้าเป็นเช่นนั้น น้อง ๆ อย่างพวกเขาก็จะได้อยู่อย่างมีความสุขอีกสักสองสามปี
“วิกากำลังตั้งครรภ์ และจะจัดงานแต่งงานก่อนปีใหม่ ลูกเทียบกับพี่ชายของลูกได้เหรอ? ลูกน่ะ……ลูกสะใภ้ในอนาคตของแม่ หน้าตายังไงก็ยังไม่รู้”
ณภัทรรู้สึกหดหู่ใจ เขาพูดด้วยความโกรธว่า “ผมก็ไม่รู้ไม่ใช่เหรอ”
คุณนายปสุตา：“……”
