ตอนที่ 266 การจัดลำดับที่น่าฉงน
ซางเฉาจงและหลานรั่วถิงไม่เข้าใจว่าคนผู้นี้อยากจะพูดอะไรกันแน่ เขาเป็นคนไม่ชอบพูดคุย นานๆ ทีจะเอ่ยออกมาสักประโยคสองประโยค สั้นกระชับเข้าใจง่าย รู้สึกผิดแผกไปอย่างอธิบายไม่ถูก
ทั้งสองมองเขาตาปริบๆ ล้วนรอคอยให้เขาพูดต่อ
ไป๋เหยาเอ่ยเสริมประโยคหนึ่ง “ไม่ใช่แค่ข้าเท่านั้น พูดให้ถูกคือ ทุกคนบนทำเนียบโอสถที่มีลำดับต่ำกว่าสองร้อยหกสิบเจ็ดลงไปล้วนเลื่อนขึ้นมาหนึ่งลำดับทั้งสิ้น ซ้ำยังมีอีกคนที่ถูกเพิ่มเข้าทำเนียบมาด้วย”
หลานรั่วถิงถามด้วยความฉงน “เกี่ยวข้องกับพวกเราหรือ?”
ไป๋เหยากล่าวว่า “คนที่อยู่ในลำดับที่สองร้อยหกสิบเจ็ดบนทำเนียบโอสถผู้นั้นมีนามว่าจั๋วเชา ถูกคนสังหารแล้ว ผู้สังหารเขาคือหนิวโหย่วเต้า!”
“เฮือก!” ซางเฉาจงและหลานรั่วถิงสูดหายใจดังเฮือก ถึงแม้ทั้งสองจะไม่ใช่คนในเส้นทางบำเพ็ญเพียร แต่ก็ยังให้ความสนใจกับทำเนียบโอสถพอสมควร ผู้ใดบ้างจะไม่อยากดึงตัวคนที่ติดทำเนียบโอสถมาทำงานด้วย?
ดังนั้นทั้งสองจึงทราบชัดเจนยิ่งว่าคนที่ติดลำดับสองร้อยกว่าๆ บนทำเนียบโอสถได้นั้นมีความหมายอย่างไร นั่นคือยอดฝีมือชั้นแนวหน้า เพราะว่าไป๋เหยานั้นเพิ่งจะอยู่แค่ลำดับที่หกร้อยกว่าเท่านั้น
ซางเฉาจงคล้ายไม่อยากจะเชื่อ เอ่ยว่า “เต้าเหยี่ยสามารถสังหารยอดฝีมือในลำดับที่สองร้อยกว่าๆ บนทำเนียบโอสถได้อย่างนั้นหรือ? นี่ดูคล้ายไม่น่าเป็นไปได้เลย! หรือจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน?”
ไป๋เหยากล่าวว่า “หากอยู่ในสถานการณ์ปกติ มันก็เป็นไปไม่ค่อยได้จริงๆ แต่ต่อให้ผู้บำเพ็ญเพียรจะเก่งกาจแค่ไหนก็ไม่อาจต้านแผนการชั่วร้ายได้ ซึ่งดูเหมือนหนิวโหย่วเต้าจะเชี่ยวชาญในด้านนี้”
ซางเฉาจงและหลานรั่วถิงสบตากัน ในจุดนี้ทั้งสองไม่ปฏิเสธ พูดให้น่าฟังคือหนิวโหย่วเต้ามีกลยุทธ์ล้ำเลิศ พูดให้น่าเกลียดหน่อยคือเขาก็แค่ใช้แผนเจ้าเล่ห์เท่านั้น!
เห็นเขาบุกเข้ามาในโถงองอาจเพื่อพูดเรื่องนี้ ซางเฉาจงจึงฉวยโอกาสขอคำชี้แนะเสียเลย “เรื่องนี้ส่งกระทบใหญ่โตมากหรือ?”
ไป๋เหยากล่าวว่า “จะบอกว่าใหญ่ก็ไม่ใหญ่ บอกว่าเล็กก็ไม่เล็ก ที่ว่าไม่ใหญ่เพราะมีคนในทำเนียบโอสถตายกันเป็นปกติ การที่ถูกลบชื่อออกจากทำเนียบไปก็ไม่มีอะไรให้น่าแปลกใจ ที่ว่าไม่เล็กเพราะการตายของจั๋วเชาผิดปกติ ในสถานการณ์ปกติ เมื่อใครเอาชนะใครได้ ก็จะได้เข้ามาแทนที่ลำดับของคนนั้น แต่มันอาจเป็นเพราะระดับสภาวะของหนิวโหย่วเต้า ทำให้เขาไม่มีคุณสมบัติพอจะเข้าสู่ทำเนียบโอสถ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ลำดับของคนที่อยู่ต่ำลงไปเลื่อนขึ้นมาเป็นพรวน”
ซางเฉาจงและหลานรั่วถิงเหงื่อตกเล็กน้อย เมื่อกล่าวเช่นนี้แล้ว ดูเหมือนจะส่งผลกระทบต่อคนจำนวนไม่น้อยเลยจริงๆ คิดไม่ถึงว่าลำดับรายชื่อของยอดฝีมือกว่าห้าร้อยคนบนทำเนียบโอสถจะเปลี่ยนแปลงไปเพราะเต้าเหยี่ย คนเหล่านี้ควรขอบคุณเต้าเหยี่ยหรือว่าอย่างไร?
ไม่น่าเชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อยอดฝีมือบนทำเนียบโอสถทีเดียวหลายร้อยคนได้ เรื่องนี้มัน…
หลานรั่วถิงเอ่ยถาม “เคยมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นมาก่อนหรือไม่?”
ไป๋เหยาตอบ “เคยมีครั้งหนึ่ง แต่ก็ต่างไปจากครั้งนี้ ช่วงเวลาที่ทำเนียบโอสถก่อตั้งขึ้นมา จะบอกว่านานก็ไม่นาน บอกว่าสั้นก็ไม่สั้น ในครั้งนั้นมีคนที่สิ้นชีพลงเพราะหมดอายุขัย! ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ หนิวโหย่วเต้ามิใช่คนไร้นาม สังหารราชทูตแคว้นเยี่ยนจนมีชื่อก้องหล้า มาคราวนี้ ชื่อของเขาเลื่องลือไปทั่วหล้าอีกแล้ว!”
ซางเฉาจงเหงื่อตกแทนหนิวโหย่วเต้า วิตกกังวลแทนหนิวโหย่วเต้าเล็กน้อย “เรื่องนี้จะเป็นการเข้าใจผิดกันหรือเปล่า?”
ไป๋เหยากล่าวว่า “ลำดับบนทำเนียบโอสถยังไม่แน่ว่าจะเป็นความจริง เนื่องจากบรรดาคนมากมายเหล่านั้นล้วนไม่เคยประมือกันเลย แต่การปรับลำดับรายชื่อของหอหิมะเหมันต์ไม่เคยผิดพลาด นี่จะต้องได้รับการตรวจสอบยืนยันแล้วแน่นอน ถึงนำมาประกาศต่อผู้บำเพ็ญเพียรทั่วหล้าได้! ไม่มีทางจะผลีผลามบ่งชี้ว่าคนที่สังหารจั๋วเชาคือหนิวโหย่วเต้า ในส่วนนี้หอหิมะเหมันต์ยังมีความน่าเชื่อถืออยู่”
ซางเฉาจงและหลานรั่วถิงมองหน้ากัน เมื่อกล่าวมาเช่นนี้ เช่นนั้นก็เป็นผลงานของหนิวโหย่วเต้าจริงๆ
หลานรั่วถิงถาม “ฝ่าซือตั้งใจมาพูดเรื่องนี้หรือ?”
ไป๋เหยากล่าวว่า “เรื่องจัดซื้อม้าศึกมิใช่เรื่องเล็ก หนิวโหย่วเต้ายังมีแก่ใจสร้างเรื่องใหญ่โตเช่นนี้ขึ้นระหว่างทางอีกหรือ? เรื่องนี้ทำให้ทางสำหนักตื่นตระหนก จึงสั่งให้ข้ามาสอบถามให้กระจ่าง อยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่เมื่อดูจากท่าทีของท่านอ๋องและอาจารย์หลานแล้ว ดูเหมือนจะไม่รู้เช่นกันว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร ทางสำนักกำลังรอคำตอบจากข้าอยู่ รบกวนพวกท่านไปสอบถามทางสามสำนักให้ทีได้หรือไม่ เพราะพวกเขาส่งคนติดตามหนิวโหย่วเต้าออกเดินทางไป น่าจะพอทราบถึงสถานการณ์ภายในบ้างไม่มากก็น้อย”
เมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นมา ทั้งสองก็อยากรู้เช่นกันว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ พวกเขาย่อมตอบรับคำขอ
หลังจากเตรียมการเล็กน้อย ทั้งสองก็พาไป๋เหยาออกจากจวนผู้ว่าการจังหวัด เดินทางออกไปจากเมืองภายใต้การคุ้มกันขององครักษ์ มุ่งหน้าตรงไปยังหุบเขานอกเมือง
คนในหุบเขาย่อมออกมาต้อนรับเมื่อได้ทราบข่าว ซางซูชิงบังเอิญอยู่แถวนี้พอดี จึงเข้ามาพบก่อน นางค่อนข้างแปลกใจพอสมควร “เสด็จพี่ มีเรื่องใดหรือ?”
น้อยครั้งนักที่ซางเฉาจงจะมาที่นี่ เหตุผลแรกเป็นเพราะทางฝั่งตนก็ยุ่งเช่นกัน เขาไม่จำเป็นต้องมากังวลกับที่นี่ เหตุผลต่อมาเป็นเพราะที่นี่คืออาณาเขตของหนิวโหย่วเต้า มีผู้บำเพ็ญเพียรรวมตัวอยู่ ไม่จำเป็นต้องให้เขามาแทรกแซง
ดังนั้นนางทราบดีว่าปกติแล้วพี่ชายไม่มีทางมาที่นี่โดยไม่มีสาเหตุ หากมาจะต้องมีธุระแน่นอน
“ทางเต้าเหยี่ยเกิดเรื่องขึ้นเล็กน้อย…” ซางเฉาจงเล่าสถานการณ์ให้นางฟังคร่าวๆ
ซางซูชิงฟังจนเหม่อลอยไป กระทั่งซางเฉาจงเองก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้น นางย่อมไม่ทราบยิ่งกว่า
หลังจากสามเจ้าสำนักเฟ่ยฉางหลิว เซี่ยฮวาและเจิ้งจิ่วเซียวมาถึง เดิมต้องการเชิญซางเฉาจงเข้าไปนั่งในหุบเขา จนใจที่สถานที่พำนักของแต่ละสำนักล้วนไม่สะดวกจะให้การรับรองจริงๆ ซางเฉาจงจึงบอกให้ไปนั่งคุยกันในศาลาที่อยู่ทางด้านหนึ่งแทน
พวกเขาเข้าประเด็นกันอย่างรวดเร็ว ถามเรื่องที่ไป๋เหยาพูดถึง บอกเล่าสถานการณ์โดยรวมให้ฟัง สุดท้ายซางเฉาจงถามว่า “เจ้าสำนักทั้งสาม ทราบหรือไม่ว่าเรื่องนี้เป็นมาอย่างไรกันแน่?”
ทั้งสามเงียบไปเล็กน้อย เรื่องความเปลี่ยนแปลงบนทำเนียบโอสถพวกเขาย่อมต้องทราบแล้ว ทั้งสามสำนักล้วนมีร้านค้าสาขาอยู่ในสถานที่อย่างเมืองไจซิง
คนที่จัดวางเอาไว้ย่อมต้องทำงานตามที่ได้รับมอบหมาย สาเหตุของเรื่องนี้พวกเขาเองก็ทราบกระจ่างแล้ว พวกเขาก็กำลังมึนงงอยู่เช่นกัน เรื่องนี้นับว่าเป็นความลับ แล้วหอหิมะเหมันต์ทราบข่าวและนำไปปรับเปลี่ยนลำดับบนทำเนียบโอสถได้เร็วขนาดนี้ได้อย่างไร? โดยเฉพาะเหตุใดถึงบอกได้ว่าสาเหตุที่ทำให้ลำดับบนทำเนียบเกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นเพราะหนิวโหย่วเต้าสังหารจั๋วเชา?
ตอนนี้สามสำนักสงสัยขึ้นมาเล็กน้อย หรือภายในสามสำนักจะมีสายลับของหอหิมะเหมันต์แฝงตัวอยู่? หรือว่ามีจุดไหนที่เกิดปัญหาขึ้น?
แต่ก็ทำได้เพียงสงสัยเท่านั้น ไม่กล้าตรวจสอบ จะไปตรวจสอบหาสายลับของหอหิมะเหมันต์ แบบนั้นมันหมายความว่าอย่างไรเล่า?
ถึงแม้กลุ่มอิทธิพลอย่างหอหิมะเหมันต์จะมีกฎเกณฑ์อยู่ ไม่มีทางสอดมือเข้ามายุ่งกับเรื่องบางเรื่องง่ายๆ เพื่อที่ทุกคนจะได้สบายใจ แต่มันก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่เข้ามายุ่งไปตลอด เมื่อนึกถึงว่าในสำนักอาจจะมีสายลับจากภายนอกแฝงอยู่ ผู้ใดจะสบายใจได้เล่า? แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรช่นกัน!
“ก่อนหนิวโหย่วเต้าจะออกเดินทางได้คาดการณ์ไว้แล้ว จึงจัดสรรให้สามสำนักส่งคนจำนวนหนึ่งติดตามไปอย่างลับๆ ผลคือช่วงที่อยู่ในหอไร้ขอบเขตมีคนลงมือกับเขาจริงๆ…”
เซี่ยฮวาบอกเล่าสถานการณ์โดยละเอียด ถึงตอนนี้แล้ว คนของสำนักที่ถูกส่งไปคุ้มกันอย่างลับๆ เหล่านั้นได้ติดตามอยู่ข้างกายหนิวโหย่วเต้าอย่างเปิดเผยแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องปกปิดอีกต่อไป
แต่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับหอจันทร์กระจ่างและเชลยสองคนนั้นพวกเขากลับไม่เอ่ยถึง ในส่วนนี้หนิวโหย่วเต้าได้ขอให้ปิดเป็นความลับไว้ เนื่องจากหนิวโหย่วเต้าไม่อยากให้หอจันทร์กระจ่างทราบว่ามีคนของหอจันทร์กระจ่างตกอยู่ในกำมือเขา
เมื่อทุกคนได้ฟังเรื่องราวก็รู้สึกอกสั่นขวัญแขวน กระทั่งไป๋เหยาที่ยืนฟังอยู่ด้านข้างก็มีสีหน้าตึงเครียดไปด้วย คิดไม่ถึงว่าจะมีคนสวมรอยเป็นเถ้าแก่ร้านค้าสำนักเซียนสถิตไปล่อหนิวโหย่วเต้าออกมาสังหาร ถึงขั้นที่ส่งยอดฝีมืออย่างจั๋วเชามาลงมือด้วย เช่นนี้คือต้องการให้หนิวโหย่วเต้าตายสถานเดียว!
เซี่ยฮวาเล่าสถานการณ์ออกมาคร่าวๆ ปิดบังรายละเอียดบางอย่างไว้ หลานรั่วถิงเอ่ยถามตรงจุดสำคัญ “จั๋วเชาคนนั้นสิ้นชีพเพราะทุกคนร่วมมือกันสังหาร หรือว่าถูกเต้าเหยี่ยสังหาร?”
เซี่ยฮวายิ้มเจื่อนพลางเอ่ย “ทะเลทรายกว้างไพศาล การต่อสู้ดุเดือด จั๋วเชาไล่ตามหนิวโหย่วเต้าไม่ยอมลดละ มุ่งสังหารหนิวโหย่วเต้าให้ตาย ไม่สนใจคนของพวกเราสามสำนักเลย ฝ่ายคนของทั้งสามสำนักล้วนกำลังรับมือกับลูกน้องของเขาอยู่ กระทั่งคนของสามสำนักจัดการลูกน้องของจั๋วเชาได้ จั๋วเชาและหนิวโหย่วเต้าก็พัวพันกันไปถึงช่วงสุดท้ายแล้ว จั๋วเชาถูกหนิวโหย่วเต้าโจมตีจนบาดเจ็บสาหัสแล้ว แม้ว่าจั๋วเชาจะบาดเจ็บสาหัส แต่ศิษย์ของพวกเราสามสำนักก็ยังเข้าใกล้เขาไม่ได้ เขาโจมตีออกมาเพียงครั้งเดียวก็ทำให้ยอดฝีมือระดับโอสถทองสิบกว่าคนของพวกเราสามสำนักบาดเจ็บได้แล้ว มีศิษย์สองคนที่ถึงขั้นเสียชีวิตคาที่ด้วยปราณกระบี่ของเขา! ในช่วงเวลาคับขันเป็นหนิวโหย่วเต้าที่โจมตีอย่างเด็ดขาดอีกครั้ง โจมตีสังหารเขาในกระบี่เดียว จั๋วเชาทรุดลงคุกเข่าสิ้นชีพอยู่ตรงแทบเท้าหนิวโหย่วเต้า ถูกหนิวโหย่วเต้าตัดหัว!”
เจิ้งจิ่วเซียวลูบเคราพลางพยักหน้า กล่าวว่า “ตลอดทั้งการต่อสู้ ศิษย์ของสามสำนักแทบไม่ได้เข้าไปประมือกับจั๋วเชาตรงๆ เลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องสังหารเขาเลย คนที่ทำให้จั๋วเชาบาดเจ็บสาหัสคือหนิวโหย่วเต้า สุดท้ายคนที่ปลิดชีพเขาได้ในกระบี่เดียวก็คือหนิวโหย่วเต้า การสังหารจั๋วเชาไม่เกี่ยวข้องอะไรกับสามสำนักเลย เป็นฝีมือของหนิวโหย่วเต้าจริงๆ เรื่องราวมันก็ประมาณนี้แหละ”
แม้จะเป็นเพียงคำอธิบายอย่างรวบรัด ทว่ากลับทำให้ทุกคนที่อยู่ในที่แห่งนี้เงียบงันกันไปหมด จั๋วเชาที่บาดเจ็บสาหัสยังทำให้ยอดฝีมือสามสำนักบาดเจ็บล้มตายได้ในการโจมตีเดียว พลังที่แท้จริงน่าหวาดกลัวเพียงใด แค่คิดดูก็รู้แล้ว
แม้ว่าเหตุการณ์จริงจะไม่ได้น่าอนาถเหมือนที่พวกเขาจินตนาการไว้ แต่ฉากที่ปรากฏขึ้นในหัวพวกเขากลับดูน่าอนาถอย่างยิ่ง ไล่ล่าสังหารท่ามกลางทะเลทรายที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา หนิวโหย่วเต้าถูกยอดฝีมืออย่างจั๋วเชาตามไล่ล่า!
ไป๋เหยาเอ่ยทำลายความเงียบ “ด้วยพลังของหนิวโหย่วเต้า จะทำให้จั๋วเชาบาดเจ็บสาหัสได้อย่างไร แล้วจะสังหารจั๋วเชาได้อย่างไร? ข้าไม่เชื่อ! พวกเจ้าปิดบังข้อมูลอันใดเอาไว้ใช่หรือไม่?”
เขาไม่เชื่อจริงๆ หนิวโหย่วเต้าสู้กับจั๋วเชาตัวต่อตัวแล้วสังหารจั๋วเชาได้อย่างนั้นหรือ? ล้อกันเล่นชัดๆ! ต่อให้เป็นเขาที่ประมือกับจั๋วเชา เกรงว่าคงทำได้เพียงหนีเอาชีวิตรอดเท่านั้น แล้วหนิวโหย่วเต้าจะทำได้อย่างไร?
เฟ่ยฉางหลิวกล่าวว่า “บอกตามตรง พวกเราเองก็ไม่เชื่อเช่นกัน แล้วก็สงสัยว่าจะมีอะไรแฝงอยู่ในเรื่องนี้ จากสถานการณ์ตอนนั้น จั๋วเชาไล่ล่าหนิวโหย่วเต้า ทั้งสองไล่ล่ากันตั้งแต่บนทะเลทรายจนดำลงไปด้านล่างทะเลทราย หลังจากทั้งสองดำลงไปแล้ว รายละเอียดเหตุการณ์ใต้ดินเป็นอย่างไรพวกเราก็ไม่ทราบเช่นกัน ทราบเพียงว่าเมื่อทั้งสองโผล่ออกมาจากใต้ดิน จั๋วเชาก็บาดเจ็บสาหัสแล้ว หนิวโหย่วเต้าไม่ยอมเล่ารายละเอียด พวกเราก็ไม่ทราบเช่นกัน! เพียงแต่หนิวโหย่วเต้าเองก็ได้รับบาดเจ็บเพราะจั๋วเชาด้วย”
“เต้าเหยี่ยไม่เป็นอะไรใช่หรือไหม?”
พอได้ยินว่าหนิวโหย่วเต้าถูกจั๋วเชาโจมตีจนบาดเจ็บ ซางเฉาจง หลานรั่วถิงและซางซูชิงแทบจะร้องถามออกมาเป็นเสียงเดียวกัน ในความคิดของพวกเขา ถูกยอดฝีมืออย่างจั๋วเชาโจมตีจะไม่บาดเจ็บสาหัสได้หรือ?
เฟ่ยฉางหลิวส่ายหน้าพลางเอ่ยว่า “บาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ร้ายแรง ตอนนี้หนิวโหย่วเต้าออกจากหอไร้ขอบเขตแล้ว คำนวณจากเวลาดูแล้ว เกรงว่าน่าจะเข้าเขตแคว้นฉีไปแล้ว”
ซางซูชิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงดังกร้าว “พวกท่านส่งคนไปเพื่อปกป้องเต้าเหยี่ยมิใช่หรือ? แล้วเหตุใดถึงไม่ขวางจั๋วเชาไว้ แต่ปล่อยให้เต้าเหยี่ยต้องสู้กับยอดฝีมืออย่างจั๋วเชาอย่างนั้นหรือ?” นางเกือบพูดออกไปแล้วว่าพวกท่านไม่ได้ทำหน้าที่ของพวกท่านอย่างเต็มที่เลย
พอได้ยินเรื่องฉากไล่ล่าสังหาร นางจินตนาการออกเลยว่าในสถานการณ์นั้นเต้าเหยี่ยเสี่ยงอันตรายมากแค่ไหน โพรงจมูกพลันแสบเคืองขึ้นมา
เมื่อได้ยินว่าหนิวโหย่วเต้าได้รับบาดเจ็บ นางเกือบจะร้องไห้ออกมา แต่ฝืนข่มเอาไว้ ขอบตาแดงเรื่อ
อีกฝ่ายไม่ได้อยากมาอยู่กับพวกนางพี่น้องเลย เป็นนางที่ชักจูงอีกฝ่ายเข้ามาสู่ความขัดแย้งนี้เอง
เรื่องราวต่างๆ ก่อนหน้านี้ไม่ต้องพูดถึงแล้ว แต่ครั้งนี้อีกฝ่ายก็ออกจากหุบเขาไปเพื่อพวกนางสองพี่น้องอีกครั้ง ทันทีที่ออกจากหุบเขาก็ต้องเผชิญอันตรายใหญ่หลวงเช่นนี้ เผชิญการไล่ล่าสังหารจากยอดฝีมือที่น่ากลัวถึงเพียงนี้
ยังไม่ทันถึงแคว้นฉีก็เป็นเช่นนี้แล้ว หลังจากนี้ยังจะมีอันตรายอะไรรอคอยอยู่อีกก็ไม่อาจจินตนาการได้เลย!
นี่ถือว่าออกไปเสี่ยงชีวิตเพื่อพวกนางสองพี่น้องอีกแล้ว!
สำนักหยกสวรรค์เรียกได้ว่าเป็นที่พึ่งที่สำคัญที่สุดของพวกนางสองพี่น้อง แต่เรื่องราวที่แม้แต่สำนักหยกสวรรค์ก็ยังจัดการให้สำเร็จไม่ได้ มีสิทธิ์อะไรมาใช้หนิวโหย่วเต้าที่อำนาจและอิทธิพลไม่อาจสู้สำนักหยกสวรรค์ได้ให้เดินทางออกไปเสี่ยงชีวิต หนิวโหย่วเต้าโดดเดี่ยวด้อยกำลังถึงเพียงนั้น นี่คือต้องการส่งหนิวโหย่วเต้าไปตายอย่างนั้นหรือ?
มีสิทธิ์อะไรมาใช้หนิวโหย่วเต้าที่พลังยังอ่อนด้อยปานนั้นให้ออกไปแบกรับภาระหนักอึ้งเช่นนั้นแทนพวกเขา?
แม้แต่สำนักหยกสวรรค์เองก็ยังละอายที่จะกล่าวเรื่องนี้เลย!
ในใจนางรู้สึกผิดยิ่งนัก โทษตัวเองอยู่ตลอดเวลา ทรมานมากจริงๆ!
ซางเฉาจงและหลานรั่วถิงก็ก้มหน้าไม่เอ่ยวาจา ศีรษะที่ก้มต่ำเงียบงัน มีสีหน้าตึงเครียด!
หนิวโหย่วเต้าออกจากหุบเขาไปครั้งนี้ ไม่อาจพูดได้เต็มปากว่าพวกเขาทั้งสองไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เป็นพวกเขาสองคนที่จงใจเอ่ยเรื่องนี้ต่อหน้าหนิวโหย่วเต้า
…………………………………………………………………….