จอมบงการเทพยุทธ์ – บทที่ 170

จอมบงการเทพยุทธ์ - บทที่ 170

บทที่ 170 จุดสิ้นสุดของเส้นทางจักรพรรดิ ร่องรอยของจอมจักรพรรดิและจอมจักรพรรดิ

โลกลี้ลับพังทลายลง องค์ชายยู่และจีสื่อต้องละทิ้งการต่อสู้กันในตอนนี้และกลับสู่เส้นทางของตน

แต่ผลของการเผชิญหน้าระหว่างทั้งสองในช่วงเวลาสั้นๆ นั้น ได้แพร่กระจายออกไปบนเส้นทางจักรพรรดิสําหรับทุกเผ่าพันธุ์ในเวลาอันสั้น

แม้ว่าจะเป็นเพียงการต่อสู้สั้นๆแต่ไม่มีความแตกต่างระหว่างความเป็นความตายไม่มีผู้ชนะหรือผู้แพ้ไม่สามารถพิสูจน์อะไรได้แต่ฉากของจีสื่อที่

โจมตีองค์ชายยู่จนเขาล่าถอย หรือแม้แต่ตอนที่เขาอาเจียนเป็นเลือดออกมา ก็ยังท่าให้ผู้ที่อยู่บนเส้นทางจักรพรรดิสําหรับทุกเผ่าพันธุ์ได้พากันกล่าวถึง

และนั่นยิ่งทําให้เผ่าพันธุ์มนุษย์นับไม่ถ้วนบนเส้นทางโบราณตื่นเต้นยิ่งขึ้นไปอีกและอดไม่ได้ที่จะได้แรงบันดาลใจ

บนเส้นทางจักรพรรดิสําหรับทุกเผ่าพันธุ์ มีผู้มากพรสวรรค์และทรราชผู้โหดเหี้ยมของเผ่าพันธุ์หมื่นเซียนมากเกินไปราชันผู้กําแหงของจักรวาลทั้งหมดจึงได้รวมตัวกันที่นี่เช่นเดียวกับพ่อแม่ และลูกๆของจอมจักรพรรดิโบราณอีกหลายคนได้พยายามอย่างหนักเพื่อต่อสู้บนเส้นทางจักรพรรดิสําหรับทุกเผ่าพันธุ์

สิ่งนี้สร้างแรงกดดันอย่างมากให้กับฝั่งของเผ่าพันธุ์มนุษย์อย่างไม่ต้องสงสัย

เผ่าพันธุ์มนุษย์มีจํานวนที่น้อยกว่ามาก แม้แต่ความสามารถก็ด้อยกว่าอยู่บ้างพวกเขาจะขับเคี่ยวกับเผ่าพันธุ์หมื่นเซียนได้อย่างไร?

หากการประลองครั้งสุดท้าย ฝ่ายเผ่าพันธุ์มนุษย์พ่ายแพ้

มันคงเป็นการยากที่จะจินตนาการได้ว่าในเวลานั้นเผ่าพันธุ์มนุษย์จํานวนมากในจักรวาลดวงดาวแห่งชีวิตโบราณจะได้รับผลกระทบอย่างหนักเพียงใด

และตอนนี้ จีสื่อได้ตัดศีรษะกึ่งจอมจักรพรรดิก่อน และจากนั้นก็สร้างแรงกดดันมหาศาลต่อองค์ชายยู่ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นการสร้างความสะเทือนใจอย่างมากต่อเผ่าพันธุ์หมื่นเซียนและ

เพิ่มขวัญกําลังใจให้กับเผ่าพันธุ์มนุษย์

“เส้นทางจักรพรรดิสิ้นสุดลงแล้ว ต่อไปก็ถึงเวลาสําหรับการขับเคี่ยวที่โหดร้ายยิ่งขึ้น”ฉินมู่กระซิบกับตัวเอง

ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเหนือเส้นทางจักรพรรดิสําหรับทุกเผ่าพันธุ์ เขาสามารถมองเห็นทุกอย่างได้ทุกมุมมอง

ในตอนนี้ ผู้นําที่แท้จริงของแต่ละเผ่าพันธุ์ได้ก้าวพ้นไปเหนือเส้นทางของตนเองไปแล้วต่อไปก็ถึงเวลาที่เผ่าพันธุ์ต่างๆ จะได้พบกันและตัดสินผู้ชนะคนต่อไป!

ก่อนหน้านี้ทุกเผ่าพันธุ์ต่างก็ก้าวไปบนเส้นทางของตนเองถึงแม้พวกเขาจะกลัวการขับเคี่ยวแต่มันก็ไม่ได้หมดหวังเกินไป

และตอนนี้ ภายใต้การควบคุมของฉินมู่เส้นทางจักรพรรดิสําหรับทุกเผ่าพันธุ์จะค่อยๆรวมเข้า

ด้วยกันเหมือนกับแม่น้ำหลายสายที่มาบรรจบกัน!

เมื่อถึงตอนนั้นยอดฝีมือจากทุกเผ่าพันธุ์จะค่อยๆ รวมตัวกัน ต่อสู้และตัดสินผู้ชนะที่แท้จริง!เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว

ในชั่วพริบตาก็ผ่านไปอีกสิบปี

ภายใต้การควบคุมของฉินมู่เส้นทางนับหมื่นได้มาบรรจบกันกลายเป็นเส้นทางที่ยากลําบากอีกสายหนึ่งและในที่สุดก็เหลือเพียงเส้นทางหลักเพียงสายเดียวซึ่งนําไปสู่สถานที่สุดท้ายของการทดสอบ

และในกระบวนการนี้ราชันผู้กําแหงและผู้มากพรสวรรค์นับไม่ถ้วนถูกกําจัด และราชันผู้กําแหงที่พบกันบนเส้นทางโบราณก็เริ่มการขับเคี่ยวที่น่าสลดใจที่สุด

เลือดและกระดูกของราชันผู้กําแหงนับไม่ถ้วนได้กองจนก่อตัวเป็นทางเดินที่นําไปสู่เส้นทางโบราณเส้นสุดท้ายที่สร้างชื่ออันรุ่งโรจน์และยอดเยี่ยมขับเคี่ยวกันอย่างต่อเนื่องเพื่อโอกาสสุดท้ายที่จะกลายเป็นจักรพรรดิ!

ในช่วงเวลานี้ ยอดฝีมือที่ไม่มีใครเทียบได้อย่างแท้จริงซึ่งได้ฝ่าฟันผ่านเส้นทางโบราเอาชนะราชันผู้กําแหงและยอดฝีมือของทุกฝ่ายและได้รับความเคารพจากทั้งสี่ฝ่ายทําให้การเปลี่ยนแปลงจากราชันผู้กําแหงของพิภพไปเป็นยอดฝีมือที่ไม่มีใครเทียบได้ในพิภพอย่างแท้จริง

ในอดีต ราชันผู้กําแหงของเขตแดนสวรรค์ชั้นแรกและเขตแดนสวรรค์ชั้นสองผู้ที่สามารถก้าวไปตามเส้นทางจักรพรรดิและไม่ล้มลงโดยทั่วไปจะได้รับผลประโยชน์อย่างมากและสิ่งที่ดีที่สุด

ของพวกเขาทั้งหมดคือได้รับการชําระล้างให้บริสุทธิ์

เช่นเดียวกับราชันผู้กําแหงที่ไม่มีใครเทียบได้กลายมาเป็นยอดฝีมือในบรรดาจักรพรรดิและพวกเขาได้ต่อสู้ด้วยพลังที่ไม่มีใครเทียบได้อย่างแท้จริง

ในหมู่พวกเขาเย่หลิงเสวี่ยและหยุนรั่วซีเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าตื่นตาที่สุดในกระบวนการเดินทางในเส้นทางจักรพรรดิอย่างไม่ต้องสงสัย และชื่อของพวกนางยังบดบังชื่อของลูกๆจอมจักรพรรดิหมื่นเซียนอีกด้วย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเย่หลิงเสวี่ย หลังจากที่เส้นทางจักรพรรดิสําหรับทุกเผ่าพันธุ์มาบรรจบกันนางได้แสดงให้ฝ่ายตรงข้ามได้เห็นถึงความสําเร็จอีกครั้งโดยขับเคี่ยวบนเส้นทางเปื้อนเลือด

โจมตีจนเหล่าราชันล้มลงและสังหารพวกเขาบนเส้นทางจักรพรรดิเปื้อนเลือดจนสําเร็จ

เย่หลิงเสวี่ย หยุนรั่วซี จีสื่อ องค์ชายยู่ ลูกชายจอมจักรพรรดิหยวน… กลุ่มราชันผู้กําแหงที่ไม่มีใครเทียบได้อย่างแท้จริงได้ต่อสู้นองเลือดจนถึงที่สุดก้าวผ่านเส้นทางทั้งหมดจนในที่สุดก็มาถึงจุดสิ้นสุดของเส้นทางโบราณพวกเขาได้ก้าวพ้นออกไปจากเส้นทางและได้ทิ้งความรุ่งโรจน์และตํานานของตัวเองเอาไว้บนเส้นทางโบราณทั้งหมดนั้น

และในที่สุด พวกเขาก็กระโดดขึ้นไปครั้งแล้วครั้งเล่าฝ่าฟันกระแสเชี่ยวหลีกเลี่ยงเส้นทางเล็กน้อยและด้วยการก้าวกระโดดอันสุดยอดในที่สุดพวกเขาก็มาถึงสถานที่สุดท้ายอย่างแท้จริง

สถานที่ซึ่งเส้นทางจักรพรรดิสําหรับทุกเผ่าพันธุ์มาบรรจบกัน!

จนถึงตอนนี้เส้นทางโบราณทั้งหมดของทุกเผ่าพันธุ์มาบรรจบกันเป็นหนึ่งเดียวและการขับเคี่ยวทั้งหมดก็ได้มาถึงจุดสิ้นสุดของเส้นทางจักรพรรดิสําหรับทุกเผ่าพันธุ์!

ท้องฟ้าที่เปี่ยมไปด้วยดวงดาว

เส้นทางจักรพรรดิสิบสายได้มารวมตัวกันที่นี่

ยอดฝีมือที่ไม่มีใครเทียบได้ก้าวออกจากเส้นทางโบราณและมาสู่สถานที่แห่งนี้ซึ่งถูกล้อมรอบไปด้วยปราณเลือดที่ไร้ที่สุดและจิตสังหารที่ได้รับการเคี่ยวกรําจากเลือดและกระดูกของยอดฝีมือนับไม่ถ้วน ซึ่งเพียงพอที่จะทําให้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในพิภพต้องสั่นไหวและหวาดกลัว”ในที่สุดก็มาถึงแล้วสินะระดับสุดท้ายจีสื่อแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์และคราครั้งนี้การต่อสู้ของข้ากับเจ้าจะถูกตัดสินเสียที!”

องค์ชายยู่พึมพํากับตัวเอง

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เขาไม่เคยหยุดค้นหาจีสื่อ

แต่ในจักรวาลอันกว้างใหญ่นั้นทั้งสองไม่เคยได้พบกันและเขาทําได้เพียงเก็บความคิดของการแก้แค้นไว้ในหัวใจของเขาในตอนนี้

และตอนนี้โอกาสได้มาถึงแล้ว เมื่อเส้นทางโบราณนับหมื่นได้มาบรรจบกัน และตามปกติจีสื่อก็จะต้องมาที่นี่

“สุดท้าย บนเส้นทางโบราณ ก็ได้มาถึงด่านอันยิ่งใหญ่!”

เมื่อยอดฝีมือทั้งหมดบนเส้นทางโบราณทั้งสิบสายมาถึง ดวงดาราบนท้องฟ้าก็สั่นสะเทือนและเส้นทางโบราณก็ปรากฏขึ้นซึ่งนําไปสู่สถานที่สุดท้าย

สุดเส้นทางโบราณมีด่านภูเขาที่ยิ่งใหญ่ปิดกั้นตลอดทางข้างหน้า

มันเป็นด่านภูเขาที่ยิ่งใหญ่ตั้งตระหง่านและสง่างามราวกับภูเขาศักดิ์สิทธิ์โบราณล้อมรอบด้วยกระแสพลังอันโกลาหล และเวลาก็ไม่สามารถลบร่องรอยของมันได้

และสิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นที่ดึงดูดความสนใจของทุกคนคือก่อนที่จะถึงด่านภูเขาที่ยิ่งใหญ่

ก็มีอนุสรณ์โบราณมากมายสามารถสัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่ตั้งอยู่ในกลุ่มหมอกเนบิวลา*(กลุ่มเมฆหมอกของฝุ่น แก๊ส ไม่รู้ว่าจะหาค่าแทนว่าอย่างไรดี)ราวกับเสาค้ำฟ้า

อยู่ด้านหน้าด่านภูเขาที่ยิ่งใหญ่โบราณนี้อยู่

อนุสรณ์ทุกชิ้นเป็นชิ้นส่วนของประวัติศาสตร์ทั้งหมดและมีความผันผวนของยุคสมัยหมุนเวียน

“นั่นเป็นของจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญ นางเคยทิ้งชื่อไว้ที่นี่!”

เย่หลิงเสวี่ยตกใจเป็นอย่างมาก นางเห็นว่าด้านบนของอนุสรณ์หยกอันหนึ่งมีตราประทับที่เปล่งประกายสลักอยู่บนนั้นนางยิ้มทั้งน้ำตาบนเส้นทางจักรพรรดินี้มีกระแสพลังของจอม

จักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญจารึกไว้บนนั้น

“จอมจักรพรรดิอู๋จื่อ เขาก็ทิ้งชื่อไว้ที่นี่ด้วย!”

หยุนรั่วซีก็ตกใจเช่นกัน ด้านบนอนุสรณ์โบราณอันหนึ่งนางเห็นร่างหนึ่งที่หันหลังให้กับสิ่งมีชีวิตทั้งหมดและเหนือศีรษะของเขามีระฆังโบราณที่เปี่ยมไปด้วยกระแสพลังอันโกลาหลกดทับอดีตและปัจจุบัน ส่องแสงผ่านยุคสมัย

“เป็นไปได้หรือไม่ เมื่อหลายล้านปีก่อน ผู้ที่มาถึงเส้นทางที่ถูกต้องทั้งหมดจะทิ้งร่องรอยของตนเองไว้ที่นี่?”

ทุกคนมองดูอนุสรณ์โบราณที่ตั้งอยู่ข้างหน้าทีละอัน และอดไม่ได้ที่จะกลั้นหายใจ

มีอนุสรณ์จํานวนมาก และมีร่องรอยของผู้ยิ่งใหญ่มากมาย

และแต่ละด้านของอนุสรณ์นั้น มีรอยประทับพิเศษที่ถูกจารึกไว้ ซึ่งแสดงถึงช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์และประวัติศาสตร์อันเลวร้ายคาดว่าน่าจะเป็นสิ่งที่เหลือทิ้งไว้จากการมีอยู่ของจอมยุทธ์

ก่อนที่จอมจักรพรรดิโบราณจะจากไป ร่องรอยของจอมจักรพรรดิและจอมจักรพรรดิสูงสุดได้ระดับสุดยอดเมื่อหลายล้านปีก่อน

ปรากฏขึ้นเมื่อหลายล้านปีก่อน!

มองไปที่อนุสรณ์หยกโบราณที่สง่างามและล้ำค่าฝูงชนก็อดไม่ได้ที่จะกลั้นหายใจ

นั่นเป็นประวัติศาสตร์ที่มีชีวิตมันเป็นช่วงเวลาแห่งความรุ่งโรจน์และรุ่งเรืองและตอนนี้ทั้งหมดก็ปรากฏต่อหน้าพวกเขา!

PS: เจอคําว่า กิริ(ตี้) จักรพรรดิกับ ≡ (หวง) จักรพรรดิ พร้อมกัน งงครับพี่น้องใครเจ๋งกว่ากัน

ครับนี่ ค้นในกูเกิล มีคนบอกว่าทั้งสองคําไม่มีระดับที่สูงต่ำกว่ากัน แต่ตี้มาทีหลังหวงดังนั้นก็จึงให้ตี้เป็นจอมจักรพรรดิสูงสุดก็แล้วกัน จะได้ดูต่างจากหวงหน่อย

PS2: คําว่า เนบิวล่า ฟังดูเป็นอังกฤษมากไม่เป็นนิยายจีนเลยแต่หาค่าแทนไม่ได้ใครรู้ค่าแทนเพราะๆอย่าลืมเหยาะไว้ในคอมเมนต์นะครับจะขอบคุณมาก

จอมบงการเทพยุทธ์

จอมบงการเทพยุทธ์

Status: Ongoing
ฉินมู่เดินทางเข้าสู่โลกแฟนตาซี และได้รับระบบจอมบงการ ซึ่งสามารถเปิด ดินแดนพิศวงหลากหลายและเปลี่ยนความคิดฝันในใจของเขาให้กลายเป็นความจริงในยุคนี้ ได้มีเผ่าพันธุ์มากมายนับพัน เผ่ามนุษย์นั้นอ่อนแอและไม่เคยได้มีผู้แข็งแกร่งถือกำเนิดขึ้นมาแม้แต่คนเดียวในประวัติศาสตร์ที่ถูกรังแกกดขี่ข่มเหงตามอำเภอใจเป็นเพราะว่าโลกอันกว้างใหญ่นี้ได้เปลี่ยนแปลงมาหลายร้อยชั่วอายุคน ทำให้ประวัติศาสตร์เมื่อหลายล้านปีก่อนได้ถูกลืมเลือนไปจากสิ่งมีชีวิตทั้งมวล ฉินมู่จึงได้กล่าวว่า ข้าจะสร้างประวัติศาสตร์ของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดขึ้นมาใหม่ และจะสร้างร้อนฝนหนาวอันรุ่งเรืองให้กับมนุษยชาติในประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยหมอกอันพร่าเลือน โดยมีฉินมู่คอยบงการอยู่ด้านหลัง จัดวางดินแดนพิศวงทีละดินแดน และเปิดเผยมุมมืดอันเร้นลับของพวกมันออกมาเมื่อตำนานของเผ่าพันธุ์ได้ก้าวผ่านยุคดึกดำบรรพ์มาสู่โลกนี้ จะมีใครบ้างไหมที่หาญกล้าพอที่จะออกมาต่อสู้กับทุกเผ่าพันธุ์ในโลกนี้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท