จอมบงการเทพยุทธ์ – บทที่ 273 สัมผัสของผู้กุมชะตา ของขวัญจากฉินมู่!

จอมบงการเทพยุทธ์ - บทที่ 273 สัมผัสของผู้กุมชะตา ของขวัญจากฉินมู่!

บทที่ 273 สัมผัสของผู้กุมชะตา ของขวัญจากฉินมู่!

ตราประทับโบราณแสดงสีแห่งความโกลาหล เปล่งประกายแสงที่วุ่นวาย

เซียนต้นกําเนิดไร้ขอบเขต เป็นชื่อของสุดยอดพลังเหนือธรรมชาติ ไม่ว่าจะ เป็น สติปัญญาที่ยิ่งใหญ่ ความมีมานะที่ยิ่งใหญ่ และความสมบูรณ์แบบที่ยิ่งใหญ่

ทันทีที่ตราประทับโบราณออกมา ก็มีสัมผัสของความเป็นนิรันดร์ที่ครอบคลุม ทุกอย่างในพิภพซึ่งไม่มีใครเทียบได้!

แม้จะเป็นเพียงภาพที่ห่างกันหลายร้อยล้านปี ก็มียอดฝีมือของแดนนิรันดร์ จํานวนมากที่เมื่อเห็นฉากนี้ก็รู้สึกว่าสั่นสะท้านไปทั้งตัว ราวกับจิตวิญญาณกําลังจะถูกแช่แข็ง!

“น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!”

ราชันเซียนนิรันดร์โบราณกล่าวเบาๆ และยื่นฝ่ามือของเขาออกมาปิดท้องฟ้าและดวงอาทิตย์

เมื่อตราประทับโบราณปรากฏขึ้นมาแล้วนั้น สถานที่ซึ่งภาพสะท้อนอยู่นั้นก็ กลายเป็นพื้นที่ที่สองดินแดนมาบรรจบกัน

ในตอนนี้เอง ที่เขาตระหนักได้ว่าการต่อสู้กันระหว่างสองสิ่งมีชีวิตที่มีเขตแดน ผู้กุมชะตานั้นน่ากลัวเพียงใด

คนที่ไม่แข็งแกร่งพอ ไม่สามารถแม้แต่จะทนดูได้!

แม้จะมีความแข็งแกร่งในเขตแดนราชันเซียนนิรันดร์อย่างเขา การได้เห็นการต่อสู้ระหว่างผู้กุมชะตาทั้งสอง จิตวิญญาณของเขาก็ตื่นตระหนกราวกับจะออก มาจากร่างกายได้ตลอดเวลา

สําหรับตัวตนของสิ่งมีชีวิตที่ไม่แข็งแกร่งเท่าเขา แม้ว่าพวกเขาจะเป็นเซียนนิรันดร์สูงสุดที่แท้จริง และแม้ว่านี่จะเป็นภาพโบราณเมื่อหลายร้อยล้านปีก่อนที่ ปรากฏขึ้น พวกเขาก็ไม่อาจต้านทานได้ และจิตวิญญาณของพวกเขาก็จะถูกท่าลาย!

ราชันเซียนนิรันดร์โบราณลงมือ ยอดฝีมือของแดนนิรันดร์อื่นๆ อีกหลายคน

ต่างก็โล่งใจ แต่สิ่งที่ทําให้ต้องตกตะลึงเพราะเหตุผลที่ซ่อนอยู่

ในตอนนี้ จิตวิญญาณของพวกเขาอดไม่ได้ที่จะจมจ่ออยู่ในนั้น ราวกับว่าพวก เขากําลังจะตกตายไปพร้อมกับตราประทับโบราณแห่งสวรรค์อันไร้ขอบเขตของ เซียนต้นกําเนิด มันช่างน่าสะพรึงกลัวถึงขีดสุดจนทําให้พวกเขาตกตะลึง

ในเวลาเดียวกัน ทุกคนก็รู้สึกกังวลอย่างช่วยไม่ได้

นี่คือพลังศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดจากจอมจักรพรรดิเซียนนิรันดร์ที่ถูกความมืดปกคลุมผู้ซึ่งเข้าใจหยดเลือดของเซียนต้นกําเนิด ที่มีความหมายของเซียนต้นกําเนิดไร้ขอบเขตซ่อนอยู่

เซียนต้นกําเนิดไร้ขอบเขต อยู่เหนือผู้กุมชะตา ทุกการเคลื่อนไหวและทุกการ โจมตีไร้ที่สิ้นสุด และคาดเดาได้ยาก

ตอนนี้ จอมจักรพรรดิเซียนนิรันดร์ที่ถูกความมืดปกคลุมได้ปล่อยพลังเหนือ ธรรมชาติของผู้กุมชะตานี้ พวกเขาจะทนสัมผัสจากพลังอันเลวร้ายนี้ได้หรือไม่?

“เจ้าและข้าร่วมมือกันเพื่อระงับสัมผัสที่ออกมาจากภาพโบราณนี้ บางทีเรา

อาจจะพอทนมองดูก็เป็นได้”

ราชันเซียนนิรันดร์โบราณกล่าวอย่างเคร่งขรึม

สัมผัสของผู้กุมชะตา ไหลผ่านฟ้าดินในมิติเวลาและพื้นที่

แม้ว่าจะเป็นเพียงการต่อสู้เมื่อหลายร้อยล้านปีก่อนแต่สัมผัสของมันยังคง

แทรกซึมมิติเวลาและพื้นที่นับล้านปี และปรากฏให้เห็นในพิภพปัจจุบันอย่างชัดเจน

มันเป็นสัมผัสพลังที่มาบรรจบกันในสถานที่ซึ่งไม่คุ้นเคย

หากสามารถปกปิดสัมผัสนี้ได้ ก็อาจทบทวนการต่อสู้ระหว่างทั้งสองได้อีกครั้้ง

เมื่อราชันเซียนนิรันดร์โบราณพูดจบ เขาพร้อมกับราชันดอกบัว ราชันเฉียน ได้ ปลดปล่อยพลังของราชันเซียนนิรันดร์อย่างเต็มที่ และปิดกั้นมันด้วยรากฐานของราชันเซียนนิรันดร์ ปิดกั้นสัมผัสของผู้กุมชะตาซึ่งหลุดออกมาจากภาพโบราณ

“พลังของผู้กุมชะตา ทรงอํานาจอย่างมาก!”

ราชันโบราณอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ

เขาร่วมมือกับราชันดอกบัว ราชันเฉียน เพื่อรวบรวมพลังของสามราชันเซียนนิ รันดร์ สัมผัสวิถีที่มหัศจรรย์ของผู้กุมชะตานี้สามารถเอาชนะพลังของราชัน โบราณได้!

นอกจากนี้ สัมผัสวิถีของผู้กุมชะตาเหล่านี้ยังคงเล็ดลอดออกมาจากภาพของทั้งสองผู้กุมชะตาที่ต่อสู้กันเองเมื่อหลายร้อยล้านปีก่อน แต่มันเทียบไม่ได้กับสัมผัสวิถีของผู้กุมชะตา ที่ผู้กุมชะตาตัวจริงปล่อยออกมา

หากสัมผัสของผู้กุมชะตาแข็งแกร่งมากขึ้นกว่านี้ ก็ยากที่จะต้านทาน!

“สัมผัสวิถีผู้กุมชะตา นี่เป็นโอกาสของเราแล้ว!” ราชันดอกบัวรู้สึกถึงกระแส พลังอันศักดิ์สิทธิ์ที่ยิ่งใหญ่และน่าสะพรึงกลัวอย่างถึงที่สุด กระแสพลังอันเป็นนิรันดร์ไร้ที่สิ้นสุดเล็ดลอดออกมาจากภาพโบราณ ก็อดไม่ได้ที่จะพูดออกไป

จอมจักรพรรดิเซียนนิรันดร์ที่ถูกความมืดปกคลุม สามารถสังเกตและตระหนัก ถึงหยดเลือดของเซียนต้นกําเนิดมากยิ่งขึ้น

ทําไมพวกเขาถึงไม่สามารถตระหนักถึงสัมผัสวิถีของผู้กุมชะตาได้ ต้องไปสู่เขตแดนที่สูงขึ้นกว่าราชันเซียนนิรันดร์อย่างนั้นหรือ?

หรือว่าความกว้างระหว่างเขตแดนผู้กุมชะตาและเขตแดนราชันเซียนนิรันดร์นั้นห่างไกลเกินกว่าจะเทียบได้

แม้ว่าจะเป็นเพียงสัมผัสวิถีของผู้กุมชะตา แต่ก็เพียงพอแล้วที่จะเป็น ประโยชน์ต่อราชันเฉียน ราชันดอกบัวและคนอื่นๆ อีกมากมาย!

เพราะสิ่งนี้เทียบเท่ากับการที่ทําให้พวกเขาได้เห็นเขตแดนที่เหนือกว่าราชันเซียนนิรันดร์ที่แท้จริง นี่เป็นประสบการณ์ที่ไม่สามารถอธิบายได้!

“ใช่ นี่คือความหมายที่แท้จริงของผู้กุมชะตา แม้ว่าจะเพียงเล็กน้อย แต่ก็เพียงพอที่จะทําให้เรื่องราวชัดเจนมากพอ!

ราชันเฉียนเห็นด้วย

เมื่อเทียบกับการตระหนักถึงสัมผัสวิถีของผู้กุมชะตานี้ การดูการต่อสู้ระหว่างผู้กุมชะตาทั้งสองนั้นจึงไม่สําคัญนัก

อย่างไรก็ตาม การต่อสู้ระหว่างผู้กุมชะตา ยังคงห่างไกลจากพวกเขามากเกินไป

แม้แต่การต่อสู้ของผู้กุมชะตาทั้งสอง พวกเขาก็ไม่มีสิทธิ์ได้เห็นทุกอย่าง

บางทีผู้กุมชะตาทั้งสอง อาจจะอยู่ในมิติเวลาและสถานที่ที่ไร้ที่สิ้นสุด ใน

สถานะช่วงเวลาที่มีความกดดันอย่างมากมาย

แต่ในสายตาของผู้คน ดูเหมือนราวกับว่าพวกเขากําลังต่อสู่ในพิภพหนึ่ง และไม่มีอะไรน่าประหลาดใจเกี่ยวกับพวกเขาแม้แต่น้อย

ไม่น่าแปลกใจเลยที่บอกว่าไม่สามารถเทียบได้กับผู้กุมชะตา และไม่มีคุณสมบัติที่จะได้เห็นการต่อสู้ทั้งหมดของทั้งคู่!

และนี่ก็นับว่าเป็นช่องว่างระหว่างผู้กุมชะตาและผู้ที่ได้มาภายหลังอย่าง

ชัดเจนที่สุด

ทําไมผู้ที่ได้มาภายหลังถึงถูกกําหนดให้ไม่สามารถเป็นศัตรูกับผู้กุมชะตาได้?

เพราะไม่สามารถแม้แต่จะเห็นว่าอีกฝ่ายโจมตีอย่างไร แม้ว่าจะตื่นตัวอย่างเต็มที่ก็ตาม!

ด้วยเหตุนี้ หากผู้กุมชะตาต้องการจัดการกับผู้ที่ได้มา ผู้ที่ได้มานั้นก็ไม่ สามารถหยุดเขาได้เลย และทําได้เพียงรอความตายเท่านั้น

ในระยะไกล สถานที่ซึ่งอยู่นอกสายตาของทุกคน

ฉินมู่ที่สวมชุดขาวยืนอยู่เงียบๆ มองไปที่ราชันเฉียน ราชันดอกบัว และราชันเซียนนิรันดร์โบราณ ทั้งสามคนดูเหมือนจะเข้าใจในบางอย่าง และไม่ได้ดูการต่อสู้ของผู้กุมชะตาอีกต่อไป

ฉินมู่อดไม่ได้ที่จะพยักหน้าเล็กน้อยสัมผัสวิถีของผู้กุมชะตานี้ เป็นการแสดงของเขา ถือได้ว่าเป็นของขวัญเพื่อเพิ่มพลังการต่อสู้สูงสุดในปัจจุบันของแดนนิรันดร์

ตอนนี้ดูเหมือนว่าราชันเซียนนิรันดร์โบราณนี้ไม่ได้โง่เขลา และไม่ได้ทําให้

ความตั้งใจดีของเขาสูญเปล่า!

จอมบงการเทพยุทธ์

จอมบงการเทพยุทธ์

Status: Ongoing
ฉินมู่เดินทางเข้าสู่โลกแฟนตาซี และได้รับระบบจอมบงการ ซึ่งสามารถเปิด ดินแดนพิศวงหลากหลายและเปลี่ยนความคิดฝันในใจของเขาให้กลายเป็นความจริงในยุคนี้ ได้มีเผ่าพันธุ์มากมายนับพัน เผ่ามนุษย์นั้นอ่อนแอและไม่เคยได้มีผู้แข็งแกร่งถือกำเนิดขึ้นมาแม้แต่คนเดียวในประวัติศาสตร์ที่ถูกรังแกกดขี่ข่มเหงตามอำเภอใจเป็นเพราะว่าโลกอันกว้างใหญ่นี้ได้เปลี่ยนแปลงมาหลายร้อยชั่วอายุคน ทำให้ประวัติศาสตร์เมื่อหลายล้านปีก่อนได้ถูกลืมเลือนไปจากสิ่งมีชีวิตทั้งมวล ฉินมู่จึงได้กล่าวว่า ข้าจะสร้างประวัติศาสตร์ของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดขึ้นมาใหม่ และจะสร้างร้อนฝนหนาวอันรุ่งเรืองให้กับมนุษยชาติในประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยหมอกอันพร่าเลือน โดยมีฉินมู่คอยบงการอยู่ด้านหลัง จัดวางดินแดนพิศวงทีละดินแดน และเปิดเผยมุมมืดอันเร้นลับของพวกมันออกมาเมื่อตำนานของเผ่าพันธุ์ได้ก้าวผ่านยุคดึกดำบรรพ์มาสู่โลกนี้ จะมีใครบ้างไหมที่หาญกล้าพอที่จะออกมาต่อสู้กับทุกเผ่าพันธุ์ในโลกนี้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท