ไป๋ชิงเหยียนอยู่ในชุดอ่าวฉวิน[1] สีเหลืองอ่อนปักด้วยลวดลายดอกไม้ ยิ่งขลับให้ผมดำสลวยมากขึ้นไปอีก ใบหน้างามสง่าสดใสไม่มีผู้ใดเทียบเทียม แผ่รัศมีความเป็นบุตรสาวคนโตได้อย่างสมเกียรติ
ปีนี้ต่งชิงเยว่ ท่านน้าชายรองของนางอายุสามสิบแปด เขาไม่ได้ดูสุขุมนุ่มลึกเหมือนกับต่งชิงผิง ท่านลุงใหญ่ของนาง ผิวของท่านน้าชายรองดำคล้ำ และมีใบหน้าที่น่าเกรงขาม ทั้งที่เป็นบุตรชายคนเล็กของตระกูลต่งแต่กลับดูน่าเกรงขามและหนักแน่นยิ่งกว่าท่านลุงใหญ่เสียอีก
เมื่อไป๋ชิงเหยียนมองเห็นต่งชิงเยว่ ดวงตาพลันแดงก่ำอย่างกลั้นไม่อยู่ ตอนนั้นท่านน้าชายรองถวายฎีการ้องทุกข์แทนตระกูลไป๋แต่กลับถูกกล่าวหาว่าสมคบคิดกับจวนเจิ้นกั๋วกง โดนถอดยศและถูกเนรเทศไปอยู่ชายแดน ท่านน้าชายรองถูกแผ่นไม้สวมไว้ที่คอ ล่ามโซ่ที่มือ ก่อนเดินทางจากไปได้ตะโกนออกมาว่า ขุนนางผู้ซื่อสัตย์โดนใส่ร้าย บุรุษผู้กล้าหาญมิหลงเหลือ! ข้ารอจะดูว่าแคว้นต้าจิ้นจะพินาศลงเช่นไร!
“ท่านย่า! ท่านแม่…” ไป๋ชิงเหยียนทำความเคารพองค์หญิงใหญ่และมารดาเสร็จจึงหันไปคำนับต่งชิงเยว่และภรรยาเป็นการใหญ่
ชุยซื่อผู้เป็นน้าสะใภ้รองรีบลุกขึ้นไปพยุงหลานสาวให้ลุกขึ้น “อาเป่าเจ้าทำสิ่งใดกัน”
หญิงสาวกุมมือของชุยซื่อเอาไว้ ประคองให้นางนั่งลง “ไม่เจอกันหลายปี ท่านยายสบายดีหรือไม่เจ้าคะ ท่านน้าชาย ท่านน้าสะใภ้สบายดีหรือไม่เจ้าคะ”
ต่งชิงเยว่วางถ้วยชาในมือลง ยิ้มกว้างจนมุมปากมีฟันเขี้ยวโผล่ออกมาเล็กน้อย ทำให้ลดความน่าเกรงขามลง ดูอบอุ่นมากยิ่งขึ้น “สบายดี! ท่านยายของเจ้าคิดถึงเจ้ามาก พริบตาเดียวก็ผ่านไปสามปีแล้ว อาเป่าเจ้าโตขึ้นมาก”
วันนี้ต่งชิงเยว่และชุยซื่อมาตระกูลไป๋เพราะได้รับคำสั่งจากต่งเหล่าไท่จวินให้มาสู่ขอไป๋ชิงเหยียน
ตอนแรกชุยซื่อไม่ยินยอม ต่อให้นางจะชอบไป๋ชิงเหยียนมากแค่ไหน แต่ลูกสะใภ้อายุมากกว่าบุตรชายของนางถึงสามปี อีกทั้งยังมีบุตรยากอีกต่างหาก แต่งเข้าจวนไปนางจะทำอย่างไร
ตอนที่อยู่เติงโจว ชุยซื่อร้องไห้ก็แล้วอาละวาดก็แล้ว แต่ต่งเหล่าไท่จวินกับสามีของนางกลับบอกว่าเพราะไป๋ชิงเหยียนมีบุตรยาก ยากจะมีทายาทให้แก่ตระกูลสามี มีแต่แต่งเข้าตระกูลของตัวเองจึงจะไม่โดนแม่สามีรังแก ถึงตอนนั้นให้ฉางหยวนมีอนุอีกสักคน หากมีบุตรก็ยกให้เป็นบุตรของไป๋ชิงเหยียน เช่นนี้ไป๋ชิงเหยียนก็จะไม่โดนตระกูลของสามีรังแก แก่ชราไปก็ยังมีบุตร ต่งฉางหยวนเองก็ยังมีทายาทสืบต่อ
ต่อให้เป็นเช่นนั้น แต่เด็กที่เกิดมาก็เป็นเพียงแค่บุตรของอนุ ตระกูลสูงศักดิ์ต่างก็อยากได้บุตรที่เกิดจากภรรยาหลวงทั้งนั้น ทว่า แม้ชุยซื่อจะไม่เต็มใจแต่ต่งเหล่าไท่จวินและสามีตัดสินใจแล้ว นางจึงทำอะไรไม่ได้ วันนี้จึงต้องมาแต่โดยดี
ชุยซื่อยิ้มพลางตบไปที่มือของไป๋ชิงเหยียนเบาๆ แววตาเต็มไปด้วยความขมขื่น ทุกข์ทรมานใจมากจริงๆ
เมื่อต่งซื่อได้ยินเรื่องนี้ย่อมดีใจมาก แม้ว่าการที่ไป๋ชิงเหยียนแต่งเข้าตระกูลแม่ของนางจะเป็นการลดฐานะ แต่ต่งซื่อจะได้ไม่ต้องกังวลว่าบุตรสาวจะถูกตระกูลแม่สามีรังแก ไป๋ชิงเหยียนมีท่านยายคอยคุ้มครอง มีท่านน้าชายคอยให้ความเอ็นดู แค่ต้องยอมให้ต่งฉางหยวนมีอนุอีกคนเพื่อสืบทอดทายาทเท่านั้น ต่อให้ไป๋ชิงเหยียนไม่มีปัญหาเรื่องการมีบุตรยาก นี่ก็ถือเป็นการแต่งงานที่ดี เป็นวาสนาที่ไม่ใช่จะหากันได้ง่ายๆ
“วันนี้ท่านยายของเจ้าให้ข้ากับท่านน้าสะใภ้ของเจ้ามาคาราวะองค์หญิงใหญ่ ที่สำคัญก็คือท่านยายคิดถึงเจ้ามากแต่เดินทางกันมาไกล วันนี้ท่านมาไม่ไหวจึงให้ข้ามารับเจ้ากับแม่ไปที่จวนของท่านลุงใหญ่ของเจ้า” ต่งชิงเยว่กล่าวยิ้มๆ
ก่อนไป๋ชิงเหยียนจะมาถึง สองสามีภรรยาตระกูลต่งได้บอกถึงความประสงค์เรื่องการแต่งงานกับองค์หญิงใหญ่แล้ว ที่มารับไป๋ชิงเหยียนในวันนี้ก็เพื่ออยากให้นางได้เจอกับต่งฉางหยวน ดูว่าไป๋ชิงเหยียนจะเต็มใจหรือไม่
ขอแค่ไป๋ชิงเหยียนตกลง ต่งเหล่าไท่จวินจะขอให้ฮูหยินโซ่วซานปั๋ว แม่ยายของต่งชิงผิง บุตรชายคนโตของนางเป็นแม่สื่อมาสู่ขอไป๋ชิงเหยียนที่จวนเจิ้นกั๋วกง
เรื่องนี้ทั้งสองตระกูลล้วนรับรู้กันดีแล้วเพียงแค่ปิดบังไป๋ชิงเหยียนไว้เท่านั้น องค์หญิงใหญ่เห็นว่าต่งซื่อผู้เป็นลูกสะใภ้ดีใจมาก นางจึงพยักหน้าอนุญาตเพียงแต่กำชับให้ไป๋ชิงเหยียนรีบไปรีบกลับ จากนั้นก็สั่งให้เจี่ยงหมัวมัวไปนำยาบำรุงอย่างดีมาจากคลังเก็บของเพื่อให้ไป๋ชิงเหยียนนำไปให้ต่งเหล่าไท่จวิน
“ลูกสะใภ้ใหญ่ เจ้าก็ไม่ได้เจอหน้าต่งเหล่าไท่จวินมาหลายปีแล้ว เจ้าไปกับอาเป่าเถิด” องค์หญิงใหญ่หันไปกล่าวกับต่งซื่อยิ้มๆ
ต่งซื่อข่มความดีใจเอาไว้ คิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ยขึ้น “แต่…วันนี้ต้องคัดเลือกบ่าวส่งไปให้จวนของลูกเขยรอง ข้านัดหมายกับพ่อค้าทาสไว้แล้ว เขาจะส่งคนมาตอนยามซื่อ[2] เจ้าค่ะ”
“ให้ลูกสะใภ้สองเลือกเองเถิด หากเจ้าไม่วางใจก็ให้ฉินหมัวมัวอยู่ช่วยลูกสะใภ้สองเลือกก็ได้” องค์หญิงใหญ่สั่ง
ต่งซื่อลุกขึ้นกล่าวขอบคุณ มีความสุขยิ่งกว่าเดิม
บนรถม้า ชุยซื่อใช้ผ้าเช็ดหน้าปาดน้ำตาบริเวณหางตาทิ้งอย่างกลั้นไม่อยู่ ต่งชิงเยว่กุมมือภรรยาพลางปลอบ “เจ้าก็เห็นแล้วนี่ อาเป่างามขึ้นกว่าเดิม กิริยามารยาทก็ดี นิสัยก็ดี นอกจากเรื่องมีลูกยากแล้ว…ไม่ว่าจะเป็นชาติตระกูลหรือนิสัยใจคอ ฉางหยวนของเราต่างหากที่ไม่คู่ควรกับอาเป่า!”
ชุยซื่อจ้องต่งชิงเยว่เขม็ง “หลานสาวของท่านดีที่สุดอยู่แล้วเจ้าค่ะ! ท่านอย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าท่านต้องการช่วยแก้ปัญหาให้พี่สาวของท่าน ทำเพื่อตอบแทนบุญคุณที่นางทำให้ท่านมีวันนี้! ลูกหยวนเกอที่น่าสงสารของข้า…”
เมื่อเห็นว่าชุยซื่อเริ่มร้องไห้อีกครั้ง ต่งชิงเยว่หน้าขรึมในทันที “เรื่องนี้เจ้ายินยอมฉางหยวนก็ต้องแต่ง! ไม่ยินยอมเขาก็ต้องแต่ง! ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง! เจ้าอย่าได้เอ่ยถึงเรื่องนี้อีก เช็ดน้ำตาเสีย มิเช่นนั้นหากท่านแม่รู้เข้าเจ้าจะโดนทำโทษ!”
เมื่อเห็นสามีสีหน้าเคร่งเครียด ชุยซื่อกัดปากแน่น น้ำตาไหลมากกว่าเดิม
บนรถม้าสี่ล้อสีน้ำเงิน หลังคาสีดำ ต่งซื่อเล่าความต้องการของต่งเหล่าไท่จวินให้ไป๋ชิงเหยียนฟัง
“พอท่านยายของเจ้ารู้ว่าเจ้าได้รับบาดเจ็บ ท่านก็มักจะนอนไม่ค่อยหลับ! ไตร่ตรองดูแล้วก็มีแค่แต่งเจ้าเข้าตระกูลตัวเองจึงจะไม่ต้องกังวลว่าเจ้าจะถูกตระกูลสามีรังแก! เมื่อครู่ท่านน้าชายรองของเจ้าเล่าว่าหลายปีมานี้หยวนเกอไม่มีแม้แต่เมียบ่าวสักคน! แม้หยวนเกอจะเด็กกว่าเจ้าสามปี แต่เด็กนั่นเป็นคนสุขุมหนักแน่น แถมเป็นคนใฝ่เรียน ไม่มีอะไรดีไปกว่านี้แล้ว!”
ต่งซื่อจับมือของไป๋ชิงเหยียนพลางเล่าให้บุตรสาวฟังด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ตาเริ่มแดงขึ้น “เจ้าได้เป็นฝั่งเป็นฝา แม่จะได้นอนตายตาหลับเสียที”
ไป๋ชิงเหยียนเพิ่งเข้าใจว่าเหตุใดตอนอยู่ที่เรือนขององค์หญิงใหญ่ แม้ชุยชื่อจะมองมาที่นางยิ้มๆ แต่แววตากลับมีแต่ความขมขื่น
หญิงสาวกุมมือของต่งซื่อเอาไว้ มีเรื่องมากมายเก็บกดอยู่ในใจแต่ก็ไม่รู้จะเริ่มเอ่ยพูดอย่างไรดี “ท่านแม่ หยวนเกอเป็นลูกแท้ๆ ของท่านน้าสะใภ้รอง นางเต็มใจให้ลูกชายของนางแต่งงานกับภรรยาที่มีบุตรยากจริงๆ หรือเจ้าคะ”
“หยวนเกอเป็นลูกคนรองไม่ใช่ลูกชายคนโต แต่ไหนแต่ไรมาท่านน้าสะใภ้รองก็เอ็นดูเจ้ามากอยู่แล้ว คง…ไม่ถือสาหรอกกระมัง?” ต่งซื่อก็ไม่แน่ใจเช่นกัน
ชุนเหยียนที่เดินตามรถม้าอยู่ด้านข้าง เงี่ยหูลอบฟัง เมื่อได้ยินคำกล่าวของต่งซื่อ ใบหน้าก็ซีดเผือดในทันที ขาอ่อนแรงจนเดินตามรถม้าไม่ทัน
“ชุนเหยียน! ทำอะไรอยู่ รีบตามมาสิ!” ชุนเถาขมวดคิ้วตวาดออกมา
ชุนเหยียนถึงก้าวเดินตาม นางมีเรื่องต้องคิด ขาหนักอึ้งจนเดินตามชุนเถาไม่ทัน ได้แต่วิ่งตามอยู่ท้ายขบวน
หากคุณหนูใหญ่แต่งงานกับบุตรชายคนรองของท่านน้าชายรอง แล้วเหลียงอ๋องจะทำเช่นไร นางควรทำอย่างไรดี นางกลัวว่าชาตินี้จะไม่ได้พบหน้าบุรุษผู้สูงศักดิ์อย่างเหลียงอ๋องอีก
เมื่อคิดได้เช่นนี้ ขอบตาของชุนเหยียนแดงก่ำ ในใจเริ่มคิดหาทางรายงานเรื่องนี้ให้เหลียงอ๋องทราบโดยเร็วที่สุด
[1] อ่าวฉวิน เครื่องแต่งกายจีน เสื้อท่อนบนเรียกว่าเสื้ออ่าวสวมทับกับกระโปรงประเภทจับจีบ ตัดเย็บด้วยผ้ามันวาว สวมโดยการพันรอบเอว
[2] ยามซื่อ เวลาตั้งแต่ 09.00-11.00 น