กล่าวจบ ชุนเหยียนรีบวิ่งออกไปจากเรือนชิงฮุย อิ๋นซวงที่กำลังนั่งกินลูกอมถั่วอยู่ในห้อง เมื่อเห็นชุนเหยียนออกไปก็กอดลูกอมถั่วไว้ในอ้อมแขนแล้วรีบตามออกไป
หญิงชราที่เฝ้าประตูเห็นชุนเหยียนเดินออกมาจึงรีบถลาเข้าไปหาอย่างประจบประแจง “แม่นางชุนเหยียน!”
ชุนเหยียนรั้งแขนหญิงชราเฝ้าประตูให้เดินตามไปยังที่ลับตาคน กวาดสายตามองไปรอบกาย เมื่อไม่เห็นผู้ใดจึงเอ่ยขึ้น “เหลียงอ๋องมีสิ่งใดกำชับมาเช่นนั้นหรือ”
“ท่านถงกล่าวว่าองค์ชายเสด็จมาด้วยพระองค์เอง รถม้าจอดรออยู่ที่ด้านข้างประตูหลังจวน องค์ชายอยากพบหน้าคุณหนูใหญ่สักครั้ง รบกวนแม่นางชุนเหยียนช่วยไปบอกคุณหนูใหญ่ด้วยว่าท่านอยากพบคุณหนูใหญ่…” หญิงชราเฝ้าประตูกล่าวขึ้น
ชุนเหยียนใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ตื่นเต้นจนใบหน้าร้อนผ่าว “องค์ชายเจ็บหนักมิใช่หรือ เหตุใดถึงเสด็จมาด้วยพระองค์เองเล่า หากโดนลมหนาวจนประชวรอีกรอบจะทำอย่างไร!”
“แสดงว่าเหลียงอ๋องจริงใจต่อคุณหนูใหญ่เช่นไรเล่า แม่นางรีบไปรายงานคุณหนูใหญ่ให้คุณหนูรีบไปพบท่านเถิด อากาศหนาวเย็นเช่นนี้ หากพระองค์ทรงเป็นอันใดขึ้นมา พวกเรารับผิดชอบไม่ไหวหรอก!” หญิงชราเฝ้าประตูกล่าวขึ้น
“ข้ารู้แล้ว!” ใจของชุนเหยียนอยู่ที่เหลียงอ๋องหมดแล้วจึงอดรู้สึกตำหนิไป๋ชิงเหยียนไม่ได้ เพราะคุณหนูใหญ่สั่งให้นางนำป้ายหยกที่เหลียงอ๋องมอบให้คุณหนูไปคืน เหลียงอ๋องถึงร้อนพระทัยรีบมาที่นี่ทั้งที่ยังบาดเจ็บอยู่ หากพระองค์ทรงเป็นอะไรขึ้นมา ต่อให้คุณหนูใหญ่ของนางตายไปสักหมื่นครั้งก็ยังชดใช้ไม่หมด
ชุนเหยียนทั้งโมโหทั้งหงุดหงิดเกือบฉีกผ้าเช็ดหน้าในมือจนขาดวิ่น นางหมุนกายวิ่งกลับไปที่เรือนอย่างรวดเร็ว
พอชุนเหยียนวิ่งกลับไป อิ๋นซวงก็กระโดดลงมาจากกำแพงทำเอาหญิงชราตกใจแทบสะดุ้ง หญิงชราใช้มือลูบหน้าอกตัวเอง ตวัดสายตามองไปยังอิ๋นซวงแวบหนึ่ง ขณะเดินจากไปก็โดนอิ๋นซวงชกไปหนึ่งหมัดจนสลบไป
อิ๋นซวงมองดูหญิงชราที่นอนสลบอยู่ตรงปลายเท้า จับนางแบกขึ้นบ่าแล้วเดินกลับไปยังเรือนชิงฮุย
“คุณหนูใหญ่! คุณหนูใหญ่เจ้าคะ!” ชุนเหยียนเดินเข้ามาในห้องอย่างรีบร้อน เดินผ่านแผงกั้นก็เห็นว่าไป๋ชิงเหยียนซึ่งผูกกระสอบทรายไว้ที่แขนทั้งสองข้างกำลังเขียนอักษรพู่กันอยู่ นางรีบคุกเข่าลงบนพื้น “คุณหนูใหญ่ บ่าวรู้ว่าคุณหนูใหญ่ไม่ชอบให้บ่าวเอ่ยถึงเหลียงอ๋อง แต่เมื่อวานคุณหนูใหญ่สั่งให้บ่าวนำป้ายหยกไปคืน วันนี้เหลียงอ๋องจึงเสด็จมาที่จวนด้วยพระองค์เองเลยเจ้าค่ะ องค์ชายทรงได้รับบาดเจ็บหนักจนแทบเอาชีวิตไม่รอดขนาดนั้น แต่พระองค์เสด็จมาที่จวนเจิ้นกั๋วกงเพื่อคุณหนูเลยนะเจ้าคะ คุณหนู…บ่าวขอร้องคุณหนูนะเจ้าคะ เหลียงอ๋องจริงใจต่อคุณหนูจริงๆ คุณหนูไปพบพระองค์สักหน่อยเถิดเจ้าค่ะ!”
ชุนเหยียนโขกศีรษะกับพื้นหลายครั้ง น้ำตาอาบใบหน้าช่างดูจริงใจยิ่งนัก ชาติที่แล้วกับชาตินี้รวมกัน ไป๋ชิงเหยียนยังไม่เคยเห็นชุนเหยียนจริงใจต่อนางเช่นนี้มาก่อนเลย นอกจากความโกรธแล้ว ที่มากไปกว่านั้นคือความรู้สึกเศร้าและหนาวเหน็บในใจ
ด้านนอก ชุนเถาที่เตรียมแหวกม่านเดินเข้าไปในห้องเห็นอิ๋นซวงแบกหญิงชราคนหนึ่งเดินเข้า แวบแรกคือตกใจ ต่อมาจึงตั้งสติได้ว่านี่คงเป็นบ่าวที่ลอบส่งสารของเหลียงอ๋องให้ชุนเหยียนแล้วโดนอิ๋นซวงจับกลับมาได้
อิ๋นซวงทิ้งหญิงชราที่สลบเหมือดลงบนพื้น จากนั้นยื่นมือขอลูกอมจากชุนเถาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “จับมาได้อีกคนแล้ว! พี่ชุนเถา ลูกอม…”
ใจของชุนเถาเต็มไปด้วยความละอาย นึกถึงวันที่นางขอร้องคุณหนูใหญ่ให้ไว้ชีวิตคนไร้ค่าอย่างชุนเหยียน จู่ๆ นางก็รู้สึกละอายใจยิ่งนัก
หญิงสาวไม่แสดงสีหน้าใดๆ ยกมือจิ้มไปที่หน้าผากของอิ๋นซวงหนึ่งที “เจ้านี่มันตะกละจริงๆ รออยู่ที่นี่ก่อน!”
ชุนเถาแหวกม่านเดินเข้าไปในห้อง มองไปทางชุนเหยียนซึ่งคุกเข่าก้มศีรษะแนบพื้นแวบหนึ่ง จากนั้นรีบเดินไปหาไป๋ชิงเหยียนใช้มือป้องปากกระซิบข้างหูของหญิงสาวด้วยเสียงแผ่วเบา “คุณหนูใหญ่ อิ๋นซวงชกหญิงชราเฝ้าประตูจนสลบแล้วแบกมาที่เรือนอีกคนแล้วเจ้าค่ะ!”
ชุนเหยียนไม่รู้ว่าชุนเถาเอ่ยสิ่งใดกับคุณหนูใหญ่ ได้แต่ทำตาปริบๆ มองไปที่ไป๋ชิงเหยียน หวังว่าหญิงสาวจะไปพบเหลียงอ๋องสักครั้ง “คุณหนูใหญ่…”
ไป๋ชิงเหยียนไม่มองชุนเหยียนที่เอาแต่ร้องไห้แม้แต่น้อย เขียนอักษรตัวสุดท้ายเสร็จจึงวางพู่กันลง “จับได้พอดีเลย วันนี้ข้าจะถือโอกาส…สะสางบ่าวในจวนเจิ้นกั๋วกงเลยแล้วกัน ชุนเถา เจ้าสั่งให้ชุนซิ่งไปบอกท่านแม่ข้าที่เรือนว่าให้ฉินหมัวมัวไปเรียกพ่อบ้านเหามา จากนั้นสั่งให้ผู้ดูแลและบ่าวรับใช้ที่ไม่ได้อยู่ในเวรทำงานทุกคนไปรวมตัวกันที่ลานด้านหน้าด้วย”
ชุนเถาย่อกายรับคำ จากนั้นรีบเดินออกไปสั่งการกับชุนซิ่ง
ไม่นาน ชุนเถาเดินถือกะละมังทองแดงเข้ามา บิดผ้าขนหนูให้ไป๋ชิงเหยียนพลางเอ่ยถาม “คุณหนูใหญ่ บ่าวสั่งให้อิ๋นซวงแบกหญิงชราคนนั้นไปที่เรือนฮูหยินซื่อจื่อกับชุนซิ่งแล้วเจ้าค่ะ คุณหนูจะไปหรือไม่เจ้าคะ”
หญิงสาวพยักหน้า “ต้องไปอยู่แล้ว”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ชุนเหยียนรีบคลานเข่าไปหาไป๋ชิงเหยียน ร้องไห้อ้อนวอน “คุณหนูใหญ่ ถือว่าบ่าวขอร้องคุณหนูนะเจ้าคะ! สะสางบ่าวอะไรนั่นทำเมื่อใดก็ได้ เรื่องไปพบเหลียงอ๋องสำคัญกว่านะเจ้าคะ!”
“ชุนเหยียน! เจ้า…” ชุนเถาตะลึง นางนึกว่าชุนเหยียนคุกเข่าเพราะสำนึกผิด นึกไม่ถึงเลยว่านางทำไปเพื่อขอร้องให้คุณหนูใหญ่ไปพบเหลียงอ๋อง
เมื่อเห็นว่าไป๋ชิงเหยียนไม่สนใจ ถอดกระสอบทรายออกจากแขนอย่างไม่รีบร้อน บิดสะบัดข้อมือที่เพิ่งเขียนอักษรเสร็จ ชุนเหยียนร้อนใจดั่งไฟสุม หยัดกายขึ้นจ้องไปที่ไป๋ชิงเหยียนอย่างโกรธแค้นและตำหนิ กล่าวขึ้นเสียงสูง “คุณหนูใหญ่! อากาศหนาวเย็นเช่นนี้ เหลียงอ๋องยังคอยอยู่ที่ประตูหลังจวนเจิ้นกั๋วกง หากทรงเป็นอันใดขึ้นมาคุณหนูรับผิดชอบไหวหรือเจ้าคะ”
คำว่า รับผิดชอบ ที่ออกมาจากปากของชุนเหยียนทำให้ไป๋ชิงเหยียนโมโหเป็นอย่างมาก สายตาคมกริบดังใบมีดจ้องเขม็งไปยังชุนเหยียน ไอสังหารที่ได้มาจากการออกรบนองเลือดแผ่ออกมาทำให้ชุนเหยียนเย็นวาบ ขนลุกซู่ไปทั้งร่าง
“รับผิดชอบ?!” ไป๋ชิงเหยียนเขวี้ยงผ้าขนหนูที่ชุนเถาส่งให้ลงบนโต๊ะหนังสือ เดือดถึงขีดสุด
“ชุนเหยียนเจ้าถูกผีสิงหรืออย่างไร! ปีศาจตนไหนครอบงำจิตใจเจ้าอยู่กันแน่! คุณหนูใหญ่ให้คนไปลากเหลียงอ๋องมารออยู่ที่ประตูหลังจวนเจิ้นกั๋วกงท่ามกลางหิมะหรืออย่างไรกัน! คุณหนูใหญ่เป็นสตรีตระกูลสูงศักดิ์ที่ยังมิได้ออกเรือน ผู้ใดมารอพบคุณหนูที่ประตูหลังจวน คุณหนูต้องพบทุกคนหรืออย่างไร! นี่มันกฎของตระกูลไหนกัน ระเบียบกฎเกณฑ์ที่ถงหมัวมัวเคยสอนเจ้า เจ้าลืมไปหมดแล้วหรืออย่างไร!”
“มันจะเหมือนกันได้อย่างไร! นั่นคือเหลียงอ๋อง!” ชุนเหยียนยืดคอตรงเถียงชุนเถาคอเป็นเอ็น เมื่อคิดว่าเหลียงอ๋องได้รับบาดเจ็บอยู่ก็ปวดใจเป็นที่สุด
ไป๋ชิงเหยียนผิดหวังในตัวชุนเหยียนอย่างที่สุด นางข่มโทสะในใจเอาไว้ “เป็นบ่าวของจวนเจิ้นกั๋วกงแต่กลับเป็นห่วงเรื่องในตำหนักเหลียงอ๋อง! ชุนเหยียน…ลำบากเจ้าแล้ว! วันนี้ข้าจะสะสางบ่าวในจวนเจิ้นกั๋วกง เจ้าไปขอความเมตตาจากเหลียงอ๋องก็แล้วกัน!”
“บ่าวมิได้หมายความเช่นนั้นนะเจ้าคะ!” ชุนเหยียนรีบก้มศีรษะแนบพื้น “บ่าว…บ่าวแค่เป็นห่วงพระวรกายของเหลียงอ๋อง! คุณหนูโปรดเมตตาด้วยเจ้าค่ะ! บ่าวติดตามคุณหนูมาตั้งแต่เด็ก บ่าวจะติดตามคุณหนูไปทุกชาติภพเจ้าค่ะ!”
ไป๋ชิงเหยียนยิ้มเย็น “ติดตามทุกชาติภพอย่างนั้นหรือ เจ้ากล้าตามแต่ข้ามิกล้ารับหรอก…บ่าวที่บังอาจยุ่งเรื่องการแต่งงานของนาย บีบบังคับให้นายไปเจอบุรุษคนอื่นเช่นเจ้า ข้ารับไม่ไหวหรอก!”
“คุณหนู! คุณหนู! ชุนเหยียนผิดไปแล้วเจ้าค่ะ!” ถึงตอนนี้ชุนเหยียนจึงร้องไห้ออกมาอย่างหวาดกลัว อ้อนวอนด้วยความกระวนกระวาย
“ยามปกติคุณหนูใหญ่เมตตาเพราะเห็นว่าเจ้ายังเด็กอยู่ แต่เจ้ากลับเหิมเกริมจนไม่รู้ที่ต่ำที่สูง พยายามทำให้ชื่อเสียงของคุณหนูแปดเปื้อนเพราะบุรุษไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ตอนนี้ยังกล้าบังคับให้คุณหนูไปพบเหลียงอ๋องอีก…เจ้ากำลังทำร้ายคุณหนูอยู่ ชุนเหยียน!” ชุนเถาโมโหจนร้องไห้ออกมา โกรธจนแทบอยากจะฟาดมือลงบนใบหน้าของชุนเหยียนสักฉาดสองฉาดเพื่อเรียกสติคนโง่อย่างนาง