ตอนที่ 189 กลับบ้าน
“ท่านปู่! หลานผิดไปแล้วขอรับ! ท่านปู่อย่าโกรธหลานเลยนะขอรับ!”
หลานชายของอวิ๋นพั่วสิงร้องไห้หนักขึ้นเรื่อยๆ ทำเอาอวิ๋นพั่วสิงยิ่งโมโห
เมื่ออวิ๋นพั่วสิงถูกทหารร่างบึกบึนสองคนแบกออกมาด้านนอกก็มองเห็นไป๋ชิงเหยียนขี่ม้าเร็วพุ่งตรงมายังกระโจมแม่ทัพใหญ่ในทันที!
อวิ๋นพั่วสิงเบิกตาโพลง เสี่ยวไป๋ไซว่แห่งกองทัพไป๋?!
นางให้เวลาเขาสามปีไม่ใช่หรือ เหตุใดจึงบุกมาที่ค่ายทหารซีเหลียงของเขาเช่นนี้!
เซียวรั่วเจียงคุ้มกันอยู่ข้างกายไป๋ชิงเหยียนที่กำลังง้างธนูเล็งยิงอยู่ ชายหนุ่มสังหารทหารซีเหลียงที่พุ่งเข้ามารอบด้านอย่างฮึกเหิม
ไป๋ชิงเหยียนเล็งไปยังเชือกที่มัดศีรษะของท่านบิดาเอาไว้ ปล่อยลูกธนู…
ลูกธนูปักลงบนแผ่นไม้แล้วหยุดนิ่งไม่มีการสั่นไหวใดๆ
เมื่อเห็นว่าศีรษะของบิดากำลังจะร่วงจากอากาศสู่พื้นดิน หญิงสาวกุมบังเหียนแน่น ม้าศึกกระโดดข้ามทหารซีเหลียงที่รายล้อมอยู่มุ่งตรงไปด้านหน้า หญิงสาวรับศีรษะของบิดามากอดแน่นไว้ในอ้อมกอด น้ำตาไหลพรากไม่ขาดสาย
“ท่านพ่อ อาเป่ามาช้าไปเจ้าค่ะ!” หญิงสาวกัดฟันแน่น “อาเป่าจะพาท่านพ่อกลับบ้านนะเจ้าคะ!”
ไป๋ชิงเหยียนกลั้นน้ำตาแห่งความโศกเศร้าเอาไว้ กัดฟันแน่น มือข้างหนึ่งบังคับบังเหียนม้าให้หันหลังกลับ ถอดเสื้อคลุมห่อศีรษะของบิดาเอาไว้อย่างรวดเร็วแล้วสะพายไว้ด้านหลัง มือหนึ่งหยิบลูกธนูออกมา เล็งไปยังทหารที่กำลังชูหอกเตรียมแทงไปที่เซียวรั่วเจียง ลูกธนูแทงทะลุขมับของทหารซีเหยียงผู้นั้น เลือดสดไหลทะลักออกมาจนทหารซีเหลียงที่ล้อมอยู่รอบกายเซียวรั่วเจียงต้องถอยหลังหนีไปสองสามก้าว
วันนี้แม่ทัพใหญ่อวิ๋นพั่วสิงนำทัพทหารเกือบแสนไปออกรบ หุบเขาเวิ่งเต็มไปด้วยเพลิงสีแดง อวิ๋นพั่วสิงและทหารเพียงไม่กี่คนกลับมาที่ค่ายทหารด้วยสภาพสะบักสะบอม ไม่ต้องมีคำอธิบายใดๆ ก็เดาได้ว่ามันเกิดสิ่งใดขึ้น กองทัพห้าหมื่นเอาชนะกองทัพนับแสนได้ ทหารซีเหลียงอดคิดไม่ได้ว่ากองทัพนั้นต้องแข็งแกร่งสักเพียงใด! บัดนี้เห็นว่าพวกนั้นกล้าไล่ตามอวิ๋นพั่วสิงมาถึงค่ายทหารของซีเหลียง พวกเขาจะไม่หวาดกลัวได้อย่างไรกัน!
กองทัพไป๋ที่ซ่อนตัวคุ้มกันไป๋ชิงเหยียนอยู่นอกค่ายทหารซีเหลียง ขี่ม้าเร็วพุ่งเข้าไปเผาค่ายทหาร
ซีเหลียงตามคำสั่งของไป๋ชิงเหยียน ต่างยิงธนูเพลิงเข้าไปในค่าย ลูกธนูตกลงที่ใด ไฟจะลุกลามขึ้นอย่างรวดเร็ว
ภายในค่ายทหารซีเหลียง ทหารเร่งช่วยกันดับไฟ สังหารศัตรู วุ่นวายสับสนขึ้นในทันที คนในค่ายวิ่งชนกันเอง
ไฟที่ภูเขาเวิ่งยังไม่ทันมอด เพลิงสีแดงที่ลอยอยู่ในอากาศทำให้ทหารซีเหลียงหวาดกลัว ตอนนี้สิ่งที่พวกเขากลัวมากที่สุดก็คือไฟ!
เมื่อเห็นค่ายทหารซีเหลียงอลหม่านทั้งค่าย บุตรชายของอวิ๋นพั่วสิงถือว่าตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว เขากระโดดขึ้นไปบนหลังม้าชูดาบโค้งขึ้นสูง ตะโกนออกมาสุดเสียง “ออกไปนอกค่าย…”
บุตรชายของอวิ๋นพั่วสิงยังกล่าวไม่ทันจบ ไม่รู้ว่าลูกธนูจากที่ใดพุ่งตรงเข้ามาแทงทะลุศีรษะของม้าที่เขาขี่อยู่ ม้าศึกยกขาหน้าทั้งสองข้างขึ้นอย่างเจ็บปวด บุตรชายของอวิ๋นพั่วสิงพลัดตกลงมาจากหลังม้า!
“ถอย!” ไป๋ชิงเหยียนลดธนูลงพลางตะโกนสั่งให้ทุกคนออกไปจากค่ายทหารซีเหลียง
ครั้งนี้มาเพื่อแย่งชิงศีรษะของท่านพ่อกลับไป ไม่ได้มาเพื่อสังหารศัตรู ในเมื่อนำศีรษะของท่านพ่อกลับมาได้แล้ว การมาครั้งนี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว นางไม่อยากให้กองทัพไป๋ต้องจบชีวิตลงที่นี่แม้แต่คนเดียว
บุตรชายของอวิ๋นพั่วสิงกลิ้งไปบนพื้น ทหารซีเหลียงรีบเข้ามาคุ้มกันบุตรชายของอวิ๋นพั่วสิงให้อยู่ตรงกลาง ทว่า ยังไม่ทันจะมองให้แน่ชัดว่าลูกธนูพุ่งตรงมาจากทิศใด ก็เห็นม้าศึกตัวหนึ่งกระโดดข้ามศีรษะของพวกเขาไป ประกายดาบสว่างวาบขึ้นเล็กน้อย…
อวิ๋นพั่วสิงเบิกตาโพลงมองไปยังบุตรชายของตน ตะโกนออกมาสุดเสียง “อาย่าระวัง!”
“ท่านพ่อ!” หลานชายของอวิ๋นพั่วสิงแทบเป็นลมหมดสติ เข่าอ่อนจนแทบทรุดลงบนพื้น
ดาบของเซียวรั่วเจียงตัดไปบนศีรษะบุตรชายของอวิ๋นพั่วสิงอย่างแม่นยำ เลือดสดกระเด็นโดนกีบม้าที่ยังชูอยู่กลางอากาศ ศีรษะกลิ้งกระเด็นลอยไปไกล เมื่อหล่นลงพื้นสีหน้ายังคงความตื่นตระหนกหวาดกลัวอยู่
เซียวรั่วเจียงหยิบลูกธนูออกมาหนึ่งดอก เสียบลงไปบนศีรษะของอวิ๋นตู้ย่าบุตรชายคนโตของอวิ๋นพั่วสิงจากนั้นชูสูงขึ้น กระชากบังเหียนหมุนตัวกลับ ดวงตาวาวโรจน์จ้องไปยังอวิ๋นพั่วสิง ดาบใหญ่ชี้ไปทางหลานชายของเขา
“ฟิ้ว!”
ลูกธนูแทงทะลุหน้าอกหลานชายของอวิ๋นพั่วสิง
หลานชายของอวิ๋นพั่วสิงก้มหน้ามองดูธนูที่แทงทะลุหน้าอกของตนเอง เบิกตาโพลง เลือดทะลักออกมาจากปาก ร่างกายล้มลงบนพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรง “ท่าน…ท่านปู่…”
ท่ามกลางความวุ่นวาย อวิ๋นพั่วสิงกำลังจะสั่งการก็เห็นหลานชายของตนเองล้มลงบนพื้น
“อาเป่า! อาเป่า!” อวิ๋นพั่วสิงรู้สึกเหมือนถูกมีดปักลงที่กลางใจ สะบัดทหารสองคนที่ประคองตัวเขาอยู่ คุกเข่าลงบนพื้น กอดร่างของหลานชายเอาไว้ “อาเป่า! ไม่เป็นอันใด ปู่อยู่นี่! ปู่อยู่นี่!”
ไป๋ชิงเหยียนที่มุ่งตรงมาถึงประตูค่ายทหารกระชากบังเหียนม้าให้หยุดลง หันกลับไปมองกองเพลิงที่ลุกโชนอยู่เบื้องหน้า ดวงตาที่จ้องสบตากับอวิ๋นพั่วสิงเต็มไปด้วยไอสังหารอย่างน่าสะพรึง หญิงสาวใช้ลูกธนูชูศีรษะบุตรชายของอวิ๋นพั่วสิงขึ้นสูง ท่าทีราวกับต้องการสื่อกับอวิ๋นพั่วสิงว่าสามปีหลังจากนี้ นางจะสังหารลูกหลานของอวิ๋นพั่วสิงให้ราบเรียบดังเช่นวันนี้!
อวิ๋นพั่วสิงมองดูศีรษะของบุตรชายที่ยังเบิกตาโพลงอยู่เช่นนั้นอย่างเคียดแค้น โทสะเดือดพล่านไปทั้งร่าง เจ็บปวดเคียดแค้นจนแทบสิ้นหวัง
“ยิงธนู!” ดวงตาของอวิ๋นพั่วสิงวาวโรจน์ ชี้ไปทางไป๋ชิงเหยียนแล้วตวาดออกมาสุดเสียง “ยิงนางให้ตาย!”
“รายงานท่านแม่ทัพใหญ่! คลังอาวุธถูกเผา ไม่มีลูกธนูเหลือแล้วขอรับ!”
เมื่อวานอวิ๋นพั่วสิงไปดักซุ่มโจมตีอยู่ที่หุบเขาเวิ่งและทางขึ้นยอดเขาจิ่วชวี พวกเขานำลูกธนูจำนวนมากในค่ายทหารซีเหลียงไปเกือบหมดแล้ว ส่วนน้อยที่เหลืออยู่เก็บไว้ในกระโจมซึ่งเป็นคลังอาวุธ ผู้ใดจะคิดว่าจะถูกเผาวอดวายเช่นนี้
อวิ๋นพั่วสิงสูญเสียทั้งบุตรชายและหลานชายในคราเดียวกัน เขาโมโหจนกระอักเลือดออกมา
“ท่านแม่ทัพใหญ่!”
“ท่านแม่ทัพใหญ่!”
อวิ๋นพั่วสิงเจ็บปวดจนแทบทนไม่ไหว ตวาดออกมาด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี “ฟางจงฮุย เจ้านำพลทหารม้าทั้งหมดไล่ตามพวกมันไป! ต้องชิงศีรษะของลูกชายข้ากลับมาให้ได้! ฆ่าพวกมันไม่ให้เหลือแม้แต่คนเดียว!”
“รับบัญชาขอรับ!” ฟางจงฮุยกำหมัดรับคำสั่ง ตะโกนขึ้น “พลทหารม้ารีบมารวมตัวด่วน ขึ้นม้าเดี๋ยวนี้ ตามข้าออกไปสังหารศัตรู!”
ไป๋ชิงเหยียนนำทหารกองทัพไป๋กลับมาครบสองร้อยนาย ขี่ม้าเร็วผ่านถนนฮุยผิงไปโดยไม่หยุดพัก
เมื่อเห็นว่าไป๋ชิงเหยียนพาทหารผ่านถนนฮุยผิงตรงไปยังเมืองเวิ่งแล้ว เว่ยจ้าวเหนียนสั่งให้ทหารหนึ่งพันแปดร้อยนายเตรียมพร้อม จ้องไปยังทางข้างหน้าเขม็ง
ทหารซีเหลียงที่จะไล่ตามไป๋ชิงเหยียนไปต้องรวมตัวเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทาง จึงทิ้งห่างจากไป๋ชิงเหยียนสักระยะหนึ่ง
มีเว่ยจ้าวเหนียนคอยดักซุ่มโจมตีอยู่ที่ถนนฮุยผิง ไป๋ชิงเหยียนจึงไม่กังวลนัก นางแค่ต้องกลับไปเมืองเวิ่ง เตรียมจัดทัพทหารที่จะบุกไปโจมตีเทียนเหมินกวนก็พอ
เมื่อนางนำศีรษะของท่านพ่อกลับไปถึงเมืองเวิ่ง ทหารของกองทัพไป๋ทุกคนยังไม่มีผู้ใดหลับพักผ่อน พวกเขารอให้เสี่ยวไป๋ไซว่ไป๋ชิงเหยียนนำศีรษะของรองแม่ทัพใหญ่ไป๋ฉีซานกลับมา
เสิ่นคุนหยางสั่งให้คนแบกโลงศพที่ยังไม่ได้ปิดฝาโลงออกมา ในโลงศพมีร่างของไป๋ฉีซานซึ่งทำขึ้นจากไม้สวมเสื้อเกราะนอนแน่นิ่งอยู่
ตอนนั้นเสิ่นคุนหยางโทษตัวเองที่ไม่อาจแย่งชิงร่างของรองแม่ทัพใหญ่ไป๋ฉีซานกลับมาได้ ปล่อยให้อวิ๋นพั่วสิงตัดศีรษะของรองแม่ทัพใหญ่ เผาร่างของเขาและทหารคนอื่นๆ ในกองทัพไป๋จนเหลือแต่ผุยผง
เพราะเหตุนี้ เสิ่นคุนหยางจึงตำหนิตัวเองจนแทบอยากจะตายตามรองแม่ทัพใหญ่ไป จะได้หมดสิ้นความกังวล
ทว่า เมื่อนึกได้ว่าศีรษะของรองแม่ทัพใหญ่ยังถูกแขวนอยู่ที่ค่ายทหารซีเหลียง เสิ่นคุนหยางจึงฝืนยืนหยัดขึ้นอีกครั้ง คิดว่าต่อให้ตายก็ต้องทำร่างทดแทนของรองแม่ทัพใหญ่ให้เสร็จ แย่งชิงศีรษะของรองแม่ทัพใหญ่กลับมาให้ได้ก่อน!