ตอนที่ 215 ไม่ทำให้ผิดหวัง
“แม่ทัพไป๋ไม่ถือสา หากเราถือสาเล่า” สีหน้าขององค์รัชทายาทเคร่งขรึมลงในทันที แววตาที่แฝงไปด้วยความกรุ่นโกรธมองไปทางใบหน้าเย้ายวนงดงามของหลี่เทียนฟู่ ไม่เห็นแก่ความงามของนางแม้แต่น้อย
หลี่เทียนฟู่ตะลึงงัน ดวงตากลมโตคู่งามมองไปทางองค์รัชทายาท นึกไม่ถึงเลยว่าองค์รัชทายาทจะออกรับแทนไป๋ชิงเหยียนเช่นนี้!
หญิงสาวกัดริมฝีปากแน่น น้ำตาคลอ มองไปทางไป๋ชิงเหยียนอย่างไม่พอใจ “หรือว่าองค์รัชทายาททรง…”
“องค์หญิง!” หลี่จือเจี๋ยรีบเอ่ยขัดคำว่าทาสความงามที่จะออกมาจากปากของหลี่เทียนฟู่ทันที “เมื่อครู่องค์หญิงดื่มเหล้าบนรถม้า เกรงว่าคงจะเมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”
องค์รัชทายาทแห่งต้าจิ้นออกโรงด้วยพระองค์เอง สถานการณ์จึงเปลี่ยนไปทันที หลี่จือเจี๋ยไม่อาจปล่อยให้หลี่เทียนฟู่กล่าวตามใจชอบได้อีกต่อไป มิเช่นนั้นสองแคว้นคงต้องแตกหักกันจริงๆ
บัดนี้จักรพรรดินีเพิ่งขึ้นครองราชย์ได้ไม่นาน ราชสำนักของซีเหลียงยังไม่มั่นคง หากหลี่เทียนฟู่ยังกล่าววาจาสามหาวต่อไปจนต้าจิ้นไม่พอใจขึ้นมา คนซีเหลียงที่ไม่ประสงค์ดีอาจใช้โอกาสนี้ก่อเรื่องยุแยงขึ้นได้
“ซีเหลียงร่วมมือกับหนานเยี่ยนนำทัพใหญ่นับล้านมารุกรานแคว้นต้าจิ้นของข้า เมื่อพ่ายแพ้กลับต่อว่าหาว่าข้าสังหารทหารยอมจำนน ซีเหลียงช่างหน้าไม่อายเสียจริง!” ใบหน้าของไป๋ชิงเหยียนแปรเปลี่ยนเป็นยิ้มเย็นขึ้น กล่าวอย่างเนิบนาบ “กองทัพต้าจิ้นของข้ามีเพียงห้าหมื่นนาย กองทัพซีเหลียงที่อยู่ในภูเขาเวิ่งมีเกือบแสนนาย ไม่สังหารทหารซีเหลียง ข้าต้องรอให้ทหารซีเหลียงมาสังหารกองทัพต้าจิ้นของข้าหรืออย่างไรกัน! หรือองค์หญิงซีเหลียงคิดว่า…ขอแค่ซีเหลียงของท่านต้องการกวาดล้างแคว้นใด แคว้นนั้นต้องยอมจำนนแต่โดยดี มิเช่นนั้นจะถือเป็นเรื่องที่ผิดมหันต์ ไม่อาจให้อภัยได้! ซีเหลียงกำลังฝันอยู่หรืออย่างไร คิดว่าตัวเองเป็นจักรพรรดิของใต้หล้าเช่นนั้นหรือ ผู้ใดมอบความกล้าเช่นนี้ให้ซีเหลียงกัน องค์หญิงหรือพ่ะย่ะค่ะ!”
“เจ้า!” หลี่เทียนฟู่ผุดลุกขึ้นยืนทันที หน้าอกสั่นไหวด้วยความโมโห “เจ้ากล้าเสียมารยาทถึงเพียงนี้เชียวหรือ!”
“องค์หญิงซีเหลียงเป็นผู้เสียมารยาทก่อนพ่ะย่ะค่ะ!” ดวงตาของไป๋ชิงเหยียนล้ำลึก สงบนิ่งดั่งสายน้ำ “องค์หญิงที่เดินทางมาแต่งงานเชื่อมไมตรีหลังจากรบพ่ายแพ้ แคว้นต้าจิ้นของข้าให้เกียรติองค์หญิง แต่องค์หญิงไม่เคารพตัวเอง เช่นนั้นท่านก็ไม่ใช่ผู้ใดทั้งสิ้น ในเมื่อมาเพื่ออ้อนวอนขอสงบศึก เช่นนั้นก็โปรดทำตัวให้เหมือนผู้ที่มาขอร้องผู้อื่นเถิดพ่ะย่ะค่ะ อย่าทำท่าที่ราวกับผู้ชนะเช่นนี้ ผู้แพ้…ไม่มีสิทธิ์ หลักง่ายดายเช่นนี้ องค์หญิงยังต้องให้ผู้อื่นสอนอีกหรือพ่ะย่ะค่ะ”
หลี่เทียนฟู่เดือดดาลถึงขีดสุด มองไปรอบกายหวังจะชักดาบออกมาสังหารไป๋ชิงเหยียน ทว่า ถูกหลี่จือเจี๋ยจับข้อมือไว้เสียก่อน
แม้หลี่จือเจี๋ยจะหลงใหลในความงามมากเพียงใด ทว่า ไป๋ชิงเหยียนฉีกหน้าแคว้นซีเหลียงระหว่างการเจรจาสงบศึก เขาจะทนเห็นแคว้นของตัวเองโดนดูถูกได้อย่างไร! องค์หญิงโดนดูถูกคนเดียวไมใช่เรื่องใหญ่ ทว่า เขาไม่อาจยอมให้คนมาดูถูกแคว้นซีเหลียงได้!
สีหน้าของหลี่จือเจี๋ยเดี๋ยวคล้ำเดี๋ยวซีด ยิ้มไม่ออกอีกต่อไป เขามองไปยังไป๋ชิงเหยียนนิ่งๆ ทว่า กลับกล่าวกับองค์รัชทายาท “องค์รัชทายาท แม้องค์หญิงของซีเหลียงจะเสียมารยาทก่อน ทว่า แม่ทัพไป๋ของแคว้นท่านดูถูกซีเหลียงเกินไปแล้ว ดูเหมือนว่าแม่ทัพไป๋จะชอบการนองเลือด ไม่ต้องการเจรจาสงบศึกแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”
องค์รัชทายาทกำมือแน่น หวังจะเอ่ยเพื่อลดบรรยากาศที่ตึงเครียดลง ทว่า องค์รัชทายาทยังไม่ทันได้กล่าวสิ่งใด ก็ได้ยินไป๋ชิงเหยียนชิงเอ่ยขึ้นก่อน “ดูถูก? ข้ากล่าวตามความจริงถือเป็นการดูถือหรือพ่ะย่ะค่ะ เช่นนั้นเหยียนอ๋องลองบอกมาเสียหน่อยเถิดว่าไป๋ชิงเหยียนกล่าวสิ่งใดผิดไปบ้าง คำกล่าวของเหยียนอ๋องช่างเหมือนกับคำกล่าวของแม่ทัพใหญ่อวิ๋นพั่วสิงของแคว้นท่านไม่มีผิดเพี้ยน หรือแคว้นซีเหลียงสั่งสอนไว้ว่า…การกล่าวตามความจริงคือการดูถูกพ่ะย่ะค่ะ!”
หลี่จือเจี๋ยหันไปมององค์รัชทายาท กล่าวออกมายิ้มๆ “องค์รัชทายาท ดูเหมือนว่าแม่ทัพไป๋จะไม่ต้องการเจรจาสงบศึกแล้ว องค์รัชทายาททรงมีความเห็นเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางหลี่จือเจี๋ย หัวเราะออกมาเสียงเย็น กล่าวขึ้นอย่างบีบคั้นโดยไม่เปิดโอกาสให้องค์รัชทายาทกล่าวสิ่งใดทั้งสิ้น น้ำเสียงหนักแน่นและรวดเร็ว “เหยียนอ๋องตรัสถูกเรื่องหนึ่งแล้ว ข้าไม่อยากเจรจาสงบศึก! เพราะสงครามครั้งนี้…ซีเหลียงเป็นคนเริ่มก่อน! ซีเหลียงของท่านขี้ขลาดแต่โลภมาก ร่วมมือกับหนานเยี่ยนเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้ตัวเอง หวังจะแบ่งแคว้นต้าจิ้นของข้าออกเป็นชิ้นๆ ! เมื่อพ่ายแพ้…กลับมาเจรจาสงบศึกด้วยท่าทียโสโอหังเช่นนี้ ใต้หล้ามีแคว้นที่หน้าไม่อายเช่นนี้อยู่ได้อย่างไร มีเรื่องที่ได้มาง่ายๆ เช่นนี้ได้อย่างไร”
“ตอนนั้นซีเหลียงและหนานเยี่ยนร่วมมือกันจนแข็งแกร่ง…ต้าจิ้นอ่อนแอ! ซีเหลียงรุกรานแย่งชิงแผ่นดินของต้าจิ้น สังหารชาวบ้านของต้าจิ้น บุกเข้ายึดทีละเมือง…สังหารชาวบ้านจนสิ้น! ขอถามหน่อยเถิดว่าตอนนั้นซีเหลียงไม่รู้สึกว่าเป็นการดูถูกแคว้นต้าจิ้นบ้างหรืออย่างไร! เหตุใดตอนนั้นจึงไม่ยุติสงครามและเจรจาสงบศึกเล่า!” สายตาเฉียบคมของไป๋ชิงเหยียนกวาดมองไปยังคณะทูตของซีเหลียงที่บัดนี้ล้วนหน้าซีดเผือด “เพราะพวกท่านรู้ดีแก่ใจว่าท่ามกลางความวุ่นวายเช่นนี้ ผู้ที่แข็งแกร่งคือผู้ชนะ! เหตุใดพอกองทัพต้าจิ้นของข้าเอาชนะกองทัพซีเหลียงของพวกท่านได้ด้วยกำลังทหารที่น้อยกว่า…พวกท่านกลับแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจเช่นนี้ อีกทั้งยังกล้ากล่าวหาว่าแคว้นต้าจิ้นของข้าดูถูกพวกท่านอีก!”
แม้หลิ่วหรูซื่อจะดูถูกที่ไป๋ชิงเหยียนสังหารทหารยอมจำนนทั้งหมด ทว่า เขาเป็นขุนนางเจรจาของต้าจิ้นย่อมต้องปกป้องภาพลักษณ์ของต้าจิ้น เขายิ้มเย็นรับคำต่อจากไป๋ชิงเหยียน “ซีเหลียงแสร้งทำเป็นไม่เข้าใจทั้งๆ ที่รู้ดีอยู่แก่ใจ ต้องการรักษาหน้าของตัวเองเอาไว้! ทว่า ซีเหลียงลืมแล้วไปหรือไม่…เกียรติยศของแคว้น ผู้อื่นมอบให้แล้ว แต่ท่านกลับได้คืบจะเอาศอก เมื่อล้มลงแล้วเจ็บตัวก็เป็นเพราะทำตัวเองทั้งสิ้น!”
การเจรจาสงบศึกของสองแคว้นเป็นเช่นนี้มาแต่ไหนแต่ไร แต่ละแคว้นอาศัยฝีปากในการปกป้องผลประโยชน์ของแคว้นตัวเอง การแตกหักจนมองหน้ากันไม่ติดไม่ใช่ว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เดิมทีหลี่จือเจี๋ยตั้งใจจะมาเจรจาสงบศึกอย่างปรองดองที่สุดเพื่อรักษาหน้าของทั้งสองแคว้น ทว่า บัดนี้ หลี่เทียนฟู่อดทนไม่ไหวฉีกหน้าของฝ่ายตรงข้ามไปแล้ว ทว่า คนที่ดูแย่มีเพียงซีเหลียงของพวกเขาเท่านั้น เพราะครั้งนี้พวกเขาเป็นคนเดินทางมาเพื่อขอเจรจาสงบศึก
หลี่จือเจี๋ยเห็นองค์รัชทายาทนั่งอยู่ตรงที่นั่งด้านบนสุด ไม่มีท่าทีจะเอ่ยสิ่งใดทั้งสิ้น เขาจึงทำได้เพียงกล่าวออกไปอย่างอดกลั้น “สองแคว้นทำศึก ไม่อาจหลีกเลี่ยงการสังหารผู้คน บุกยึดดินแดน…”
“เจิ้นกั๋วอ๋องของแคว้นข้าทำศึกกับทุกแคว้นมาหลายครั้ง เคยทำลายบ้างเมืองของแคว้นใดบ้างหรือไม่” แม่ทัพจางตวนรุ่ยยกมือกำหมัดขึ้นสูง เลิกคิ้วเอ่ยถามขึ้น “เหยียนอ๋องตรัสว่าไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ไม่คิดว่าเป็นขออ้างหรือพ่ะย่ะค่ะ”
“ทว่า กองทัพต้าจิ้นของพวกเจ้าสังหารทหารยอมจำนนทั้งหมดของซีเหลียง! แม่ทัพใหญ่ของแคว้นข้าได้รับบาดเจ็บหนัก บุตรชายของเขาถูกลูกน้องของแม่ทัพไป๋ตัดศีรษะ หลานชายของเขาถูกแม่ทัพไป๋ยิงธนูทะลุหัวใจ นี่ถือเป็น…” เดิมทีขุนนางของซีเหลียงต้องการกล่าวว่าหายกันแล้ว ทว่า เมื่อนึกถึงเรื่องที่บุรุษตระกูลไป๋ถูกสังหารทั้งตระกูล เขาจึงแก้ถ้อยคำเป็น “ถือเป็นบทเรียนแล้วขอรับ”
“ได้รับบทเรียน!” หลี่เทียนฟู่เดือดดาลถึงขีดสุด ดวงตาคู่งามจ้องไปยังขุนนางซีเหลียงผู้นั้นเขม็ง “เจ้าเสียสติไปแล้วหรือถูกม้าถีบจนเสียสติกันแน่ เจ้าเป็นขุนนางของซีเหลียงแน่หรือไม่ กล่าวเข้าข้างต้าจิ้นเช่นนี้ เหตุใดเจ้าไม่ไปรับใช้พวกเขาเสียเลย ไป๋ชิงเหยียนสังหารทหารซีเหลียงนับแสนที่ยอมจำนน ไฟไหม้อยู่เกือบครึ่งเดือนจึงมอดดับลงได้ หากต้าจิ้นไม่ชดใช้เรื่องนี้ให้ซีเหลียง การเจรจาในครั้งนี้ถือเป็นโมฆะ ผู้ใดจะไปแต่งงานเชื่อมไมตรีก็เชิญ ข้าไม่ไปแล้ว!”
“องค์หญิง!” เมื่อหลี่จือเจี๋ยเห็นว่าเขาเริ่มควบคุมหลี่เทียนฟู่ที่ถูกเอาอกเอาใจมาตั้งแต่เด็กไม่ได้ จึงบีบข้อมือของหลี่เทียนฟู่แน่นขึ้น “ทรงอย่าลืมคำกำชับของฮองเฮาและฝ่าบาทที่ทรงตรัสกับองค์หญิงก่อนเดินทางมาที่นี่สิพ่ะย่ะค่ะ”
ราชบัลลังก์ของจักรพรรดินีแห่งซีเหลียงยังไม่มั่นคง ซีเหลียงยังทำสงครามไม่ได้
หลิ่วหรูซื่อเห็นดังนี้จึงวางเหล้าในมือลงพลางยืดหลังตรง กล่าวเสียงหนักแน่น “ได้เลย หากซีเหลียงกล้าทำสงคราม ต้าจิ้นของเราจะไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน!”