ตอนที่ 222 ความลับ
รัชทายาทมองไปทางไป๋ชิงเหยียน ในใจยิ่งรู้สึกสบายใจ เขาพยักหน้าพลางรับตราทัพมาจากหญิงสาว
“เฉวียนอวี๋ประคองแม่ทัพไป๋ลุกขึ้น!”
“แม่ทัพไป๋ลุกขึ้นเถิดขอรับ!” เฉวียนอวี๋รีบประคองให้ไป๋ชิงเหยียนนั่งลงบนที่นั่ง ส่วนเขาคุกเข่าอยู่ข้างกายของหญิงสาวเพื่อชงชาให้
“เฉวียนอวี๋กงกงไม่ต้องลำบากหรอก ข้าไม่ดื่มชาแล้ว ที่เหยียนมาพบองค์รัชทายาทเพราะมีเรื่องสำคัญสามเรื่อง นอกจากคืนตราทัพแล้ว เรื่องที่สองเกี่ยวกับกองทัพไป๋ที่เหลืออยู่หนึ่งหมื่นกว่านายพ่ะย่ะค่ะ….”
ได้ยินไป๋ชิงเหยียนเอ่ยถึงกองทัพไป๋ รัชทายาทขยับท่านั่งของตัวเอง ลูบคลำมือของตัวเองเล็กน้อย เตรียมพร้อมฟังสิ่งที่ไป๋ชิงเหยียนต้องการจะกล่าวอย่างตั้งใจ
รัชทายาทปรึกษากับฟางเหล่าจนได้ข้อสรุปว่าควรให้กองทัพไป๋รับผิดชอบคุ้มกันดินแดนที่ได้มาจากซีเหลียง แน่นอน…ยิ่งใกล้ซีเหลียง และห่างไกลจากไป๋ชิงเหยียนมากเท่าใดก็ยิ่งดี เช่นนี้ไป๋ชิงเหยียนจะได้จงรักภักดีต่อเขาอย่างไม่มีที่พึ่งพาอื่นใดอีก
“กระหม่อมคิดว่าให้กองทัพไป๋อยู่คุ้มกันที่ภูเขาถงกู่เถิดพ่ะย่ะค่ะ”
ได้ยินคำกล่าวของไป๋ชิงเหยียน รัชทายาทที่กำลังกังวลใจว่าจะโน้มน้าวให้ไป๋ชิงเหยียนยอมให้กองทัพไป๋คุ้มกันอยู่ที่เขาถงกู่อย่างไรตะลึงงันไปทันที
“เมื่อจบการเจรจาสงบศึก ดินแดนฝั่งขวาทั้งหมดของภูเขาถงกู่ล้วนตกเป็นของต้าจิ้น มีเพียงกองทัพไป๋คุ้มกันอยู่ที่นี่เท่านั้น ซีเหลียงจึงจะหวาดกลัวพ่ะย่ะค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนกล่าวอย่างช้าๆ ทุกสิ่งที่กล่าวออกมาล้วนคำนึงถึงแคว้นต้าจิ้นและรัชทายาทเป็นหลัก
“แม่ทัพเว่ยจ้าวเหนียน แม่ทัพกู่เหวินชัง แม่ทัพเสิ่นคุนหยางและแม่ทัพเฉิงหย่วนจื้อล้วนมีฝีมือโดดเด่นแตกต่างกันออกไป แม่ทัพเว่ยจ้าวเหนียนและแม่ทัพกู่เหวินชังเก่งกาจด้านการฝึกทหาร ให้แม่ทัพเว่ยจ้าวเหยียนคุ้มกันเมืองไป๋หลง แม่ทัพกู่เหวินชังคุ้มกันเมืองจงซาน ขอเพียงแคว้นต้าจิ้นพักรบสักสองสามปี แม่ทัพทั้งสองคนนี้ต้องฝึกทหารกล้าให้แคว้นต้าจิ้น ให้รัชทายาทได้อีกมากมายพ่ะย่ะค่ะ! หลังจากที่แม่ทัพทั้งสองคนแยกกันไปคุ้มกันเมืองไป๋หลงและจงซานแล้ว รัชทายาทอาจส่งแม่ทัพของตัวเองไปร่วมคุ้มกันเมืองกับแม่ทัพทั้งสองด้วยก็ได้พ่ะย่ะค่ะ แม่ทัพเว่ยจ้าวเหนียนและแม่ทัพกู่เหวินชังมีหน้าที่ฝึกทหาร แม่ทัพที่องค์ชายส่งไปกุมอำนาจทางทหารเอาไว้! เช่นนี้…ภายภาคหน้าทหารกล้าเหล่านี้ล้วนเป็นคนขององค์ชายพ่ะย่ะค่ะ หากวันใดที่รัชทายาทได้ครอบครองใต้หล้า ขอเพียงดาบชี้ไปทางทิศใด ทหารกล้าเหล่านี้ต่างพร้อมบุกน้ำลุยไฟให้พระองค์ทั้งสิ้นพ่ะย่ะค่ะ!”
รัชทายาทได้ยินไป๋ชิงเหยียนกล่าวเช่นนี้ ใจของเขาเต้นรัวราวกับจะปะทุออกมา
แสงเทียนในรถม้าปลิวสะบัดไปมา รัชทายาทจ้องไปที่ใบหน้าที่เรียบเฉย นิ่งสงบของไป๋ชิงเหยียนซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นผู้นำของกองทัพไป๋ ในใจเกิดความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูก
เขาหวาดระแวงในตัวของไป๋ชิงเหยียนไปต่างต่างนานา ทว่า ไป๋ชิงเหยียนกลับคิดเพื่อเขาอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งต้องการฝึกทหารให้เขาอีก!
ไป๋ชิงเหยียนมองดูสีหน้าที่เปลี่ยนไปของรัชทายาท กล่าวต่อด้วยเสียงแผ่วเบา
“แม่ทัพเสิ่นคุนหยางและแม่ทัพเฉิงหย่วนจื้อคุ้มกันอยู่ที่ภูเขาถงกู่ด้วยกันเพื่อป้องกันซีเหลียงลอบโจมตีต้าจิ้น มีแม่ทัพที่เก่งกาจด้านการรบอย่างสองคนนี้อยู่ ภูเขาถงกู่ก็ไม่มีอันใดต้องกังวลแล้วพ่ะย่ะค่ะ! หากรัชทายาทเห็นว่าดี เหยียนจะส่งคนขี่ม้าเร็วไปเชิญแม่ทัพเสิ่นคุนหยาง แม่ทัพเฉิงหย่วนจื้อ แม่ทัพเว่ยจ้าวเหนียนและแม่ทัพกู่เหวินชังจากเมืองเฟิ่งมาที่นี่พ่ะย่ะค่ะ ถือเป็นการข่มบารมีซีเหลียงอีกทางหนึ่ง…กองทัพไป๋จะได้รับช่วงต่อจากทหารซีเหลียงโดยเร็วที่สุด ส่งกองทัพของแคว้นเราไปลงหลักปักฐานที่นั่น เช่นนี้เราจะได้มั่นใจว่าเราได้ดินแดนของซีเหลียงมาครอบครองแล้ว”
ไป๋ชิงเหยียนเสนอรัชทายาทว่าควรให้เสิ่นคุนหยางและเฉิงหย่วนจื้อคุ้มกันอยู่ที่ภูเขาถงกู่ซึ่งห่างไกลจากเมืองหลวงมาก ให้เว่ยจ้าวเหนียนและกู่เหวินชังคุ้มกันเมืองไป๋หลงและเมืองจงซาน ทำเช่นนี้ดูเหมือนเป็นการแยกแม่ทัพของกองทัพไป๋ทุกคนออกจากกัน แท้จริงแล้ว…นางต้องการเชื่อมต่อดินแดนทั้งสามที่นี้เขาด้วยกันเพื่อสร้างกองทัพและฝึกฝนทหารให้ตระกูลไป๋
รัชทายาทได้ยินการวิเคราะห์ของไป๋ชิงเหยียนจึงรีบพยักหน้ารัว
“แม่ทัพไป๋กล่าวถูกต้องแล้ว รีบส่งคนไปตามแม่ทัพทั้งสี่มาเถิด”
กล่าวจบ รัชทายาทเงยหน้ามองไป๋ชิงเหยียน กล่าวเสียงเบา “เจ้าคุมกองทัพไป๋ด้วยตัวเองก็ได้นะ เราบอกแล้วว่าเราเชื่อใจเจ้า!”
รัชทายาทกล่าวประโยคสุดท้ายออกมาอย่างละอายใจ
ไป๋ชิงเหยียนก้มหน้าหลุบสายตาที่ล้ำลึกลง กล่าวด้วยเสียงที่หนักแน่น
“องค์ชายทรงทราบสภาพร่างกายของเหยียนดี องค์ชายหวังครอบครองใต้หล้า เหยียนทำได้เพียงช่วยวางแผนให้องค์ชายเท่านั้น เมื่อกลับไปถึงเมืองหลวง เหยียนจะเดินทางกลับไปซั่วหยางแล้ว ให้กองทัพไป๋อยู่ในมือขององค์ชาย องค์ชายจะได้ใช้ประโยชน์ได้พ่ะย่ะค่ะ! แน่นอนว่าเหยียนยังคงยืนยันคำเดิม ขอเพียงองค์รัชทายาทต้องการ ชาวบ้านต้องการ เหยียนพร้อมสู้จนตัวตายพ่ะย่ะค่ะ!”
ขุนนางจงรักภักดีต่อเขาเช่นนี้ ไม่เพียงรัชทายาท แม้แต่เฉวียนอวี๋ที่คุกเข่าอยู่ด้านข้างยังตาแดงก่ำเช่นเดียวกัน
“แม่ทัพไป๋มีใจที่จงรักภักดีเช่นนี้ เราซาบซึ้งยิ่งนัก”
รัชทายาทคาราวะให้ไป๋ชิงเหยียนหนึ่งครั้งด้วยความจริงใจ
“เป็นหน้าที่ของกระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ ไม่อาจรับการคาราวะขององค์ชายพ่ะย่ะค่ะ”
ไป๋ชิงเหยียนรีบคาราวะกลับทันที เมื่อเห็นว่าได้เวลาแล้ว ไป๋ชิงเหยียนจึงกล่าวต่อ
“เรื่องที่สาม เหยียนมาเพื่อรับโทษพ่ะย่ะค่ะ”
“แม่ทัพไป๋หมายความเช่นไรกัน” รัชทายาทนั่งตัวตรง
“การเจรจาสงบศึกในวันนี้ เหยียนอ๋องแห่งซีเหลียงต้องการส่งตัวองค์หญิงซีเหลียงกลับไปชิวซานกวนก่อน เมื่อไม่สำเร็จก็อ้างว่าค่อยเจรจาต่อในวันพรุ่งนี้ องค์รัชทายาทไม่ยินยอม เขาก็ใส่ร้ายว่าองค์ชายส่งสาวใช้แฝงกายเข้าไปในกระโจมแล้ว สังหารทหารของซีเหลียง หวังเลื่อนการเจรจาเป็นวันพรุ่งนี้ให้ได้ เป็นดังที่องค์ชายตรัส ทางซีเหลียงเป็นคนกำหนดเวลาในการเจรจาเอง ทว่า เขากลับกลับคำเช่นนี้ เราต้องป้องกันไว้ ดังนั้นเหยียนจึงสั่งให้ไป๋จิ่นจื้อนำทหารยอดฝีมือของค่ายหู่อิงไปสำรวจความเคลื่อนไหวของซีเหลียงที่ชิวซานกวนพ่ะย่ะค่ะ”
รัชทายาทขมวดคิ้ว เขาก็สงสัยในเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน เมื่อนึกถึงความจกรักภักดีของไป๋ชิงเหยียน รัชทายาทไม่สงสัยในตัวหญิงสาวแต่อย่างใด
“แม่ทัพไป๋คำนึงถึงความปลอดภัยของเราเป็นสำคัญ เราไม่ตำหนิแม่ทัพไป๋หรอก ทว่า…เพิ่งลงนามสงบศึก คุณหนูสี่ไป๋ไปสังเกตการณ์ที่ชิวซานกวนเช่นนี้ หากโดนซีเหลียงจับได้คาหนังคาเขา เกรงว่าจะไม่เป็นผลดีต่อแคว้นต้าจิ้น!”
ไป๋ชิงเหยียนขมวดคิ้ว แสดงท่าทีตำหนิตัวเองออกมา “รัชทายาทกล่าวถูกต้องแล้วพ่ะย่ะค่ะ! ทว่า องค์หญิงซีเหลียงและเหยียนอ๋องต้องเดินทางกลับไปเมืองหลวงพร้อมกับองค์ชาย เพื่อความปลอดภัยตลอดการเดินทางขององค์ชาย เราควรสืบดูให้แน่ชัด เหยียนถึงจะสบายใจพ่ะย่ะค่ะ”
รัชทายาทได้ยินว่าไป๋ชิงเหยียนทำไปเพื่อความปลอดภัยของเขาก็ยิ่งรู้สึกโล่งใจ
“เหยียนกังวลมากเกินไป…จึงวู่วามไปหน่อย เพื่อความไม่ประมาท องค์ชายทรงอนุญาตให้เหยียนนำกองกำลังทหารจำนวนหนึ่งไปพาน้องสาวสี่ของเหยียนกลับมาเถิดพ่ะย่ะค่ะ ป้องกันซีเหลียงกุมความลับของเราไว้ได้!”
รัชทายาทนิ่งงันไปครู่หนึ่ง สุดท้ายก็ตอบตกลง “ได้ แม่ทัพไป๋รีบไปรีบกลับนะ อย่ารอช้าเด็ดขาด สืบเรื่องได้ก็ดี หากไม่ได้ก็ไม่เป็นอันใด ต้องถอยกลับมาอย่างปลอดภัย”
“องค์ชายวางพระทัยได้พ่ะย่ะค่ะ เหยียนนำทหารยอดฝีมือของค่ายหู่อิงไป จะลอบเข้าไปพาตัวน้องสาวสี่กลับออกมาอย่างเงียบเชียบที่สุด ไม่สร้างความเดือดร้อนให้องค์ชายแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ” ไป๋ชิงเหยียนกล่าว
เมื่อได้รับอนุญาตจากรัชทายาท ไป๋ชิงเหยียนออกไปจากรถม้า ขี่ม้าพุ่งทะยานไปยังด้านหน้าสุดของขบวน กระชากบังเหียนม้าพลางกล่าวกับแม่ทัพจางตวนรุ่ย
“องค์รัชทายาทมีรับสั่งให้เรียกตัวเฉิงหย่วนจื้อ เสิ่นคุนหยาง เว่ยจ้าวเหนียนและกู่เหวินชังมาที่โยวหวาเต้าโดยเร็วที่สุดขอรับ! แม่ทัพจาง ข้ามีหน้าที่อื่นต้องไปปฏิบัติต้องขอแยกตัวออกไปก่อน รบกวนแม่ทัพจางคุ้มกันรัชทายาทกลับไปยังโยวหวาเต้าอย่างปลอดภัยด้วยนะขอรับ!”
จางตวนรุ่ยกำหมัดรับคำ จากนั้นสั่งให้ทหารขี่ม้าเร็วกลับไปยังเมืองเฟิ่งทันที
ไป๋ชิงเหยียนกลับไปถึงค่ายทหารก่อน หญิงสาวคัดทหารยอดฝีมือของค่ายหู่อิงจำนวนหกสิบคนและทหารส่งสัญญาณกู่เซ่าให้ติดตามนางไปสมทบกับพวกเสิ่นชิงจู๋ที่ชิวซานกวน