ตอนที่ 225 ชาติหน้า
การมาช่วยคนในถิ่นของซีเหลียงเสมือนเนื้อเข้าปากเสือ ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าอันตรายมากเพียงใด
ทหารของซีเหลียงผลัดกันบุกเข้าเจ้าโจมตีอย่างไม่หยุดหย่อน แม้ค่ายหู่อิงที่เสิ่นเหลียงอวี้พามาจะแข็งแกร่งและชำนาญการรบมากเพียงใด ทว่า จำนวนคนของฝั่งเขามีน้อยกว่าฝั่งตรงข้ามมาก ทหารค่ายหู่อิงยี่สิบนายเสียชีวิตเกือบครึ่งแล้ว ทหารหน่วยกล้าตายของตระกูลต่งยิ่งสูญเสียมากกว่า แม้แต่เสิ่นเหลียงอวี้เองก็ได้รับบาดเจ็บถูกฟันหนึ่งบาดแผลเช่นกัน หากไม่ใช่เพราะดาบฟันพลาดไป นี่คงเป็นวันตายของเขาแล้ว
มือข้างหนึ่งของเสิ่นชิงจู๋ถือดาบยาว อีกข้างถือมีดสั้น ดาบพุ่งไปทางใดล้วนปลิดชีวิตของศัตรู ทว่า มากเกินไป…ทหารซีเหลียงมีจำนวนมากเกินไป! ต่อให้เสิ่นชิงจู๋จะกล้าหาญมากเพียงใด…ทว่า การสู้รบเพียงคนเดียวทำให้นางสูญเสียพลังไปมาก ลำแขนเริ่มหนักอึ้ง หอบหายใจอย่างหนัก ภาพตรงหน้าเริ่มพร่ามัวกลายเป็นไอหมอกสีขาว เลือดที่สาดกระเด็นโดนใบหน้าก่อตัวเป็นน้ำแข็งเกาะอยู่บริเวณขนตาของหญิงสาว ระหว่างที่หญิงสาวกำลังต่อสู้กับศัตรูที่พุ่งเข้ามารอบทิศโดยอาศัยเพียงสัญชาตญาณ นางรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงม้าศึกดังแว่วมาแต่ไกล นางอาศัยจังหวะพักหายใจเงยหน้าขึ้นมอง ร่างองอาจขี่ม้าเข้ามาแต่ไกล…คนยังมาไม่ถึง ทว่า ไอสังหารใกล้เข้ามาแล้ว
ก่อนที่ไป๋ชิงเหยียนจะได้รับบาดเจ็บ เสิ่นชิงจู๋เห็นไป๋ชิงเหยียนในท่วงท่าเช่นนี้นับครั้งไม่ถ้วน เสิ่นชิงจู๋ตำหนิตัวเองไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งที่ไม่อาจปกป้องคุ้มครองคุณหนูใหญ่ให้ดี ทำให้กองทัพไป๋ต้องสูญเสียแม่ทัพที่วางแผนไม่เคยพลาดและกล้าหาญไม่กลัวศัตรูอย่างเสี่ยวไป๋ไซว่ไป!
ทว่า บัดนี้หญิงสาวกลับมาแล้ว!
ขอบตาของเสิ่นชิงจู๋ร้อนผ่าว หลอมละลายเกล็ดเลือดที่ติดอยู่บริเวณดวงตา กำดาบทั้งสองเล่มแน่น รู้สึกราวกับมีพลังและความกล้าผุดขึ้นมาจากปลายเท้า พร้อมที่จะสังหารทหารซีเหลียงให้สิ้นซาก
เสียงกู่เซ่าดังแว่วมาจากที่ไกลๆ ไม่หยุดหย่อน ใบหูของเซียวรั่วไห่ที่แบกไป๋ชิงอวิ๋นไว้ที่หลังกระตุกเล็กน้อย
“เซียวรั่วไห่ เสิ่นชิงจู๋รีบพาคุณชายเก้าหนีไปยังเส้าหยางจวิ้นให้เร็วที่สุด”
เสียงกู่เซ่าดังซ้ำไปซ้ำมาด้วยประโยคเดิม ชายหนุ่มได้ยินชัดเจน
เมื่อเซียวรั่วเจียงที่อยู่บนหลังม้าศึกสีดำเห็นร่างที่ชุ่มไปด้วยเลือดของเซียวรั่วไห่ ชายหนุ่มอุทานเรียกพี่ชาย ตวัดแส้ม้าพุ่งทะยานเข้าไปหาเซียวรั่วไห่พลางยื่นมือออกไป เซียวรั่วไห่เก็บดาบอย่างรวดเร็วพลางยื่นมือไปจับมือของเซียวรั่วเจียง เซียวรั่วไห่ถูกกระชากขึ้นไปบนหลังม้าพร้อมกับที่เซียวรั่วเจียงกระโดดลงมาจากหลังม้า ยืนบนพื้นอย่างมั่นคง
ดวงตาของเซียวรั่วเจียงเยือกเย็น ดาบแทงทะลุหน้าอกของทหารซีเหลียง เลือดสดทะลักออกมาทันทีที่เขาชักดาบกลับ เขาตะโกนบอกเซียวรั่วไห่ “หนีไป!”
มือหนึ่งของเซียวรั่วไห่กุมบังเหียนแน่น อีกมือกำดาบเอาไว้ เขาเหลือบมองไป๋ชิงอวิ๋นที่อยู่ด้านหลังตนแวบหนึ่ง เมื่อหันกลับไปก็เห็นดวงตาสีดำขลับของไป๋ชิงเหยียนซึ่งนั่งอยู่บนหลังม้าศึก หญิงสาวยิงธนูสังหารข้าศึกอย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ ไอสังหารของหญิงสาวช่างน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก
ลูกธนูลอยผ่านใบหูของไป๋ชิงอวิ๋นไปอย่างเฉียดฉิว แทงทะลุลำคอของทหารซีเหลียงที่เงื้อดาบเตรียมฟันใส่เซียวรั่วไห่
ผมสีดำซึ่งเปื้อนไปด้วยเลือดของไป๋ชิงอวิ๋นถูกแรงลมของธนูพัดปลิวไปด้วย มือซึ่งเปื้อนเลือด ไร้เรี่ยวแรงของไป๋ชิวอวิ๋นซึ่งตกอยู่ข้างลำตัวของเซียวรั่วไห่ขยับเล็กน้อย
ดวงตาทั้งสองข้างของไป๋ชิงเหยียนแดงฉาน นางรีบเข้าไปหา ในที่สุดก็เห็นร่างของไป๋ชิงอวิ๋นที่ถูกเซียวรั่วไห่ใช้ผ้ามัดติดกับร่างกายของตัวเองแน่น ร่างของเขามีเสื้อคลุมของเซียวรั่วไห่คลุมเอาไว้ นอกจากใบหน้าแล้ว…ไม่มีส่วนใดในร่างกายที่ไม่มีบาดแผลเลย ดวงตาของไป๋ชิงเหยียนวาวโรจน์ในทันที
ไป๋ชิงอวิ๋นถูกทรมานอย่างหนักหนาสาหัสเพียงใด เพียงแค่มองด้วยตาเปล่าก็รู้แจ้งแล้ว โทสะในใจของหญิงสาวเดือดพล่าน หยิบลูกธนูออกมา แทบอยากสังหารสุนัขรับใช้ของซีเหลียงที่ทำร้ายเสี่ยวจิ่วให้สิ้นซาก
ไป๋ชิงเหยียนตะโกนขึ้น “รีบพาเสี่ยวจิ่วหนีไปให้เร็วที่สุด!”
เซียวรั่วไห่พยักหน้า กัดฟันตวัดแส้ม้า “ย่ะ!”
บนหลังม้าที่สั่นไหว ไป๋ชิงอวิ๋นที่ซบหน้าอยู่ที่แผ่นหลังของเซียวรั่วไห่อย่างไร้เรี่ยวแรงค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก เหมือนเขาจะเห็นไป๋ชิงเหยียนขี่ม้าผ่านหน้าเขาไปอย่างเลือนราง
พี่หญิงใหญ่? นี่คือความฝันอย่างนั้นหรือ…เหตุใดพี่หญิงใหญ่จึงมาอยู่ที่นี่
“พี่หญิงใหญ่…”
ไป๋ชิงอวิ๋นขยับริมฝีปากเล็กน้อย ทว่า น้ำเสียงอ่อนแรงของเขาถูกกลบด้วยเสียงฆ่าฟันที่ดังก้องไปทั่วบริเวณ
เขาสัมผัสได้ถึงไอสังหารจากดวงตาที่เยือกเย็นคมกริบของพี่หญิงใหญ่ เสื้อคลุมสีแดงสยายไปตามลมราวกับเหยี่ยวที่สยายปีก มือถือธนูเซ่อรื้อ แข็งแกร่งไร้เทียมทานดังเช่นเมื่อก่อน
“พี่หญิงใหญ่…” มือของเด็กหนุ่มขยับเล็กน้อย หวังจะจับเสื้อคลุมสีแดงของหญิงสาว ทว่า เขาจับได้เพียงความว่างเปล่า…ร่างทั้งร่างไร้เรี่ยวแรง ดวงตาสีดำมองตามร่างของไป๋ชิงเหยียนไปตลอดเวลา ทว่า ภาพกลับห่างออกไปเรื่อยๆ กลายเป็นความมืดคืบคลานเข้ามาแทน
พี่หญิงใหญ่มาช่วยเขาใช่หรือไม่
ทว่า พี่หญิงใหญ่ร่างกายอ่อนแอถึงเพียงนั้นจะยิงธนูเซ่อรื้อได้อย่างไรกัน เขาตายไปแล้วใช่หรือไม่ ดังนั้นนี่คือความฝันหรือ…
ช่างเป็นฝันที่ดีเสียจริง!
ก่อนตายฝันว่าพี่หญิงใหญ่มาช่วยเขา ฝันเห็นว่าพี่หญิงใหญ่ไม่ได้ทอดทิ้งเขาเพียงเพราะเขาเป็นบุตรของอนุ ชีวิตนี้เขาไม่มีสิ่งใดต้องเสียดายอีกแล้ว
เขารู้ดี หากพี่หญิงใหญ่อยู่ที่นี่จริงๆ …นางต้องช่วยเขาอย่างแน่นอน! เหมือนทุกครั้งที่เขาถูกทำโทษให้คุกเข่าที่ศาลบรรพชน พี่หญิงใหญ่มักจะช่วยเขาทุกครั้ง!
อยากให้ชาติหน้ามีจริง
ชาติหน้า เขายังอยากเป็นทายาทของตระกูลไป๋!
ชาติหน้า เขาจะยังคงเป็นทหารในกองทัพไป๋!
หวังว่าพี่ชายเจ็ดจะยังมีชีวิตอยู่ ทายาทสายหลักของตระกูลยังอยู่…ตระกูลไป๋ยังคงสืบทอดต่อไป!
ยามปกติเขาไม่พอใจเรื่องที่บุตรอนุต้องปกป้องบุตรภรรยาเอก ทว่า เมื่อเผชิญอันตรายจริงๆ เขาก็เข้าใจได้ทันทีว่าเหตุใดตระกูลไป๋ต้องมีกฎให้บุตรอนุปกป้องบุตรภรรยาเอก!
ไม่ใช่เพราะท่านปู่ลำเอียง แต่เพราะใต้หล้าให้ความสำคัญกับสายเลือดหลัก!
ทายาทสายหลักของตระกูลไป๋จะตายไม่ได้!
ไป๋ชิงอวิ๋นรู้สึกว่าดวงจันทร์ของเมืองชิวซานกวนห่างไกลจากเขาออกไปเรื่อยๆ เขานึกว่าความตายมาเยือนแล้ว เขายังรู้สึกเสียดายที่ไม่อาจรู้ได้ว่าพี่ชายเจ็ดยังมีชีวิตรอดอยู่หรือไม่
ไป๋ชิงเหยียนพาพลทหารม้าเกือบร้อยนายบุกเข้าไปในชิวซานกวน พุ่งทะยานเข้าไปเหยียบย่ำศัตรู ใช้ดาบยาวสังหารข้าศึก ฉุดตัวทหารค่ายหู่อิงและทหารหน่วยกล้าตายให้ขึ้นมาอยู่บนหลังม้าพลางถอยหนีไปที่เนินเขาสูง จากนั้นช่วยยิงธนูคุ้มกันให้เหล่าทหารค่ายหู่อิงและทหารหน่วยกล้าตายของตระกูลต่งที่กำลังหนีขึ้นมาบนเนินเขา
ทหารซีเหลียงที่ถูกหอกของไป๋จิ่นจื้อแทงตายเบิกตาโพลงพลางจับหอกในมือของไป๋จิ่นจื้อไว้แน่น ไป๋จิ่นจื้อกัดฟันแน่น ชักหอกกลับคืนมาไม่ได้ เมื่อเห็นทหารซีเหลียงถือดาบพุ่งเข้ามาหานางจากทุกทิศทาง สมองของไป๋จิ่นจื้อขาวโพลน คำรามออกมา พยายามดึกหอกของตัวเองออกมาสุดแรง
“เสี่ยวซื่อ! รับดาบ!” ไป๋ชิงเหยียนตวาดออกมาสุดเสียง ขี่ม้าทะยานไปหาไป๋จิ่นจื้อ หยิบลูกธนูสามดอกสุดท้ายออกมาจากกระบอก ยกคันธนู ยิงออกไป…
เซียวรั่วเจียงได้ยินเสียงจึงหันกลับไปมอง การกระทำรวดเร็วกว่าสมอง…ชายหนุ่มถลาเข้าไปอย่างรวดเร็ว พุ่งกายเข้าไปสังหารทหารซีเหลียงคนหนึ่ง เอื้อมมือไปรั้งศีรษะของไป๋จิ่นจื้อที่อยู่ในอาการตกตะลึง คุ้มกันสาวน้อยไว้ในอ้อมแขน ใช้แผ่นหลังของตัวเองรับดาบของศัตรูแทน
ธนูสามดอก ดอกหนึ่งแทงทะลุหน้าอกของทหารซีเหลียง อีกดอกแทงทะลุลำคอ อีกดอกลอยผ่านอากาศ…
ดาบคมฟันลงบนบ่าของเซียวรั่วเจียง เกือบตัดแขนข้างหนึ่งของเซียวรั่วเจียงขาด ชายหนุ่มคำรามพลางหันโต้ตอบ ฟันศีรษะของทหารซีเหลียงผู้นั้นจนหลุดกระเด็น!
“เสี่ยวซื่อ!” ไป๋ชิงเหยียนเอื้อมมือมาให้
เซียวรั่วเจียงขบกรามพลางอุ้มไป๋จิ่นจื้อส่งให้ไป๋ชิงเหยียน จนเมื่อไป๋จิ่นจื้อสัมผัสโดนร่างที่อยู่ในชุดเกราะของไป๋ชิงเหยียน สาวน้อยจึงได้สติ “พี่หญิงใหญ่…”
ไป๋ชิงเหยียนเงยหน้ามองดูค่ายหู่อิงบุกเข้าไปชิงตัวพวกเสิ่นเหลียงอวี้ออกมาจากค่ายทหารของซีเหลียงได้สำเร็จ ท่ามกลางลูกธนูที่พุ่งตรงเข้ามาราวกับสายฝน หญิงสาวตะโกนเสียงดังลั่น “ถอย!”
เสิ่นชิงจู๋จ้องไปยังม้าที่ไร้เจ้าของตัวหนึ่งที่กำลังเสียขวัญ เก็บมีดสั้นลง มือหนึ่งจับอานม้าพลางกระโจนขึ้นไปบนหลังม้า ถ่ายทอดคำสั่งเสียงดังลั่น “ถอย!”
“ถอย!”
สิ้นเสียง ทหารค่ายหู่อิง ทหารหน่วยกล้าตายของตระกูลต่ง ต่างจับมือของสหายร่วมรบที่ขี่ม้าใกล้เข้ามาพลางกระโจนตัวขึ้นไปบนหลังม้า ขี่ม้ามุ่งหน้าไปยังทางลาดชันบนเขาอย่างรวดเร็ว
ไป๋ชิงเหยียนโน้มตัวไปหยิบลูกธนูมาจากศพของทหารซีเหลียง ง้างสายธนูยิงไปยังทหารซีเหลียง ตะโกนบอกเสิ่นชิงจู๋ที่กำลังพุ่งมาทางนี้ “เจ้าไปก่อนเลย เร็วเข้า!”