สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 277 สละชีพเพื่อบ้านเมือง

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 277 สละชีพเพื่อบ้านเมือง

ลู่เทียนจัวร่างสั่นเทิ้ม ไม่กล้าเงยหน้าขึ้น เขารู้ดีว่าแม้ภายนอกหลี่จือเจี๋ยจะดูเป็นคนใจกว้าง ทว่าชายหนุ่มเป็นคนเด็ดขาด พูดคำไหนคำนั้น เรื่องนี้คงไม่มีทางแก้ไขอันใดได้อีกแล้ว

“เจ้าอยากแก้แค้นมิใช่หรือ หากองค์หญิงแต่งงานเชื่อมไมตรีอยู่ที่แคว้นต้าจิ้น เจ้าอยู่กับองค์หญิงที่นี่ คงมีโอกาสแก้แค้นได้ง่ายขึ้น” หลี่จือเจี๋ยยิ้มเย็น “เช่นนี้จะได้ไม่ผิดต่อพ่อบุญธรรมของเจ้า และถือเป็นการสิ้นสุดความสัมพันธ์ระหว่างนายและบ่าวของเราสองคน”

ลู่เทียนจัวทราบดี หลี่จือเจี๋ยไม่ฆ่าเขาเพราะเรื่องนี้ถือว่าเป็นบุญคุณอย่างใหญ่หลวงแล้ว

“ขอบพระคุณ…ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ” ลู่เทียนจัวก้มศีรษะแนบพื้น

“ท่านอ๋อง!” องครักษ์ของหลี่จือเจี๋ยวิ่งเข้ามาด้านในอย่างรีบร้อน เมื่อเห็นลู่เทียนจัวคุกเข่าอยู่บนพื้น เขาชะงักไปชั่วครู่ จากนั้นกล่าวกับหลี่จือเจี๋ย “แม่ทัพไป๋ของแคว้นต้าจิ้นผู้นั้นมาถึงแล้วขอรับ มาคนเดียว…”

“เร็วกว่าที่คิดไว้อีก!” หลี่จือเจี๋ยลูบไปที่บาดแผลซึ่งเฉียดหัวใจเพียงนิดเดียว ก้มหน้ามองดูลู่เทียนจัวที่คุกเข่าอยู่บนพื้นด้วยสายตาสงบนิ่ง “สรุปแล้ว…คุณชายรองไป๋ชิงฉยงยังมีชีวิตอยู่หรือไม่”

น้ำเสียงของลู่เทียนจัวราบเรียบอ่อนโยน “โดนตัดศีรษะและถูกฝังอยู่ที่หน้าหลุมศพของท่านพ่อบุญธรรมของข้าพ่ะย่ะค่ะ”

หลี่จือเจี๋ยก้มหน้ามองลู่เทียนจัว “เหตุใดยังคุกเข่าอยู่ตรงนี้ ในเมื่อเจ้าอยากยุแยงให้องค์รัชทายาทและขุนนางบาดหมางกัน ยังไม่รีบคิดหาวิธีไปบอกองค์รัชทายาทอีกว่าไป๋ชิงเหยียนลอบมาพบข้าเป็นการส่วนตัวอีก!”

“พ่ะย่ะค่ะ!” ลู่เทียนจัวลุกขึ้นยืนและจากไปอย่างรวดเร็ว

หลี่จือเจี๋ยเห็นไป๋ชิงเหยียนอยู่ในชุดขี่ม้าอย่างรัดกุม เอวด้านหลังมีกระบอกธนูเสียบอยู่ ในมือถือธนูเซ่อรื้อ เขาหัวเราะออกมาเล็กน้อย “เจิ้นกั๋วจวิ้นจู่…”

“น้องชายรองของข้าอยู่กับเหยียนอ๋องหรือเพคะ” ไป๋ชิงเหยียนอยู่ห่างจากหลี่จือเจี๋ยหลายจั้ง

“ตอนที่ทหารซีเหลียงเก็บกวาดสนามรบได้เจอแหวนวงนี้เข้า เขาเห็นว่าไม่ธรรมดาจึงมอบให้ข้า นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีคนจำได้ว่าเป็นแหวนของคุณชายรองตระกูลไป๋ ข้าจึงส่งไปที่จวนเจิ้นกั๋วจวิ้นจู่” หลี่จือเจี๋ยยิ้มบางๆ

ไป๋ชิงเหยียนหยิบลูกธนูออกมาอย่างรวดเร็ว เล็งธนูไปยังหลี่จือเจี๋ยด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ดังนั้นเหยียนอ๋องจึงใช้แหวนของน้องชายรองของข้าหลอกข้าออกมาพบเพื่อสังหารข้า หรือว่าจงใจยุแยงให้องค์รัชทายาทและขุนนางในแคว้นต้าจิ้นแตกแยกกันเองจนฮ่องเต้สละข้าทิ้งกันแน่เพคะ เหยียนอ๋องช่างวางแผนได้ตื้นเขินยิ่งนัก”

“ตื้นเขินหรือไม่ไม่สำคัญ ขอแค่บรรลุเป้าหมายล้วนถือว่าเป็นแผนการที่ดีทั้งสิ้น” หลี่จือเจี๋ยยกยิ้มมุมปาก “แน่นอนว่าหากเจิ้นกั๋วจวิ้นจู่สังหารข้าที่นี่ วันนี้ต่อให้จวิ้นจู่ตายอยู่ที่นี่ ฮ่องเต้ก็คงไม่กล้าเปิดศึกกับซีเหลียงและคงไม่มีความสามารถเปิดศึกกับซีเหลียงแน่นอน ชีวิตของอ๋องธรรมดาอย่างข้าแลกกับชีวิตแม่ทัพใหญ่ของต้าจิ้น ถือว่าคุ้มค่ามาก”

แม้หลี่จือเจี๋ยจะทำตัวเสเพลรักสนุกไปวันๆ ทว่า เมื่อถึงเวลาสำคัญ…เขามีความกล้าที่จะสละชีพเพื่อบ้านเมือง ทว่า ยังไม่ใช่วันนี้!

ไป๋ชิงเหยียนรั้งธนูเซ่อรื้อจนสุดสาย “ข้าให้โอกาสท่านอีกครั้ง น้องชายรองของข้าอยู่กับท่านหรือไม่”

หลี่จือเจี๋ยหยิบพัดเหล็กออกมาจากเอว เคาะลงบนฝ่ามือของตัวเอง พลธนูที่แฝงกายอยู่ต่างเล็งธนูไปยังไป๋ชิงเหยียน

หลี่จือเจี๋ยกล่าวยิ้มๆ “เจิ้นกั๋วจวิ้นจู่ไม่กลัวว่าหากสังหารข้าแล้ว น้องชายคนรองของเจ้าจะตายหรือ”

สีหน้าของไป๋ชิงเหยียนเคร่งขรึมลง “ดังนั้นเหยียนอ๋องแค่ต้องการลอบสังหารคน หรือต้องการใช้น้องชายรองของข้ามาเจรจาต่อรองกับข้ากันแน่เพคะ”

“เจิ้นกั๋วจวิ้นจู่เข้าใจง่ายจริงๆ ข้าได้ยินมาว่าจักรพรรดิต้าเยี่ยนต้องการสู่ขอเกาอี้เซี่ยนจู่ให้ท่านอ๋องเก้าซึ่งเป็นน้องชายแท้ๆ ของพระองค์ ช่างบังเอิญเสียจริง ระหว่างที่เดินทางมาเมืองหลวง ข้าเองก็แอบหลงรักเกาอี้เซี่ยนจู่ ตั้งใจว่าจะสู่ขอนางจากจักรพรรดิต้าจิ้นในงานเลี้ยงวันพรุ่งนี้ หวังว่าเจิ้นกั๋วจวิ้นจู่จะช่วยให้ข้าได้สมหวัง หากเป็นไปตามนั้น ข้าจะคืนตัวคุณชายรองตระกูลไป๋ให้แก่เจิ้นกั๋วจวิ้นจู่” ดวงตาดอกท้อของหลี่จือเจี๋ยเต็มไปด้วยรอยยิ้มสดใส

ไป๋ชิงเหยียนยกยิ้มมุมปาก

หลี่จือเจี๋ยต้องการให้จักรพรรดิต้าจิ้นและองค์รัชทายาทเข้าใจว่านางลอบพบกับหลี่จือเจี๋ยเป็นการส่วนตัว กระทั่งมีข้อแลกเปลี่ยนบางอย่างกับเขาจึงยอมยกน้องสาวให้แต่งงานกับหลี่จือเจี๋ยเพื่อเป็นข้อแลกเปลี่ยน

เมื่อเป็นเช่นนั้น หลี่จือเจี๋ยจะได้แต่งงานกับเสี่ยวซื่อ ใช้น้องสาวมาข่มขู่นางได้ตลอดเวลา อีกทั้งยังทำให้จักรพรรดิต้าจิ้นและองค์รัชทายาทหวาดระแวงในตัวนาง ช่างเป็นแผนที่ดีจริงๆ

เหนือความคาดหมายของหลี่จือเจี๋ย ชายหนุ่มได้ยินเสียงลูกธนูพุ่งตรงเข้ามากลางอากาศ เขาเบิกตาโพลงพลางถอยหลังหนีไปสองสามก้าว คลี่พัดออกบังกาย ทว่า เขาเร็วไม่เท่าลูกธนูอันแหลมคม ไม่เพียงแต่บังลูกธนูที่พุ่งเข้าอย่างรวดเร็วไม่ได้ ลูกธนูแหลมคมนั่นยังปักทะลุบาดแผลเก่าที่ยังไม่หายสนิทของหลี่จือเจี๋ย เฉียดโดนสะบักชายหนุ่มเซล้มลงบนพื้น ส่วนลูกธนูพุ่งไปปักอยู่ที่ต้นไม้ใหญ่ทางด้านหลัง ปลายธนูสั่นไหวเล็กน้อย

“ท่านอ๋อง!”

“ผู้ใดกล้าขยับ!”

ตอนที่ทุกคนได้สติ ไป๋ชิงเหยียนซึ่งถือธนูอยู่ในมือเหยียบไปบนอกของหลี่จือเจี๋ย ง้างธนูเล็งไปที่หลี่จือเจี๋ยเต็มเหนี่ยว ขอแค่นางปล่อยมือ…หลี่จือเจี๋ยต้องจบชีวิตลงที่นี่อย่างแน่นอน

“อย่าขยับ!” หลี่จือเจี๋ยขบกรามแน่น สั่งให้พลธนูห้ามขยับ เขาใช้มืออุดบาดแผลพลางยิ้มให้ไป๋ชิงเหยียน “เจิ้นกั๋วจวิ้นจู่กล้าสังหารเหยียนอ๋องแห่งซีเหลียงที่แคว้นต้าจิ้นเช่นนี้ ดูเหมือนว่าจวิ้นจู่ไม่เพียงไม่อยากได้น้องชายรองกลับคืนไปแล้ว แต่ยังอยากทำสงครามกับซีเหลียงต่อมากกว่า!”

“หากน้องชายรองของข้าตายไปแล้ว แต่ข้าถูกท่านหลอก เท่ากับว่าข้ามอบน้องสาวสี่ซึ่งเป็นจุดอ่อนของข้าไว้ในมือของท่านอีกด้วย” ไป๋ชิงเหยียนยิ้มเย็นให้หลี่จือเจี๋ย “หากน้องชายรองของข้ายังมีชีวิตอยู่แล้วเขารู้ว่าข้าใช้น้องหญิงสี่แลกเขากลับคืนมา เขาคงไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปแน่! ท่านไม่ควรใช้น้องชายรองของข้าแลกกับน้องหญิงสี่ ท่านแพ้เพราะไม่รู้นิสัยของคนตระกูลไป๋!”

ดวงตาดอกท้อของหลี่จือเจี๋ยไหววูบ

“ขอเรียนท่านอ๋องตามตรง บัดนี้ข้าส่งของกำนัลที่ท่านมอบให้ไปยังจวนองค์รัชทายาทแล้ว คงถึงมือขององค์รัชทายาทเรียบร้อยแล้วด้วย! น้องหญิงสี่ของข้าก็คงทำให้เรื่องที่น้องชายรองของข้าตกอยู่ในเงื้อมมือของเหยียนอ๋องกลายเป็นเรื่องใหญ่จนคนรับรู้กันไปทั่วแล้ว! ตอนเจรจาสงบศึกเหยียนอ๋องไม่ยอมบอกว่าน้องชายรองของข้าอยู่กับท่าน แต่กลับใช้น้องชายรองล่อลวงข้าออกมาพบหลังสองแคว้นทำสัญญาสงบศึกกันแล้วเช่นนี้ ท่านว่า หากวันนี้ข้าสังหารท่าน จะมีผู้ใดในแคว้นต้าจิ้นตำหนิข้าหรือไม่ เกรงว่าซีเหลียงยังต้องอธิบายเรื่องนี้กับแคว้นต้าจิ้นอีกด้วย!”

สีหน้าของหลี่จือเจี๋ยค่อยๆ เปลี่ยนไป เขาฝืนยิ้มพลางกล่าวออกมา “เจ้าบอกว่าเป็นของที่ข้าส่งไปก็ต้องเป็นของที่ข้าส่งไปอย่างนั้นหรือ เป็นไปไม่ได้เลยหรือว่าเจ้าไม่พอใจที่ข้าวางแผนยุยงให้เจ้ากับองค์รัชทายาทผิดใจกันที่ชิวซานกวน เจ้าจึงวางแผนลอบสังหารข้าเช่นนี้!”

ไป๋ชิงเหยียนยกยิ้มมุมปาก แววตาเต็มไปด้วยไอสังหาร “เช่นนั้นก็ต้องรอดูว่าองค์รัชทายาทจะเชื่ออ๋องของแคว้นศัตรูอย่างท่าน หรือเจิ้นกั๋วจวิ้นจู่ที่จงรักภักดีต่อแคว้นต้าจิ้นอย่างข้าคนนี้!”

เมื่อเห็นว่าไป๋ชิงเหยียนเตรียมลดธนูในมือลง ดวงตาของหลี่จือเจี๋ยไหววูบ “เจ้าไม่อยากได้ชีวิตของน้องชายรองของเจ้าแล้วหรืออย่างไร”

“สาบานต่อเทพเจ้าของซีเหลียงว่าน้องชายรองของข้ายังมีชีวิตอยู่!” แววตาของไป๋ชิงเหยียนเต็มไปด้วยไอสังหารที่พร้อมปลิดชีวิตคน

เมื่อได้ยินคำว่าเทพเจ้า พลธนูของซีเหลียงต่างพากันก้มหน้าลงต่ำ เมื่อเงยหน้าจ้องไปที่ไป๋ชิงเหยียนอีกครั้ง แววตาคุกรุ่นไปด้วยความโกรธ

หลี่จือเจี๋ยขบกรามมองไปยังไป๋ชิงเหยียน

คนซีเหลียงบูชาเทพเจ้ามาตั้งแต่เด็ก ศรัทธาในการนับถือเทพเจ้าฝังลึกอยู่ในใจของคนซีเหลียงทุกคน หากสาบานเรื่องเท็จต่อเทพเจ้า นั่นคือการลบหลู่ คนซีเหลียงยอมตายดีกว่าลบหลู่เทพเจ้า

ตอนที่อยู่ที่โยวหวาเต้า เขาไม่กล้าสาบาน ตอนนี้ก็ไม่อาจสาบานได้เช่นกัน

“จริงๆ ด้วย…” แม้ในใจจะเจ็บปวดทรมาน ทว่า ดวงตาทั้งสองข้างของไป๋ชิงเหยียนยังคงสงบนิ่งราวกับน้ำ

“ให้เหยียนอ๋องหลี่จือเจี๋ยแห่งซีเหลียงผู้นั้นคืนพี่ชายรองของข้ามา!”

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท