สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 418 แม่ทัพผู้ดุดัน

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 418 แม่ทัพผู้ดุดัน

การตัดศีรษะแม่ทัพใหญ่ผางผิงกั๋วแห่งแคว้นสู่และการสังหารทหารยอดฝีมือนับแสนของซีเหลียง ไม่ได้อาศัยเพียงโชคช่วยแค่อย่างเดียวเท่านั้น

ในฐานะแม่ทัพ หากสามารถนำทัพออกรบจนได้ชัยชนะทุกรอบไม่เคยแพ้ คนผู้นั้นจะกลายเป็นขวัญกำลังใจของกองทัพ

ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือไป๋ชิงเหยียนคือคนของตระกูลไป๋! ตระกูลไป๋เป็นตระกูลแห่งนักรบ พวกเขาเป็นเสาหลักและกระดูกสันหลังของแคว้นต้าจิ้นตั้งแต่เริ่มสถาปนาแคว้นต้าจิ้นขึ้นมา

ไป๋ชิงเหยียนได้รับการสั่งสอนเลี้ยงดูจากเจิ้นกั๋วอ๋อง เป็นหลานสาวคนโตของเจิ้นกั๋วอ๋องไป๋เวยถิง คือเสี่ยวไป๋ไซว่แห่งกองทัพไป๋!

ทหารต้าเหลียงที่ล้อมอยู่นอกเมืองได้ยินเสียงตะโกนโห่ร้องของทหารต้าจิ้นบนกำแพงเมืองต่างหันไปมองหน้ากันเองอย่างงุนงง

“วันนี้ทหารต้าจิ้นเป็นบ้าไปแล้วหรืออย่างไร”

“ไม่ใช่แค่คนเดียวด้วยสิ”

“หรือพวกเขาจะมีวิธีรบใหม่ถึงได้ตะโกนร้องดีใจคิดว่าจะชนะกันเช่นนี้”

ทหารต้าเหลียงหัวเราะออกมาอย่างไม่ใส่ใจ

แม่ทัพจ้าวถงแห่งต้าเหลียงขี่ม้าอยู่ด้านหน้าสุดของขบวนทัพ ชี้หอกในมือไปทางหลินคังเล่อซึ่งยืนอยู่บนกำแพงเมือง

“หลังจากแม่ทัพจางตวนรุ่ยตายไป แคว้นต้าจิ้นไม่มีผู้ใดกล้าออกมาทำสงครามแล้วหรือ ดีแต่หดหัวอยู่ในกระดองกันหรืออย่างไร สู้สตรีตัวเล็กๆ ของตระกูลไป๋อย่างเกาอี้เซี่ยนจู่ยังไม่ได้เลย”

“กล่าวถึงเกาอี้เซี่ยนจู่ บัดนี้คงใกล้ถูกทหารต้าเหลียงจับเป็นได้แล้วกระมัง ถึงเวลานั้นข้าจะจับตัวเกาอี้เซี่ยนจู่มาที่เมืองหลงหยาง เปลื้องผ้าของนางออกทีละชิ้นให้ทหารต้าเหลียงของข้าได้ยลโฉมดีหรือไม่ ดูสิว่าสตรีของแคว้นต้าจิ้นแตกต่างจากสตรีแคว้นต้าเหลียงเช่นไรบ้าง!”

จ้าวถงหันไปตะโกนพลางหัวเราะออกมา “ธงของเด็กนั่นถูกพวกเรายึดมาได้แล้วไม่ใช่หรือ! เร็วๆ แบกธงเฮยฟานไป๋หมั่งออกมาสิ!”

หลินคังเล่อเห็นไป๋ชิงเหยียนเดินเข้าในในชุดทหารจึงรีบโค้งกายคำนับ “จวิ้นจู่!”

“แม่ทัพไป๋!” ลำคอของหวังสี่ผิงร้อนผ่าว อาจเป็นเพราะเคยสูรบเคียงบ่าเคียงไหล่กันมา หวังสี่ผิงจึงรู้สึกชื่นชมและนับถือในตัวไป๋ชิงเหยียนมาก รู้สึกว่าขอเพียงมีไป๋ชิงเหยียนอยู่ พวกเขาต้องชนะอย่างแน่นอน

ยิ่งไปกว่านั้น หวังสี่ผิงนึกไม่ถึงว่าไป๋ชิงเหยียนจะมาถึงเมืองหลงหยางล่วงหน้าโดยไม่รอทัพเสริมเช่นนี้ เมื่อคำนวณเวลาดูแล้ว หวังสี่ผิงรู้ได้ทันทีว่าไป๋ชิงเหยียนคงเร่งเดินทางมาโดยไม่ได้หยุดพักผ่อนเลยสักนิด หวังสี่ผิงรู้สึกซาบซึ้งมาก

“แม่ทัพไป๋!” ขอบตาของตู้ซานเป่าร้อนผ่าว คุกเข่าข้างหนึ่งลงบนพื้น “แม่ทัพจางตวนรุ่ยเสียชีวิตในสนามรบ! แม่ทัพเสี่ยวไป๋ออกไปช่วย ทว่า กลับขาดการติดต่อไป! แม่ทัพไป๋ต้องช่วยแม่ทัพเสี่ยวไป๋กลับมาให้ได้นะขอรับ!”

ไป๋ชิงเหยียนยืนนิ่งอยู่บนกำแพง มองดูจ้าวถงซึ่งก่นด่าแคว้นต้าจิ้นอย่างหงุดหงิดอยู่บนหลังม้า จับจำความได้ว่าพวกเขารู้ร่องรอยของเสี่ยวซื่อ

ไป๋ชิงเหยียนควบคุมสติของตัวเอง ปลดถุงทรายที่พันอยู่ที่แขนออกอย่างไม่รีบร้อน

หลูผิงก้าวเข้าไปกระซิบข้างใบหูของไป๋ชิงเหยียน

“นั่นคือจ้าวถง หลานชายของแม่ทัพจ้าวอี้แห่งต้าเหลียงซึ่งเสียชีวิตด้วยน้ำมือของเจิ้นกั๋วอ๋องขอรับ คงเป็นเพราะแม่ทัพฝานที่บุกโจมตีเมืองเมื่อสามวันก่อนได้รับบาดเจ็บ วันนี้จ้าวถงถึงมาแทน หรือบางทีสวินเทียนจางอาจหมดความอดทนแล้วจึงส่งแม่ทัพที่ดุดันเช่นนี้มาโจมตีเมืองแทนขอรับ”

ทหารต้าเหลียงสองนายแบกธงเฮยฟานไป๋หมั่งออกมาจากด้านหลังของขบวน จากนั้นวางลงบนพื้นข้างๆ จ้าวถง ทั้งสองคนกำลังจะปลดกางเกงของตัวเองออก เตรียมจะปัสสาวะรดลงบนธงเฮยฟานไป๋หมั่งเพื่อยั่วโมโหกองทัพต้าจิ้น

“คุณหนูใหญ่!” หลูผิงเบิกตาโพลง

ธงเฮยฟานไป๋หมั่งคือสัญลักษณ์ของกองทัพไป๋และตระกูลไป๋ จะปล่อยให้โดนเหยียบย่ำเช่นนี้ได้อย่างไรกัน!

ไป๋ชิงเหยียนไม่กล่าวสิ่งใดทั้งสิ้น ดวงตาคู่งามคมกริบเยือกเย็น หยิบลูกธนูออกมาจากกระบอกไม้ไผ่สองดอก ง้างสายธนูเต็มเหนี่ยวจนเกิดเสียง

เล็งมั่น ยิงออกไป!

ลูกธนูพุ่งไปในอากาศ เสียบทะลุลำคอของทหารต้าเหลียงทั้งสองนายที่ยังไม่ทันปลดกางเกง ลูกธนูเปื้อนเลือดปักลงบนโล่ที่อยู่ด้านหน้าสุดของขบวน หัวธนูฝังลึกลงไปในไม้เกือบครึ่ง แรงกระแทกมหาศาลจนทหารที่ถือโล่อยู่ชาไปหมดทั้งแขน

เลือดสดไหลทะลักออกมาจากลำคอของทหารทั้งสองนาย กระจายเป็นละอองเลือดไปทั่วบริเวณ

ธนูอีกดอกพุ่งมาจากด้านบนอย่างรวดเร็ว ปักลงบนธงที่มีคำว่า ‘จ้าว’ สลักอยู่จนธงขาดวิ่น ร่วงลงบนพื้นพร้อมกับทหารสองนายที่เตรียมจะเหยียดหยามธงเฮยฟานไป๋หมั่ง

ทหารสองนายของต้าเหลียงล้มลงบนพื้นข้างธงเฮยฟานไป๋หมั่ง ธงเปื้อนไปด้วยเลือดสีแดงสด

ม้าที่จ้าวถงขี่อยู่ยกข้าหน้าทั้งสองข้างขึ้นพลางส่งเสียงร้องอย่างตกใจ จ้าวถงกระตุกบังเหียนแน่น พยายามควบคุมม้าที่กำลังตกใจ สายตาหยุดอยู่ที่ลูกศรเปื้อนเลือดซึ่งปักอยู่บนโล่ จากนั้นเบิกตาโพลงมองไปทางกำแพงเมือง

ทหารต้าจิ้นซึ่งยืนอยู่บนกำแพงส่งเสียงโห่ร้อง เลือดร้อนพุ่งพล่าน

ดวงตาเยือกเย็นที่มีแต่ไอสังหารของไป๋ชิงเหยียนจ้องไปทางจ้าวถงเขม็ง

แม้จะอยู่ไกลกันถึงเพียงนั้น ทว่า จ้าวถงยังสัมผัสได้ถึงไอสังหารของแม่ทัพในชุดเกราะผู้นั้น

“ชูธง! ตีกลอง!” ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยสั่งเสียงเย็น สายตาจ้องไปทางจ้าวถงนิ่ง “รับคำท้ารบ!”

องครักษ์ที่อยู่ด้านหลังไป๋ชิงเหยียนรับคำอย่างพร้อมเพรียง

หลินคังเล่อรีบก้าวเข้าไปด้านหน้า กล่าวขึ้น “จวิ้นจู่ ท่านเร่งเดินทางมาถึงโดยไม่ได้หยุดพัก จ้าวถงผู้นั้นเป็นแม่ทัพที่ดุดันในสังกัดของสวินเทียนจางนะขอรับ!”

ไป๋ชิงเหยียนไม่สนใจว่าจ้าวถงจะเป็นแม่ทัพที่ดุดันหรือไม่ ทว่า เขารู้ร่องรอยของเสี่ยวซื่อ ดังนั้นวันนี้นางต้องจับเป็นเขามาสอบถามเรื่องของเสี่ยวซื่อให้ได้

ที่สำคัญ การเสียชีวิตของแม่ทัพจางตวนรุ่ยทำให้ทหารต้าจิ้นเสียขวัญไปตามๆ กัน พวกเขาต้องการชัยชนะเพื่อปลุกขวัญกำลังใจให้กลับมาอีกครั้ง

นางต้องขอบคุณแม่ทัพจ้าวถงผู้นี้ที่ทำให้นางรับรู้ว่าเสี่ยวซื่อยังมีชีวิตอยู่

กองทัพต้าเหลียงเห็นบนกำแพงของเมืองหลงหยางชูธงเฮยฟานไป๋หมั่งขึ้น ธงปลิวสยายตามแรงลม ทั้งกองทัพเงียบกริบไปชั่วครู่ จากนั้นเดือดพล่านขึ้นมาอีกครั้ง

“กองกำลังเสริมของต้าจิ้นมาถึงแล้วอย่างนั้นหรือ”

“ธงเฮยฟานไป๋หมั่ง แสดงว่าเทพสังหารเจิ้นกั๋วจวิ้นจู่มาถึงแล้วอย่างนั้นหรือ ไวเพียงนี้เชียวหรือ!”

ทหารในกองทัพถกเถียงกันไปต่างต่างนานา

“แม่ทัพจ้าว ถอยทัพกลับไปรายงานแม่ทัพใหญ่ก่อนดีหรือไม่ขอรับ” รองแม่ทัพของจ้าวถงกล่าวขึ้น

จ้าวถงขบกรามแน่น กุมบังเหียนเตรียมถอยทัพ ทันใดนั้นเองก็ได้ยินเสียงตีกลองและเป่าแตรดังมาจากบนกำแพง

จ้าวถงนิ่งอยู่กับที่ บันไดแขวนถูกปล่อยลงจากกำแพงช้าๆ ร่างของสตรีในชุดเกราะ ถือหอกเงินอยู่ในมือพาทหารองครักษ์ยี่สิบนายไต่บันไดแขวนลงมาด้านล่าง องครักษ์ยี่สิบนายขี่ม้าอยู่ทางด้านหลังของหญิงสาว

จ้าวถงชี้หอกไปทางไป๋ชิงเหยียน “เจ้าคือผู้ใด!”

ไป๋ชิงเหยียนมองจ้าวถงด้วยสายตาเย็นชา น้ำเสียงเยือกเย็น “ไป๋ชิงเหยียน…”

จ้าวถงมองดูสตรีร่างผอมบางตรงหน้า หัวเราะออกมาเบาๆ

“เจ้าคือเทพสังหารไป๋ชิงเหยียนอย่างนั้นหรือ เป็นสตรีที่งดงามเสียจริง! แคว้นต้าจิ้นของพวกเจ้ากุเรื่องเทพสังหารขึ้นมาอย่างนั้นสินะ”

รองแม่ทัพมองดูลูกธนูที่ปักอยู่บนโล่ อยากเรียกจ้าวถงกลับมา ทว่า พวกเขาเป็นคนมาท้ารบก่อน จะหนีไปตอนที่ต้าจิ้นตอบรับคำท้าได้อย่างไรกัน

“ลองดูก็รู้!” ไป๋ชิงเหยียนชี้หอกเงินหงอิงไปทางจ้าวถง

บัดนี้ไป๋ชิงเหยียนยังไม่อาจใช้หอกได้คล่องแคล่วเหมือนเมื่อก่อน ทว่า หลังจากอดทนฝึกฝนโดยการเพิ่มน้ำหนักถุงทรายในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานี้ แรงของหญิงสาวมีพอๆ กับจ้าวถง

ไป๋ชิงเหยียนรู้ดีว่าจะยื้อเวลาไม่ได้ หากต่อสู้กันนานเข้า จ้าวถงต้องรู้ถึงความผิดปกติของนางอย่างแน่นอน

เมื่อรู้ข้อเสียของตัวเอง ไป๋ชิงเหยียนจึงต้องทำให้การต่อสู้ครั้งนี้จบลงโดยเร็วที่สุด

จ้าวถงแสยะยิ้มเย็น ตวัดแส้ม้าพุ่งทะยานเข้าไปหาไป๋ชิงเหยียน

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท