ตอนที่ 462 ผิดหวังที่สุด
ลอบดึงเสียนอ๋องซึ่งมีอำนาจทางทหารไปเป็นพวก คิดแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์กับตระกูลต่ง เหลียงอ๋องช่างใจกล้าเสียจริง!
รัชทายาทกำหมัดแน่น หากเหลียงอ๋องได้เสียนอ๋องไปเป็นพวกแล้ว จากนั้นได้รับการสนับสนุนจากตระกูลต่งอีก เขาจะมีกำลังทหารที่แข็งแกร่ง กลายเป็นอุปสรรคอันยิ่งใหญ่ของเขาทันที เขาต้องป้องกันไว้ก่อน!
“องค์ชาย รีบเสด็จเข้าวังเถิดพ่ะย่ะค่ะ…” ฟางเหล่ากล่าวอย่างจริงจัง
“หากเหลียงอ๋องต้องการแต่งงานกับบุตรสาวของตระกูลต่งจริงๆ องค์ชายจะทรงปล่อยไปไม่ได้เด็ดขาดนะพ่ะย่ะค่ะ องค์ชายต้องโน้มน้าวฝ่าบาทให้ได้พ่ะย่ะค่ะ”
เดิมทีไป๋จิ่นจื้ออยากกล่าวเสริมอีกสักประโยค ทว่า เมื่อนึกถึงคำสั่งของพี่หญิงใหญ่ สาวน้อยจึงได้แต่ยืนนิ่ง
รัชทายาทคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นพยักหน้าสั่งให้คนเตรียมรถม้าเข้าวัง
ไป๋ชิงเหยียนไปพบต่งชิงผิงและซ่งซื่อเป็นเพื่อนต่งถิงเจิน ทว่า ยังไม่ทันได้กล่าวสิ่งใด ทางวังหลวงก็ส่งคนมาเชิญต่งชิงผิงเข้าไปในวังเสียก่อน
ต่งถิงเจินอาศัยตอนที่ต่งชิงผิงเปลี่ยนเครื่องแต่งกายอธิบายเรื่องทุกอย่างอย่างกระชับ ผู้ใดจะคิดว่าเมื่อต่งถิงเจินกล่าวถึงตอนที่นางมอบสร้อยนำโชคซึ่งเป็นของแนบกายของตัวเองให้เหลียงอ๋อง ซ่งซื่อสั่งให้คนลากตัวไห่ถังสาวใช้ข้างกายของต่งถิงเจินไปโบยให้ตายทันทีด้วยความโมโห
หน้าอกของซ่งซื่อสั่นไหวอย่างรุนแรง ทว่า สมองชัดเจนกว่ายามใดทั้งสิ้น นางกล่าวอย่างจริงจัง
“บ่าวชั้นต่ำไห่ถังลอบขโมยของแนบกายของคุณหนูขณะที่คุณหนูกำลังอาบน้ำ ต้องโทษโบยจนตาย พรุ่งนี้แจ้งให้พ่อแม่นางมารับศพนางกลับไป!”
ไห่ถังซึ่งคุกเข่าอยู่กลางลานหญ้าได้ยินก็สั่นสะท้านไปทั้งร่าง ใบหน้าซีดเผือดด้วยความหวาดกลัว อยากคลานเข่าเข้าไปขอร้อง ทว่า กลับโดนหมัวมัวคนสนิทของซ่งซื่อรั้งตัวและยัดผ้าขี้ริ้วใส่ปากเสียก่อน
“ท่านแม่! ท่านแม่ไว้ชีวิตไห่ถังเถิดเจ้าค่ะ ท่านแม่จะทำเช่นนี้ไม่ได้นะเจ้าคะ…ข้าเป็นคนมอบของให้เหลียงอ๋องเอง ข้าอยากแต่งงานกับเหลียงอ๋องจริงๆ เจ้าค่ะ!”
ซ่งซื่อที่กำลังโมโหถึงขีดสุดได้ยินเช่นนี้จึงฟาดมือลงบนใบหน้าของต่งถิงเจินหนึ่งที ต่งถิงเจินยกมือกุมหน้าพลางกรีดร้องออกมา หญิงสาวคุกเข่าตัวสั่นเทาอยู่บนพื้น
หากไม่ใช่เพราะไป๋ชิงเหยียนห้ามเอาไว้ ซ่งซื่ออยากจะเข้าไปตบตีต่อ
“มอบของแนบกายให้บุรุษ! เจ้าเป็นบ้าไปแล้วหรืออย่างไร! หากผู้อื่นรับรู้เรื่องนี้…จะคิดว่าตระกูลต่งสั่งสอนบุตรเช่นไร! เจ้าอยากแต่งงานกับเหลียงอ๋องจนถึงกับต้องใช้วิธีการเช่นนี้ เจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้ายังมีน้องสาวอยู่ ถิงหลานเพิ่งหกขวบ! หากผู้อื่นรู้ว่านางมีพี่สาวที่หน้าไม่อายเช่นนี้ ต่อไปนางจะหาคู่ครองได้อย่างไรกัน! มารยาทที่เคยร่ำเรียนมาหายไปที่ใดหมดแล้ว!”
ซ่งซื่อโมโหจนน้ำตาไหลพราก จ้องไปที่ต่งถิงเจินซึ่งคุกเข่ายืนกรานว่าจะแต่งงานกับเหลียงอ๋องให้ได้เขม็ง
“ข้าตีเจ้าให้ตายเสียดีกว่า ถือว่าข้าไม่เคยมีบุตรเช่นเจ้า!”
ต่งถิงหลานคือบุตรสาวคนเล็กของซ่งซื่อ น้องสาวแท้ๆ ของต่งถิงเจิน
ไป๋ชิงเหยียนช่วยประคองซ่งซื่อพลางกล่าวขึ้น
“บัดนี้ถิงเจินต้องการแต่งงานกับเหลียงอ๋องแต่เพียงผู้เดียว หากเรื่องแดงไปถึงฝ่าบาท ฝ่าบาทอาจทนเห็นเหลียงอ๋องทำตัวน่าสงสารไม่ได้แล้วพระราชทานสมรสให้เจ้าค่ะ! เพราะบัดนี้เหลียงอ๋องก็ถึงวัยที่ควรแต่งงานแล้ว! ท่านลุงหาข้ออ้างขอหมั้นหมายกันไว้ก่อนดีหรือไม่เจ้าคะ ขอเพียงฝ่าบาทไม่พระราชทานสมรส ทุกอย่างก็ยังมีทางแก้ไขเจ้าค่ะ ยื้อไว้สักสองปี ให้ถิงเจินได้มีเวลาทบทวนก่อนเจ้าค่ะ!”
ต่งชิงผิงโมโหจนใบหน้าเขียวปัด ทว่า เขาควบคุมอารมณ์ได้ มองไปทางบุตรสาวที่กำลังคุกเข่าร้องไห้อยู่บนพื้น กล่าวขึ้น “ถิงเจิน เจ้าเป็นบุตรที่พ่อวางใจมากที่สุด เหลียงอ๋องไม่ใช่คนที่ไร้พิษสงดั่งที่เขาแสดงออกมาภายนอก หากเจ้าแต่งงานกับเหลียงอ๋อง…เท่ากับเป็นการดึงตระกูลต่งทั้งตระกูลเข้าไปพัวพันกับการแย่งชิงราชบัลลังก์ พ่อและท่านอารองของเจ้าจะถูกผู้อื่นมองว่าอยู่ฝ่ายเดียวกับเหลียงอ๋อง นอกเสียจากว่าพ่อจะตัดพ่อตัดลูกกับเจ้าและทำให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่! ทว่า เช่นนี้ฝ่าบาทก็จะทรงไม่พอพระทัยในตัวพ่อ ภายภาคหน้าพี่น้องของเจ้าจะถูกผู้อื่นติดฉินเรื่องคุณธรรมของสตรี! พ่อคิดว่าบุตรสาวของต่งชิงผิง ต่งถิงเจินไม่ใช่คนเห็นแก่ตัวที่จะดึงคนทั้งตระกูลเข้าไปเกี่ยวข้องกับการแย่งชิงบัลลังก์ที่อันตรายถึงเพียงนั้น! หากเจ้ากล้าบอกว่าเจ้ายอมปล่อยตระกูลต่งทั้งตระกูลตกอยู่ในอันตรายเพียงเพื่อเหลียงอ๋องได้ พ่อจะเข้าวังไปตอบรับเหลียงอ๋องเดี๋ยวนี้เลย!”
กล่าวจบ ต่งชิงผิงเดินเข้าไปเปลี่ยนเครื่องแต่งกาย
ต่งถิงเจินซึ่งยืนอยู่กลางห้องหนังสือใบหน้าไร้สีเลือด ต่งชิงผิงกล่าวอย่างนุ่มนวล ทว่า ทุกประโยคบาดลึกลงไปในใจของต่งถิงเจิน
คำกล่าวของต่งชิงผิงทำเอากล่าวที่ว่าไม่มีทางเดือดร้อนคนในตระกูล พร้อมตัดขาดกับตระกูลต่งของต่งถิงเจินจุกแน่นอยู่ในลำคอ
นางจะกล้าบอกว่ายอมให้ตระกูลต่งตกอยู่ในอันตรายเพราะเหลียงอ๋องเพียงคนเดียวได้อย่างไรกัน หากนางกล้าบอกว่ายอม…ท่านพ่อ ท่านพี่ น้องชายและน้องสาวของนางจะเป็นเช่นไร
เมื่อครู่ไป๋ชิงเหยียนก็กล่าวเช่นนี้กับต่งถิงเจินเช่นเดียวกัน ทว่า ต่งถิงเจินคิดว่าไป๋ชิงเหยียนคือคนของรัชทายาท ย่อมต้องหวาดกลัวผู้อื่นแย่งชิงราชบัลลังก์ของพระองค์ ย่อมกลัวว่าตระกูลต่งจะสนับสนุนเหลียงอ๋อง ดังนั้นต่งถิงเจินจึงไม่รับฟังสักเท่าใด
ต่งถิงเจินปิดหน้าร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด
ต่งชิงผิงเปลี่ยนเครื่องแต่งกายที่ห้องข้างๆ เสร็จเรียบร้อยจึงเดินมายังห้องหนังสือ ทว่า เขาไม่ได้ก้าวเข้าไปด้านใน เพียงแค่เอ่ยถาม
“ถิงเจิน เจ้าคิดได้แล้วหรือไม่ พ่อจะเข้าไปในวังแล้ว…”
สิ้นเสียง ต่งถิงเจินร้องไห้ออกมาหนักว่าเดิม ทว่า ไม่กล่าวสิ่งใดทั้งสิ้น
“ตกลง พ่อจะเข้าไปตอบรับเหลียงอ๋องในวัง คนทั้งตระกูลต้องตกอยู่ในอันตรายเพียงเพราะทำให้เจ้าสมปรารถนา หวังว่าเจ้าจะไม่รู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไป!”
กล่าวจบ ต่งชิงผิงก้าวจากไปทันที
“ดี…ดีมาก! ข้าเลี้ยงลูกสาวออกมาได้ดีจริงๆ! ลูกเนรคุณ ทั้งตระกูลต้องเดือดร้อนเพราะเจ้า!” ซ่งซื่อร้องไห้ออกมาอย่างเดือดดาล “ข้าทำเวรกรรมอันใดมาถึงได้มีลูกอย่างเจ้า!”
ต่งชิงผิงเดินออกมาจากเรือนใน เมื่อไม่เห็นต่งถิงเจินวิ่งตามออกมา เขารู้สึกผิดหวังเป็นที่สุด
ต่งถิงเจินมอบของแนบกายของตัวเองให้เหลียงอ๋องก็ไม่รู้จะแก้ต่างอย่างไรแล้ว นี่เรื่องยังรู้ไปถึงฮ่องเต้อีก บุตรสาวต้องการแต่งงานกับเหลียงอ๋องให้ได้ ต่อให้ต่งชิงผิงคัดค้านก็ไม่มีประโยชน์อันใด
โชคดีที่หลานสาวของเขาไป๋ชิงเหยียนรู้เรื่องนี้ก่อนจึงมาเตือนตระกูลต่ง เขาจึงพอตั้งตัวรับมือได้ทัน
ไป๋ชิงเหยียนไม่ได้มองในแง่ร้ายเท่ากับต่งชิงผิง ตอนนี้รัชทายาทคงเข้าไปในวังหลวงแล้ว เขาไม่มีทางปล่อยให้เหลียงอ๋องแต่งงานกับบุตรสาวตระกูลต่งแน่นอน
จากคำกล่าวที่ท่านลุงกล่าวกับต่งถิงเจินเมื่อครู่ ไป๋ชิงเหยียนฟังออกว่าท่านลุงทราบดีว่าตระกูลต่งจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับการแย่งชิงบัลลังก์ไม่ได้เด็ดขาด
ผลลัพธ์ที่เลวร้ายที่สุดก็คือการหมั้นหมาย ขอแค่ไม่ได้แต่งงาน ทุกอย่างมีทางแก้ไขเสมอ
เรื่องที่ต่งถิงเจินมอบของแนบกายของตัวเองให้เหลียงอ๋องทำให้ซ่งซื่อโมโหจนร้องหลายอยู่หลายรอบ ไป๋ชิงเหยียนปลอบอยู่นานกว่านางจะสงบสติอารมณ์ได้
เรื่องที่ต่งถิงเจินสารภาพกับต่งชิงผิงและซ่งซื่อถูกปิดเป็นความลับ บัดนี้คนอื่นในตระกูลต่งยังไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้น ทว่า ต่างสัมผัสได้ว่าบรรยากาศไม่ชอบมาพากล
เมื่อต่งชิงผิงมาถึงวังหลวง เขานึกไม่ถึงว่ารัชทายาทก็อยู่ที่นั่นด้วย
ฮ่องเต้เล่าเรื่องของเหลียงอ๋องและต่งถิงเจินให้ต่งชิงผิงฟัง ต่งชิงผิงแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องราวมาก่อน ตกใจจนรีบคุกเข่าก้มศีรษะแนบพื้นกล่าวว่าบุตรสาวของตนจะแต่งงานกับเหลียงอ๋องไม่ได้ บุตรสาวของตนเป็นลูกพี่ลูกน้องกับไป๋ชิงเหยียน สนิทสนมกันเสมือนพี่น้องแท้ๆ ย่อมคิดถึงความรู้สึกของอีกฝ่าย หากกล่าวตรงๆ ก็คือเหลียงอ๋องเคยก่อเรื่องจนตระกูลไป๋เกือบจบสิ้นทั้งตระกูล บุตรสาวของตนจะมีใจให้เหลียงอ๋องได้อย่างไร
รัชทายาทกล่าวช่วยเช่นเดียวกัน เขากล่าวว่าอาจมีเรื่องเข้าใจผิดบางประการ
ฮ่องเต้จึงบอกว่าต่งถิงเจินมอบสร้อยนำโชคซึ่งเป็นของแนบกายให้เหลียงอ๋องเป็นของแทนใจ
ต่งชิงผิงตะลึงหนักขึ้น รีบก้มศีรษะกล่าว “สร้อยนำโชคของบุตรสาวกระหม่อมหายไปหลายวันแล้วพ่ะย่ะค่ะ วันนี้เพิ่งสืบพบว่าถูกสาวใช้ข้างกายของนางขโมยไป บัดนี้สาวใช้ผู้นั้นโดนโทษโบยเสียชีวิตแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”