สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 463 ยินดีเป็นอย่างยิ่ง

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 463 ยินดีเป็นอย่างยิ่ง

ฮ่องเต้ได้ยินคำกล่าวของต่งชิงผิงจึงขบกรามแน่น รอยยิ้มบนใบหน้าหายไปทันที แม้โอรสของเขาจะอ่อนแอไร้ความสามารถ…ทว่า จะโดนขุนนางคนหนึ่งดูถูกไม่ได้เด็ดขาด!

น้ำเสียงของฮ่องเต้แฝงไปด้วยโทสะ “ต่งชิงผิง เจ้าไม่พอในในตัวโอรสของเราอย่างนั้นหรือ”

ต่งชิงผิงแสร้งทำเป็นหวาดกลัว รีบคุกเข่าคำนับ “กระหม่อมมิกล้าหมิ่นเบื้องสูงพ่ะย่ะค่ะ ที่กระหม่อมกราบทูลคือความจริงทั้งหมด ฝ่าบาทได้โปรดวินิจฉัยด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”

ฮ่องเต้รู้สึกเหมือนถูกหักหน้า เขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก

เมื่อองค์รัชทายาทเห็นท่าทีขมวดคิ้วของฮ่องเต้จึงแสร้งกล่าวขึ้นอย่างไม่เข้าใจ “เสด็จพ่อ ก่อนหน้านี้เหลียงอ๋องมีใจให้องค์หญิงเจิ้นกั๋ว บัดนี้มีของติดกายของคุณหนูต่งไว้ในครอบครองอีก เสด็จพ่อควรสืบให้แน่ชัดว่าเหลียงอ๋องคิดไปเองฝ่ายเดียวอีกหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”

เมื่อต่งชิงผิงได้ยินคำกล่าวขององค์รัชทายาทก็รู้สึกดีใจมาก เขารีบก้มศีรษะคำนับ “ฝ่าบาท หากเหลียงอ๋องมีใจให้บุตรสาวของกระหม่อมจริงๆ นั่นคือโชคดีของบุตรสาวกระหม่อมพ่ะย่ะค่ะ เหลียงอ๋องสามารถส่งแม่สื่อมาทาบทามนางอย่างเป็นเรื่องเป็นราวได้ กระหม่อมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้โอรสแห่งสวรรค์มาเป็นบุตรเขยพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาททรงช่วยบอกเหลียงอ๋องว่าอย่าทำเช่นนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมยังมีบุตรสาวอีกสามคน หากชื่อเสียงของถิงเจินเสื่อมเสีย บุตรสาวคนที่เหลือของกระหม่อมจะทำเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ เห็นแก่หัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่ ฝ่าบาทได้โปรดเห็นใจบุตรสาวทั้งสามของกระหม่อม ทรงอย่านำของติดกายของบุตรสาวกระหม่อมมาใช้ในการสู่ขอแต่งงานเลยนะพ่ะย่ะค่ะ จวนของกระหม่อมยินดีต้อนรับแม่สื่อของเหลียงอ๋องและจะจัดการเรื่องการหมั้นหมายของทั้งคู่อย่างเหมาะสมที่สุดพ่ะย่ะค่ะ!”

ต่งชิงผิงกล่าวอย่างจริงใจ ใช้หัวอกคนเป็นพ่อแม่ขอความเห็นใจจากฮ่องเต้ โทสะของฮ่องเต้ลดลงไปไม่น้อย ทว่า เริ่มสงสัยในตัวเหลียงอ๋องขึ้นมาแทน

ต่งชิงผิงกล่าวถึงขึ้นนี้แล้ว ฮ่องเต้ก็คงไม่อาจเรียกต่งถิงเจินมาซักถามความจริงได้

ฮ่องเต้รู้สึกขายหน้าไม่น้อย

เป็นโอรสของเขาแท้ๆ เหตุใดจึงไม่กระทำอย่างเปิดเผย ต้องการสู่ขอสตรีสักนางหนึ่ง ไม่ใช้วิธีลอบส่งจดหมายรักก็ใช้วิธีนำของแนบกายของสตรีผู้นั้นมาเป็นข้ออ้าง

“เจ้าไปได้!” ฮ่องเต้กล่าว

ต่งชิงผิงคำนับฮ่องเต้อย่างนอบน้อมแล้วเดินจากไป

“เหลียงอ๋องทำเรื่องงามหน้าเช่นนี้อีกแล้ว!” ฮ่องเต้เดือดดาลมาก “การกระทำของเขาคู่ควรเป็นองค์ชาย เป็นโอรสของเราหรืออย่างไรกัน!”

ดวงตาขององค์รัชทายาทเป็นประกาย ถือชาเดินเข้าไปให้ฮ่องเต้ดื่มเพื่อระงับโทสะ “อาจเป็นไปได้ว่าใต้เท้าต่งไม่รู้เรื่องที่บุตรสาวของตนทำสัญญาใจกับเหลียงอ๋องก็ได้พ่ะย่ะค่ะ ทว่า ใต้เท้าต่งกล่าวมีเหตุผล หากเหลียงอ๋องใช้ของแนบกายของคุณหนูต่งไปสู่ขอนาง หากเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป คุณหนูคนอื่นๆ ของตระกูลต่งคงไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ใดพ่ะย่ะค่ะ”

ฮ่องเต้รับถ้วยชามา ฟังองค์รัชทายาทกล่าวต่อ “ทว่า ครั้งนี้เหลียงอ๋องทำไม่เหมาะสมจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ เขาเป็นถึงองค์ชายอีกทั้งอยู่ในวัยแต่งงาน เสด็จพ่อย่อมทรงเป็นห่วงเรื่องการแต่งงานของเขาอยู่แล้ว พระองค์จะบีบให้เขาแต่งงานกับสตรีที่ไม่อยากแต่งหรืออย่างไรพ่ะย่ะค่ะ หากเขามาบอกกับเสด็จพ่ออย่างจริงจัง เสด็จพ่อย่อมพระราชทานสมรสให้เขาอยู่แล้ว เสด็จพ่อจะทรงแยกคนรักกันหรืออย่างไร เหตุใดเขาต้องนำของแนบกายของผู้อื่นมาหาเสด็จพ่อเช่นนี้ นี่เท่ากับเป็นการทำลายชื่อเสียงของสตรีนางนั้นชัดๆ หากเหลียงอ๋องรักนางจริงๆ ก็ไม่ควรทำให้คุณหนูต่งเสียชื่อเสียงจนแต่งงานกับผู้อื่นไม่ได้นอกจากเขาเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ!”

ฮ่องเต้ขมวดคิ้ว ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

“โชคดีที่ใต้เท้าต่งเป็นเพียงหงหลู่ซื่อชิงของกรมการทูต ไม่ใช่ขุนนางใหญ่ที่มีอำนาจทางทหารคุมอยู่ตามเมืองต่างๆ มิเช่นนั้นลูกคงคิดว่าที่เหลียงอ๋องต้องการแต่งงานกับบุตรสาวตระกูลต่งจนไม่สนว่าเป็นการทำลายชื่อเสียงของนางหรือไม่เป็นเพราะมีจุดประสงค์อื่นแอบแฝงแน่ๆ พ่ะย่ะค่ะ!” องค์รัชทายาทกล่าวปนหัวเราะราวกับกำลังหยอกเล่น

ฮ่องเต้ซึ่งกำลังดื่มชาอยู่ชะงักทันที

ต่งชิงผิงไม่มีอำนาจทางทหาร ทว่า ต่งชิงเยว่มี!

ต่งชิงผิงและต่งชิงเยว่เป็นพี่น้องที่รักใคร่สนิทสนมกันมาก ได้ยินว่าต่งชิงเยว่ไม่มีบุตรสาวที่เกิดจากภรรยาเอก เขารักและเอ็นดูต่งถิงเจิน บุตรสาวของต่งชิงผิงราวกับลูกในไส้ของตัวเอง

องค์รัชทายาทเห็นท่าทีครุ่นคิดของฮ่องเต้ก็รู้ได้ทันทีว่าตนกล่าวจี้แทงใจดำฮ่องเต้สำเร็จแล้ว

นับตั้งแต่ที่องค์ชายรองก่อกบฏในวังหลวง สิ่งที่ฮ่องเต้หวาดกลัวที่สุดก็คือการที่โอรสของเขาสนิทสนมกับขุนนางที่มีอำนาจทางทหารอยู่ในมือ เขากลัวว่าเหตุการณ์จะซ้ำรอยเดิมเหมือนตอนองค์ชายรอง ต่อให้เป็นโอรสที่เกิดจากฮองเฮาอย่างซิ่นอ๋องยังไม่กล้าทำเช่นนั้นเลย

ฮ่องเต้วางถ้วยชาในมือลง ทว่า เหลียงอ๋องเป็นเพียงคนอ่อนแอไร้ความสามารถ หรือนี่จะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญเท่านั้น!

จู่ๆ ฮ่องเต้ก็นึกถึงเสือขาวในความฝันตัวนั้นขึ้นมาอีกครั้ง นึกถึงภาพตอนที่เหลียงอ๋องตวาดให้ถงจี๋หุบปาก นึกถึงไอสังหารที่แผ่ออกมาจากร่างของเขา

องค์รัชทายาทเห็นฮ่องเต้กำลังใช้ความคิดจึงไม่ได้เอ่ยขัด เขายืนนวดบ่าซึ่งเดิมทีควรเป็นหน้าที่ของบ่าวรับใช้ให้ฮ่องเต้อย่างใส่ใจ

ฮ่องเต้เคาะนิ้วลงบนหมอนอิงอย่างใช้ความคิด เหลียงอ๋องมอบยาวิเศษให้เขา…หวังให้เขามีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์เพราะกลัวว่าหากเขาเสียชีวิต ราชบัลลังก์นี้จะตกเป็นขององค์รัชทายาทโดยชอบธรรม แล้วตัวเองจะไม่มีโอกาสแย่งชิงอย่างนั้นหรือ

ฮ่องเต้มองดูโอรสที่กำลังนวดบ่าให้เขาอย่างตั้งใจ

องค์รัชทายาทเห็นฮ่องเต้เงยหน้ามองจึงถามออกไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ “ลูกลงน้ำหนักแรงไปหรือพ่ะย่ะค่ะ”

ฮ่องเต้นึกย้อนไปถึงตอนที่แม่ทัพสือพานซานกลับมาจากเยี่ยนว่อแล้วขอให้เขาอภัยให้เหลียงอ๋อง กล่าวชมว่าเหลียงอ๋องแก้ปัญหาตอนอยู่ที่เยี่ยนว่อได้ดีมาก ที่ชาวบ้านเกิดการประท้วงเป็นเพราะมีคนจงใจก่อความวุ่นวายเอง

ฮ่องเต้เอนหลังพิงบัลลังก์มังกร สั่งให้องค์รัชทายาทออกไป เขานั่งครุ่นคิดทบทวนเรื่องราวต่างๆ ตามลำพัง

ฮ่องเต้เป็นคนแต่งตั้งองค์รัชทายาทองค์ปัจจุบันด้วยตัวเอง องค์รัชทายาทกตัญญูและหวาดกลัวเขามาก ฮ่องเต้จึงมั่นใจว่าองค์รัชทายาทไม่มีทางก่อกบฏแน่นอน ดังนั้นเขาจึงไม่คิดแต่งตั้งคนอื่นเป็นองค์รัชทายาทหรือยกระดับองค์ชายคนอื่นมาคานอำนาจองค์รัชทายาท

ไม่ว่าแคว้นใดก็ล้วนมีการนองเลือดจากการแย่งชิงราชบัลลังก์ทั้งสิ้น ความจริงแล้วเป็นเพราะจักรพรรดิหวาดระแวงในตัวโอรสของตัวเอง ผู้อื่นจึงมีโอกาสเข้าแทรกแซง

ดังนั้นการเลือกพระชายาให้องค์รัชทายาทต้องพิจารณาให้ดี ห้ามสูงส่งหรือต่ำต้อยจนเกินไป

“เกาเต๋อเม่า!” ฮ่องเต้เอ่ยเรียก

เกาเต๋อเม่ารีบวิ่งเข้าไปหาทันที “ฝ่าบาท กระหม่อมอยู่นี่พ่ะย่ะค่ะ!”

“เจ้าลอบไปบอกเหลียงอ๋องว่า ก่อนหน้านี้เหลียงอ๋องหวังใส่ร้ายทำลายตระกูลไป๋ ดังนั้นต่งชิงผิงจึงไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานครั้งนี้ บอกให้เขาอย่าทำลายชื่อเสียงของคุณหนูตระกูลต่ง ให้เขาหาเวลานำสร้อยนำโชคที่คุณหนูต่งมอบให้เขาไปคืนให้คุณหนูต่งเสีย!” ฮ่องเต้เคาะนิ้วลงบนโต๊ะเบาๆ “ให้เรื่องนี้จบลงเท่านี้ เราจะหาคู่ครองที่เหมาะสมให้เขาเอง!”

“พ่ะย่ะค่ะ! กระหม่อมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ!”

เกาเต๋อเม่าเตรียมจากไป ทว่า ถูกฮ่องเต้เรียกไว้อีกรอบ “เราจำได้ว่าท่านราชครูถานซงที่เพิ่งเกษียณไปมีหลานสาวสองคน ล้วนเป็นบุตรสาวของอดีตสะใภ้คนโตของถานซงใช่หรือไม่”

เกาเต๋อเม่าเข้าใจทันที รีบกล่าวขึ้น “พ่ะย่ะค่ะ! ต่อมาสะใภ้คนโตของท่านราชครูเสียชีวิตขณะคลอดบุตรชาย สะใภ้คนโตในตอนนี้คือภรรยาคนที่สองพ่ะย่ะค่ะ ท่านราชครูวาสนาดีมาก ลูกสะใภ้คนโตคนใหม่แต่งเข้าจวนไม่กี่ปีก็มีหลานชายให้ท่านราชครูถึงสองคนพ่ะย่ะค่ะ!”

“หลานสาวทั้งสองของราชครูหมั้นหมายกับผู้ใดแล้วหรือไม่” ฮ่องเต้ถาม

“หลานสาวคนโตออกเรือนไปเมื่อปีที่แล้ว คุณหนูรองถานยังไม่ได้หมั้นหมายพ่ะย่ะค่ะ หากท่านราชครูทราบว่าหลานสาวคนที่สองจะได้แต่งงานกับเหลียงอ๋อง ท่านต้องดีใจมากแน่ๆ พ่ะย่ะค่ะ!” เกาเต๋อเม่ากล่าวยิ้มๆ

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท