ตอนที่ 551 คุณชายตระกูลไป๋
เขาได้ยินเสียงกู่เซ่า ผู้อื่นย่อมได้ยินเช่นเดียวกัน
หากได้ยินเสียงกู่เซ่าแล้วเขาออกไปพบคงไม่ดีแน่ อาจถูกผู้อื่นจับพิรุธได้
เสียงกู่เซ่าดังขึ้นจากทุกทิศทาง ไม่นานก็หายลับไปพร้อมกับความมืด
เช้าวันต่อมา ท้องฟ้ายังไม่ทันสว่าง กลุ่มของหลูผิงกำลังพักผ่อนอยู่ในกระโจม หลูผิงที่กอดดาบหลับสนิทได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวจึงสะดุ้งตื่นขึ้นทันที
องครักษ์ตระกูลไป๋ที่ติดตามหลูผิงมาด้วยต่างลืมตาขึ้นเช่นเดียวกัน ทุกคนต่างลุกขึ้นหยิบดาบที่อยู่ข้างกายของตัวเองด้วยท่าเตรียมพร้อม
หลูผิงโบกมือให้ทุกคนนอนลงตามเดิม
เสียงฝีเท้าของผู้มาเยือนไม่พร้อมเพรียงกัน คงจะเป็นทหารของหนานหรง
กลุ่มของหลูผิงแสร้งนอนหลับตามเดิม
ไม่นานทหารของหนานหรงก็บุกเข้ามาในกระโจม องครักษ์ที่กล่าวภาษาหรงตี๋ได้แสร้งทำเป็นสะดุ้งตื่นขึ้นอย่างตกใจ ตะโกนลั่น “พวกเจ้าคือผู้ใด! เหตุใดจึงบุกเข้ามาในกระโจมผู้อื่นเช่นนี้!”
“นำตัวไปให้หมด!”
กลุ่มของหลูผิงไม่ได้ขัดขืน เขาถูกทหารหนานหรงยึดดาบและจับตัวไป
กลุ่มของหลูผิงถูกขังอยู่ในกระโจมสอบสวนนักโทษ ทั้งวันอาหารไม่ตกถึงท้องสักนิด จนเมื่อพระอาทิตย์ตกดิน แม่ทัพหน้ากากผีซึ่งสวมชุดเกราะสีเงินจึงพาทหารเดินเข้ามาในกระโจม
กลุ่มของหลูผิงซึ่งถูกมัดมือและเท้านั่งขัดสมาธิอยู่ในกรงใหญ่ภายในกระโจม เมื่อเห็นคนเข้ามา องครักษ์ที่กล่าวภาษาหนานหรงได้รีบวิ่งไปเกาะที่กรงขังพลางตะโกนลั่น “ท่านแม่ทัพ! พวกเราแค่อยากนำเสบียงอาหารมาแลกเครื่องหนังให้ได้มากที่สุดเท่านั้น พวกเราไม่ได้เอาเปรียบชาวหนานหรงเลยนะขอรับ! หากท่านคิดว่าพวกเราให้เสบียงอาหารน้อยเกินไป พวกเราเพิ่มให้ก็ได้นะขอรับ พวกเราก็แค่นำของที่พวกท่านต้องการมาแลกกับของที่พวกท่านไม่ต้องการก็เท่านั้นเองขอรับ!”
หลูผิงจ้องไปยังแม่ทัพหนานหรงที่สวมหน้ากาก กำดาบไว้ในมือแน่น แม่ทัพผู้นั้นยื่นดาบของตัวเองให้องครักษ์ข้างกาย จากนั้นนั่งลงบนเก้าอี้ที่องครักษ์นำมาให้ด้วยท่าทีองอาจใกล้เคียงกับชาวหรงตี๋มาก
“เมื่อคืนพวกเจ้าเป่ากู่เซ่าใช่หรือไม่” แม่ทัพหน้ากากผีเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า
องครักษ์ที่พูดภาษาหรงตี๋ได้รีบหันไปแปลให้คนอื่นๆ ฟัง “แม่ทัพผู้นี้ถามว่าเมื่อคืนพวกเราเป่ากู่เซ่าใช่หรือไม่”
หลูผิงกำหมัดแน่นพลางลุกขึ้นยืน “ปลดทุกข์เบาพลางเป่ากู่เซ่าไม่ได้หรืออย่างไรกัน”
องครักษ์ที่ได้ภาษาหรงตี๋รีบหันไปแปลให้แม่ทัพหน้ากากผีฟัง “คนผู้นี้คือเจ้านายของพวกข้า เจ้านายของข้ามายังสถานที่แปลกถิ่นอย่างหนานหรงจึงปลดทุกข์ไม่ออก ทุกครั้งต้องใช้เวลาอยู่นาน ลุงชาวหนานหรงผู้หนึ่งแนะนำวิธีเป่ากู่เซ่าให้พวกเรา ยามยืนปลดทุกข์เบาแล้วเป่ากู่เซ่าไปด้วยจะสบายตัวขึ้นขอรับ”
แม่ทัพหน้ากากผีถามต่ออีกเล็กน้อย องครักษ์ที่ได้ภาษาหรงตี๋เอ่ยตอบได้อย่างไม่มีปัญหา
แม่ทัพหน้ากากผีหรี่ตาลง ชี้นิ้วไปทางหลูผิง “เอาตัวมันออกมา ให้มันแสดงให้ดูหน่อยว่ายืนปลดทุกข์เบาพลางเป่ากู่เซ่าไปด้วยมันเป็นเช่นไร”
กองทัพหนานหรงได้ยินเช่นนี้ต่างพากันหัวเราะออกมา
องครักษ์ที่รู้ภาษาหรงตี๋หันไปบอกหลูผิงด้วยท่าทีลำบากใจ “นายท่าน พวกเขาให้ท่านแสดงให้ดูว่าท่านยืนปลดทุกข์เบาพลางเป่ากู่เซ่าเช่นไรขอรับ”
หลูผิงหน้าเปลี่ยนสี สีหน้าย่ำแย่กว่าเดิมมาก “ฆ่าได้หยามไม่ได้!”
ทหารหนานหรงเห็นว่าหลูผิงไม่ยอมทำตามจึงพากันชักดาบออกมา
องครักษ์ที่รู้ภาษาหรงตี๋แสร้งทำเป็นหวาดกลัวสุดขีด คุกเข่าลงตรงหน้าหลูผิง “นายท่าน ทำตามเถิดขอรับ! มิเช่นนั้นพวกเราได้ตายอยู่ที่นี่แน่ขอรับ ข้ายังมีแม่ มีลูกให้กลับไปดูแล ข้าแค่อยากมาหาเงินที่หนานหรงเท่านั้น ยังไม่อยากตายอยู่ที่นี่ขอรับ!”
“นายท่าน ช่วยพวกเราเถิดขอรับ!”
“นายท่านไม่ต้องห่วง พวกเราจะไม่แพร่งพรายเรื่องนี้เด็ดขาดขอรับ”
องครักษ์ตระกูลไป๋ต่างรับรู้ว่านี่คือโอกาสที่ดีที่สุดของหลูผิง พวกเขาจึงแสร้งคุกเข่าขอร้องอย่างไม่คำนึงถึงศักดิ์ศรี
หลูผิงแสร้งแสดงท่าทีว่าถูกบีบจนไม่รู้จะทำเช่นไร เขาเดินออกมาจากกรงขังอย่างไม่เต็มใจ หันหลังให้ทุกคน เริ่มเป่ากู่เซ่า…ทว่า ปลดทุกข์เบาไม่ออกเสียที ใบหน้าขาวซีดเต็มไปด้วยเหงื่อ ใบหูแดงเถือก
“คุณหนูใหญ่ฝากบอกว่า…พี่หญิงรอเจ้ากลับมาอย่างปลอดภัย!”
แม่ทัพหน้ากากผีกำมือแน่น สีหน้าถูกซ่อนไว้ภายใต้หน้ากาก ความรู้สึกปวดร้าวถาโถมเข้ามาในใจ
รออยู่ครู่ใหญ่ สุดท้ายหลูผิงก็ปลดทุกข์เบาสำเร็จ ทว่า มันขาดๆ หายๆ จนทหารหนานหรงพากันหัวเราะอย่างชอบใจ แม่ทัพหน้ากากผีหัวเราะพลางเดินเข้าไปใกล้หลูผิง เสียงหัวเราะของเขาไม่น่าฟังสักเท่าใด เขาใช้หมัดต่อยไปที่หน้าอกของหลูผิง ต่อยจนหลูผิงซึ่งยังสวมกางเกงไม่เสร็จล้มลงบนพื้น จากนั้นสั่งให้คนจับตาดูพวกเขาแลกเปลี่ยนเสบียงกับเครื่องหนังให้ดีแล้วจากไปทันที
เมื่อเดินออกมาจากกระโจม ไป๋ชิงอวี๋กำดาบที่เอวแน่น เขานึกไม่ถึงว่าพี่หญิงจะส่งหลูผิงมา นึกไม่ถึงว่าพี่หญิงจะรอให้เขากลับไปอย่างปลอดภัยจริงๆ
ทว่า ตอนนี้เขาไม่อาจกลับไปได้ กว่าเขาจะได้ควบคุมหนานหรง ฝึกฝนจนพวกเขาสามารถเปิดศึกกับเป่ยหรงได้ไม่ใช่เรื่องง่าย หากเขาหนีไปตอนนี้ เมื่อต้าเยี่ยนได้ครอบครองหรงตี๋ ต้าจิ้นจะถูกบีบจากทั้งสองทิศทันที
บัดนี้สายข่าวของเขารวดเร็ว เขารู้ว่าพี่หญิงเริ่มฝึกทหารที่ซั่วหยางไว้ปราบโจรป่า พี่หญิงต้องการกำลังทหาร กองทัพของท่านน้าชายอยู่ที่เติงโจว…เชื่อมต่อกับแผ่นดินหนานหรง หากรวมกับกองทัพไป๋ที่หนานเจียง เขาเชื่อว่าการโค่นล้มราชวงศ์หลินไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
เขาคือทายาทตระกูลไป๋ ไม่เคยลืมปณิธานของบรรพบุรุษ
เขา ไป๋ชิงอวี๋จะโค่นล้มราชวงศ์หลิน ครอบครองใต้หล้า!
ในเมื่อราชวงศ์หลินเห็นเพียงความมั่งคั่งสุขสบายตรงหน้า ไม่มีความทะเยอทะยานอยากครอบครองใต้หล้าแห่งนี้ เขาก็ไม่จำเป็นต้องสวามิภักดิ์และเสียสละให้คนที่ไม่รู้จักบุญคุณคนเช่นนี้
ไป๋ชิงอวี๋กลับไปยังกระโจมของตัวเอง โบกมือไล่ทุกคนออกไปจากกระโจม ถอดหน้ากากออก คุกเข่านั่งอยู่หน้าโต๊ะตำรานิ่งอยู่นานสองนาน
ผ่านไปสักพัก ไป๋ชิงอวี๋ลืมตาที่แดงฉานขึ้น ลุกขึ้นยืนเตรียมเข้าไปในวังหลวง เขาอยากอาศัยเรื่องในวันนี้ทูลขอให้ท่านอ๋องแห่งหนานเยี่ยนเปิดตลาดแลกเปลี่ยนสินค้ากับต้าจิ้น ให้ชาวหรงตี๋มีชีวิตที่สงบสุข ไม่จำเป็นต้องไปปล้นชิงเสบียงของต้าจิ้น ผูกมิตรกับต้าจิ้น เพื่อคานอำนาจเป่ยหรงและต้าเยี่ยน
เช่นนี้เขาจะได้ปล่อยพ่อค้าของต้าจิ้นกับไปแคว้นได้โดยที่อ๋องแห่งหนานหรงไม่โกรธเคือง
ในกางเกงของหลูผิงมีแผ่นหนังแกะที่ไป๋ชิงอวี๋แอบยัดใส่ให้เขา เมื่อแลกเปลี่ยนเสบียงกับเครื่องหนังภายใต้การควบคุมของทหารหนานหรงเสร็จ หลูผิงพาองครักษ์ตระกูลไป๋จากไปทันที
ตลอดทางหลูผิงไม่กล้าหยิบแผ่นหนังแกะซึ่งอยู่ในกางเกงออกมาดูแม้เพียงแวบเดียว จนเมื่อพ้นจากเขตแดนหนานหรง หลูผิงจึงหยิบแผ่นหนังแกะจากกางเกงออกมาเปิดดู
เขาเบิกตาโพลง บนแผ่นหนังแกะคือแผนที่ของหนานหรงที่มีการทำสัญลักษณ์เส้นทางที่ปลอดภัยไว้ให้
แม่ทัพหน้ากากผีคือคุณชายของตระกูลไป๋จริงๆ !
ลูกผู้ชายอกสามศอกอย่างหลูผิงขอบตาร้อนผ่าว เขาใช้แขนเสื้อปาดน้ำตาทิ้ง เขาไม่รู้ว่าลายมือบนแผนที่คือลายมือของคุณชายคนใด เขากำลังลังเลว่าจะบุกเข้าไปชิงตัวคุณชายกลับมาด้วยกันดีหรือไม่
ทว่า เมื่อคิดได้ว่าบัดนี้คุณชายมีตำแหน่งสำคัญในหนานหรง อีกทั้งได้รับความเคารพนับถือจากบรรดาทหารของหนานหรง บางทีคุณชายอาจอยากอยู่ที่หนานหรงต่อเพื่อจัดการเรื่องสำคัญ เขาควรรีบนำแผนที่หนังแกะไปให้คุณหนูใหญ่โดยเร็วที่สุด!