ตอนที่ 586 กองทัพแข็งแกร่งแคว้นจึงจะแข็งแกร่ง
ดวงตาที่มองไปทางเซียวหรงเหยี่ยนของเซี่ยสวินบวมช้ำ น้ำตาคลอ ทว่า เขาไม่กล้าแม้แต่จะกะพริบตา
เมื่อเห็นท่าทีที่รู้สึกผิดของเซี่ยสวิน น้ำเสียงของเซียวหรงเหยี่ยนจึงอ่อนลงกว่าเมื่อครู่ ชายหนุ่มกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนใจ “นี่ถึงจะเป็นสิ่งที่บุรุษและทหารอย่างเจ้าควรกระทำ”
กล่าวจบ เซียวหรงเหยี่ยนเปิดประตูออก ก้าวท้าวเดินออกไปจากเรือนโดยไม่หันกลับไปมองเซี่ยสวินแม้แต่น้อย
เซี่ยสวินคุกเข่าอยู่บนเตียง ได้ยินเสียฝีเท้าของจางเหยี่ยนที่เดินจากไปส่งเซียวหรงเหยี่ยน น้ำตาไหลออกมาจากหางตาอย่างกลั้นไม่อยู่ ไหลเข้าไปในปากของเซี่ยสวิน รสชาติมีแต่ความขมขื่น
ไม่นาน ฝนตกลงมาอีกครั้งอย่างกะทันหัน เสียงฝนดังมากขึ้นเรื่อยๆ บ่าวรับใช้รีบนำม่านใสไปแขวนใต้ชายคาอีกชั้น
ขาทั้งสองข้างของเซี่ยสวินอ่อนแรง ข้างหูเต็มไปด้วยเสียงฝนกระทบลงบนดอกกุ้ยฮวาสีทอง ชายหนุ่มมองดูฟ้าที่มืดครึ้มทางนอกหน้าต่างที่ไม่ได้ปิดลง เขาจับขอบเตียงพลางหยัดกายขึ้นอย่างยากลำบาก สายตาเหลือบไปทางโต๊ะแปดเหลี่ยมที่เซียวหรงเหยี่ยนนั่งอยูเมื่อครู่โดยไม่ได้ตั้งใจ
นึกถึงภาพที่เซียวหรงเหยี่ยนเคาะขอบโต๊ะก่อนจากไปเมื่อครู่ เซี่ยสวินเดินไปหยุดอยู่ข้างโต๊ะแปดเหลี่ยมอย่างยากลำบาก
เมื่อถุงหอมที่องค์หญิงหมิงเฉิงปักด้วยตัวเองปรากฏต่อสายตาเขา เซี่ยสวินน้ำตาไหลพรากทันที ชายหนุ่มทรงตัวไม่อยู่จนเกือบเซล้มลงบนพื้น
เขาลูบไปที่ถุงหอมอย่างแผ่วเบาด้วยมือที่สั่นเทา จากนั้นกำแน่นไว้ในมือ ขบกรามแน่น ดวงตาทั้งสองข้างแดงฉาน ในหูกึกก้องไปด้วยคำกล่าวก่อนจากไปของเซียวหรงเหยี่ยน
เขา เซี่ยสวินต้องยืนหยัดขึ้นมาอีกครั้ง เขาจะพาพลทหารที่แข็งแกร่งของต้าเยี่ยนทำลายล้างทุกแคว้น เขาจะทำให้ต้าเยี่ยนกลายเป็นแคว้นที่แข็งแกร่งจนทุกแคว้นต้องหวาดกลัว กลายเป็นหนึ่งในใต้หล้า แข็งแกร่งจนสตรีในแคว้นต้าเยี่ยนไม่จำเป็นต้องเดินทางไปแต่งงานเชื่อมไมตรีกับแคว้นใดอีก!
ในกลียุคเช่นนี้ หากกองทัพแข็งแกร่ง แคว้นก็จะแข็งแกร่ง เมื่อแคว้นแข็งแกร่งชาวบ้านในแคว้นก็ไม่จำเป็นต้องกลัวศัตรูจากแคว้นอื่น
เขา เซี่ยสวินจะกลายเป็นเทพแห่งสงครามของแคว้นต้าเยี่ยน จะทำให้ชาวบ้านเชื่อว่าเขาสามารถปกป้องคุ้มครองความปลอดภัยของคนทั้งแคว้นต้าเยี่ยนได้ จะทำให้สตรีในแคว้นต้าเยี่ยนไม่ต้องเดินทางไปแต่งงานเชื่อมไมตรีอีกต่อไป!
วันที่ยี่สิบสี่ เดือนเก้า รัชศกเซวียนเจียปีที่สิบหก ทหารค่ายผิงอันสองหมื่นนายออกเดินทางคุ้มกันรัชทายาทเดินทางไปยังเมืองหลวง พวกเขาไปรวมตัวกับขบวนของรัชทายาทที่ถูกลอบสังหารถึงสองครั้งในวันที่ยี่สิบเจ็ด เดือนเก้าที่เมืองหวายปี้ จากนั้นมุ่งหน้าไปยังเมืองหลวง
วันที่ยี่สิบเก้า เดือนเก้า รัชศกเซวียนเจียปีที่สิบหก รัชทายาทถูกขัดขวางอยู่ที่เมืองหวาหยาง เจ้าเมืองหวาหยางกล่าวว่าได้รับคำสั่งให้อนุญาตรถม้าของรัชทายาทผ่านไปอย่างเพียงขบวนเดียว ค่ายทหารผิงอันเคลื่อนทัพออกจากค่ายโดยพลการ หากไม่รีบกลับไปที่ค่ายผิงอันจะต้องโทษข้อหากบฏ
องค์หญิงเจิ้นกั๋วชูราชโองการที่ฮ่องเต้ทรงเรียกตัวรัชทายาทกลับเมืองหลวงโดยเร็วที่สุดขึ้นสูง กล่าวว่าหากเจ้าเมืองหวาหยางกล้าขวางจะถูกลงโทษในข้อหากบฏ ประหารเจ็ดชั่วโคตร เมื่อเจ้าเมืองหวาหยางเห็นราชโองการจึงรีบเปิดทางให้ขบวนของรัชทายาททันที
เมื่อฮองเฮารับรู้ข่าวนี้ นางประทับอยู่ในวังหลวงด้วยความกระวนกระวาย
แต่ไรมาเหลียงอ๋องแสร้งทำตัวเป็นคนอ่อนแอ ยอมคน แม้เขาจะได้รับหน้าที่ดูแลบ้านเมือง ทว่า บัดนี้ราชสำนักถูกควบคุมโดยราชครูถานและอัครมหาเสนาบดีหลู่เซียง องค์หญิงใหญ่อ้างว่าฮองเฮากำลังตั้งครรภ์ จึงยึดอำนาจในการปกครองวังหลังไว้เอง
บัดนี้แม้ฮองเฮาจะเสด็จไปเยี่ยมฮ่องเต้ องค์หญิงใหญ่จะตามไปด้วยเสมอ รอบตำหนักของฮ่องเต้ถูกคุ้มกันอย่างแน่นหนา ไม่ปล่อยโอกาสให้ฮองเฮาได้ลงมือทำสิ่งใดก่อนที่รัชทายาทจะเดินทางกลับมาเมืองหลวงแม้แต่น้อย
ตลอดการเดินทาง ไป๋ชิงเหยียนปิดข่าวเรื่องฝูรั่วซีไว้อย่างแน่นหนา ฮองเฮาไม่อาจรู้ได้ว่าฝูรั่วซีมาเพื่อนางหรือเพื่อรัชทายาทกันแน่ นางมีชีวิตอยู่ด้วยความหวาดกลัว ครรภ์ไม่สงบ นางจึงเรียกซิ่นอ๋องเข้ามาอยู่เป็นเพื่อนในวังหลวง
ซิ่นอ๋องเข้ามาในวัง ไล่ทุกคนออกไปจากตำหนัก จากนั้นคุกเข่าอยู่หน้าผ่านม่าน กล่าวกับฮองเฮาที่นั่งอยู่บนบัลลังก์หงส์เสียงเบาหวิว “เสด็จแม่ ฝูรั่วซีคงพึ่งพาไม่ได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ หากเสด็จพ่อทรงเคยทอดพระเนตรเห็นบันทึกการเข้าออกวังของฝูรั่วซีแล้วจริงๆ เมื่อทรงฟื้นคืนสติ เสด็จพ่อต้องไม่ปล่อยเสด็จแม่ไว้แน่พ่ะย่ะค่ะ”
ฮองเฮาเอนหลังพิงเก้าอี้ มือเร็วเล็กกำแน่นวางไว้ที่หัวเข่า แววตานิ่งขรึม “แม่กล่าวในจดหมายชัดเจนแล้ว ฝูรั่วซีไม่ใช่คนโง่ เขาจะไม่รู้หรืออย่างไรว่าวังหลวงมีการจดบันทึกคนเข้าออก หากเขาไม่ช่วยเหลือแม่ หากแม่เกิดเรื่องขึ้น ย่อมลากเขาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยอยู่แล้ว!”
ซิ่นอ๋องก้มหน้าใช้ความคิด ถลกชายชุดคลุมยาวเดินเข้าไปคุกเข่าอยู่ด้านข้างฮองเฮา กล่าวเสียงแผ่วเบา “แม้บัดนี้องค์หญิงใหญ่จะควบคุมวังหลัง ท่านราชครูถานช่วยเหลียงอ๋องจัดการงานบ้านเมือง ทว่า เหลียงอ๋องคือคนของพวกเรา หากเสด็จแม่ทรงเขียนจดหมายหาท่านน้าชายได้…”
“แม่รู้ว่าเจ้าคิดจะทำสิ่งใด! เจ้าอยากให้แม่ติดต่อท่านน้าชายของเจ้า ให้เขาควบคุมทหารส่วนพระองค์เอาไว้ เมื่อรัชทายาทเดินทางมาถึงเมืองหลวงจะได้ลอบสังหารเขาใช่หรือไม่” ฮองเฮามองไปทางรัชทายาทด้วยแววตานิ่งขรึม “เจ้าคิดว่าแม่ไม่เคยคิดเรื่องนี้อย่างนั้นหรือ ทว่า องค์หญิงใหญ่ป้องกันล่วงหน้าโดยการเลื่อนตำแหน่งท่านน้าชายเจ้าไปรับตำแหน่งที่สูงกว่า ทว่า ไม่มีอำนาจทางทหารอีกแล้ว ทหารองค์รักษ์ส่วนพระองค์ไม่มีทางฟังคำสั่งของท่านน้าชายเจ้าอีกต่อไป ที่สำคัญ เหลียงอ๋องเป็นโอรสของฝ่าบาทเช่นกัน เขามีสิทธิ์แย่งชิงบัลลังก์นี้เช่นเดียวกับเจ้า”
ซิ่นอ๋องตะลึง “ทว่า ตอนนั้นเหลียงอ๋องปลอมลายมือของไป๋เวยถิงเพื่อลูก เขาต้องการ…”
“เจ้าคิดว่าเหลียงอ๋องเป็นคนอ่อนแอที่เชื่อฟังแต่คำสั่งของเจ้าจริงๆ หรือ! ช่างไร้เดียงสายิ่งนัก!” ฮองเฮาตวาดซิ่นอ๋องลั่นจนหน้าอกสั่นไหวอย่างรุนแรง นางขมวดคิ้วพลางใช้มือกุมหน้าอกของตัวเองไว้ กล่าวเสียงรอดไรฟัน “ก่อนหน้านี้แม่ปกป้องเจ้าดีเกินไป เจ้าจึงไม่คิดหวาดระแวงภัยข้างตัวเช่นนี้ เหลียงอ๋องผู้นั้นไม่ใช่คนอ่อนแอดั่งที่เขาแสดงออกภายนอก น้องชายคนนี้ของเจ้ามีความสามารถยิ่งนัก เขาอดทนในสิ่งที่คนธรรมดาอดทนไม่ได้ เป็นบุคคลร้ายกาจที่ห้ามมองข้ามเด็ดขาด!”
ซิ่นอ๋องเบ้ปากอย่างไม่ใส่ใจ “เขาจะก่อเรื่องอันใดขึ้นได้กันพ่ะย่ะค่ะ”
ฮองเฮาถลึงตาใส่ซิ่นอ๋อง พยายามระงับความโกรธของตัวเองเอาไว้แล้วกล่าวขึ้น “เจ้าจำไว้ให้ดีว่าจงอยู่ห่างจากเหลียงอ๋องเอาไว้ อย่าเชื่อคำกล่าวของเขาเป็นอันขาด! ปล่อยให้แม่จัดการเรื่องทุกอย่างเอง แม่ไม่มีวันยอมให้ผู้มดแย่งชิงบัลลังก์ของเจ้าไปเป็นอันขาด นี่ไม่ใช่เวลาที่เราจะจัดการกับรัชทายาทแล้วปล่อยให้เหลียงอ๋องได้ประโยชน์ภายหลัง เจ้าจงอดทนไว้ มีเพียงคนที่อดทนจนถึงที่สุดถึงจะเป็นผู้ชนะ!”
“ลูกจะจำไว้พะย่ะค่ะ” ซิ่นอ๋องพยักหน้าอย่างเชื่อใจฮองเฮาโดยไม่มีข้อกังขา
ฮองเฮาเอื้อมมือไปลูบศีรษะของซิ่นอ๋องอย่างแผ่วเบา น้ำเสียงอ่อนโยนลงกว่าเดิม “จัดการคนในจวนของเจ้าที่รู้ว่าเจ้าส่งคนไปลอบสังหารรัชทายาทให้สิ้น มิเช่นนั้นหากรัชทายาทกลับมาถึงอาจสืบหาเบาะแสได้”
ซิ่นอ๋องก้มหน้าไม่กล่าวสิ่งใด ในใจรู้สึกดูหมิ่นอย่างที่สุด ฉีอ๋องเป็นเพียงบุตรอนุ หากไม่ใช่เพราะเขาถูกถอดยศจนกลายเป็นเพียงสามัญชนธรรมดา ตำแหน่งรัชทายาทจะตกเป็นของฉีอ๋องได้อย่างไรกัน
ฮองเฮาได้ยินว่ารัชทายาทถูกลอบสังหารสองครั้ง ซิ่นอ๋องส่งคนไปเพียงรอบเดียว เช่นนั้นหากฮองเฮาเดาไม่ผิด อีกครั้งหนึ่งต้องเป็นคนที่เหลียงอ๋องส่งไปอย่างแน่นอน
บัดนี้เหลียงอ๋องไม่ใช่ตัวคนเดียวอีกต่อไปแล้ว เบื้องหลังของเขาคือเสียนอ๋องที่มีกำลังทหารอยู่ในมือ ฮองเฮาต้องหวาดระแวงไว้ก่อน
วันที่สอง เดือนสิบ รัชศกเซวียนเจียปีที่สิบหก ทหารค่ายผิงอันสองหมื่นนายคุ้มกันรัชทายาทเดินทางมาถึงนอกเมืองหลวง เหลียงอ๋อง ราชครูถานและองค์หญิงใหญ่นำบรรดาขุนนางในเมืองหลวงออกมารอต้อนรับรัชทายาทกลับราชสำนัก
ในที่สุดรัชทายาทที่หวาดกลัวมาตลอดทางก็ได้เห็นแสงสว่างเสียที ใจที่หวั่นวิตกอยู่ตลอดเวลาคลายกังวลลง จากนั้นไข้ของเขาจึงขึ้นสูงทันที
เหลียงอ๋อง ราชครูถานและองค์หญิงใหญ่ยืนอยู่หน้าสุดของขบวน พวกเขาเห็นขบวนองครักษ์ที่ชูธงสัญลักษณ์ของรัชทายาทใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เหลียงอ๋องมองเห็นไป๋ชิงเหยียนที่ขี่ม้าขาวนำอยู่ด้านหน้าสุดของขบวนอย่างชัดเจน
เกราะสีเงินสะท้อนแสง ร่างทั้งร่างดูน่าหวั่นเกรง