สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 722 สาเหตุ

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 722 สาเหตุ

“ให้ถิงเจินไปกับฮูหยินสองเถิดเจ้าค่ะ ข้างกายพี่หญิงต้องมีคนคอยดูแล ข้าจะไปอยู่เป็นเพื่อนพี่หญิงเองเจ้าค่ะ…” ต่งถิงฟางรีบกล่าวขึ้น

“ญาติผู้พี่ถิงฟางไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าค่ะ พี่หญิงใหญ่มีข้าคอยดูแล พวกเราสองพี่น้องยังมีเรื่องต้องสนทนากัน ข้าต้องไปหาพี่หญิงใหญ่อยู่แล้ว ไม่รบกวนญาติผู้พี่หรอกเจ้าค่ะ” ไป๋จิ่นซิ่วกล่าวจบก็รีบทำความเคารพหลิวซื่อทันทีโดยไม่รอให้ต่งถิงฟางปฏิเสธ

“ท่านแม่ ญาติผู้น้อง ข้าไปที่เรือนชิงฮุยก่อนนะเจ้าคะ”

“ไปเถิด” หลิวซื่อจับมือของต่งถิงเจินและต่งถิงฟางเบาๆ

“ข้าได้ยินว่าฝีมือทำอาหารของคุณหนูตระกูลต่งยอดเยี่ยมมาก ข้าตั้งใจจะต้มยาบำรุงเลือดให้อาเป่า ทว่า มักมีกลิ่นคาวเลือดติดมาเสมอ พวกเจ้ามาช่วยข้าทีเถิด!”

เมื่อเห็นไป๋จิ่นซิ่วเดินจากไปไกล ต่งถิงฟางรู้สึกว่าใบหน้าของตัวเองร้อนผ่าว นางรู้ดีว่าหลิวซื่อและไป๋จิ่นซิ่วจงใจกันนางออกห่างจากไป๋ชิงเหยียน

นางคิดว่าตัวเองค่อนข้างสนิทสนมกับไป๋ชิงเหยียน บัดนี้หญิงสาวมีฐานะสูงส่งเป็นถึงองค์หญิงเจิ้นกั๋ว หากไป๋ชิงเหยียนเอ่ยปาก งานแต่งงานครั้งนี้ต้องถูกยกเลิกแน่นอน

บัดนี้ครอบครัวบุตรชายคนโตของตระกูลฝูต่างจดจ้องมาที่นาง หวังว่าเมื่อนางแต่งงานกับคุณชายตระกูลฝูแล้วนางจะสามารถอาศัยความสัมพันธ์ระหว่างนางกับไป๋ชิงเหยียนสนับสนุนตระกูลฝูได้ พวกเขาจึงอยากแต่งนางเข้าจวนจนตัวสั่น

ทว่า หากหลังจากที่นางแต่งงานเข้าไปแล้วตระกูลฝูพบว่าแม้นางจะสนิทสนมกับไป๋ชิงเหยียนมากสักเท่าใด ไป๋ชิงเหยียนก็ไม่มีวันยื่นมือช่วยเหลือครอบครัวบุตรชายคนโตของตระกูลฝู ถึงเวลานั้นนางจะมีชีวิตดีๆ อยู่อีกหรือ

ที่สำคัญบุตรชายคนโตของครอบครัวบุตรคนโตของตระกูลฝูไม่แม้แต่จะชายตามองนางอย่างจริงจังเลยสักครั้ง ตอนที่อยู่ด้วยกันตามลำพังคราวที่แล้ว นางหวังจะพิชิตใจเขา ทว่า ชายหนุ่มผู้นั้นกลับบอกให้นางรักษาเกียรติของตัวเอง ตำหนิหาว่านางใช้อุบายต่ำช้าทำลายการแต่งงานของเขากับญาติผู้น้อง ทำให้ญาติผู้น้องของเขาต้องเสียน้ำตา

ใจของบุตรชายคนโตของครอบครัวบุตรคนโตของตระกูลฝูมีแต่ญาติผู้น้องเจ้าแผนการคนนั้น หากแต่งงานกันไปเขาจะดีต่อนางได้อย่างไรกัน

แทนที่จะแต่งงานเข้าไปโดนทรมาน ไม่สู้ตัดไฟเสียแต่ต้นลมดีกว่า ทว่า คนในครอบครัวไม่ฟังคำของนางเลยสักคน ท่านพ่อดูถูกบุตรสาวที่เกิดจากอนุต่ำช้าเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว มารดาเอกซ่งซื่อก็ไม่ใช่มารดาแท้ๆ ของนางย่อมไม่เคยคิดเพื่อนางอยู่แล้ว ซ่งซื่อเอาแต่กลัวว่าชื่อเสียงของตระกูลต่งจะเสียหายจนชื่อเสียงของบุตรสาวทั้งสองคนของนางจะพลอยเสื่อมเสียไปด้วย ดังนั้นจึงเอาแต่กล่าวว่านางถูกกอดแล้วจำเป็นต้องแต่งงาน!

เช่นนั้นเหตุใดตอนที่เหลียงอ๋องและต่งถิงเจินลอบพบกันซ่งซื่อจึงไม่กลัวว่าบุตรสาวของนางจะทำลายชื่อเสียงของตระกูลต่งบ้าง! เหตุใดจึงขอร้องให้ไป๋ชิงเหยียนพาต่งถิงเจินไปยังซั่วหยางกัน…นั่นก็เพราะต่งถิงเจินคือบุตรสาวแท้ๆ ของซ่งซื่อ ส่วนนางไม่ใช่!

คนในครอบครัวไม่ฟังคำขอร้องของนาง อีกทั้งตอนนั้นหมัวมัวข้างกายของอี๋เหนียงกล่าวว่าสินเดิมของนางน้อย นางจึงตอบกลับไปว่านางเป็นเพียงบุตรสาวอนุ สินเดิมไม่เท่าคนอื่นก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว เมื่อเรื่องนี้รู้ไปถึงหูของมารดาเอกซ่งซื่อ มารดาเอกจึงเดือดดาลขึ้นทันที ทุกคนในจวนต่างเข้าใจนางผิด ยิ่งทำให้นางไม่รู้จะอธิบายเช่นไรดี

ต่งถิงฟางเต็มไปด้วยความโกรธและคับแค้นใจ ทว่า นางทำได้เพียงเดินตามหลิวซื่อไปยังโรงครัว

ไป๋ชิงเหยียนได้ยินไป๋จิ่นซิ่วเล่าเรื่องของต่งถิงฟางให้ฟังในเรือนชิงฮุย หญิงสาวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นกล่าวขึ้น “มิเป็นอันใด ลองฟังเหตุผลที่นางอยากยกเลิกการแต่งงานดูก่อนก็ได้”

“พี่หญิงใหญ่จะช่วยต่งถิงฟางหรือเจ้าคะ” ไป๋จิ่นซิ่วถาม

“บุตรสาวอนุตระกูลต่งอยู่อย่างยากลำบาก พวกนางคิดทำเพื่ออนาคตของตัวเองก็ไม่ใช่เรื่องผิดอันใด ขอเพียงนางกล่าวกับพี่ตามความจริง หากช่วยได้พี่ก็จะช่วย อย่างไรก็เป็นญาติพี่น้องกัน”

ลึกๆ แล้วไป๋ชิงเหยียนก็ไม่ค่อยชอบการกระทำของฮูหยินใหญ่ตระกูลฝูสักเท่าใดนัก

“ดีกว่าต่งถิงฟางทำเรื่องที่ยากจะแก้ไขเพื่อยกเลิกการแต่งงาน”

ในความทรงจำของไป๋ชิงเหยียนแม้ต่งถิงฟางจะเป็นคนใจแคบ ทว่า นางไม่ใช่คนที่ไม่สนความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว มิเช่นนั้นชาติที่แล้วนางคงไม่สวมชุดไว้ทุกข์ตามท่านลุงไปเก็บศพให้ตระกูลไป๋หรอก

ไม่มีมนุษย์คนใดสมบูรณ์แบบ อย่างไรก็เป็นญาติพี่น้องกัน ไป๋ชิงเหยียนนึกถึงความดีของต่งถิงฟาง หากช่วยได้นางก็ยินดีช่วย

ไป๋ชิงเหยียนมองออกไปนอกหน้าต่าง ด้านนอกเป็นเวลาพลบค่ำ ท้องฟ้าเต็มไปด้วยก้อนเมฆหลากสี

โคมไฟตรงระเบียงทางเดินของเรือนชิงฮุยถูกจุดจนสว่าง แสงของท้องฟ้าและแสงไฟส่องกระทบกันทำให้กำแพงสีเทาตรงระเบียงทางเดินและเสาเคลือบมันสีแดงตรงกลางระเบียงทางเดินทอแสงอ่อนโยนลง

“ไม่รู้ว่าพระชายาเอกคลอดแล้วหรือไม่” ไป๋ชิงเหยียนกล่าว

ตอนที่นางออกมาจากจวนรัชทายาทในวันนี้ นางได้ยินว่าพระชายาเอกเริ่มเจ็บท้องแล้ว

รัชทายาทและพระชายาเอกต่างหวังว่าเด็กในครรภ์ครั้งนี้จะเป็นบุรุษ ไม่รู้ว่าพวกเขาจะสมหวังดั่งใจหรือไม่

เมื่อถึงเวลารับประทานอาหารค่ำ ต่งถิงเจินและต่งถิงฟางไปยังเรือนชิงฮุย ต่งถิงเจินกำชับไม่ให้ต่งถิงฟางเอ่ยเรื่องยกเลิกการแต่งงานต่อหน้าไป๋ชิงเหยียน หากท่านพ่อทราบเรื่องต่งถิงฟางต้องโดนลงโทษแน่ๆ เมื่อต่งถิงฟางรับปาก ต่งถิงเจินจึงกล้าพานางไปด้วยกัน

“พี่หญิงลองชิมนะเจ้าคะ พวกเราสองคนช่วยฮูหยินสองทำเจ้าค่ะ น่าจะไม่คาวแล้วเจ้าค่ะ” สาวใช้ซึ่งถือกล่องอาหารสีดำอยู่ด้านหลังต่งถิงเจินเปิดกล่องอาหารออก จากนั้นวางถ้วยน้ำแกงลงบนโต๊ะตรงหน้าไป๋ชิงเหยียน

“สีหน้าของพี่หญิงดีขึ้นกว่าเมื่อบ่ายแล้วเจ้าค่ะ เมื่อบ่ายหน้าพี่หญิงซีดจนข้าตกใจหมดเลยเจ้าค่ะ”

“ดื่มยาไปสองครั้ง ดีขึ้นมากแล้ว!” ไป๋ชิงเหยียนหันไปมองไป๋จิ่นซิ่วที่ยืนอยู่ข้างเตียง

“จิ่นซิ่ว เจ้ากลับไปดูแลวั่งเกอเถิด วันมะรืนฉินหล่าวก็จะสอบแล้ว เจ้าควรไปช่วยเขาจัดเตรียมของ”

“มิเป็นอันใดเจ้าค่ะ ข้าบอกฉินหล่าวแล้วว่าคืนนี้จะนอนกับพี่หญิงใหญ่ พรุ่งนี้เช้าค่อยกลับไปเจ้าค่ะ”

ไป๋จิ่นซิ่วโน้มกายพลางถลกแขนเสื้อของตัวเองข้างหนึ่งขึ้น จากนั้นเปิดฝาถ้วยน้ำแกงออก ไอร้อนและกลิ่นหอมของน้ำแกงโชยออกมาทันที ไป๋จิ่นซิ่วกล่าวยิ้มๆ

“ไม่คาวแล้วจริงๆ ด้วยเจ้าค่ะ คุณหนูทั้งสองของตระกูลต่งทำอาหารเก่งจริงๆ ด้วยเจ้าค่ะ”

ไป๋จิ่นซิ่วหยิบช้อนน้ำแกงขึ้น “พี่หญิงใหญ่ ข้าป้อนนะเจ้าคะ…”

“รอให้อุ่นอีกสักนิดเถิด เจ้าไปนำของว่างมาให้ถิงเจินกับถิงฟางที ถิงเจินชงชาขาวรสชาติดีมาก พี่อยากดื่มสักหน่อย” ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางต่งถิงฟาง “รบกวนถิงฟางช่วยอยู่เป็นเพื่อนพี่ที่นี่ก็แล้วกัน”

ต่งถิงฟางมองไปทางไป๋ชิงเหยียนอย่างคาดไม่ถึง

ไป๋จิ่นซิ่วรู้ว่าพี่หญิงใหญ่มีเรื่องจะสอบถามต่งถิงฟางจึงพาต่งถิงเจินออกไปจากห้อง

เมื่อได้ยินไป๋ชิงเหยียนไล่ทุกคนออกไปจากห้อง ต่งถิงฟางกำชายกระโปรงของตัวเองแน่น เงยหน้ามองไปทางไป๋ชิงเหยียนที่นั่งพิงหัวเตียงอยู่อย่างหวั่นวิตก ผมยาวสลวยสีดำของไป๋ชิงเหยียนสหายคลอเคลียบ่าของหญิงสาว ทำให้หญิงสาวทั้งดูอ่อนโยนและอ่อนแอในเวลาเดียวกัน

ตะเกียงที่ตั้งอยู่บนแท่นสูงส่องกระทบไปยังใบหน้างดงามสมบูรณ์แบบของไป๋ชิงเหยียน อาจเป็นเพราะใบหน้าที่ซีดเซียวของหญิงสาวจึงทำให้ดวงตาคู่นั้นของนางยิ่งดูล้ำลึกยิ่งกว่าเดิม

“ถิงฟาง เจ้าจงบอกพี่มาตามตรงว่าที่เจ้าไม่อยากแต่งงานกับตระกูลฝูเป็นเพราะตระกูลฝูเกิดปัญหาขึ้นใช่หรือไม่” ไป๋ชิงเหยียนถามเสียงอ่อนโยน

เมื่อต่งถิงฟางได้ยินเช่นนี้ น้ำตาก็ไหลพรากออกมาทันที นางรู้ว่าทุกคนล้วนคิดเช่นนี้

ต่งถิงฟางสะบัดชายกระโปรงพลางคุกเข่าลงบนพื้น ก้มศีรษะคำนับไป๋ชิงเหยียน

“พี่หญิง ต่งถิงฟางกล้าสาบานต่อสวรรค์ว่าหากข้าต้องการยกเลิกการแต่งงานเพราะตระกูลฝูเผชิญกับปัญหาขอให้ข้าไม่ตายดีเจ้าค่ะ!”

“ถิงฟางไม่กล้าปิดบังพี่หญิง ข้ากับสนิทสนมกับเหวินเจวียนญาติผู้น้องของคุณชายใหญ่ตระกูลฝู เมื่อได้ยินเหวินเจวียนเอ่ยถึงคุณชายฝูอันเจ๋อบ่อยครั้ง ข้าจึงรู้สึกหวั่นไหวเจ้าค่ะ ทว่า ข้าไม่เคยคิดล้ำเส้นไปมากกว่านั้นเจ้าค่ะ!”

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท