ตอนที่ 733 ความสัมพันธ์ไม่ธรรมดา
องค์รัชทายาทได้ยินเช่นนี้จึงขมวดคิ้วแน่น
“เมื่อกระหม่อมออกมาจากจวนเหลียงอ๋อง คนที่ช่วยกระหม่อมไว้จึงพากระหม่อมไปยังจวนๆ หนึ่ง ต่อมาคนของจวนองค์รัชทายาททั้งสองคนนั่นก็มาถึง คนผู้นั้นให้กระหม่อมบอกนามของกระหม่อมกับคนทั้งสองของจวนองค์รัชทายาท จากนั้นให้คนพากระหม่อมออกไป ต่อมากระหม่อมจึงถูกพามาที่จวนองค์รัชทายาท นี่คือทั้งหมดที่กระหม่อมรับรู้พ่ะย่ะค่ะ” หวังชิวลู่กล่าวจบก็ก้มศีรษะคำนับอีกครั้ง “กระหม่อมทราบดีว่ากระหม่อมสมควรตาย กระหม่อมไม่กล้าปิดบังองค์รัชทายาทพ่ะย่ะค่ะ”
“องค์หญิงเจิ้นกั๋วเป็นคนช่วยเจ้าออกมา เจ้าไม่อยากทำให้นางเดือดร้อนจึงกล่าวเช่นนี้ใช่หรือไม่” องค์รัชทายาทถาม
“ทูลองค์รัชทายาท กระหม่อมไม่ทราบว่าองค์หญิงเจิ้นกั๋วเป็นคนช่วยกระหม่อมออกมาหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ หากองค์รัชทายาททรงไม่เชื่อ ทรงสอบถามจากที่ปรึกษาทั้งสองของจวนองค์รัชทายาทดูก็ได้พ่ะย่ะค่ะว่าคนที่ช่วยกระหม่อมออกมาจากคุกและมอบตัวกระหม่อมให้พวกเขาคือผู้ใดกันแน่ กระหม่อมก็อยากทราบเหมือนกันพ่ะย่ะค่ะ”
องค์รัชทายาทนั่งหลังตรง มองไปทางหวังชิวลู่ที่คุกเข่าอยู่ตรงปลายเท้าของเขานิ่ง จากนั้นลูบที่วางแขนอย่างใช้ความคิด
ผู้คุมคุกศาลต้าหลี่และคนจากซั่วหยางที่ถูกมัดมือมัดเท้าหวาดกลัวจนตัวสั่นเทาคุกเข่าอยู่บนพื้นโดยไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง
“พวกเจ้าสองคนมีสิ่งใดจะกล่าวหรือไม่” องค์รัชทายาทหันไปทางผู้คุมคุกและนักพนันจากซั่วหยาง
ทั้งสองคนเอาแต่หวาดกลัวจนตัวสั่น ไม่ได้ยินสิ่งที่องค์รัชทายาทเอ่ยถามแม้แต่น้อย เฉวียนอวี๋ก้าวเข้าไปใช้เท้าถีบผู้คุมคุกจนหงายหลัง จากนั้นตวาดเสียงดังลั่น “องค์รัชทายาทตรัสถามเจ้า ไม่ได้ยินหรืออย่างไร!”
ผู้คุมคุกก้มศีรษะแนบพื้น โขกศีรษะลงบนพื้นอย่างแรงหลายครั้ง “องค์รัชทายาทได้โปรดไว้ชีวิตด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมฟังคำยั่วยุของญาติผู้น้อง ญาติผู้น้องของกระหม่อมนำเงินมาให้กระหม่อมแปดร้อยตำลึง กระหม่อมเห็นแก่เงินจึงช่วยนักโทษแหกคุกออกไปพ่ะย่ะค่ะ องค์รัชทายาททรงไว้ชีวิตกระหม่อมด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ”
เมื่อนักพนันเห็นการกระทำของญาติผู้พี่จึงโขกศีรษะลงบนพื้นตามจนหน้าผากแดงช้ำบ้าง จากนั้นอธิบายอย่างร้อนรน “องค์รัชทายาท มีคนนำเงินมาให้กระหม่อมห้าร้อยตำลึง กล่าวว่าเมื่อจบเรื่องแล้วจะให้กระหม่อมอีกสามร้อยตำลึง กระหม่อมจึงไปขอให้ญาติผู้พี่ของกระหม่อมช่วยเหลือ! กระหม่อมไม่รู้เรื่องจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ”
“ผู้ใดนำเงินไปให้เจ้า ใช่องค์หญิงเจิ้นกั๋วหรือคนของจวนองค์หญิงเจิ้นกั๋วหรือไม่” องค์รัชทายาทถาม
“กระหม่อมไม่ทราบจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ ไม่ทราบเรื่องจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ คนผู้นั้นปิดบังหน้าตาของตัวเอง องค์รัชทายาทได้โปรดไว้ชีวิตกระหม่อมด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ” นักพนันเอาแต่โขกศีรษะลงบนพื้นจนหมดสติไป
ผู้คุมคุกหวาดกลัวจนแทบจะร้องไห้ออกมา เขาหลับตาข่มความกลัวเอาไว้ ร่างกายสั่นเทาอย่างรุนแรง
“กล่าวถึงองค์หญิงเจิ้นกั๋ว…” เฉวียนอวี๋อาศัยช่วงที่เปลี่ยนชาถ้วยใหม่ให้องค์รัชทายาทกล่าวขึ้น “เมื่อครู่บ่าวได้ยินหมัวมัวข้างกายของพระชายาเอกกล่าวว่าวันนี้อาการขององค์หญิงเจิ้นกั๋วไม่ค่อยสู้ดีนัก ฮูหยินฉินน้องสาวขององค์หญิงเจิ้นกั๋วเดินทางมาขอร้องให้องค์ชายส่งหมอหลวงไปตรวจอาการขององค์หญิงเจิ้นกั๋วที่จวนด้วยตัวเองพ่ะย่ะค่ะ”
เฉวียนอวี๋เลือกกล่าวออกมาในเวลานี้เพราะเห็นว่าองค์รัชทายาทเริ่มสงสัยในตัวองค์หญิงเจิ้นกั๋ว เขาอยากให้องค์รัชทายาทนึกถึงเรื่องที่องค์หญิงเจิ้นกั๋วเคยช่วยชีวิตเขาไว้…แล้วเลิกหวาดระแวงในตัวหญิงสาว
“อาการขององค์หญิงเจิ้นกั๋วไม่ค่อยสู้ดีอย่างนั้นหรือ ไม่ดีเช่นไร” องค์รัชทายาทมองไปทางเฉวียนอวี๋
“บ่าวติดตามองค์ชายเข้าไปในวังหลวงจึงไม่ทราบเรื่องนี้อย่างแน่ชัดเท่าใดนักพ่ะย่ะค่ะ!”
“หมอหลวงไปที่จวนองค์หญิงเจิ้นกั๋วแล้วหรือไม่” องค์รัชทายาทถามต่ออย่างร้อนใจ
เฉวียนอวี๋พยักหน้า “หมัวมัวกล่าวว่าพระชายาเอกทรงมีเมตตาส่งหมัวมัวและหมอหลวงไปที่จวนองค์หญิงเจิ้นกั๋วแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
องค์รัชทายาทกำหมัดแน่น ในสมองปรากฏภาพตอนที่ไป๋ชิงเหยียนผลักร่างของเขาออกแล้วตัวเองถูกธนูแทงเข้าที่กลางอกขึ้นมาอีกครั้ง
องค์รัชทายาทเริ่มเป็นกังวล กล่าวเสียงร้อนรน “เฉวียนอวี๋ เจ้าไปสอบถามสถานการณ์ที่จวนองค์หญิงเจิ้นกั๋วด้วยตัวเองที พาหมอหลวงไปอีกสองสามคนด้วย ห้ามให้องค์หญิงเจิ้นกั๋วเป็นอันใดไปเด็ดขาด”
“พ่ะย่ะค่ะ!” เฉวียนอวี๋รับคำแล้วรีบเดินออกไปจากโถงรับรอง จากนั้นส่งคนไปตามหมอหลวงให้เดินทางไปยังจวนองค์หญิงเจิ้นกั๋วพร้อมกับตน
“เชิญฟางเหล่าและเริ่นเซียนเซิงเข้ามา!” องค์รัชทายาทยกถ้วยชาขึ้น จากนั้นตะโกนบอกขันทีที่เฝ้าอยู่หน้าประตู
ขันทีผู้นั้นรับคำ จากนั้นเดินไปเชิญฟางเหล่าและเริ่นซื่อเจี๋ยเข้ามา
ฟางเหล่าและเริ่นซื่อเจี๋ยถูกกันออกไปจากห้อง พวกเขาไม่รู้ว่าหวังชิวลู่กล่าวสิ่งใดกับองค์รัชทายาทบ้างจึงได้แต่สารภาพทุกอย่างให้องค์รัชทายาทฟังตามความจริง
“หลี่หมิงรุ่ยมาพบกระหม่อมก่อนพ่ะย่ะค่ะ เขาบอกกับกระหม่อมว่าเขามีหลักฐานยืนยันว่าองค์หญิงเจิ้นกั๋วช่วยเหลือนักโทษกบฏหวังชิวลู่ออกมาจากคุก กระหม่อมเห็นว่าเรื่องนี้คือเรื่องสำคัญ หากไม่สืบให้แน่ชัดก่อนกระหม่อมไม่กล้านำเรื่องนี้มาทูลให้องค์ชายทราบ มิเช่นนั้นอาจทำให้องค์ชายและองค์หญิงเจิ้นกั๋วบาดหมางกันได้ ดังนั้นกระหม่อมจึงบอกเรื่องนี้ให้ฟางเหล่าทราบพ่ะย่ะค่ะ”
เริ่นซื่อเจี๋ยกล่าวพลางมองไปทางฟางเหล่า ฟางเหล่าพยักหน้าแล้วกล่าวต่อ “เมื่อทราบเรื่อง กระหม่อมส่งคนไปสืบทันที ทว่า กลับสืบสิ่งใดไม่ได้เลย แต่เมื่อส่งคนไปสืบจากตระกูลบรรพบุรุษไป๋ที่ซั่วหยางกลับบังเอิญสืบพบนักพนันคนนี้พ่ะย่ะค่ะ นักพนันดื่มเหล้าเมาจนสารภาพเรื่องทั้งหมดออกมาอย่างหมดเปลือก กระหม่อมสั่งให้คนสืบต่อจนพบว่าช่วงนี้นักพนันคนนี้ใช้หนี้พนันจนหมด ทั้งยังมีเงินซื้อจวนและอนุอีกสามคน กระหม่อมจึงสืบสาวมาถึงตัวญาติผู้พี่ของเขาซึ่งเป็นผู้คุมคุกของศาลต้าหลี่ พบว่าช่วงนี้ผู้คุมคุกมีเงินซื้อจวนใหม่ได้อย่างสบายๆ กระหม่อมจึงพบหลักฐานทั้งหมดพ่ะย่ะค่ะ”
เริ่นซื่อเจี๋ยพยักหน้าตาม “วันนี้หลี่หมิงรุ่ยนัดกระหม่อมและฟางเหล่าไปพบ กล่าวว่าจะมอบตัวหวังชิวลู่ให้จวนองค์รัชทายาท บังเอิญพระชายาเอกประสูติพอดี กระหม่อมกับฟางเหล่าจึงไม่ได้รบกวนองค์ชาย พวกกระหม่อมเดินทางไปพบหลี่หมิงรุ่ยตามนัดก่อน จากนั้นจึงได้ตัวหวังชิวลู่และผู้คุมคุกมาจากหลี่หมิงรุ่ยพ่ะย่ะค่ะ”
“จริงสิ…” จู่ๆ เริ่นซื่อเจี๋ยก็เหมือนจะนึกสิ่งใดขึ้นมาได้ เขาหันไปกล่าวกับองค์รัชทายาทเสียงจริงจัง “หลี่หมิงรุ่ยยังกล่าวอีกว่าจะยกความดีความชอบในครั้งนี้ให้กระหม่อมและฟางเหล่าเพียงสองคนพ่ะย่ะค่ะ เขากล่าวว่าพวกกระหม่อมต้องการความดีความชอบนี้มากกว่าเขา กล่าวว่าเขาแค้นที่องค์หญิงเจิ้นกั๋วหักขาน้องชายของเขาจึงอยากแก้แค้นนางพ่ะย่ะค่ะ ทว่า อัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายหลี่เม่าไม่อนุญาตให้เขาแก้แค้น เขาไม่อยากให้บิดาของเขาทราบว่าเขาขัดคำสั่ง ดังนั้นจึงกำชับพวกกระหม่อมไม่ให้ทูลเรื่องนี้ให้องค์ชายทราบพ่ะย่ะค่ะ”
“ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะ” ฟางเหล่ารับคำต่อ กล่าวอย่างจงรักภักดี “ทว่า กระหม่อมและเริ่นซื่อเจี๋ยจงรักภักดีต่อองค์ชาย มีสิ่งใดก็ทูลให้องค์ชายทราบตามความจริงมาโดยตลอด กระหม่อมจะกล้าปิดบังเรื่องนี้กับองค์ชายได้เช่นไรพ่ะย่ะค่ะ”
เริ่นซื่อเจี๋ยมองไปทางฟางเหล่าที่มีท่าทีจริงจังแวบหนึ่ง หากเขาไม่รู้จักฟางเหล่ามาก่อน เมื่อเห็นท่าทีเช่นนี้ของฟางเหล่าเขาก็คงหลงเชื่อเช่นเดียวกัน!
องค์รัชทายาทหรี่ตา “เรารู้สึกว่าตั้งแต่ที่หลี่หมิงรุ่ยผู้นี้เดินทางไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่เยี่ยนว่อกับเหลียงอ๋อง ดูเหมือนเขาจะทำงานแทนเหลียงอ๋องหลายเรื่อง ต่อมายิ่งไปมาหาสู่กับจวนเหลียงอ๋องอย่างเปิดเผย เหลียงอ๋องถูกกักบริเวณอยู่แต่ในจวน บ่าวรับใช้ถูกขายออกไปหมด ทว่า หลี่หมิงรุ่ยก็ยังแอบไปพบเหลียงอ๋องและส่งคนรับใช้ไปที่จวนเหลียงอ๋องอีก”
“เสด็จพ่อทรงมีรับสั่งไม่ให้เราเข้าไปวุ่นวายกับเรื่องนี้ เราคิดว่าเสด็จพ่อทรงเห็นแก่ความเป็นพ่อลูกจึงสั่งให้หลี่หมิงรุ่ยไปช่วยดูแลเหลียงอ๋อง เราจึงสั่งให้องครักษ์ลับที่เฝ้าจับตาดูจวนเหลียงอ๋องแสร้งทำเป็นมองไม่เห็นเรื่องนี้ ไม่ต้องมารายงานว่าจวนหลี่ส่งบ่าวรับใช้เข้าไปในจวนเหลียงอ๋อง ตอนนี้ดูเหมือนว่าหลี่หมิงรุ่ยและเหลียงอ๋องจะมีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดาจริงๆ”