ตอนที่ 818 มองใหม่
เมื่อไป๋ชิงเหยียนเงยหน้าขึ้นแล้วเห็นซีไหวอ๋องยังยืนขวางอยู่ที่หน้าบันได หญิงสาวจึงเอ่ยเรียก “ซีไหวอ๋อง”
“อ้อ…” ซีไหวอ๋องได้สติจึงรีบถอยหนีจากบันได จากนั้นผายมือเชิญไป๋ชิงเหยียนด้วยรอยยิ้ม “เชิญองค์หญิงเจิ้นกั๋ว”
ไป๋ชิงเหยียนไม่ได้เกรงใจซีไหวอ๋องสักเท่าใดนัก หญิงสาวพยักหน้าให้ซีไหวอ๋องเล็กน้อย จากนั้นมองไปทางเซียวหรงเหยี่ยนที่ยืนทำความเคารพนางอยู่หน้าห้องพัก หญิงสาวได้ยินเขาสั่งให้เยว่สือไปนำของว่างมา จากนั้นเดินตรงมาทางนาง เมื่ออยู่ต่อหน้าคนภายนอกชายหนุ่มยังสำรวมกิริยาของตัวเองที่มีต่อนางอยู่บ้าง
“เชิญองค์หญิงเจิ้นกั๋ว…” ซีไหวอ๋องผายมือเชิญอีกครั้ง
ไป๋ชิงเหยียนเดินเข้าไปในห้องที่ค่อนข้างกว้างและสว่างบนชั้นสอง
“เชิญองค์หญิงเจิ้นกั๋วประทับตรงนี้พ่ะย่ะค่ะ…” เซียวหรงเหยี่ยนกล่าว
ซีไหวอ๋องมองเซียวหรงเหยี่ยนแวบหนึ่ง จากนั้นหันไปมององค์หญิงเจิ้นกั๋ว “หรงเหยี่ยนคือคู่หมั้นขององค์หญิงเจิ้นกั๋ว เหตุใดต้องมากพิธีเช่นนี้ด้วย ข้าไม่ใช่คนนอกเสียหน่อย”
ไป๋ชิงเหยียนเดินอ้อมโต๊ะไม้กลมหวงฮวาหลีไปนั่งลงบนเก้าอี้ประมุขที่อยู่ด้านหน้าฉากกั้นไม้หนานมู่ลายธรรมชาติงดงาม จากนั้นกล่าวกับซีไหวอ๋อง “ข้าได้ยินเยว่สือกล่าวว่าซีไหวอ๋องต้องการพบข้า ข้ามีเรื่องอยากขอคำแนะนำจากซีไหวอ๋องพอดี ข้ามาที่นี่โดยไม่ได้ส่งคนมาแจ้งล่วงหน้าหวังว่าซีไหวอ๋องจะไม่ถือสา”
“มิเป็นอันใด เซียวหรงเหยี่ยนเป็นคนจัดการทุกอย่างให้ข้าตลอดการเดินทางครั้งนี้ องค์หญิงเจิ้นกั๋วคือคู่หมั้นของเขา ข้าสนิทสนมกับหรงเหยี่ยนมาก ข้าขอบังอาจเห็นองค์หญิงเจิ้นกั๋วเป็นดั่งน้องสาวของข้าอีกคน” ซีไหวอ๋องคิดแต่จะกระชับความสัมพันธ์กับไป๋ชิงเหยียนเพื่อขอร้องให้หญิงสาวช่วยเหลือต้าเว่ย
ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางซีไหวอ๋องยิ้มๆ จากนั้นเอ่ยถามก่อนอย่างไม่เกรงใจ “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ซีไหวอ๋องได้โปรดบอกข้ามาตามตรงว่ารู้ข่าวการเดินทางของแม่ทัพหน้ากากผีได้เช่นไร เหตุใดจึงมั่นใจนักว่าแม่ทัพหน้ากากผีจะเดินทางไปถึงเมืองหานในช่วงปลายเดือนสามหรือต้นเดือนสี่ แคว้นเว่ยส่งสายลับไปยังหรงตี๋หรือส่งสายลับไปอยู่ข้างกายแม่ทัพหน้ากากผีกัน”
ซีไหวอ๋องคิดไม่ถึงว่าเมื่อองค์หญิงเจิ้นกั๋วมาถึงจะเริ่มถามคำถามที่เป็นความลับเช่นนี้ ทว่า ในเมื่อเขามีเรื่องอยากขอร้องให้หญิงสาวช่วย เขาก็ต้องแสดคงความจริงใจออกมาให้หญิงสาวเห็น จะปิดบังนางไม่ได้เด็ดขาด แคว้นเว่ยส่งสายลับไปแฝงตัวอยู่ข้างกายของแม่ทัพหน้ากากผีแห่งหนานหรงจริงๆ อีกทั้งกุมความลับบางส่วนของแม่ทัพหน้ากากผีเอาไว้ ซีไหวอ๋องจะใช้ความลับเหล่านี้เป็นเครื่องต่อรองขอให้แม่ทัพหน้ากากผีช่วยเหลือแคว้นเว่ย
ซีไหวอ๋องมองไปทางเซียวหรงเหยี่ยนแวบหนึ่ง เขาเห็นชายหนุ่มรับชาจากบ่าวรับใช้แล้วส่งให้ไป๋ชิงเหยียน ซีไหวอ๋องจึงกล่าวกับไป๋ชิงเหยียนเสียงจริงจัง
“ข้าเห็นองค์หญิงเจิ้นกั๋วเป็นคนกันเองจึงจะไม่อ้อมค้อม แคว้นเว่ยส่งสายลับไปยังแคว้นหรงตี๋และข้างกายของแม่ทัพหน้ากากผีผู้นี้จริงๆ ทว่า แคว้นเว่ยไม่ได้จงใจทำเช่นนี้ จะว่าไปก็บังเอิญเหมือนกัน ท่านอ๋องแห่งหรงตี๋เป็นคนส่งคนผู้นั้นไปรับใช้ข้างกายแม่ทัพหน้ากากผีเองโดยไม่ตั้งใจ ครั้งนี้ต้าเยี่ยนบุกโจมตีแคว้นเว่ย เสด็จพี่ของข้าสวรรคตอย่างน่าอนาถ ไทเฮาจำต้องดันให้องค์ชายน้อยขึ้นครองบัลลังก์ต่อจากเสด็จพี่ บัดนี้แคว้นเว่ยกำลังวุ่นวายทั้งภายในและภายนอก ข้าส่งคนไปขอเจรจาสงบศึกกับต้าเยี่ยนหลายครั้ง ทว่า ต้าเยี่ยนปฏิเสธทุกครั้ง องค์หญิงเจิ้นกั๋วได้โปรดช่วยทูลขอให้องค์รัชทายาทแห่งต้าจิ้นส่งกองทัพไปช่วยเหลือแคว้นเว่ยด้วยเถิด ทุกคนแคว้นเว่ยจะสำนึกบุญในคุณครั้งนี้ไม่มีวันลืม”
ไป๋ชิงเหยียนขยับท่านั่งเล็กน้อย วางมือข้างหนึ่งลงบนที่วางแขนของเก้าอี้
“ข้าได้ยินว่าซีไหวอ๋องเดินทางมาไกลถึงเมืองหานเพราะต้องการขอให้แม่ทัพหน้ากากผีส่งกองทัพไปช่วยเหลือแคว้นเว่ย ทว่า ข้าเชื่อว่าซีไหวอ๋องเสด็จเดินทางมาไกลถึงเพียงนี้คงไม่ได้ทำเพียงขอร้องอย่างเดียวแน่นอน สายลับของแคว้นเว่ยที่อยู่ข้างกายแม่ทัพหน้ากากผีผู้นี้อาจกุมความลับของแม่ทัพหน้ากากผีไว้ใช่หรือไม่”
ซีไหวอ๋องตกตะลึง เขาระวังองค์หญิงเจิ้นกั๋วผู้นี้มากขึ้นกว่าเดิม เขานึกไม่เลยว่าองค์หญิงเจิ้นกั๋วจะเก่งกาจถึงเพียงนี้ จะติดสินนางจากหน้าตาเพียงอย่างเดียวไม่ได้จริงๆ
ซีไหวอ๋องไม่ได้ตอบกลับในทันที เขากลัวว่าองค์หญิงเจิ้นกั๋วจะบอกให้เขาบอกความลับที่รู้ให้นางฟัง เช่นนั้นเขาจะทำเช่นไรกัน
ก่อนหน้าตอนที่เสด็จพี่ของเขายังมีพระชนม์ชีพอยู่ ซีไหวอ๋องไม่จำเป็นต้องยุ่งเรื่องบ้านเมือง เขาใช้ชีวิตอย่างสุขสำราญมาเกือบครึ่งชีวิต ไม่เคยรู้มากก่อนว่าการรอบคอบระวังตัวคือสิ่งใด ทว่า เมื่อเผชิญหน้ากับองค์หญิงเจิ้นกั๋ว เขารู้สึกระวังตัวขึ้นมาทันที
“ซีไหวอ๋องกับองค์หญิงเจิ้นกั๋วมีเรื่องต้องสนทนากับอย่างลับๆ เหยี่ยนขอตัวก่อนพ่ะย่ะค่ะ”
เซียวหรงเหยี่ยนลุกขึ้นยืน จากนั้นทำความเคารพซีไหวอ๋องและไป๋ชิงเหยียน
“หรงเหยี่ยนอยู่ที่นี่ต่อเถิด!” ซีไหวอ๋องโบกมือให้เซียวหรงเหยี่ยนนั่งลงตามเดิม “เจ้าคือสหายของข้า คือคู่หมั้นขององค์หญิงเจิ้นกั๋ว วันนี้ไม่มีสิ่งใดที่เจ้าฟังไม่ได้”
เซียวหรงเหยี่ยนมองไปทางไป๋ชิงเหยียน เมื่อเห็นหญิงสาวพยักหน้า เขาจึงนั่งลงตามเดิม จากนั้นโบกมือให้บ่าวรับใช้ทุกคนออกไปจากห้อง
ซีไหวอ๋องครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นยกมือคารวะองค์หญิงเจิ้นกั๋ว เขาไม่กล้าดูถูกเพียงหญิงสาวเพราะนางเป็นสตรีอีกแล้ว เขากล่าวอย่างมีสติ
“หากองค์หญิงเจิ้นกั๋วอยากรู้ความลับของแม่ทัพหน้ากากผีผู้นี้ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้ ทว่า ความลับนี้คือเครื่องต่อรองที่ข้าจะใช้ขอร้องให้แม่ทัพหน้ากากผียกทัพไปช่วยเหลือแคว้นเว่ย หากองค์หญิงเจิ้นกั๋วมั่นใจว่าสามารถโน้มน้าวให้รัชทายาทแห่งต้าจิ้นยอมส่งทหารไปช่วยเหลือแคว้นเว่ยได้ ข้าจะบอกความลับนี้กับองค์หญิงเจิ้นกั๋ว ทว่า หากองค์หญิงเจิ้นกั๋วยังไม่แน่ใจ ข้าคงไม่อาจบอกความลับนี้กับองค์หญิงเจิ้นกั๋วได้ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม…”
ซีไหวอ๋องชะงักคำกล่าวลง เขามองไปทางไป๋ชิงเหยียนนิ่งจากนั้นกล่าวขึ้น “หรงเหยี่ยนรู้ดีว่าข้าเป็นเพียงอ๋องเจ้าสำราญ ทว่า คนอย่างข้าก็มีคุณธรรมเช่นเดียวกัน! ในเมื่อข้าต้องการทำข้อตกลงแลกเปลี่ยนกับแม่ทัพหน้ากากผี ข้าก็ต้องรักษาสัจจะ ไม่อาจบอกความลับนี้ให้องค์หญิงเจิ้นกั๋วทราบได้ หวังว่าองค์หญิงเจิ้นกั๋วจะเข้าใจ”
แม้จะอยู่อย่างคนเจ้าสำราญมาครึ่งชีวิต แม้อาจเคยทำผิดพลาดเพราะความตามใจของเสด็จพี่ ทว่า ซีไหวอ๋องไม่อยากเป็นคนถ่อย ในเมื่อต้องการไปทำข้อแลกเปลี่ยน เขาก็ต้องรักษาสัญญา ไม่มีทางจับปลาสองมืออย่างแน่นอน
ไป๋ชิงเหยียนไม่รู้จักนิสัยที่แท้จริงของซีไหวอ๋อง หญิงสาวเคยได้ยินเพียงว่าซีไหวอ๋องแห่งแคว้นต้าเว่ยเป็นเพียงอ๋องเจ้าสำราญ การพบกันครั้งนี้คือเรื่องที่อยู่นอกเหนือความคาดหมาย หญิงสาวยังไม่ได้ส่งคนไปสืบเรื่องของซีไหวอ๋องอย่างละเอียด
ทว่า คุณธรรมของซีไหวอ๋องทำให้หญิงสาวต้องมองเขาใหม่อีกครั้ง
คำกล่าวเมื่อครู่ของซีไหวอ๋องทำให้ไป๋ชิงเหยียนวางใจลงไม่น้อย ดูเหมือนว่าซีไหวอ๋องยังไม่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างนางกับอาอวี๋ ดังนั้นเขาย่อมไม่รู้ความสัมพันธ์ของอาอวี๋กับตระกูลไป๋เช่นเดียวกัน มิเช่นนั้นเหตุใดซีไหวอ๋องต้องปิดบังความลับนี้กับแม่ทัพของต้าจิ้นเช่นนี้ด้วย
ซีไหวอ๋องควรใช้เรื่องนี้มาบีบบังคับข่มขู่นางถึงจะถูก
ถึงแม้ซีไหวอ๋องอาจจะเก่งในเรื่องการเสแสร้งเป็นคนอ่อนแอเช่นเดียวกับเหลียงอ๋อง ทว่า บัดนี้แคว้นเว่ยกำลังอยู่ในวิกฤต ซีไหวอ๋องไม่มีเวลามาเล่นแง่กับนาง เขาควรเผยคมดาบของตัวเองออกมาเพื่อบังคับข่มขู่นางถึงจะถูก
ไป๋ชิงเหยียนก้มศีรษะให้ซีไหวอ๋องเล็กน้อย “ซีไหวอ๋องกล่าวมีเหตุผล ทว่า แม้ตอนนี้ไป๋ชิงเหยียนจะไม่อาจรับประกันได้ว่าจะสามารถโน้มน้าวองค์รัชทายาทให้ส่งทหารไปช่วยแคว้นเว่ยได้ ทว่า ข้ามีแผนการอย่างหนึ่งที่สามารถช่วยแคว้นเว่ยได้”
เซียวหรงเหยี่ยนกำมือแน่น มองไปทางไป๋ชิงเหยียนที่กำลังกล่าวด้วยรอยยิ้มนิ่ง