สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 860 คุ้มกันเมืองซั่วหยาง

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 860 คุ้มกันเมืองซั่วหยาง

“หยางอู่เช่อจงฟังคำสั่ง!” แววตาของไป๋ชิงเหยียนเคร่งขรึม “เจ้าและแม่ทัพหลิวหงนำทัพสองหมื่นนายเดินทางไปตามเมืองผู่เหวิน หลงหยาง โยวฮว่า ภูเขาเทียนหลาน ด่านอวี้ซานเพื่อมุ่งหน้าไปยังเมืองหลวง ห้ามปล่อยให้ทางการของเมืองเหล่านี้บังคับส่งเด็กไปเมืองหลวงเด็ดขาด ผู้ใดขัดขืนจงสังหารทิ้งทันที!”

“รับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ” หยางอู่เช่อกำหมัดรับคำ

ไป๋ชิงเหยียนหันไปมองหลิวหงที่ยังคงเม้มปากแน่น “แม่ทัพหลิวมีข้อสงสัยอันใดหรือไม่”

ไป๋ชิงเหยียนไม่อยากเป็นศัตรูกับหลิวหงผู้นี้ ดังนั้นนางต้องให้เขาได้เห็นกับตาของตัวเองว่าจักรพรรดิต้าจิ้นทำสิ่งใดลงไปบ้าง ดูให้เห็นว่าจักรพรรดิเช่นนี้ยังคู่ควรให้เขาจงรักภักดีหรือไม่ นางได้แต่หวังว่าหลิวหงจะมีสติและคิดได้

หลิวหงตัวสั่นไปทั้งร่าง เขารู้ดีว่าตอนนี้อำนาจทั้งหมดอยู่ในมือของไป๋ชิงเหยียน

แม้เขาจะเป็นแม่ทัพใหญ่ของสงครามต้าเหลียงในครั้งนี้ ทว่า แผนการทั้งหมดล้วนมาจากไป๋ชิงเหยียน บัดนี้สงครามต้าเหลียงสิ้นสุดลงแล้ว หากนับตามศักดิ์เขาควรฟังคำสั่งไป๋ชิงเหยียน หากวัดที่ความสามารถ…เขาก็ต้องฟังไป๋ชิงเหยียนอยู่ดี

ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง หลิวหงเงยหน้ามองไป๋ชิงเหยียน

“กระหม่อมมีบางอย่างอยากทูลถามองค์หญิงเจิ้นกั๋ว…” หลิวหงมองไปทางไป๋ชิงเหยียนด้วยดวงตาที่แดงก่ำ สุดท้ายจึงตัดสินใจถามคำถามที่ไม่กล้าถามออกไป “องค์หญิงเจิ้นกั๋วจะกบฏหรือพ่ะย่ะค่ะ”

เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนมีสีหน้าเคร่งขรึมไม่ได้ร้อนใจอยากอธิบาย ขอบตาของหลิวหงร้อนผ่าวขึ้นทันที เขาตวาดลั่นโดยไม่รอให้ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยตอบ “ตอนที่อยู่ที่เมืองหลงหยางองค์หญิงเจิ้นกั๋วเคยตรัสกับกระหม่อมว่าทุกคนในแคว้นต้าจิ้นต่างรับรู้ดีว่าตระกูลไป๋มีความจงรักภักดีมากเพียงใด ท่านปู่ บิดา และบรรพบุรุษทุกรุ่นของตระกูลไป๋สละชีพเพื่อปกป้องชีวิตของชาวบ้านแถบชายแดนเอาไว้ ดังนั้นตระกูลไป๋ไม่มีทางกบฏ! ไม่มีทางแย่งชิงผลประโยชน์เข้าตัวอย่างคนเห็นแก่ตัวในขณะที่บ้านเมืองกำลังเดือดร้อนเด็ดขาด! ทว่า เหตุใดเวลานี้ในสายตาขององค์หญิงเจิ้นกั๋วจึงไม่มีฝ่าบาท ไม่มีราชวงศ์อยู่เลยพ่ะย่ะค่ะ! เพราะเหตุใดพ่ะย่ะค่ะ!”

“วันนั้นไป๋ชิงเหยียนบอกกับแม่ทัพหลิวหงว่าตระกูลไป๋ไม่มีทางกบฏ ยิ่งไม่มีทางตักตวงผลประโยชน์เข้าตัวในขณะที่บ้านเมืองกำลังเดือดร้อนเพราะตระกูลไป๋ทุกรุ่นจงรักภักดีต่อชาวบ้านต้าจิ้น! คนที่พวกเรายินดีสละชีพเพื่อปกป้องคือชาวบ้านต้าจิ้น กองทัพไป๋ไปออกรบกับศัตรูเพราะต้องการปกป้องคุ้มครองชาวบ้านให้ปลอดภัยเท่านั้น!”

ถ้อยคำที่ไป๋ชิงเหยียนกล่าวกับเขาขณะอยู่ที่เมืองหลงหยางผุดขึ้นมาในสมองของเขาทันที หลิวหงค่อยๆ เข้าใจความหมายของไป๋ชิงเหยียน เขาเซถอยหลังไปอย่างทรงตัวไม่อยู่

“ตระกูลไป๋จะปกป้องคนที่ปกป้องชาวบ้าน! ผู้ใดคุ้มครองชาวบ้านให้อยู่อย่างสงบสุขนับพันหมื่นปี ตระกูลไป๋ทุกรุ่นก็จะคุ้มครองคนผู้นั้นไปอีกพันหมื่นปี! ผู้ใดทำร้ายชาวบ้าน ตระกูลไป๋จะสังหารคนเหล่านั้นเพื่อปกป้องชาวบ้าน!” ไป๋ชิงเหยียนที่อยู่บนหลังม้าขยับม้าไปด้านหน้าสองก้าว หญิงสาวกวาดสายตาไปยังบรรดาทหารทั้งหลายที่กำลังมองมาทางนาง จากนั้นกล่าวเสียงหนักแน่น “ตระกูลไป๋และกองทัพไป๋เคยสนับสนุนให้ราชวงศ์หลินขึ้นไปนั่งบนบัลลังก์แห่งนั้นเพื่อคุ้มครองชาวบ้านทั่วแคว้นต้าจิ้น บัดนี้ไป๋ชิงเหยียนจะยกทัพไปโค่นล้มราชวงศ์หลินเพื่อความปลอดภัยและความสงบสุขของใต้หล้า ให้ชาวบ้านได้มีชีวิตอยู่อย่างสงบสุขอย่างแท้จริง! ไม่เสียชีวิตลงโดยเปล่าประโยชน์เช่นนี้ ไป๋ชิงเหยียนขอร้องให้ทุกคนในที่นี้ร่วมปกป้องชาวบ้านในใต้หล้าร่วมกับไป๋ชิงเหยียนด้วยเถิด!”

สตรีในชุดเกราะเงินเผยไอสังหารในร่างกายของตัวเองออกมาอย่างเต็มที่ท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนระอุ หญิงสาวเปรียบเสมือนขวัญกำลังใจของกองทัพแม้จะยืนอยู่เฉยๆ ขอเพียงนางอยู่ตรงนั้นก็ทำให้ศัตรูรู้สึกหวาดหวั่นได้แล้ว

หยางอู่เช่อเลือดร้อนขึ้นมาทันทีที่ได้ยินคำกล่าวของไป๋ชิงเหยียน เขาคุกเข่าลงบนพื้นข้างหนึ่ง จากนั้นกำหมัดคารวะพลางตะโกนลั่น “ยินดีติดตามองค์หญิงเจิ้นกั๋วจนวันตายพ่ะย่ะค่ะ!”

“ยินดีติดตามองค์หญิงเจิ้นกั๋วจนวันตายพ่ะย่ะค่ะ!”

“ยินดีติดตามองค์หญิงเจิ้นกั๋วจนวันตายพ่ะย่ะค่ะ!”

“ยินดีติดตามองค์หญิงเจิ้นกั๋วจนวันตายพ่ะย่ะค่ะ!”

หลิวหงมองดูบรรดาทหารที่พากันคุกเข่าลงบนพื้น เขาถอยหลังไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ล้มลงบนพื้น

วันที่สอง เดือนห้า รัชศกเซวียนเจียปีที่สิบแปด เหลียงอ๋องให้หลี่หมิงรุ่ยนำทัพทหารหนึ่งหมื่นนายไปจับตัวตระกูลไป๋ที่ซั่วหยางโทษฐานที่ซั่วหยางขัดขืนราชโองการ ไม่ยอมส่งตัวเด็กหญิงและชายจำนวนหนึ่งร้อยคนไปยังเมืองหลวง

วันที่สาม เดือนห้า รัชศกเซวียนเจียปีที่สิบแปด ฮูหยินฉินไป๋จิ่นซิ่วที่มีราชโองการลับของจักรพรรดิต้าจิ้นอยู่ในมือนำกองทัพหย่วนผิงกลับมาช่วยเหลือที่เมืองหลวง เมื่อรัชทายาทที่อยู่ในคุกรู้เรื่องจึงดีใจมาก

วันที่ห้า เดือนห้า รัชศกเซวียนเจียปีที่สิบแปด กองทัพหนึ่งหมื่นนายของหลี่หมิงรุ่ยเดินทางไปถึงซั่วหยาง เริ่มโจมตีเมือง

หลี่หมิงรุ่ยในชุดเกราะนั่งมองทหารโจมตีเมืองซั่วหยางอย่างไม่หยุดหย่อนอยู่บนหลังม้า เขาขบกรามแน่น เขารู้ดีว่าไป๋จิ่นซิ่วนำกองทัพหย่วนผิงกลับไปยังเมืองหลวงแล้ว ทว่า เขาไม่ได้ถอยทัพกลับไปช่วยเหลือ เขาเลือกที่จะโจมตีเมืองซั่วหยางต่อ!

เขาตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะโจมตีเมืองซั่วหยางให้แตกภายในสามวัน เช่นนี้เขาจะได้จับตัวคนตระกูลไป๋เป็นตัวประกันเพื่อข่มขู่ไป๋ชิงเหยียน

ที่สำคัญไปกว่านั้นคือหากเขาจับตัวตระกูลไป๋ที่ซั่วหยางได้ ไป๋จิ่นซิ่วจะไม่กล้าโจมตีเมืองหลวง บางทีอาจถือโอกาสนี้แย่งราชโองการลับของจักรพรรดิต้าจิ้นมาจากไป๋จิ่นซิ่วได้ เช่นนี้ตระกูลหลี่จะมีความลับของเหลียงอ๋องไว้ในกำมือ ถือเป็นผลดีต่อตระกูลหลี่ในวันข้างหน้า

เมื่อวางแผนทั้งหมดเสร็จเรียบร้อย หลี่หมิงรุ่ยยิ่งอยากจะโจมตีเมืองซั่วหยางให้ได้!

ต่งซื่อที่อยู่ในเมืองซั่วหยางคาดการณ์ไว้แล้วว่าต้องเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นสักวัน ตอนที่หลี่หมิงรุ่ยนำทัพมาโจมตีเมืองซั่วหยาง นางสั่งให้ไป๋ชิงผิงคุ้มกันเมืองซั่วหยางไว้ด้วยชีวิต

เมืองซั่วหยางมีเสบียงมากพอที่จะต้านทานศัตรูไว้จนกว่าไป๋ชิงเหยียนจะยกทัพกลับมา

ใต้กำแพงเมืองซั่วหยาง เด็กเล็กที่เริ่มวิ่งได้ไปจนถึงคนชราที่ผมขาวโพลนต่างมาช่วยกันขนก้อนหินขึ้นไปบนกำแพงเมือง เหล่าทหารซั่วหยางจะได้ใช้ก้อนหินเหล่านั้นทุบทหารฝ่ายศัตรูที่ปีนขึ้นมาบนกำแพงเมืองได้

ชาวบ้านทุกคนในซั่วหยางรู้ดีว่าราชสำนักส่งทหารมาโจมตีเมืองซั่วหยางในครั้งนี้เพราะต้องการตัวลูกหลานของพวกเขา หากไม่ใช่เพราะต่งซื่อฮูหยินใหญ่ของตระกูลไป๋ห้ามปรามเจ้าเมืองโจวไว้ ไม่ให้ทหารส่งตัวลูกหลานของพวกเขาให้ราชสำนัก เด็กๆ เหล่านี้ต้องตายอย่างแน่นอน

วันนั้นเจ้าเมืองโจวนำราชโองการไปให้ฮูหยินใหญ่ไป๋ดู กล่าวว่าหากไม่ยอมส่งตัวเด็กเหล่านี้ไปยังเมืองหลวง ชาวบ้านทุกคนในซั่วหยางจะพลอยเดือดร้อนกันทั้งหมด

ขณะที่ชาวบ้านซั่วหยางกำลังหวาดหวั่น บางคนเตรียมจะพาบุตรของตัวเองหนีไป ฮูหยินใหญ่ไป๋ต่งซื่อตัดสินใจเด็ดขาด นางเรียกรวมตัวชาวบ้านทุกคนในซั่วหยาง นางกล่าวว่ารากเหง้าของตระกูลไป๋และกองทัพไป๋อยู่ที่ซั่วหยางแห่งนี้ ตระกูลไป๋สร้างกองทัพไป๋ขึ้นมาเพื่อปกป้องชาวบ้าน บัดนี้จักรพรรดิต้าจิ้นปกครองบ้านเมืองด้วยความโหดร้าย เห็นชีวิตชาวบ้านเป็นผักปลา ไม่มีค่าในสายตาของเขา ตระกูลไป๋และกองทัพไป๋จำต้องทำสงครามเพื่อปกป้องชาวบ้านตามศรัทธาแรกเริ่มของกองทัพไป๋ที่พวกเขายึดมั่น พวกเขาจะไม่ถอดเกราะแม้ตัวตาย ต่งซื่อให้สัญญาว่าจะไม่ส่งเด็กคนใดในซั่วหยางไปยังหอบูชาเก้าชั้นทั้งสิ้น จะไม่ปล่อยให้เด็กคนใดต้องสังเวยชีวิตเพื่อทำยาวิเศษให้จักรพรรดิสารเลวเช่นนั้นเด็ดขาด

คำกล่าวของต่งซื่อทำให้ชาวบ้านทุกคนในซั่วหยางร้องไห้ออกมาด้วยความซาบซึ้ง บรรดาทหารเลือดร้อนขึ้นมาทันที

ดังนั้นสงครามในครั้งนี้จึงไม่มีชาวบ้านคนใดในซั่วหยางเลือกที่จะหนีไปทั้งสิ้น ชาวบ้านที่มีเงินช่วยออกเงิน ชาวบ้านที่แข็งแรงช่วยออกแรง ทุกคนร่วมใจกันต่อต้านศัตรูที่มารุกราน

นี่คือครั้งแรกในรอบร้อยปีที่ชาวบ้านเมืองซั่วหยางร่วมแรงร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวกันเช่นนี้ บรรดาเพื่อนบ้านมองข้ามความขัดแย้ง หันมาจับมือช่วยกันคุ้มครองเมืองซั่วหยาง

องครักษ์ตระกูลไป๋ล้วนเคยเป็นทหารในกองทัพไป๋มาก่อน บัดนี้พวกเขานำทหารเมืองซั่วหยางขึ้นไปต่อต้านศัตรูบนกำแพงเมืองแล้ว

ธงสัญลักษณ์ของกองทัพไป๋ปักอยู่บนกำแพงสูงของเมืองซั่วหยาง ต่งซื่อกล่าวว่าทหารเมืองซั่วหยางที่ทำสงครามเพื่อปกป้องชาวบ้านเมืองซั่วหยางในวันนี้ล้วนเป็นทหารกล้าที่ไร้เทียมทานของกองทัพไป๋ วิญญาณของบรรพบุรุษตระกูลไป๋จะคอยปกป้องทหารทุกคนที่ทำสงครามเพื่อชาวบ้าน!

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท