ตอนที่ 870 วิญญูชน
“ยินดีน้อมรับคำชี้แนะขององค์หญิงเจิ้นกั๋วพ่ะย่ะค่ะ” หวังเหมิ่งคารวะไป๋ชิงเหยียนอีกครั้ง
ดวงตาล้ำลึกของไป๋ชิงเหยียนจ้องไปทางหวังเหมิ่งนิ่ง “ระหว่างทางที่ข้าเร่งนำทัพกลับมายังเมืองหลวง เหล่าทหารในกองทัพของข้าพบเห็นเหตุการณ์ที่คนของทางการแย่งชิงตัวเด็กเกือบทุกเมือง พวกเขาโกรธแค้นจักรพรรดิที่ปฏิบัติต่อชาวบ้านราวกับพวกเขาเป็นเพียงสัตว์ กองทัพผิงหยางก็คงพบเหตุการณ์เช่นนี้ระหว่างเดินทางมาที่นี่เช่นกัน เหล่าทหารของแม่ทัพหวังจะไม่ผิดหวังในตัวจักรพรรดิต้าจิ้นเลยหรือ กองทัพของข้าทำสงครามเพื่อปกป้องชาวบ้าน ทว่า ทหารของแม่ทัพหวังเริ่มไม่แน่ใจว่าพวกเขาควรปกป้องราชวงศ์หลินหรือไม่ ชัยชนะจึงถูกกำหนดไว้ตั้งแต่แรกแล้ว!”
หวังเหมิ่งเบิกตาโพลง เขาคิดว่าองค์หญิงเจิ้นกั๋วจะสนับสนุนรัชทายาทขึ้นครองบัลลังก์ ทว่า เมื่อฟังจากถ้อยคำของหญิงสาว…องค์หญิงเจิ้นกั๋วจะกบฏอย่างนั้นหรือ!
“องค์หญิงเจิ้นกั๋วตรัสเช่นนี้…” หวังเหมิ่งชะงักคำกล่าว องค์หญิงเจิ้นกั๋วกล่าวผิดไปอย่างนั้นหรือ
สิ่งที่กองทัพผิงหยางพบเห็นระหว่างทางแทบจะเรียกได้ว่านรกบนดิน เด็กอายุห้าถึงสิบปีของคนค้าทาสเป็นที่ต้องการตัวเป็นอย่างมาก เด็กจากหลายครอบครัวสูญหาย ทางการบางเมืองถึงขนาดสั่งให้คนของทางการไปแย่งชิงเด็กมากจากชาวบ้านอย่างโจ่งแจ้ง
หวังเหมิ่งไม่ปวดใจอย่างนั้นหรือ
“แม่ทัพหวัง ท่านจะยอมจำนนหรือพลีชีพเพื่อแคว้นก็สุดแล้วแต่ท่าน!”
เมื่อไป๋ชิงเหยียนกล่าวกับหวังเหมิ่งจบ หญิงสาวหันไปทางตู้ซานเป่า “ฝากเจ้าจัดการต่อด้วย”
“องค์หญิงเจิ้นกั๋วไม่ต้องเป็นห่วงพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะดูแลแม่ทัพหวังเหมิ่งให้ดีพ่ะย่ะค่ะ” ตู้ซานเป่ากำหมัดรับคำ สายตาเจ้าเล่ห์ราวกับลูกหมาป่ามองไปทางหวังเหมิ่งที่มองมาอย่างคาดไม่ถึง
ไป๋ชิงเหยียนขึ้นไปบนหลังม้า รับหอกเงินหงอิงที่จี้ถิงอวี๋โยนมาให้ จากนั้นตะโกนขึ้นด้วยน้ำเสียงเบิกบาน แววตาเต็มไปพลังแห่งชัยชนะ “ทหารกองหนึ่งอยู่ช่วยตู้ซานเป่าเก็บกวาดสถานที่ คนที่เหลือตามข้าบุกไปยังวังหลวง ผู้ใดทำลายประตูวังได้ก่อน…ตบรางวัลหนึ่งร้อยตำลึง”
เหล่าทหารตามไป๋ชิงเหยียนบุกไปในวังหลวงด้วยเลือดกายที่พุ่งพล่าน
เมื่อตู้ซานเป่าได้ยินไป๋ชิงเหยียนเอ่ยเรียกนามเขาออกมาจึงคลี่ยิ้มออกมาจนเห็นฟันขาว รู้สึกตื่นเต้นและตื้นตันมาก
บัดนี้จักรพรรดิต้าจิ้นที่เหลียงอ๋องประกาศออกไปว่า “สวรรคต” แล้ว อดีตรัชทายาทและองค์หญิงใหญ่กำลังนั่งเบียดกันอยู่บนรถม้าคนหนึ่งเพื่อมุ่งหน้าไปยังทิศใต้ เสียงสู้รบในเมืองหลวงดังแว่วอยู่ทางด้านหลัง
จักรพรรดิต้าจิ้นที่ถูกเชือกมัดร่างกายอย่างแน่นหนาและอุดผ้าปิดปากเอาไว้นั่งอยู่บนรถม้าที่โคลงเคลงด้วยสีหน้าเคร่งเครียดและย่ำแย่
รัชทายาทสลบไปแล้ว ขอบตาของเขายังมีคราบน้ำตาติดอยู่ มุมปากมีคราบเลือดที่แห้งกรัง
เหลียงอ๋องขบกรามแน่นพลางใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดแผลที่ถูกรัชทายาทกัดจนเป็นรูใหญ่เอาไว้
ก่อนที่เหลียงอ๋องจะหนีออกจากเมืองหลวง เขาสั่งให้ทหารไปสังหารพระชายาเอกและองค์ชายน้อยทิ้งเสีย เมื่อรัชทายาทได้ยินจึงหวาดกลัวมาก เมื่อเห็นว่าการขอร้องไม่ได้ผลจึงคิดจะตายไปพร้อมกับเหลียงอ๋อง หากไม่ใช่เพราะถูกฟ่านอวี๋ไหวตีจนสลบไป มือของเหลียงอ๋องคงใช้การไม่ได้แล้ว
องค์หญิงใหญ่ที่ชราภาพมากแล้วนั่งหลังตรง ประสานมือทั้งสองข้างไว้บนหน้าตักอยู่ในรถม้า นางรู้ดีว่าที่เหลียงอ๋องจับตัวนางออกจากเมืองหลวงมาด้วยเพราะต้องการใช้นางเป็นเครื่องข่มขู่บรรดาหลานสาวของนาง
เดิมทีตอนที่ไป๋จิ่นซิ่วบุกโจมตีเมืองหลวง เหลียงอ๋องส่งคนไปจับตัวองค์หญิงใหญ่เข้าไปในวังหลวงไม่ทัน องครักษ์ของจวนองค์หญิงเจิ้นกั๋วฝีมือเก่งกาจมาก เหลียงอ๋องไม่มีเวลาจับตัวองค์หญิงใหญ่
ทว่า วันนี้องค์หญิงใหญ่เดินออกมาจากจวนองค์หญิงเจิ้นกั๋วที่มีองครักษ์ที่ไป๋จิ่นซิ่วส่งมาคุ้มกันอย่างแน่นหนาด้วยตัวเอง นางขึ้นไปบนรถม้าของเหลียงอ๋องเพราะนางยังอยากปกป้องรัชทายาทอยู่
เหลียงอ๋องส่งคนไปบอกองค์หญิงใหญ่ว่าหากนางไม่ยอมขึ้นไปบนรถม้า เขาจะสังหารรัชทายาทและจักรพรรดิต้าจิ้นที่ทุกคนคิดว่าสวรรคตไปแล้วทันที
องค์หญิงใหญ่ไม่สนใจจักรพรรดิต้าจิ้นนานแล้ว
องค์หญิงใหญ่รู้ดีว่ารัชทายาทคือตัวประกันของเหลียงอ๋อง เขาไม่มีทางทำอันใดรัชทายาทในตอนนี้เด็ดขาด
ทว่า องค์หญิงใหญ่ไม่รู้จะเผชิญหน้ากับไป๋ชิงเหยียนหลานสาวของนางที่กำลังจะกบฏราชวงศ์หลินเช่นไร
ดังนั้นนางจึงเลือกที่จะทิ้งไป๋จิ่นเซ่อและเจี่ยงหมัวมัวไว้ที่จวน จากนั้นขึ้นไปบนรถม้าของเหลียงอ๋องเพียงคนเดียว
นางยังอยากจะทำเพื่อราชวงศ์หลินเป็นครั้งสุดท้าย หวังว่านางจะสามารถปกป้องชีวิตของรัชทายาทเอาไว้ได้ไม่ว่าจะเกิดสิ่งใดขึ้น หวังว่าเมื่อถึงตอนนั้นไป๋ชิงเหยียนจะช่วยให้รัชทายาทได้ขึ้นครองบัลลังก์หรือไม่ก็สนับสนุนให้องค์ชายน้อยได้ขึ้นครองบัลลังก์แทน ส่วนตัวเองเป็นขุนนางที่กุมอำนาจในราชสำนักเอาไว้ ไม่ใช่ขุนนางกบฏเช่นนี้
มิเช่นนั้นนางที่ปกป้องตระกูลไป๋ ลูกและหลานชายของนางไว้ไม่ได้ นางที่ปกป้องราชวงศ์หลินไว้ไม่ได้ เมื่อตายไปนางคงไม่มีหน้าไปพบไป๋เวยถิง ไม่มีหน้าไปพบเสด็จพ่อของนางแน่นอน
นางโลภมากอยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่นางต้องการ ทว่า ไม่มีทางเป็นไปได้
บัดนี้ในเมื่อนางปกป้องลูกและหลานชายของตัวเองไว้ไม่ได้แล้ว นางก็อยากทำเพื่อราชวงศ์หลินเป็นครั้งสุดท้าย
ก่อนจากมาไป๋จิ่นเซ่อและเจี่ยงหมัวมัวยืนกรานที่จะตามมาด้วย ทว่า องค์หญิงใหญ่ไม่ได้พาผู้ใดมาด้วยทั้งสิ้น
นางสละชีพเพื่อช่วยเหลือราชวงศ์หลินเป็นครั้งสุดท้ายเพราะนางคือองค์หญิงใหญ่แห่งราชวงศ์หลินของแคว้นต้าจิ้น ทว่า ไป๋จิ่นเซ่อหลานสาวที่อายุยังน้อยของนางไม่ควรตามนางไปเป็นเครื่องมือที่เหลียงอ๋องใช้ข่มขู่อาเป่า
ทว่า นางก็เข้าใจดีว่าที่นางสามารถทำเพื่อราชวงศ์ต้าจิ้นได้มากเพียงนี้เพราะว่านางคือสะใภ้ของตระกูลไป๋ คือท่านย่าขององค์หญิงเจิ้นกั๋ว
องค์หญิงใหญ่รู้ดีว่าร่างกายของนางค่อยๆ แย่ลงเรื่อยๆ หากนางเสียชีวิตในตอนที่อาเป่ากำลังโค่นล้มราชวงศ์หลินก็ถือเป็นโชคชะตาของนาง หากนางยังไม่ตาย…นางเห็นด้วยที่อาเป่าของนางจะขึ้นไปครองบัลลังก์นั้นในฐานะสตรี อาเป่าเพียบพร้อมทั้งนิสัย คุณธรรม ชาติตระกูล ความเด็ดเดี่ยวและความสามารถ!
หากอาเป่าได้ขึ้นครองราชย์ นางจะเป็นจักรพรรดินีที่ดีแน่นอน
อาเป่ามีความทระนงที่ได้รับสืบทอดมาจากบรรพบุรุษตระกูลไป๋ เป็นวิญญูชนที่มีปณิธานอันยิ่งใหญ่และมีความเมตตาต่อคนใต้หล้า ทว่า ยิ่งเป็นวิญญูชนที่ดีเท่าใดนางก็จะเป็นจักรพรรดินีที่ไม่ดีเท่านั้น
อาเป่าเคยถามนางว่าคนที่มีความกล้าหาญและคุณธรรมมากเท่าใดยิ่งไม่สามารถอยู่บนโลกนี้ได้ใช่หรือไม่ อาเป่าเคยถามนางว่าผู้ที่มีเมตตา รักความยุติธรรม มีขอบเขตความเป็นมนุษย์ยิ่งไม่อาจมีจุดจบที่ดีใช่หรือไม่
ตอนนั้นนางไม่สามารถตอบคำถามอาเป่าได้ เพราะคำว่าเมตตา กล้าหาญ คุณธรรมและความเป็นมนุษย์คือพื้นฐานของวิญญูชนและขุนนาง ทว่า หากต้องการเป็นจักรพรรดิ เป็นผู้นำแคว้นหรือผู้นำของใต้หล้าแห่งนี้จะมีความเมตตา คุณธรรมและความเป็นมนุษย์ได้อย่างไรกัน
ผู้ที่จะกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่…ส่วนลึกในใจของพวกเขาเต็มด้วยความคิดสกปรกและแผนการชั่วร้ายมากมาย พวกเขาสามารถทำได้ทุกวิถีทางเพื่อบรรลุเป้าหมาย
ในใจของบรรดาวิญญูชนอย่างเจ็ดบุรุษแห่งราชวงศ์ฉิน เหยียนหุย เฉิงจื่อมีแต่ความสะอาดบริสุทธิ์ ไม่มีสิ่งชั่วร้ายเข้ามาปนเปื้อน ทว่า องค์หญิงใหญ่เติบโตมาในราชวงศ์ นางใช้ชีวิตอยู่กับเสด็จพ่อของตัวเองมาตั้งแต่เล็กดังนั้นนางจึงรู้ดีว่าใจของจักรพรรดิไม่อาจเปรียบกับใจของวิญญูชนและขุนนางได้ จักรพรรดิมีคุณธรรมและความเมตตาต่อคนทั่วหล้า ทว่า ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ต้องทนต่อความโสมมและเลวร้ายที่สุดในใต้หล้าแห่งนี้ให้ได้ด้วย
‘จั่วจ้วน’[1] เคยบันทึกไว้ว่าภูเขาซ่อนโรคร้าย แม่น้ำซ่อนมลภาวะ หยกงามซ่อนความชั่วร้าย
ภูเขาซ่อนโรคร้ายจึงดูยิ่งใหญ่ แม่น้ำซ่อนมลภาวะจึงดูลึกล้ำ หยกงามมีตำหนิจึงกลายเป็นเอกลักษณ์
ทว่า คนตระกูลไป๋ซื่อตรงเกินไป รักความยุติธรรมและพวกพ้องเกินไป หากต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่ต้องเลือกเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง…อย่างเช่นการทอดทิ้งท่านย่าคนนี้เพื่อความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ อาเป่าคงทำไม่ได้ ทว่า คนเป็นจักรพรรดิต้องทำให้ได้!
[1]จั่วจ้วน คือ บันทึกที่กล่าวถึงเหตุการณ์ การเมือง การทูต การทหารและสภาพสังคม วัฒนธรรมต่างๆ ในยุคสมัยชุนชิวจ้านกั๋ว