ตอนที่ 879 การปกครองระบอบใหม่
เสนาบดีกรมพิธีการและโหราจารย์ปรึกษากันอยู่ครึ่งชั่วยามก็ได้ข้อสรุปว่าพิธีราชาภิเษกของไป๋ชิงเหยียนจะจัดขึ้นในวันที่ยี่สิบ เดือนหก พวกเขาส่งคนไปเชิญทูตของแต่ละแคว้นมาร่วมแสดงความยินดีในพิธีครั้งนี้
แคว้นที่ต้องแจ้งในตอนนี้มีเพียงต้าเยี่ยน ซีเหลียงและหรงตี๋เท่านั้น
เมื่อกำหนดวันจัดพิธีบรมราชาภิเษกเสร็จแล้ว ไป๋ชิงเหยียนอาศัยช่วงที่บรรดาขุนนางรับประทานอาหารเดินออกมาจากตำหนักใหญ่ หญิงสาวเรียกองครักษ์ไป๋มาสอบถามว่าไป๋จิ่นซิ่วส่งข่าวกลับมาบ้างหรือไม่ ตามเหลียงอ๋องทันและช่วยองค์หญิงใหญ่ได้แล้วหรือไม่…
องครักษ์ไป๋ส่ายหน้า ไป๋จิ่นซิ่วนำทหารมุ่งหน้าไปยังเมืองลั่วหง บัดนี้ยังไม่มีข่าวคราวใดๆ ส่งกลับมาทั้งสิ้น
ไป๋ชิงเหยียนเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นสั่งให้องครักษ์กลับไปรายงานความปลอดภัยให้ซั่วหยางทราบ
“เรียนฮูหยินทุกคนด้วยว่าพิธีราชาภิเษกของข้าจะจัดขึ้นในวันที่ยี่สิบ เดือนหก บอกพวกนางว่าไม่ต้องรีบร้อนเดินทางมาเมืองหลวง เดี๋ยวคุณชายเจ็ดไป๋ชิงเจวี๋ยจะนำทัพกลับไปซั่วหยาง ถึงเวลานั้นเขาจะนำกองทัพไป๋ไปรับฮูหยินทุกคนมายังเมืองหลวงเอง”
“คุณหนูใหญ่!” องครักษ์ไป๋เบิกตาโพลงจ้องไปทางไป๋ชิงเหยียนอย่างไม่อยากเชื่อ คุณชายเจ็ด…ยังมีชีวิตอยู่!
ไป๋ชิงเหยียนมองดูปฏิกิริยาขององครักษ์ไป๋ ขอบตาของนางร้อนผ่าว ยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย จากนั้นพยักหน้าให้ “ไปเถิด! ไปรายงานให้ฮูหยินทุกคนรับรู้ว่าคุณชายเจ็ดยังมีชีวิตอยู่!”
บัดนี้ตระกูลไป๋ไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายตลอดเวลาอีกแล้ว ไป๋ชิงเหยียนและคนตระกูลไป๋ทุกคนเอาชนะอุปสรรคเดินมาถึงจุดนี้ได้อย่างยากลำบาก นางขึ้นมายืนในจุดนี้เพราะต้องการให้น้องชายและกองทัพไป๋กลับมาเมืองหลวงได้อย่างสง่าผ่าเผย
หลิวหงและหยางอู่เช่อนำคนไปแจ้งให้ตระกูลสูงศักดิ์แต่ละตระกูลทราบว่าจักรพรรดินีคนใหม่ของแคว้นต้าโจวจะขึ้นครองราชย์ในวันที่ยี่สิบ เดือนหก
เซี่ยอวี่จั่งและฝูรั่วซีนำทัพรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยในเมืองหลวง
เมืองหลวงที่เคยเงียบเหงามาสองเดือนตอนที่เหลียงอ๋องก่อกบฏค่อยๆ กลับมาครึกครื้นอีกครั้ง
ราชวงศ์ผลัดเปลี่ยน ต้าจิ้นกลายเป็นต้าโจว
เช้าวันต่อมา ดวงอาทิตย์ค่อยๆ โผล่จากขอบฟ้า แสงสีทองปกคลุมทั่วเมืองหลวง
ชาวบ้านที่ไป๋จิ่นซิ่วส่งอพยพหนีไปจากเมืองหลวงได้ทันเวลาต่างพาครอบครัวกลับมายังเมืองหลวงอีกครั้ง
บนกำแพงเมืองหลวงมีประกาศใหญ่ติดอยู่หลายฉบับ นับจากนี้เป็นต้นไปพวกนางคือชาวบ้านแคว้นต้าโจว จักรพรรดิที่คิดใช้ชีวิตของเด็กหนึ่งพันคนปรุงยาวิเศษถูกองค์หญิงเจิ้นกั๋วโค่นล้มแล้ว
องค์หญิงเจิ้นกั๋วส่งทหารไปรับตัวเด็กในเมืองหลวงที่ถูกเหลียงอ๋องส่งตัวไปยังหอบูชาเก้าชั้นกลับมาแล้ว ชาวบ้านที่ถูกแย่งชิงเด็กไปสามารถไปรับตัวลูกหลานของตัวเองคืนได้ที่จวนว่าการจิงจ้าวอิ่น
พ่อแม่ที่เห็นประกาศนี้ต่างวิ่งไปยังจวนว่าการจิงจ้าวอิ่นทั้งน้ำตา บางคนวิ่งจนรองเท้าหลุดไปเมื่อใดก็ไม่รู้ พวกเขาอยากรีบไปพบลูกหลานของตัวเองให้เร็วที่สุด
ร้านค้าต่างๆ เริ่มเปิดกิจการขึ้นอีกครั้ง
บรรดาครอบครัวของขุนนางตระกูลสูงศักดิ์ต่างส่งคนไปสืบข่าวรอบบริเวณของวังหลวง
เมื่อวานหลิวหงและหยางอู่เช่อไปประกาศราชโองการตามจวนต่างๆ ว่าไป๋ชิงเหยียนขึ้นเป็นจักรพรรดินีแล้ว ครอบครัวของขุนนางเหล่านั้นตกใจจนแทบเป็นลม พวกนางได้แต่รอสามีของตัวเองกลับมาเพื่อสอบถามเรื่องราวที่แน่ชัดอยู่ในจวนของตัวเองอย่างสงบเสงี่ยม
ทว่า ในวังหลวงกลับส่งคนมารับชุดของสามีพวกนางไปในวัง กล่าวว่าพวกเขาต้องสะสางงานในวังหลวงที่กองเป็นภูเขาให้เสร็จเรียบร้อย
ทว่า ผ่านไปคืนหนึ่งแล้วก็ยังไม่มีผู้ใดกลับมา แต่ละตระกูลจึงเป็นกังวลมาก พวกนางกลัวว่าสามีของตัวเองจะถูกทรมานเพราะไม่เชื่อฟังคำสั่งขององค์หญิงเจิ้นกั๋ว
บัดนี้ทหารคุ้มกันวังหลวงถูกเปลี่ยนเป็นทหารต้าเหลียงที่องค์หญิงเจิ้นกั๋วพากลับมาเมืองหลวงหมดแล้ว พวกนางไม่สามารถซื้อข่าวจากพวกเขาได้
ภายในตำหนัก ไป๋ชิงเหยียนและขุนนางทุกคนไม่ได้นอนทั้งคืน พวกนางสะสางราชกิจที่กองเป็นภูเขาเสร็จไปครึ่งหนึ่งแล้ว
ขุนนางชั้นผู้น้อยเป็นคนคัดแยกฎีกาให้ไป๋ชิงเหยียนและเหล่าขุนนางใหญ่ พวกเขาแยกฎีกาที่ไม่สำคัญทั้งหมดให้ซื่อหลางของทั้งหกกรมเป็นคนจัดการ มอบฎีกาสำคัญให้เสนาบดีทั้งหกกรม หลู่เซียงและไป๋ชิงเหยียนเป็นคนจัดการ
ตลอดคืนที่ผ่านมาหลู่เซียงรู้กระจ่างแจ้งแล้ว
ไป๋ชิงเหยียนไม่ได้รู้เพียงเรื่องรบอย่างที่นางกล่าวมาแม้แต่น้อย หลู่เซียงคิดไม่ถึงเลยว่าไป๋ชิงเหยียนจะคุ้นเคยกับระบอบการปกครองของทุกแคว้นเช่นนี้ นางจัดการกับปัญหาที่แต่ละกรมส่งขึ้นมาได้อย่างเหมาะสมและเป็นระเบียบ หากมีกฎหมายใดที่ไม่ตรงกับกฎหมายของต้าจิ้น หญิงสาวจะนำมาปรึกษากับหลู่เซียงและเสนาบดีกรมต่างๆ ที่แต่งตั้งขึ้นมาใหม่ หญิงสาวยกตัวอย่างมาประกอบการพิจารณาอย่างมีเหตุผล บรรดาขุนนางอย่างหลู่เซียงนับถือหญิงสาวมากจริงๆ
ไป๋ชิงเหยียนถือโอกาสนี้เสนอกฎหมายใหม่ขึ้นมา อีกทั้งเสนอแผนการปฏิรูปที่นางเตรียมไว้แล้วออกมาปรึกษากับกลุ่มของหลู่เซียง
แผนการปฏิรูปของไป๋ชิงเหยียนผสมผสานข้อดีของกฎหมายและระบอบการปกครองใหม่ที่จีโฮ่วใช้ตอนปกครองเมืองที่เซียวหรงเหยี่ยนส่งมาให้นางอ่านรวมกับข้อดีของกฎหมายและระบอบการปกครองใหม่ของซางจวิน ประเด็นหลักคือการเน้นย้ำว่าชาวบ้านคือรากฐานของแคว้น ชาวบ้านร่ำรวยแคว้นมั่งคั่ง ชาวบ้านแข็งแกร่งทหารแข็งแกร่ง
แผนการปฏิรูปนี้เหมาะสมกับชาวบ้านแคว้นต้าโจวในตอนนี้มาก หลู่เซียงและบรรดาขุนนางคนอื่นๆ ชื่นชมและนับถือในสติปัญญาของไป๋ชิงเหยียนมาก
ไม่เพียงเท่านี้ ไป๋ชิงเหยียนเสนอให้มีการตั้งสำนักตรวจสอบขึ้นมาควบคู่ไปกับการใช้ระบบควบคุมขุนนางแบบเดิมของต้าจิ้น ทว่า หน้าที่การทำงานของสำนักตรวจสอบนี้ไม่เหมือนกับสำนักตรวจสอบในแคว้นเว่ยที่มีไว้เพื่อตรวจสอบการกระทำของขุนนาง ไป๋ชิงเหยียนต้องการสร้างสำนักตรวจสอบนี้ขึ้นเพื่อรวบรวมข่าวสารของแคว้นอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ให้ต้าโจว
หลังจากที่ต้าเยี่ยนทำลายแคว้นเว่ย ต้าจิ้นทำลายต้าเหลียง อาณาเขตของทั้งสองแคว้นกว้างมากกว่าเดิม การแข่งขันระหว่างที่ราบของสองแคว้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ…แหล่งข่าวคือสิ่งที่สำคัญมาก
หลู่เซียงและขุนนางคนอื่นๆ ต่างเห็นด้วย วิสัยทัศน์ของไป๋ชิงเหยียนกว้างไกล วิเคราะห์ทุกอย่างได้อย่างลึกซึ้ง คิดวางแผนเพื่อการข้างหน้า พวกเขานับถือมากจริงๆ
ไป๋ชิงเหยียนมอบหมายเรื่องสำนักตรวจสอบให้เสนาบดีกรมทหารเสิ่นจิ้งจงเป็นคนดูแล ให้เขาดูแลสำนักตรวจสอบควบคู่ไปกับกรมทหารด้วย
บัดนี้ข่าวที่ไป๋ชิงเหยียนและไป๋จิ่นซิ่วยึดเมืองหลวงได้แล้วถูกส่งไปยังตระกูลไป๋ที่ซั่วหยางเรียบร้อย องครักษ์ไป๋ที่ติดตามอยู่ข้างกายของไป๋ชิงเหยียนตลอดเล่าเหตุการณ์กบฏที่เกิดขึ้นในเมืองหลวงและความกล้าหาญของคุณหนูใหญ่และคุณหนูรองให้ฮูหยินไป๋ทุกคนฟังอย่างละเอียด
ฮูหยินไป๋ คุณหนูห้าและคุณหนูหกต่างถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ต่งซื่อเอ่ยถามองครักษ์ไป๋ที่มารายงานข่าวต่อ “ในเมื่อ ในเมื่อเหลียงอ๋องหนีไปได้แล้ว บัดนี้ในเมืองหลวงขาดผู้นำ เจ้ารู้หรือไม่ว่าคุณหนูใหญ่และคุณหนูรองสนับสนุนผู้ใดขึ้นเป็นจักรพรรดิ”
ต่งซื่อพอมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว ครั้งนี้เหลียงอ๋องปลงพระชนม์จักรพรรดิ องค์รัชทายาททำตัวขายหน้าต่อหน้าขุนนางทุกคน หากอาเป่าคิดอยากครองบัลลังก์จริงๆ นี่คือโอกาสที่ดีที่สุดที่นางจะคว้าบัลลังก์นั่นมาครอง
สิ้นเสียงของต่งซื่อ ด้านนอกมีองครักษ์ไป๋ที่นำข่าวจากเมืองหลวงมารายงานกลับมาอีกคน
“รีบเชิญเข้ามา!” ต่งซื่อกำถ้วยชาในมือแน่น
ไม่นานองครักษ์ไป๋อีกคนก็เดินเข้ามาด้านใน เขาคุกเข่าข้างหนึ่งทำความเคารพฮูหยินทุกคน จากนั้นกล่าวขึ้น “คุณหนูใหญ่ให้ข้ามาเรียนฮูหยินทุกท่านว่าพิธีบรมราชาภิเษกของคุณหนูใหญ่จะมีขึ้นในวันที่ยี่สิบ เดือนหกขอรับ”
ราชาภิเษก!
ฮูหยินทุกคนนอกจากต่งซื่อที่นั่งอยู่ในโถงรับรองของจวนไป๋ต่างมีสีหน้าตกตะลึง
“พี่สะใภ้ใหญ่!” ฮูหยินห้าฉีซื่อเบิกตาโพลงมองไปทางต่งซื่อ “นี่มัน…”
ฮูหยินห้าฉีซื่อยังไม่ทันกล่าวจบ องครักษ์ที่มารายงานข่าวก็กล่าวขึ้นต่อ “คุณหนูใหญ่กำชับมาว่าฮูหยินทุกท่านไม่จำเป็นต้องรีบร้อนเดินทางไปยังเมืองหลวงขอรับ เดี๋ยวคุณชายเจ็ดจะนำกองทัพไป๋ที่หนานเจียงกลับมายังซั่วหยาง ถึงเวลานั้นคุณชายเจ็ดจะมาคุ้มกันฮูหยินทุกท่านกลับไปเมืองหลวงด้วยตัวเองขอรับ!”