สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 898 นับถือ

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 898 นับถือ

“ข้าไปกับพี่หญิงใหญ่ด้วยเจ้าค่ะ!” ไป๋จิ่นซิ่วกล่าว

บัดนี้ท่านย่ายืนอยู่คนละฝั่งกับพี่หญิงใหญ่ ไป๋จิ่นซิ่วไม่อาจปล่อยให้พี่หญิงใหญ่ไปเสี่ยงอันตรายคนเดียวได้

“กระหม่อมจะไปกับฝ่าบาทด้วยพ่ะย่ะค่ะ!” หลินคังเล่อกล่าว

หลินคังเล่อรู้ข่าวว่าจักรพรรดิต้าจิ้นสารเลวผู้นั้นคิดจะรวบรวมเด็กจำนวนหนึ่งพันคนส่งไปยังหอบูชาเก้าชั้นอีก ผู้ที่รับผิดชอบในครั้งนี้คืออดีตรัชทายาท หากไม่ใช่เพราะท่านย่าของไป๋ชิงเหยียนยังอยู่ในเมืองนั้น หลินคังเล่อแทบอยากจะบุกเข้าไปสังหารจักรพรรดิต้าจิ้นและรัชทายาทเสียตอนนี้เลย!

ไป๋ชิงเหยียนส่ายหน้าช้าๆ “คืนนี้…หลังจากข้าเข้าไปในเมืองได้ครึ่งชั่วยาม พวกเจ้าค่อยยกทัพบุกไปในเมือง พวกเจ้าจงโจมตีโดยไม่ต้องสนใจข้าแม้แต่น้อย”

หลินคังเล่อตกตะลึง เขามองไปทางไป๋จิ่นซิ่วแวบหนึ่ง จากนั้นกล่าวอย่างเป็นห่วง “ทว่า ฝ่าบาทยังอยู่ในเมือง หากจักรพรรดิต้าจิ้นผู้นั้นจวนตัวขึ้นมา ฝ่าบาทอาจตกอยู่ในอันตราย…”

“มิเป็นอันใด ข้ากล้าสั่งให้พวกเจ้าบุกโจมตีเมืองแสดงว่าข้ามั่นใจว่าจะเอาตัวรอดได้ ต้าโจวเพิ่งเริ่มต้น ราชสำนักยังไม่มั่นคง หากข้าเป็นอันใดขึ้นมา แคว้นต้องเกิดความวุ่นวายขึ้นแน่ ข้าไม่มีทางปล่อยให้ตัวเองเป็นอันใดไปหรอก” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวจบก็นึกถึงฉินซ่างจื้อขึ้นมา หญิงสาวจึงเอ่ยต่อ “แม่ทัพหลินช่วยไปนัดฉินเซียนเซิงที่เมืองลั่วหงให้ข้าที บอกเขาว่าข้าอยากพบเขาที่นอกเมืองลั่วหง หวังว่าเขาจะยอมออกมาพบข้า”

“พ่ะย่ะค่ะ!” หลินคังเล่อกำหมัดรับคำ จากนั้นเดินออกไปจากกระโจมใหญ่

“พี่หญิงใหญ่ข้าจะไปจัดทัพให้เจ้าค่ะ เมื่อคนต้าจิ้นเหล่านั้นเห็นทหารยอดฝีมือของแคว้นต้าโจวติดตามพี่หญิงใหญ่ไปด้วย พวกเขาคงไม่กล้าบุ่มบ่ามลงมือทำสิ่งใดแน่เจ้าค่ะ” ไป๋จิ่นซิ่วกล่าว

“ยังไม่ต้องรีบร้อน ยังไม่รู้ว่าฉินเซียนเซิงจะออกมาพบพี่ได้หรือไม่…” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวจบก็หันไปกล่าวกับไป๋จิ่นซิ่วต่อยิ้มๆ “เจ้าต้องแยกจากวั่งเกอนานถึงเพียงนี้ ช่วงนี้ลำบากเจ้าแล้ว”

“พี่หญิงใหญ่กล่าวอันใดเช่นนี้เจ้าคะ” ไป๋จิ่นซิ่วขมวดคิ้วแน่น “เทียบกับความลำบากของพี่หญิงใหญ่แล้ว จิ่นซิ่วแค่ช่วยเหลือเพียงเล็กน้อยเท่านั้น อีกอย่าง…”

ไป๋จิ่นซิ่วก้มมองชุดเกราะบนร่างกายของตัวเอง จากนั้นเงยหน้ามองไป๋ชิงเหยียนแล้วกล่าวยิ้มๆ “เดิมทีข้าคิดว่าหลังจากแต่งงานออกเรือนไปแล้วข้าคงไม่มีโอกาสได้สวมชุดเกราะนี้อีก นึกไม่ถึงเลยว่าจะมีโอกาสได้สวมมันออกรบอีกเพื่อชาวบ้านครั้ง จิ่นซิ่วดีใจมากเจ้าค่ะ! หากได้สวมมันร่วมรบกับพี่น้องตระกูลไป๋อีกครั้ง จิ่นซิ่วจะยิ่งดีใจกว่านี้อีกเจ้าค่ะ”

ดวงตาของไป๋ชิงเหยียนแดงก่ำ นางเป็นกังวลเหมือนไป๋จิ่นซิ่ว…ไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วคุณชายตระกูลไป๋จะรอดชีวิตกลับมาได้กี่คน

นางหวังว่าคุณชายตระกูลไป๋ทุกคนจะมีปาฏิหาริย์รอดชีวิตกลับมาเช่นเดียวกับอาอวี๋ อาเจวี๋ย และอาอวิ๋น

ภายในเมืองลั่วหงตึงเครียดเพราะไป๋ชิงเหยียนนำทัพใหญ่บุกมา

บัดนี้ฉินซ่างจื้อได้รับความไว้วางใจจากจักรพรรดิต้าจิ้นและรัชทายาทให้เป็นคนคุ้มกันเมืองลั่วหง

ฉินซ่างจื้อเคยไปออกรบกับไป๋ชิงเหยียนที่สงครามหนานเจียง เขารู้ดีว่าไป๋ชิงเหยียนเป็นคนวางแผนไม่เคยพลาด คือศัตรูที่ร้ายกาจในสงคราม

ยิ่งไปกว่านั้นความดุดันและห้าวหาญในการต่อสู้ของกองทัพไป๋เป็นสิ่งที่หาได้ยากมากในกองทัพอื่น

ตอนนั้นไป๋ชิงเหยียนนำกองทัพจิ้นรบจนซีเหลียงพ่ายแพ้อย่างราบคาบ สงครามที่ต้าเหลียง…หญิงสาวใช้กองทัพจิ้นและกองทัพยอมจำนนของต้าเหลียงยึดครองต้าเหลียงได้ทั้งแคว้น หากตอนนั้นไป๋ชิงเหยียนใช้กองทัพไป๋ ฉินซ่างจื้อไม่อยากคิดเลยว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นไร

ฉินซ่างจื้อคือที่ปรึกษา คือขุนนางปกครองมากความสามารถของแคว้น ทว่า หากกล่าวเรื่องการทำสงคราม เขาจะต้านทานองค์หญิงเจิ้นกั๋วที่เกิดจากตระกูลนักรบที่มีชื่อเสียงโด่งดังนับร้อยปีได้เช่นไร

ฉินซ่างจื้อกำขอบโต๊ะทั้งสองข้างปรึกษาเรื่องการทำศึกกับแม่ทัพคนอื่นๆ อย่างตั้งใจ ขณะเดียวกันเขาก็เริ่มคิดหาทางหนีเผื่อให้จักรพรรดิต้าจิ้นและรัชทายาทแล้ว

“รายงาน…”

ฉินซ่างจื้อที่กำลังวางแผนป้องกันเมืองใหม่อยู่กับแม่ทัพคนอื่นๆ หน้าแผนที่เมืองลั่วหงเงยหน้าขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียง ทหารคนหนึ่งเดินเข้ามาด้านในอย่างรีบร้อน จากนั้นคุกเข่าข้างหนึ่งลงบนพื้นพลางรายงานแม่ทัพทุกคนที่อยู่ด้านใน “เรียนใต้เท้าฉิน แม่ทัพฝ่ายศัตรูหลินคังเล่อตะโกนอยู่นอกเมืองว่าองค์หญิงเจิ้นกั๋วต้องการพบใต้เท้าฉินขอรับ”

ฉินซ่างจื้อตะลึง เมื่อเห็นแม่ทัพทุกคนมองมาทางเขา ฉินซ่างจื้อจึงค่อยๆ ลุกขึ้นยืน ลำคอของเขาร้อนผ่าวขึ้นเล็กน้อย

นอกเมืองลั่วหง

ทหารในชุดเกราะของต้าโจวยืนจัดแถวเป็นระเบียบท่ามกลางแสงแดดที่แผดเผา พลทหารม้าเหล็กยืนอยู่ด้านหน้าสุดของขบวน มองไกลๆ ดูเหมือนคลื่นสีดำขนาดใหญ่ เกราะเหล็กที่หน้าอกสะท้อนแสงเยือกเย็นดูน่าสะพรึงกลัว พวกเขายืนนิ่งอยู่ใต้ธงเฮยฟานไป๋หมั่งที่โบกสะบัดไปมาตามแรงลมราวกับสัตว์ร้ายที่กำลังรอเขมือบเหยื่อของตัวเองอยู่ตลอดเวลา

รัศมีความดุดันของทหารต้าโจวทำให้ทหารที่ยืนอยู่บนกำแพงเมืองลั่วหงเสียขวัญไปตามๆ กัน นอกจากทหารที่ถูกเกณฑ์มาซ่อมแซมเขื่อนกว่าเหอแล้ว ผู้ที่คุ้มกันเมืองในตอนนี้เป็นเพียงคนที่ถูกเกณฑ์มาช่วยซ่อมแซมเขื่อนชั่วคราวและนักโทษที่ถูกขังอยู่ในคุกเท่านั้น เมื่อเห็นกองทัพของต้าโจวที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี พวกเขาจะไม่หวาดกลัวได้อย่างไรกัน

ทั้งๆ ที่แสงอาทิตย์กำลังแผดผ้า ทั้งๆ ที่เมื่อครู่อากาศกำลังร้อนระอุ ทว่า บัดนี้ทหารที่คุ้มกันเมืองลั่วหงกลับรู้สึกหนาวเหน็บไปทั้งร่าง ความกลัวคืบคลานเข้ามาในใจอย่างควบคุมไม่ได้

ไป๋ชิงเหยียนขี่ม้าศึกสีขาวเข้าไปใกล้เมืองลั่วหงขึ้นเรื่อยๆ

ทหารที่ยืนอยู่บนกำแพงเมืองลั่วหงตะโกนขึ้น “พลธนูเตรียมพร้อม!”

พลธนูที่ยืนอยู่บนกำแพงเมืองได้สติ จากนั้นรีบเล็งธนูไปยังร่างของไป๋ชิงเหยียน…

ไม่รู้ว่าบรรดาทหารต้าโจวที่ยืนอยู่ใต้ธงเฮยฟานไป๋หมั่งได้รับคำสั่งใด จู่ๆ พวกเขาก็ตะโกนลั่นขึ้นมาพร้อมกัน พลทหารเกราะเดินขึ้นไปด้านหน้าอย่างพร้อมเพรียง เมื่อไป๋จิ่นซิ่วออกคำสางอีกครั้ง รถยิงธนูที่อยู่ด้านหลังพลทหารเกราะถูกเข็นออกมาหยุดอยู่ด้านหลังพลทหารโล่อย่างพร้อมเพรียง

เมื่อทหารต้าจิ้นที่ยืนอยู่บนกำแพงเมืองเห็นเหตุการณ์ก็นี้ต่างหวาดกลัวขึ้นมาทันที

จักรพรรดินีแห่งต้าโจวไม่ได้ต้องการเพียงแค่พบหน้าฉินซ่างจื้อแล้ว ทหารต้าโจวกำลังข่มขวัญทหารต้าจิ้นอย่างพวกเขาต่างหาก

หลินคังเล่อติดตามอยู่ข้างกายไป๋ชิงเหยียน เขาเห็นประตูเก่าและหนักของเมืองลั่วหงค่อยๆ เปิดออก ฉินซ่างจื้อในชุดเกราะพร้อมด้วยทหารต้าจิ้นอีกสองคนค่อยๆ ขี่ม้าออกมาจากเมืองลั่วหง

ไป๋ชิงเหยียนเห็นดังนั้นจึงลงจากหลังม้า

ฉินซ่างจื้อมองเห็นไป๋ชิงเหยียนที่ลงจากหลังม้าแล้วยืนรอเขาอยู่ตรงนั้นมาแต่ไกล เขาเร่งม้าให้เร็วขึ้นอีกนิด เมื่อห่างจากไป๋ชิงเหยียนไม่ถึงสิบจั้ง[1]จึงหยุดม้าลง

“ฉินเซียนเซิง สบายดีหรือไม่…” ไป๋ชิงเหยียนก้มศีรษะทักทายฉินซ่างจื้อยิ้มๆ

ฉินซ่างจื้อลงจากหลังม้า จากนั้นโค้งกายทำความเคารพไป๋ชิงเหยียน “คารวะองค์หญิงเจิ้นกั๋วพ่ะย่ะค่ะ”

เมื่อได้พบหน้าไป๋ชิงเหยียนอีกครั้ง ฉินซ่างจื้ออดรู้สึกทึ่งในตัวหญิงสาวไม่ได้ ฉินซ่างจื้อจำได้ว่าตอนที่เขาพบไป๋ชิงเหยียนครั้งแรก ตระกูลไป๋กำลังตกอยู่ในอันตราย ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยขอให้เขาช่วยแนะนำ ทว่า บัดนี้หญิงสาวทำลายต้าเหลียงและกำลังจะได้ขึ้นเป็นจักรพรรดินีแห่งต้าโจวแล้ว

ระยะเวลาสั้นๆ เพียงแค่สามปี หญิงสาวต้องมีสติปัญญา จิตวิญญาณและความสามารถที่โดดเด่นมากเพียงใดกันถึงได้พาตระกูลไป๋มาจนถึงจุดนี้ได้กันนะ

“ฉินเซียนเซิงไม่ต้องมากพิธี” ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางแม่ทัพสองคนที่อยู่ทางด้านหลังฉินซ่างจื้อแวบหนึ่ง “นึกไม่ถึงเลยว่าฉินเซียนเซิงจะสามารถนำทัพต่อต้านศัตรูได้เช่นนี้”

“กระหม่อมเทียบองค์หญิงเจิ้นกั๋วไม่ได้สักนิดพ่ะย่ะค่ะ” ฉินซ่างจื้อไม่ได้ถ่อมตัวเมื่ออยู่ต่อหน้าไป๋ชิงเหยียนแม้แต่น้อย ฉินซ่างจื้อชื่นชมและนับถือไป๋ชิงเหยียนมากจริงๆ

[1]จั้ง หน่วยวัดของจีน 1 จั้งประมาณ 2.5 เมตร

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท