ตอนที่ 938 สงบอย่างแท้จริง
ภายในคุกที่มืดอับ ยิ่งเดินเข้าไปด้านในยิ่งห่างไกลแสงไฟออกไปทุกที สองไฟจากคบเพลิงสองข้างทางริบหรี่ลงเรื่อยๆ ภายในคุกเต็มไปด้วยกลิ่นเชื้อราและกลิ่นไม่พึงประสงค์ บางครั้งก็มีเสียงลมดังสะท้อนขึ้นกลางคุก
ฉินซ่างจื้อนั่งอ่านตำราอยู่ใต้แสงไฟ อดีตรัชทายาทนั่งมองเปลวเทียนนิ่ง จากนั้นเงยหน้ามองดูแสงจันทร์ที่ส่องเข้ามาผ่านรูหน้าต่างเล็กเหนือศีรษะสูง เขาเป็นห่วงอนาคตของตัวเองเป็นอย่างมาก
ไม่นานเขาก็ได้ยินเสียงคนด้านนอกเอ่ยเรียก “ฝ่าบาท” ดังขึ้นเป็นระยะๆ เสียงดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ อดีตรัชทายาทผุดลุกขึ้นยืนอย่างตกใจพลางมองไปทางฉินซ่างจื้อ “ไป๋ชิงเหยียนมาใช่หรือไม่!”
ฉินซ่างจื้อพยักหน้า จากนั้นกล่าวกับอดีตรัชทายาท “องค์ชายไม่ต้องกังวลพ่ะย่ะค่ะ ทรงทำตัวนิ่งๆ เข้าไว้พ่ะย่ะค่ะ”
อดีตรัชทายาทกำหมัดที่แนบอยู่ข้างลำตัวแน่น เขายอมลดศักดิ์ศรีขอร้องอ้อนวอนเหลียงอ๋องเพื่อให้ตนเองมีชีวิตอยู่ต่อไป! ขอเพียงไป๋ชิงเหยียนยอมไว้ชีวิตเขา เขายินดีก้มศีรษะคำนับแนบเท้าหญิงสาว
ฉินซ่างจื้อยืนอยู่ข้างกายอดีตรัชทายาท เขารู้จักนิสัยของไป๋ชิงเหยียนดี ในเมื่ออดีตรัชทายาทยอมจำนนแล้ว ไป๋ชิงเหยียนไม่มีทางสังหารอดีตรัชทายาทแน่นอน
กองกำลังรักษาพระองค์ในชุดเกราะเดินชูคบเพลิงมาหยุดอยู่หน้าประตูกรงขังของอดีตรัชทายาทและฉินซ่างจื้ออย่างพร้อมเพรียง แสงไฟจากคบเพลิงสว่างจนอดีตรัชทายาทถอยหลังหนีด้วยความแสบตา
อดีตรัชทายาทเห็นเซี่ยอวี่จั่งและฝูรั่วซีเป็นคนแรก เขารู้สึกหน้าร้อนฉ่าไปหมด
ตอนนั้นเขายอมทิ้งศักดิ์ศรีของตัวเองเพื่อการมีชีวิตรอด เขาก้มศีรษะแนบพื้นขอร้องเหลียงอ๋องต่อหน้าบรรดาขุนนางที่ยอมตายเพื่อเขา ตอนนั้นเซี่ยอวี่จั่งและฝูรั่วซีก็อยู่ที่นั่นด้วย…
อดีตรัชทายาทรู้สึกเหมือนตัวเองย้อนกลับไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นอีกครั้ง เขาอายจนแทบอยากแทรกแผ่นดินหนี เขารีบหลบสายตาหนีเพราะกลัวว่าจะเห็นแววตาดูถูกจากเซี่ยอวี่จั่งและฝูรั่วซี หากเหล่าขุนนางที่เคยอยู่แทบเท้าเขามองเขาด้วยสีหน้าดูถูกอยู่ในตำแหน่งที่เหนือกว่าเขา เขาคงรับไม่ได้จริงๆ
ฉินซ่างจื้อกำหมัดที่แนบข้างลำตัวแน่นเช่นเดียวกัน เขามองเห็นไป๋ชิงเหยียนที่สวมเสื้อคลุมกันลมสีดำค่อยๆ เดินมาหยุดอยู่หน้ากรงขัง จากนั้นมองเข้ามาในกรงขังด้วยสีหน้าเรียบเฉยและเย็นชา
ใบหูของอดีตรัชทายาทร้อนผ่าว เขาโค้งกายทำความเคารพไป๋ชิงเหยียน จากนั้นขยับปากราวกับจะกล่าวสิ่งใดออกมา ทว่า สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้กล่าวออกไป
คงเป็นเพราะอดีตรัชทายาทรู้ดีว่าไป๋ชิงเหยียนไม่เหมือนกับเหลียงอ๋อง หญิงสาวไม่ใช่คนถ่อยเช่นเดียวกับเหลียงอ๋อง ต่อให้เขาไม่คุกเข่าอ้อนวอนหญิงสาวราวกับหมาจนตรอก ทว่า ขอเพียงเขาไม่คิดต่อต้านหญิงสาวอีก ไป๋ชิงเหยียนไม่มีทางสังหารเขาแน่นอน
อดีตรัชทายาทหลับตาลงอย่างรู้สึกอัปยศ ไป๋ชิงเหยียน…คนที่เคยเป็นลูกน้องของเขายืนอยู่ที่นอกกรงขัง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่อดีตรัชทายาทโค้งกายคำนับไป๋ชิงเหยียน ทว่า ครั้งนี้เขาทำในฐานะนักโทษ ฐานะของพวกเขาสลับกัน เขาอยู่ต่ำกว่าไป๋ชิงเหยียน เขาไม่สามารถรู้สึกสงบได้อย่างแท้จริง
เซี่ยอวี่จั่งยืนอยู่ทางฝั่งขวาของไป๋ชิงเหยียน มือซ้ายของเขากำดาบที่เอวแน่น เขาเหลือบเห็นลูกน้องที่ยืนอยู่อีกฝั่งมีสีหน้าร้อนใจราวกับมีเรื่องด่วนต้องการรายงานจึงรีบหันไปมอง เขาไปมองไป๋ชิงเหยียนแวบหนึ่งเพื่อสื่อให้ฝูรั่วซีปกป้องไป๋ชิงเหยียนให้ดี จากนั้นจึงเดินไปหาลูกน้องคนนั้น
“มีเรื่องอันใด” เซี่ยอวี่จั่งรีบเดินไปหยุดอยู่หน้าลูกน้องผู้นั้น จากนั้นเอ่ยถามเสียงเบา
“ท่านแม่ทัพ อ๋องทั้งห้าเมืองเริ่มเคลื่อนไหวแล้วขอรับ…”
เซี่ยอวี่จั่งเงยหน้าขึ้นทันทีที่ได้ยินรายงาน เขารีบกระชากร่างของลูกน้องไปยังจุดที่ไฟส่องไม่ถึง จากนั้นมองสำรวจซ้ายขวา เมื่อเห็นว่าไม่มีผู้ใดจึงกล่าวขึ้น “ว่ามา…”
“ข้าสั่งให้ลูกน้องของเราจำนวนหนึ่งแสร้งทำเป็นไม่พอใจที่สตรีขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดินีให้ผู้อื่นเห็นตามคำสั่งของท่านแม่ทัพแล้วขอรับ คนของไป๋สุ่ยอ๋องมาตีสนิทกับคนเหล่านั้นอย่างที่คาดไว้จริงๆ ขอรับ ข้าสั่งให้พวกเขารับมืออย่างระมัดระวัง เมื่อครู่ไป๋สุ่ยอ๋องส่งของขวัญล้ำค่าไปให้บรรดานายร้อยของกองกำลังรักษาพระองค์ที่มีหน้าที่คุ้มกันความปลอดภัยในงานพิธีบรมราชาภิเษกของฝ่าบาทเป็นจำนวนมาก เขาต้องการแทรกคนของไป๋สุ่ยอ๋องเข้าไปงานพิธีเพื่อสังหารฝ่าบาทในวันพิธีขอรับ!”
สีหน้าของเซี่ยอวี่จั่งเคร่งขรึมลงทันที “ต้องการลอบปลงพระชนม์ฝ่าบาทอย่างนั้นหรือ”
แม่ทัพกองกำลังรักษาพระองค์พยักหน้า “ได้ยินมาว่าคนที่ถูกแทรกเข้าไปล้วนเป็นยอดฝีมือ เมื่อฝ่าบาทเสด็จเข้าไปในตำหนักใหญ่ พวกเขาจะลงมือทันทีขอรับ! ไป๋สุ่ยอ๋องให้สัญญาบรรดาสหายของพวกเราว่าจะมอบตำแหน่งสำคัญในราชสำนักให้ เขายังบอกอีกว่าเขาคือสายเลือดของจักรพรรดิเกาจู่ คือสายเลือดที่ถูกต้องโดยชอบธรรม หากเขาขึ้นครองราชย์ได้สำเร็จ ทหารที่จงรักภักดีเหล่านั้นจะได้เลื่อนขั้นเป็นแม่ทัพทั้งหมดขอรับ”
เซี่ยอวี่จั่งกำดาบแน่นอีกครั้ง เขาลูบไปที่ดาบของตัวเองพลางกล่าวเสียงเบา “สืบรู้หรือไม่ว่าพรุ่งนี้คนของไป๋สุ่ยอ๋องจะลงมือเช่นไร”
“ไป๋สุ่ยอ๋องไม่ได้บอกรายละเอียดขอรับ ทว่า สหายของพวกเราบอกว่าพรุ่งนี้ไป๋สุ่ยอ๋องจะอ้างว่าป่วยเพื่อไม่ไปร่วมงานพิธี เขาเตรียมชุดพิธีและมงกุฎที่จะใช้ขึ้นครองราชย์ไว้หมดแล้ว เมื่อฝ่าบาทสวรรคต เขาจะปรากฏตัวในงานพิธีในชุดราชพิธีทันทีขอรับ” แม่ทัพกองกำลังรักษาพระองค์กล่าวเสียงเบา “จะไปจับกุมตัวไป๋สุ่ยอ๋องไว้ก่อนหรือไม่ขอรับ”
เซี่ยอวี่จั่งครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นส่ายหน้า “ต้องรอถามความเห็นจากฝ่าบาทก่อน เจ้าออกไปรอคำสั่งก่อน อย่าให้คนของไป๋สุ่ยอ๋องจับพิรุธได้เด็ดขาด!”
“ขอรับ!” แม่ทัพกองกำลังรักษาพระองค์กำหมัดรับคำแล้วจากไปทันที
ภายในห้องขัง ฉินซ่างจื้อที่สวมชุดยาวสีเทาสะอาดสะบัดชายชุดของตัวเองพลางคุกเข่าก้มศีรษะคำนับไป๋ชิงเหยียน “คารวะจักรพรรดินีแห่งต้าโจวพ่ะย่ะค่ะ”
“ฉินเซียนเซิง ท่านเป็นคนรับผิดชอบเรื่องการซ่อมแซมเขื่อนกว่างเหอมาโดยตลอด วันนี้ข้าตั้งใจมาถามเจ้าว่าเจ้ายินดีรับผิดชอบมันต่อจนถึงที่สุดหรือไม่” แววตาของไป๋ชิงเหยียนคมชัด น้ำเสียงนิ่งขรึม
นิ้วมือของฉินซ่างจื้อสั่นเล็กน้อย เขาเงยหน้ามองไปทางไป๋ชิงเหยียน แสงไฟจากคบเพลิงส่องกระทบใบหน้างดงามของไป๋ชิงเหยียน แววตาคู่นั้นของหญิงสาวล้ำลึกจนมองไม่เห็นว่าหญิงสาวกำลังคิดสิ่งใดอยู่
ฉินซ่างจื้อเป็นคนเสนอเรื่องการซ่อมแซมเขื่อนกว่างเหอขึ้นมา เขาเป็นผู้รับผิดชอบหลัก เขาย่อมอยากทำมันจนเสร็จอยู่แล้ว ทว่า เมื่อนึกถึงอดีตรัชทายาท ฉินซ่างจื้อจึงเกิดความลังเลขึ้นมา
“ท่านคิดทบทวนดูให้ดี หากท่านไม่อยากทำมันต่อจนจบจริงๆ ข้าจะหาทางเชิญทายาทของซือหม่าเซิ่งเซียนเซิงที่มีความรู้เรื่องน้ำเป็นอย่างดีมาจากซีเหลียงเพื่อรับช่วงต่อเรื่องนี้ ท่านไม่จำเป็นต้องฝืนใจทำมันต่อเพื่อชาวบ้าน…” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวจบจึงมองไปทางอดีตรัชทายาท “รัชทายาท…”
อดีตรัชทายาทได้ยินไป๋ชิงเหยียนเอ่ยเรียกเขาจึงคุกเข่าลงบนพื้น “ฝ่าบาททรงเรียกกระหม่อมว่า…ฉีอ๋องเถิดพ่ะย่ะค่ะ! ในเมื่อกระหม่อมยอมจำนนต่อต้าโจวแล้ว กระหม่อมก็ไม่ใช่องค์รัชทายาทอีกต่อไป ฝ่าบาทได้โปรดเห็นแก่ที่กระหม่อมไม่มีความทะเยอยานที่ยิ่งใหญ่ ไม่อาจเป็นพิษเป็นภัยต่อต้าโจวได้อีกให้กระหม่อมได้เป็นฉีอ๋องต่อไปเฉกเช่นเดียวกับองค์ชายสามแห่งต้าเหลียงเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”
เซี่ยอวี่จั่งและฝูรั่วซีเห็นธาตุแท้ของอดีตรัชทายาทต้าจิ้นองค์นี้นานแล้ว เขายอมลดศักดิ์ศรีขอร้องเหลียงอ๋องถึงเพียงนั้น บัดนี้อดีตรัชทายาทองค์นี้ยังควบคุมสตีไม่ให้หวาดกลัวจนตัวสั่นได้ พวกเขาก็รู้สึกประหลาดใจมากแล้ว
ในเมื่ออดีตรัชทายาทไม่ต้องการให้นางกล่าวให้มากความ ไป๋ชิงเหยียนจึงพยักหน้า “ในเมื่อเจ้าคิดเช่นนั้น เราจะให้คนส่งเจ้าและครอบครัวไปยังเมืองที่อุดมสมบูรณ์ในต้าเหลียง ราชสำนักจะดูแลเจ้าไปตลอดชีวิต ทว่า เจ้าห้ามบอกตัวตนที่แท้จริงของเจ้าให้องค์ชายน้อยของต้าจิ้นทราบเด็ดขาด มิเช่นนั้นเด็กคนนั้นอาจเดือดร้อนได้!”
อดีตรัชทายาทได้ยินประโยคนี้จึงเงยหน้าขึ้นมองไปทางไป๋ชิงเหยียนทันที แสดงว่าโอรสของเขายังมีชีวิตอยู่อย่างนั้นหรือ!
อดีตรัชทายาทแสบตาจากแสงจากคบเพลิงจนขอบตาร้อนผ่าว เขาคิดว่าตัวเองกำลังฝันไป