สตรีแกร่งตระกูลไป๋ – ตอนที่ 1002 คิดเช่นเดียวกัน

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 1002 คิดเช่นเดียวกัน

หลี่จือเจี๋ยเงยหน้าขึ้น จากนั้นกล่าวอย่างไม่รีบร้อน “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ กระหม่อมจะรอให้ทูตของต้าโจวเดินทางกลับมาจากซีเหลียงก่อนแล้วค่อยมาทูลลาฝ่าบาทอีกครั้งพ่ะย่ะค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้ายิ้มๆ “ได้…”

ชุนเถามองแผ่นหลังของหลี่จือเจี๋ยเดินจากไปพลางถูฝ่ามือของตัวเองเข้าหากันไม่หยุด เห็นได้ชัดว่าหญิงสาวร้อนใจมาก

เมื่อหลี่จือเจี๋ยก้าวเท้าออกไปจากตำหนักและหายลับไปจากสายตา ไป๋ชิงเหยียนจึงถามขึ้น “เป็นอันใดไป”

ชุนเถารีบกล่าวกับไป๋ชิงเหยียน “คุณหนูใหญ่ เซียวเซียนเซิงมาขอพบคุณหนูใหญ่เจ้าค่ะ”

ในสายตาของชุนเถาแม้เซียวหรงเหยี่ยนจะเคยยื่นมือช่วยเหลือตอนตระกูลไป๋ตกที่นั่งลำบากหลายครั้ง ทว่า ชายหนุ่มล้ำเส้นเกินไป เขาคืออันธพาลที่เคยบุกรุกเข้าไปในห้องนอนของคุณหนูใหญ่

ทว่า ชุนเถารู้สึกเหมือนจะได้ยินข่าวว่าคุณหนูใหญ่หมั้นหมายกับเซียวหรงเหยี่ยนแล้ว ไม่รู้ว่านี่คือเรื่องจริงหรือไม่ ช่วงนี้นางมัวแต่เรียนรู้กฎเกณฑ์ในวังหลวงจึงไม่มีเวลาถามคุณหนูใหญ่ให้ชัดเจน

ชุนเถารู้สึกร้อนใจ บัดนี้คุณหนูใหญ่ขึ้นครองราชย์เป็นจักรพรรดินีแล้ว หากคุณหนูใหญ่มีใจให้เซียวหรงเหยี่ยนจริงๆ พวกเขาควรรีบแต่งงานกันจะได้ไม่ตกเป็นที่ครหาของผู้อื่น

ไป๋ชิงเหยียนลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นพยักหน้า หญิงสาวนั่งหยัดกายตรงพลางจัดแขนเสื้อของตัวเองให้เรียบร้อย “เชิญเซียวเซียนเซิงเข้ามาได้”

ชุนเถาเชิญเซียวหรงเหยี่ยนเข้ามาในตำหนัก ขณะที่ชุนเถากำลังจะเดินตามหลังเซียวหรงเหยี่ยนเข้าไปด้านในกลับถูกเว่ยจงขวางไว้เสียก่อน “แม่นางชุนเถา บ่าวอย่างพวกเราไม่ต้องเข้าไปด้านในหรอก”

ตอนที่ชุนเถาเข้ามาในวังเป็นครั้งแรก ถงหมัวมัวกำชับว่านางยังไม่คุ้นชินกับกฎเกณฑ์ในวังหลวง ให้นางฟังคำสั่งของเว่ยจงทุกอย่าง เมื่อเห็นประตูตำหนักถูกขันทีสี่คนดึงปิดลง แม้ชุนเถาจะร้อนใจ ทว่า สุดท้ายก็ได้แต่พยักหน้าและยืนเฝ้าอยู่หน้าตำหนักกับเว่ยจง

ภายในตำหนัก

ไป๋ชิงเหยียนนั่งตัวตรงอยู่ด้านใน หญิงสาวเห็นเซียวหรงเหยี่ยนในชุดสีขาวคาดเข็ดขัดหยกขาวเดินเข้ามาด้านใน จากนั้นโค้งกายทำความเคารพนางอย่างนอบน้อม ไป๋ชิงเหยียนยกชาขึ้นจิบเล็กน้อยพลางกล่าวขึ้น “นั่งลงเถิด!”

“คุยกับหลี่จือเจี๋ยรู้เรื่องแล้วหรือไม่ หลี่จือเจี๋ยยินดีสวามิภักดิ์กับต้าเยี่ยนหรือต้าโจวมากกว่ากัน” เซียวหรงเหยี่ยนเดินตรงเข้าไปหาไป๋ชิงเหยียน

“เขาน่าจะอยากเจรจาร่วมมือกับหรงตี๋เพื่อต่อต้านต้าโจวและต้าเยี่ยนมากกว่า” ไป๋ชิงเหยียนวางถ้วยชาลง

ตอนที่เซียวหรงเหยี่ยนบอกฐานะที่แท้จริงของอ๋องหน้ากากผีว่าคือคนตระกูลไป๋ให้หลี่จือเจี๋ยรับรู้ ชายหนุ่มส่งเยว่สือมาส่งข่าวให้ไป๋ชิงเหยียนรับรู้ในวังแล้ว

ส่วนเขาลงมือทำในเวลาเดียวกัน

ไป๋ชิงเหยียนโมโหอยู่พักหนึ่ง ไม่นานก็สงบลง เมื่อเรื่องเกิดขึ้นแล้ว การบันดาลโทสะคือเรื่องที่ไร้ประโยชน์ที่สุด หญิงสาวต้องคิดหาวิธีรับมือโดยเร็วที่สุด เมื่อสงบลงหญิงสาวจึงคิดหาวิธีที่ต้าโจวจะได้ประโยชน์มากที่สุด

ต่อมาไป๋ชิงเหยียนส่งหลูผิงไปบอกเรื่องนี้ให้อาอวี๋รับรู้ด้วยตัวเอง

ไป๋ชิงเหยียนคิดว่าตอนนี้อาอวี๋อยู่ที่เมืองหลวงของต้าโจว ถึงแม้ข่าวฐานะที่แท้จริงของอาอวี๋แพร่กลับไปยังหรงตี๋ อย่างมากต้าโจวก็แค่นำทัพบุกไปยึดหรงตี๋ก็เท่านั้น

หรงตี๋เป็นแคว้นที่เคารพผู้ที่แข็งแกร่งกว่า เมื่ออ๋องหน้ากากผีออกคำสั่ง ย่อมมีคนมากมายทำตามคำสั่งของเขาแน่นอน

บัดนี้ต้าเยี่ยนทำสัญญากับหรงตี๋ว่าจะไม่ยกทัพบุกซีเหลียงเป็นเวลาสามปี พวกเขาย่อมหาเรื่องให้ต้าโจววุ่นวายเป็นธรรมดา อย่างน้อยในเวลาสามปีนี้ควรให้ต้าโจวและหรงตี๋สู้รบกันเอง เช่นนี้ซีเหลียงจะได้มีเวลาพักหายใจ เมื่อครบสามปีต้าเยี่ยนจะได้ยกทัพบุกโจมตีซีเหลียงได้

เซียวหรงเหยี่ยนคืออ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยน เขาทำเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกอันใด

ไป๋ชิงเหยียนเข้าใจเซียวหรงเหยี่ยน ทว่า ไป๋ชิงเหยียนเริ่มรู้สึกหวาดระแวงชายหนุ่มขึ้นมา หลายวันมานี้ชายหนุ่มมาขอเข้าพบไป๋ชิงเหยียนหลายครั้ง ทว่า หญิงสาวไม่เคยพบหน้าเขาเลยสักครั้งโดยอ้างว่ากำลังยุ่งอยู่กับการจัดการระบอบการปกครองใหม่และการสร้างสำนักศึกษา อีกประการหนึ่งคือไป๋ชิงเหยียนกำลังวางแผนรับมือกับต้าเยี่ยนใหม่

ไป๋ชิงเหยียนเคยคิดว่าสงครามทำลายชีวิตทหารและชาวบ้านโดยเปล่าประโยชน์ ระบอบการปกครองใหม่ส่วนใหญ่ของไป๋ชิงเหยียนได้มาจากจีโฮ่ว ทว่า ความคิดหลายอย่างค่อนข้างแตกต่างกัน อีกทั้งความสัมพันธ์ระหว่างนางและเซียวหรงเหยี่ยนทำให้นางปฏิบัติต่อต้าเยี่ยนแตกต่างออกไป

เดิมทีไป๋ชิงเหยียนคิดว่าจะต่อสู้กับต้าเยี่ยนด้วยระบอบการปกครองโดยกำหนดระยะเวลาห้าปี การปกครองของแคว้นใดทำให้ชาวบ้านมั่งคั่งแคว้นแข็งแกร่ง เมื่อสองแคว้นรวมเป็นหนึ่ง แคว้นนั้นจะได้เป็นใหญ่เหนืออีกแคว้น เช่นนี้ชาวบ้านจะได้ไม่ต้องเดือดร้อนเพราะสงคราม ทหารจะได้ไม่ต้องตายเปล่า

ทว่า ไป๋ชิงเหยียนลืมไปว่าตระกูลมู่หรงเป็นเจ้าแผ่นดินต้าเยี่ยนมาทุกสมัย พวกเขามีปณิธานอยากรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่ง ตระกูลมู่หรงทำเพื่อประโยชน์ของชาวบ้าน ทว่า ข้อแม้ก็คือตระกูลมู่หรงต้องเป็นใหญ่ที่สุดในใต้หล้า

ก่อนหน้านี้ไป๋ชิงเหยียนไร้เดียงสาเกินไป อาจเป็นเพราะไป๋ชิงเหยียนเกิดมาในตระกูลเล็กๆ อย่างตระกูลไป๋ หญิงสาวได้รับการสั่งสอนให้ปกป้องและรักชาวบ้าน ส่วนเซียวหรงเหยี่ยนเกิดในราชวงศ์ เขาได้รับการสั่งสอนให้ควบคุมอำนาจของราชวงศ์ให้มั่นคง สอนว่าควรคานอำนาจในราชสำนักได้เช่นไร

ไป๋ชิงเหยียนวางแผนรับมือกับต้าเยี่ยนผิดไป ทว่า หญิงสาวไม่กลัว การตระหนักรู้ว่าผิดและแก้ไขให้ทันเวลาคือสิ่งสำคัญที่สุด ครั้งนี้ถือเป็นการเตือนครั้งแรก ไป๋ชิงเหยียนจึงสามารถแก้ไขแผนการรับมือกับต้าเยี่ยนได้ทันท่วงที หญิงสาวควรหยิบยกเรื่องนี้มาเจรจากับอ๋องเก้ามู่หรงเหยี่ยนอย่างจริงจังสักครั้งในฐานะจักรพรรดินีแห่งต้าโจว

แม้อ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนจะมั่นใจว่าจะสามารถเอาชนะนางได้ แม้ทั้งสองแคว้นจะทำสัญญาเป็นพันธมิตรกัน ทว่า ต้าโจวต้องเตรียมพร้อมที่จะทำศึกกับต้าเยี่ยนตลอดเวลา

เซียวหรงเหยี่ยนหยิบยาที่นำมาให้ไป๋ชิงเหยียนออกมาจากอก จากนั้นวางลงบนโต๊ะด้านหน้าไป๋ชิงเหยียน ชายหนุ่มยืนอยู่ด้านข้างหญิงสาวพลางกล่าวขึ้น “อาเป่า เจ้าและข้าเคยสัญญากันไว้ว่าจะไม่เอาความรู้สึกส่วนตัวมาเกี่ยวข้อง ข้าคืออ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยน ข้าต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของต้าเยี่ยนเป็นหลัก การเปิดเผยฐานะที่แท้จริงของอ๋องหน้ากากผีเป็นประโยชน์ต่อต้าเยี่ยน ข้าจึงทำ!”โนเวลพีดีเอฟ

“ทว่า ข้ายอมรับว่าข้าไม่ได้คำนึกถึงความปลอดภัยของอ๋องหน้ากากผีเลย!” เซียวหรงเหยี่ยนคิดว่าไป๋ชิงเหยียนไม่ยอมพบหน้าเขาในช่วงหลายวันมานี้เพราะกำลังโกรธเขาอยู่ “บัดนี้อ๋องหน้ากากผีควบคุมหรงตี๋ได้แล้ว อ๋องแห่งหรงตี๋จะได้พบหน้าหรือสนทนากับผู้ใดล้วนขั้นอยู่กับการตัดสินใจของอ๋องหน้ากากผี เจ้ากังวลเกินไป เจ้าควรเชื่อในความสามารถของคนตระกูลไป๋!”

“ที่สำคัญการบอกเรื่องนี้ให้หลี่จือเจี๋ยรับรู้ หากไม่บีบจนซีเหลียงยอมสวามิภักดิ์ต่อต้าเยี่ยน เขาก็ต้องยอมสวามิภักดิ์ต่อต้าโจว เช่นนี้พวกเราจะรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่งได้รวดเร็วขึ้น ถึงแม้จะไม่สำเร็จ อย่างน้อยก็ถือว่าได้ลองแล้ว ค่อยทำสงครามกันทีหลังก็ยังไม่สาย” เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวเสียงนุ่ม

ไป๋ชิงเหยียนวางถ้วยชาลงมือลง “ที่ข้าไม่พบหน้าท่านในช่วงหลายวันมานี้ไม่ใช่เพราะข้ากำลังโกรธท่าน ท่านคืออ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยน ท่านทำเพื่อประโยชน์ของต้าเยี่ยนไม่ใช่เรื่องผิดอันใด ข้าคือจักรพรรดินีแห่งต้าโจว ข้าต้องทำใจให้สงบลงเพื่อเปลี่ยนแผนรับมือกับต้าเยี่ยนใหม่ คำนึงว่าแผนการใดมีประโยชน์ต่อต้าโจวมากที่สุด ท่านนั่งลงก่อนเถิด พวกเรามาเจรจากันในฐานะอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนและจักรพรรดินีแห่งต้าโจว”

เซียวหรงเหยี่ยนเห็นแววตาของไป๋ชิงเหยียนสงบราบเรียบ ไม่มีความรู้สึกอื่นใดปะปน

ไป๋ชิงเหยียนเป็นคนเด็ดเดี่ยว เซียวหรงเหยี่ยนคิอว่าควรเจรจาเรื่องนี้กับไป๋ชิงเหยียนเช่นเดียวกัน เขาจึงพยักหน้า “ข้าก็คิดเช่นนั้น…”

“เช่นนั้นเชิญอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนนั่งลงก่อน พวกเรามาเจรจากันอย่างละเอียด” ไป๋ชิงเหยียนกล่าว

เซียวหรงเหยี่ยนพยักหน้ายิ้มๆ จากนั้นเดินไปนั่งบนที่นั่งถัดจากไป๋ชิงเหยียน

***************

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

Status: Ongoing
นิยายจีนโบราณเข้มข้น ปะทะคารม ทดสอบไหวพริบ สนุกถึงใจ!เพราะถูกคนชั่วหลอกใช้ชาติก่อนคนทั้งตระกูลของนางจึงต้องตายอย่างน่าอนาถ ไร้ซึ่งคนทวงถามความเป็นธรรมชาตินี้นางหวนกลับมาก่อนเรื่องราวเกิดขึ้น แม้เพียงเล็กน้อยแต่หากสามารถช่วยเหลือคนในครอบครัวได้แม้สักคนนางก็ยินดีทุ่มเทกำลังให้ถึงที่สุดสตรีตระกูลไปแต่ไรมาแกร่งกล้ำเพียบพร้อมบุ๋นบู๊ แม้ไร้ซึ่งที่พึ่งพิงแล้วจริงแต่ก็จะไม่ยอมให้ผู้ใดมากดขี่ได้!และเพราะเรื่องราวที่เปลี่ยนแปลงไปนางจึงได้พบกับ ‘เขา’ ไวกว่าชาติก่อนเขาผู้นี้แม้ภายนอกดูป็นมิตรและสง่งามกว่าใคร แต่นงแจ่มแจ้งดีว่าเขาเจ้าเล่ห์และอำหิตมากเพียงไหนชาติก่อนแม้ยืนกันคนละฝั่งแต่บุรุษผู้นี้กลับเป็นผู้มอบทางรอดให้แก่นาง อย่างนั้นชาตินี้นางก็ย่อมตอบแทนเขาเป็นอย่างดีเช่นกัน“แม่นางไปช่วยเหลือข้าหลายครั้งหลายครา ใช่ว่าชื่นชอบข้าหรือไม่?”“คุณชายเข้าใจผิดแล้วล่ะ”“ข้าช่วยเหลือแม่นางไปมาหลายครั้งหลายครา แม่นางไปมีใจชื่นชอบข้าบ้างหรือไม่?”“…”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท