ตอนที่ 1053 ทำสัญญาเป็นพันธมิตรกันก่อน
“ที่สำคัญพวกเราจะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นจักรพรรดิและขุนนางที่มีใจรักและทำเพื่อชาวบ้าน ขุนนางแคว้นใดจะไม่หวั่นไหวบ้าง เจ้าและข้าสามารถโน้มน้าวให้พวกเขาคิดตามเช่นนี้ได้”
ไป๋ชิงเหยียนมองท่าทีมั่นใจของเซียวหรงเหยี่ยนแล้วยิ้มออกมาเล็กน้อย ชายหนุ่มกล่าวถูกต้อง การยึดครองอีกแคว้นที่แข็งแกร่งเช่นเดียวกันได้โดยไม่สูญเสียเลือดเนื้อ ทั้งยังมีชื่อเสียงดีงามจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ ไม่ว่าผู้ใดย่อมหวั่นไหวด้วยกันทั้งสิ้น
วิธีการของเซียวหรงเหยี่ยนดีมาก ไป๋ชิงเหยียนเห็นด้วย
“ส่วนต้าเยี่ยน จักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยนจะเป็นคนเสนอเรื่องนี้เอง ขุนนางในราชสำนักต้าเยี่ยนย่อมมีทั้งสนับสนุนและคัดค้าน ผู้ที่คัดค้าน…แน่นอนว่าต้องเป็นฝ่ายของอ๋องเก้าแห่งต้าเยี่ยนที่ยืนอยู่คนละฝั่งกับจักรพรรดิแห่งต้าเยี่ยน ทว่า อ๋องเก้ามู่หรงเหยี่ยนแห่งต้าเยี่ยนจะเห็นด้วยกับวิธีการนี้ จักรพรรดินีแห่งต้าโจวเพิ่งขึ้นครองราชย์ได้ไม่นาน นางจะกล่าวโน้มน้าวขุนนางในราชสำนักได้ดีกว่าสายเลือดแท้ของราชวงศ์อย่างตระกูลมู่หรงได้อย่างไร”
“การแข่งขันด้วยการปกครองของสองแคว้นคือเรื่องใหญ่ จักรพรรดิต้าเยี่ยนอายุยังน้อย อ๋องเก้ามู่หรงเหยี่ยนจะเป็นคนจัดขุนนางฝ่ายของตัวเองไปรับตำแหน่งสำคัญต่างๆ แทน กำชับให้พวกเขาพยายามอย่างสุดความสามารถ ต้าเยี่ยนทั้งแคว้นอยู่ในกำมือของพวกเขา หากพวกเขาพ่ายแพ้จนสูญเสียต้าเยี่ยนไป ชื่อเสียงของพวกเขาจะฉาวโฉ่ไปอีกหลายร้อยปี”
“เช่นนี้ราชสำนักต้าเยี่ยนจะมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน พยายามเพื่อเป้าหมายเดียวกัน เหมือนกับที่เจ้าเคยกำหนดเป้าหมายรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่งให้แก่บัณฑิตและขุนนางในราชสำนัก ให้พวกเขาพยายามเพื่อจุดมุ่งหมายเดียวกัน เรื่องเล็กน้อยอื่นๆ ล้วนไม่สำคัญอีกต่อ” เซียวหรงเหยี่ยนเคาะนิ้วเรียวยาวลงบนโต๊ะเป็นจังหวะ “ข้าเรียนรู้เรื่องนี้มาจากอาเป่า อาเป่าคืออาจารย์ของข้า…”
ไป๋ชิงเหยียนหัวเราะกับคำกล่าวของเซียวหรงเหยี่ยน หญิงสาวมองเข้าไปในดวงตาดำขลับของชายหนุ่ม จากนั้นถามต่อ “ท่านตัดสินใจเรื่องนี้อยู่นานทีเดียวใช่หรือไม่ ท่านหวั่นไหวกับคำกล่าวของข้าดังนั้นจึงเล่าเรื่องนี้ให้อาลี่ฟังใช่หรือไม่”
ไป๋ชิงเหยียนก้มมองท้องของตัวเอง “เป็นเพราะข้า…และลูกอย่างนั้นหรือ”
เซียวหรงเหยี่ยนไม่อยากโกหกไป๋ชิงเหยียน ชายหนุ่มเท้าแขนลงบนพนักพิงด้านหลังของไป๋ชิงเหยียน จากนั้นลูบแผ่นหลังของหญิงสาวอย่างแผ่วเบา พยักหน้าพลางกล่าวขึ้น “เจ้าและลูกคือเหตุผลที่ข้าหวั่นไหว ทว่า ผู้ที่ทำให้ข้าตัดสินใจได้ในท้ายที่สุดคืออาลี่”
เซียวหรงเหยี่ยนรู้ดีว่าพี่สะใภ้ของเขาให้ความสำคัญกับบัลลังก์ของอาลี่มากเพียงใด
เซียวหรงเหยี่ยนรู้ดีว่าก่อนจากไปเสด็จพี่เป็นห่วงพี่สะใภ้มากที่สุด ตอนนั้นเซียวหรงเหยี่ยนไม่ได้รับปากไป๋ชิงเหยียนเพราะเขามีความเห็นแก่ตัวอยากให้ต้าเยี่ยนเป็นหนึ่งในใต้หล้า ยิ่งไปกว่านั้นเขาเป็นห่วงความรู้สึกของพี่สะใภ้และเสี่ยวอาลี่
ทว่า ปฏิกิริยาของอาลี่เหนือความคาดหมายของเซียวหรงเหยี่ยนมาก เขานึกไม่ถึงเลยว่าอาลี่เปิดกว้างมากกว่าเขา อาลี่เข้าใจเซียวหรงเหยี่ยน รู้ดีว่าหากเซียวหรงเหยี่ยนเป็นคนเสนอเรื่องนี้ออกไป มารดาของเขาต้องโมโหมาก ทว่า หากมู่หรงลี่เป็นคนเสนอขึ้นมา มารดาของเขาจะได้ไม่คิดว่ามู่หรงเหยี่ยนจงใจวางแผนเพื่อชิงบัลลังก์ของตัวเองกลับไปฐณษซฯื
มู่หรงลี่กำชับให้มู่หรงเหยี่ยนไปบอกให้มารดาของเขามาเกลี้ยกล่อมให้เขายกเลิกความคิดนี้ให้ได้ เช่นนี้มารดาของเขาจะได้หันไปเกลี้ยกล่อมมู่หรงเหยี่ยนให้เห็นด้วยกับความคิดของเขาเพื่อรักษาศักดิ์ศรีของจักรพรรดิอย่างเขาแทน
“อาเป่า ข้าคือคนของตระกูลมู่หรงตั้งแต่เกิดมา ดังนั้นข้าจึงไม่เห็นด้วยกับเจ้าในบางเรื่อง” เซียวหรงเหยี่ยนกล่าวเสียงเบา
“ทว่า ท่านยอมรับแล้วว่าการแข่งขันด้วยระบอบการปกครองคือวิธีที่ดีที่สุดสำหรับพวกเรา…” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวยิ้มๆ
เซียวหรงเหยี่ยนพยักหน้า “หากตัดเรื่องความเห็นแก่ตัวที่อยากให้ราชวงศ์มู่หรงมีอยู่สืบไปออกไป การรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่งด้วยวิธีนี้ดีต่อชาวบ้านและทหารมากที่สุด!”
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า จากนั้นขยับท่านั่งให้สบายขึ้นเล็กน้อย “ตอนที่พี่ชายท่านมาพบข้า เขาถามข้าว่าหากสุดท้ายเหลือเพียงสองแคว้น ข้าจะเลือกเช่นไร จะทำสงครามหรือทำสัญญาสงบศึก ข้าคิดเรื่องนี้มาโดยตลอด ต่อมาต้าจิ้นยึดครองต้าเหลียงได้และสถาปนาแคว้นต้าโจวขึ้นมา ต้าเยี่ยนยึดแคว้นเว่ยได้เช่นเดียวกัน ข้าก็เอาแต่คิดว่าจะใช้วิธีการใดรวบรวมใต้หล้าให้เป็นหนึ่งโดยไม่ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน! ข้าดีใจมากที่ท่านและอาลี่เห็นด้วยกับวิธีการของข้า”
“ได้ เช่นนั้นพวกเราก็ตกลงกันคร่าวๆ เช่นนี้ก่อน” เซียวหรงเหยี่ยนมองไปทางไป๋ชิงเหยียนยิ้มๆ “พรุ่งนี้ข้าจะเดินทางกลับต้าเยี่ยนแต่เช้า ให้อาลี่หาโอกาสเสนอเรื่องนี้ขึ้นมา จากนั้นส่งหนังสือสัญญามายังต้าโจว เจ้าจะได้บอกกับขุนนางในราชสำนักได้ว่านี่คือวิธีการอันดีที่จะยึดครองต้าเยี่ยนได้โดยไม่สูญเสียเลือดเนื้อ บอกพวกเขาว่าควรมั่นใจในระบอบการปกครองของต้าโจว เช่นนี้เจ้าจะได้ไม่ต้องลำบากใจ”
ไม่ว่าอย่างไรเรื่องนี้ก็กำลังดำเนินไปในแบบที่ไป๋ชิงเหยียนคิดไว้ตอนแรก ไป๋ชิงเหยียนรู้สึกดีใจมากที่นางไม่ต้องทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน ไม่ต้องทำให้ทหารเสียชีวิตโดยเปล่าประโยชน์
ไป๋ชิงเหยียนกล่าวต่อ “ข้าคิดว่าเราควรจัดการเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด ถึงแม้จะยังไม่มีโอกาสหารือเรื่องการแข่งขันด้วยระบอบการปกครอง ทว่า ควรทำสัญญาลงนามเป็นพันธมิตรกันไว้ก่อน”
“เจ้ากังวลเรื่องกองทัพช้างของแคว้นเทียนเฟิ่งอย่างนั้นหรือ” เซียวหรงเหยี่ยนถาม
ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า “กองทัพช้างของเทียนเฟิ่งมาถึงซีเหลียงนานแล้ว บัดนี้พวกเขาเห็นซีเหลียงเป็นเหมือนแคว้นของตัวเอง ต่อไปพวกเขาต้องเริ่มลงมือหยั่งเชิงแน่นอน ท่านน้าชายของข้าอยู่ที่เติงโจว เขาไม่มีทางปล่อยให้เทียนเฟิ่งบุกไปหรงตี๋แน่นอน เช่นนี้ก็เหลือเพียงต้าเยี่ยนแล้ว หากต้าโจวและต้าเยี่ยนทำสัญญาเป็นพันธมิตรกันตอนนี้ เทียนเฟิ่งต้องเริ่มหวั่นวิตกแน่นอน”
ในเมื่อสองแคว้นตกลงกันแล้วว่าจะตัดสินผลแพ้ชนะกันด้วยระบอบการปกครอง เช่นนั้นพวกนางก็ควรร่วมมือกันกำจัดศัตรูที่มารุกรานเสีย
เปลวเทียนบนโต๊ะตรงหน้าดับลงชั่วขณะเนื่องจากโดนลมพัด ไม่นานจึงสว่างขึ้นมาอีกครั้ง
เซียวหรงเหยี่ยนพยักหน้า จากนั้นกล่าวออกมาอย่างครุ่นคิด “เช่นนั้นเราค่อยปรึกษาเรื่องการแข่งขันด้วยระบอบการปกครองกันภายหลัง ตอนนี้ควรทำสัญญาเป็นพันธมิตรกันก่อน! หากเสนอเรื่องการแข่งขันด้วยระบอบการปกครองขึ้นมาตอนนี้ ขุนนางที่มีจุดประสงค์แอบแฝงของสองแคว้นอาจอยากเห็นแคว้นใดแคว้นหนึ่งถูกกองทัพช้างโจมตีเพื่อที่แคว้นจะได้อ่อนแอลงมากกว่า พวกเขาอาจไม่อยากให้เราจับมือเป็นพันธมิตรกันเพื่อต่อต้านกองทัพช้าง”
ไป๋ชิงเหยียนกังวลเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน ดังนั้นหญิงสาวจึงเสนอให้ทำสัญญาเป็นพันธมิตรกันก่อน
“ได้ เมื่อข้าเดินทางกลับต้าเยี่ยนในวันพรุ่งนี้ พวกเราจะทำสัญญาเป็นพันธมิตรเพื่อขับไล่กองทัพช้างออกไปก่อน! เมื่อขับไล่กองทัพช้างได้เมื่อใด ข้าและอาลี่จะจัดฉากแสดงละครเพื่อจัดการเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด”
“ได้ เมื่อขับไล่กองทัพช้างไปได้แล้ว เมื่อต้าเยี่ยนส่งข้อเสนอมา ข้าจะเกลี้ยกล่อมขุนนางของต้าโจวเอง” ไป๋ชิงเหยียนรับคำยิ้มๆบราวนี่ออนไลน์
เซียวหรงเหยี่ยนกุมมือไป๋ชิงเหยียน ไล้นิ้วมือไปที่ข้อมือเล็กของหญิงสาวเบาๆ จากนั้นรวบตัวหญิงสาวมากอดไว้ในอ้อมแขน ในใจเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด “ข้าขอโทษที่ไม่อาจอยู่เป็นเพื่อนเจ้าและลูกได้…”
“ลูกเป็นเด็กดีมาก…” ไป๋ชิงเหยียบซบใบหน้าลงบนอกของเซียวหรงเหยี่ยน เอื้อมมือลูบท้องพลางกล่าวขึ้นเบาๆ “ตั้งแต่ตั้งท้องเด็กคนนี้ ข้าไม่แพ้ท้องแม้แต่น้อย ไม่รู้สึกทรมาน ทานอาหารได้ตามปกติ บางครั้งหากไม่ใช่เพราะท่านแม่และบรรดาท่านอาสะใภ้คอยเตือน ข้าเกือบลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่ากำลังตั้งท้องอยู่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วง”