เมื่อข้าเป็นองค์หญิงน้อยของฮ่องเต้ทรราช – บทที่ 197 พี่รองลำบากมากเลยใช่หรือไม่

เมื่อข้าเป็นองค์หญิงน้อยของฮ่องเต้ทรราช

บทที่ 197 พี่รองลำบากมากเลยใช่หรือไม่

บทที่ 197 พี่รองลำบากมากเลยใช่หรือไม่

เป็นดังคาด เพียงชั่วพริบตา ถุงหอมรูปร่างหน้าตาแตกต่างกันออกไปกองใหญ่ก็ร่วงลงมาราวกับห่าฝน

แม้จะขว้างมาที่หนานกงฉีโม่ แต่ส่วนใหญ่แล้วเล็งไม่ตรง และโดนเข้ากับองครักษ์ของเขาแทน

พวกเขารูปร่างสูงใหญ่กำยำ ไม่ใช่ในแบบที่หญิงสาวยุคนี้ชื่นชอบ จึงไม่เคยได้รับการปฏิบัติเช่นนี้มาก่อน

“ฮ่า ๆ เป็นครั้งแรกเลยนะที่พวกเราเป็นที่ชื่นชอบขนาดนี้” ชายหน้าคล้ำตัวสูงใหญ่คว้าถุงเงินไว้ได้ รอยยิ้มงี่เง่าแปะอยู่บนใบหน้า

องครักษ์ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ กัน กลอกตาด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย “ละอายเสียบ้างเถิด พวกนางโยนให้องค์ชายรองต่างหากเล่า”

ทันใดนั้นเอง หนานกงฉีโม่ที่ยืนอยู่หน้าก็คว้าถุงหนึ่งเอาไว้ได้ เส้นเลือดปูดขึ้นกลางหน้าผาก

“ผู้ใดมันใส่หินไว้ในนี้กัน!”

หากปาโดนหน้าเข้า คงเจ็บน่าดู

สิ้นเสียงของเขา หญิงสาวในบรรดาคนพวกนั้นก็ส่งเสียงกรีดร้องขึ้นดังลั่น

“ข้าเอง ๆ นึกแล้วเชียวว่าใส่หินไว้ข้างในแล้วจะปาแม่นขึ้น!”

ใบหน้าไม่ละอายแก่ใจ แถมยังภูมิใจ.jpg

หนานกงฉีโม่ “…”

พวกองครักษ์ “…”

ให้ตายเถิด สตรีพวกนี้ใจกล้ากันเกินไปแล้ว!

“รีบไปเถิด”

หนานกงฉีโม่รีบเร่งเดินจากไป ขืนยังอยู่ต่อเกรงว่าเขาคงโดนหญิงสาวพวกนี้เขวี้ยงถุงหอมใส่จนตายแน่ หากเป็นเช่นนั้นคงจะอนาถน่าดู

หนานกงฉีโม่ควบม้าหนีด้วยความตื่นตระหนก

เหล่าองครักษ์เองก็เร่งติดตาม พอถูกถุงหอมบรรจุหินขว้างเข้าใส่ พวกเขาก็ไม่รู้สึกอิจฉาองค์ชายรองอีกต่อไป

การชื่นชอบเช่นนี้ไม่เห็นจะโชคดีเลยสักนิด

ในที่สุด ยิ่งเข้าใกล้พระราชวังก็ไม่มีการขว้างปาถุงหอมให้เห็นอีก หนานกงฉีโม่มองประตูวังที่ตั้งตระหง่าน ในใจรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย

การฝึกฝนที่ชายแดนตลอดหลายเดือน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอันใด บัดนี้ตัวเขาได้กลับมาแล้ว

ไม่รู้ว่าเสี่ยวเป่าเป็นอย่างไรบ้าง

แววตาของหนานกงฉีโม่อ่อนโยนลงทันทีเมื่อนึกถึงน้องสาวตัวน้อย

แม้เขาจะอยู่ที่ชายแดน แต่ก็ได้รับข้าวของจากเหล่าพี่น้องอยู่เสมอ นอกจากการฝึกหนักและไม่คุ้นชินกับสภาพอากาศในช่วงแรก เขาเองก็ไม่ได้รู้สึกลำบากอะไร

กลับมาจากชายแดนครั้งนี้ สิ่งแรกที่หนานกงฉีโม่ทำคือการเข้าเฝ้าเสด็จพ่อ

เวลานี้ เสี่ยวเป่าไม่รู้ตัวเลยว่ามีเรื่องน่ายินดียิ่งกำลังรอนางอยู่

เสี่ยวเป่าค้นพบผึ้งบนต้นไม้อีกต้นในตำหนักของนาง มิหนำซ้ำยังไม่เหมือนกับพวกเฟิงเฟิงที่นางนำกลับมา เพราะนี่คือผึ้งที่ผลิตน้ำหวานได้!

ทันทีที่นางเห็น ก็รีบสั่งให้คนทำกล่องเลี้ยงผึ้ง จากนั้นก็อุ้มรังผึ้งน้อย ๆ ไปใส่ไว้ในกล่อง

ชุนสี่และคนอื่น ๆ ที่เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบต่างก็อกสั่นขวัญแขวน เพราะกลัวว่าองค์หญิงจะถูกผึ้งต่อย

แต่กลับกลายเป็นว่าความเป็นห่วงของพวกเขานั้นไม่จำเป็นเลยนิด เสี่ยวเป่าจัดการย้ายรังผึ้งและนางพญาผึ้งที่อยู่ภายในรังได้สำเร็จ

ที่นี่เลี้ยงฝูงผึ้งไว้ประมาณร้อยตัว แม้จะไม่ได้มากมายอะไร แต่พวกมันก็ตัวใหญ่ทีเดียว

รังผึ้งถูกแขวนไว้บนต้นไหวโบราณที่อยู่ในสวนด้านข้าง ยามปกติไม่มีผู้ใดกล้าเข้าไปใกล้ แต่ว่าผึ้งพวกนี้ก็เชื่องเป็นอย่างมาก พวกมันไม่เคยทำร้ายคนเว้นเสียแต่ว่าเสี่ยวเป่าจะเรียกหา และออกไปหาอาหารเป็นเวลา บางครั้งบางคราวเสี่ยวเป่าก็จะให้อาหารพวกมันด้วยผลไม้

หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะพืชพันธุ์ที่ผลิดอกบานสะพรั่ง กลายเป็นทุ่งดอกไม้สีม่วงอมฟ้าสวยงาม ดึงดูดฝูงผึ้งน้ำหวานเข้ามาเป็นระลอก

เสี่ยวเป่าต้อนรับแมลงน้อยพวกนี้เป็นอย่างดี เพราะผึ้งเดิมของนางไม่ผลิตน้ำหวาน ซ้ำอาหารที่กินก็ผสมปนเป ทั้งยังไม่กระตือรือร้นผสมเกสรเหมือนอย่างพวกผึ้งกลุ่มใหม่ ตอนนี้ผึ้งกลุ่มใหม่มาได้จังหวะพอดี นางจะได้ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีแมลงมาผสมเกสรให้ต้นไม้ที่นางปลูกอีกต่อไป

เสี่ยวเป่าวางฝูงผึ้งลงข้างต้นหญ้าอ้วนท้วนคอยเลี้ยงดูเป็นอย่างดี ตอนนี้นางสามารถผสมเกสรให้ต้นไม้พวกนี้ได้แล้ว!

“องค์หญิง เรื่องเช่นนี้ครั้งหน้าสั่งให้พวกบ่าวทำแทนเถิดเพคะ”

ชุนสี่และบ่าวใช้คนอื่น ๆ หวาดวิตกมาก หากถูกต่อยเข้าละก็เป็นเรื่องใหญ่แน่

แม้องค์หญิงจะเลี้ยงผึ้งไว้อยู่แล้ว แต่พวกนางก็ยังไม่ชินอยู่ดี

“พวกเจ้าจะโดนต่อยเอาได้ แต่เสี่ยวเป่าไม่โดนนะ”

แมลงที่มีประโยชน์ต่อต้นไม้ใบหญ้าเช่นนี้ เสี่ยวเป่าชอบเป็นที่สุด

อีกอย่างแค่นึกถึงน้ำผึ้งแสนหวาน เสี่ยวเป่าก็น้ำลายสอแล้ว

หากดอกไม้อื่น ๆ ในสวนบานเมื่อไหร่ ฝูงผึ้งก็จะเริ่มผลิตน้ำผึ้งได้

หลังจากจัดแจงบ้านน้อย ๆ ให้ผึ้งกลุ่มใหม่เสร็จสิ้น เสี่ยวเป่าก็ลูบท้องน้อย ๆ ของตน ถึงเวลาทานอาหารกลางวันแล้ว

เสี่ยวเป่าที่กำลังกระโดดโลดเต้นเพื่อไปหาท่านพ่อ พอได้เห็นพื้นดินโล่ง ๆ ที่มันเทศถูกขุดออกไป เด็กน้อยก็ริเริ่มความคิดที่จะทำให้ที่นี่กลายเป็นโรงเรือนปลูกเฉ่าเหมย

กลับมาค่อยปลูกก็แล้วกัน!

พอนึกถึงเฉ่าเหมย ชื่อของผลไม้ชนิดอื่นก็ลอยขึ้นมาด้วย

เสี่ยวเป่าคิดถึงองุ่นเป็นพิเศษ เพราะนางอยากบ่มเหล้าองุ่น

ตอนนี้เป็นฤดูเก็บเกี่ยวพอดี บนภูเขาจะต้องมีผลไม้หลากหลายชนิดเป็นแน่ นางอยากไปที่นาหลวง แล้วก็อยากไปวัดต้ากั๋ว ได้ยินมาว่าตอนนี้สามารถเก็บเกี่ยวเมล็ดบัวทองคำขาวได้แล้ว!

ในหัวเสี่ยวเป่าเต็มไปด้วยเรื่องของกิน ในที่สุดนางก็มาถึงตำหนักฉินเจิ้ง แต่แล้วจู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงที่แปลกทว่าคุ้นเคยดังลอยมา

เสียงนั้นคุ้นหูอย่างแน่นอน ทว่าที่รู้สึกแปลก นั่นก็เพราะเมื่อชายหนุ่มเติบใหญ่ ไม่ได้มีเพียงร่างกายและอารมณ์ที่เปลี่ยนไปเท่านั้น แต่เสียงก็จะทุ้มต่ำลงด้วย

เสี่ยวเป่ายังไม่ทันได้เข้าไปก็ชะงักงันอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นดวงตากลมโตก็เบิกโพลง

เด็กเล็กวิ่งเข้าไปด้วยความรีบเร่งจนเกือบล้มคะมำ แต่ก็ทรงตัวได้อย่างรวดเร็วและออกวิ่งต่อ เพราะต้องการยืนยันว่าตนเองคิดถูกหรือไม่

“องค์หญิงช้าหน่อยเพคะ”

เด็กน้อยวิ่งเร็วจี๋ทำเอาบ่าวรับใช้ต่างพากันตกใจ พวกนางส่งเสียงร้องจนฟังไม่ได้ศัพท์ หนานกงฉีโม่ที่อยู่ด้านในก็ได้ยินเสียงเช่นกัน

ชายหนุ่มหันหน้าไปมอง เจ้าก้อนแป้งคล้ายลูกหิมะวิ่งปรี่เข้ามา สองพี่น้องสบตากัน แล้วเสี่ยวเป่าก็พุ่งเข้าใส่พี่ชายราวกับลูกระเบิด

“พี่รอง!”

เมื่อเจ้าตัวเล็กกระโดดเข้าใส่ หนานกงฉีโม่ก็คุกเข่าและโผกอดนางไว้ในอ้อมแขนทันที

เสี่ยวเป่ากอดคอของพี่รองไว้แน่น หัวปุกปุยน้อย ๆ ถูไถไปมาบนตัวเขา

“พี่รอง พี่รอง…”

เสียงออดอ้อนร้องเรียกพี่รองราวกับเรียกเท่าไหร่ก็ไม่เพียงพอสำหรับนาง

ดวงตาของหนานกงฉีโม่มีน้ำตารื้นเล็กน้อย มุมปากพึมพำด้วยน้ำเสียงเอ็นดู

“พี่รอง เสี่ยวเป่าคิดถึงท่านมากเลย ท่านจากไปตั้งนาน พี่รองผอมลงมากเลย ตัวก็ดำด้วย ท่านอยู่ข้างนอกลำบากมากเลยใช่หรือไม่…”

คำพูดของนางคล้ายจะไม่มีวันจบสิ้น พูดไปดวงตากลมโตก็พลางมีน้ำตาเอ่อคลอ ราวกับจะร้องไห้ออกมาได้ทุกเมื่อ

“พี่รองลำบากมากเลยใช่หรือไม่”

เจ้าตัวน้อยลูบใบหน้าของพี่ชาย โดยเฉพาะรอยแผลเป็นเล็ก ๆ ที่อยู่ตรงหว่างคิ้ว ระยะไกลอาจจะมองไม่เห็น แต่สายตาของเสี่ยวเป่าสามารถมองเห็นได้เมื่ออยู่ในระยะประชิด

“พี่รองบาดเจ็บหรือ”

คราวนี้หยดน้ำตาร่วงออกมาจริง ๆ เสียแล้ว

หนานกงฉีโม่เช็ดน้ำตาให้เสี่ยวเป่าอย่างทำอะไรไม่ถูก

“ไม่ร้องนะ พี่สบายดี”

“เด็กดี อย่าร้องไห้เลยนะ”

หนานกงฉีโม่เองก็ใช่ว่าไม่เคยเห็นคนร้องไห้มาก่อน เพียงแต่ตัวเขานั้นเฉยเมยเมื่อเห็นผู้อื่นร้องไห้ ทว่าหากเป็นเสี่ยวเป่าแล้วเขากลับรู้สึกปวดใจมากทีเดียว

…………………………………………………………………………………………………………………………………………….

เปิดพรีออเดอร์แบบเล่มแล้ว!!

มีจำนวนจำกัด เพื่อแฟน ๆ นักอ่านที่หลงรัก

เมื่อข้าเป็นองค์หญิงน้อยของฮ่องเต้ทรราช

พรีออเดอร์เล่ม 1-2 หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ไลน์ @onlybook

ติดตามข้อมูลเล่มได้ที่เพจ Onlybook นะคะ

เมื่อข้าเป็นองค์หญิงน้อยของฮ่องเต้ทรราช

เมื่อข้าเป็นองค์หญิงน้อยของฮ่องเต้ทรราช

Status: Ongoing
จากลูกเป็ดขี้เหร่สู่การเป็นองค์หญิงคนสุดท้องแห่งราชวงศ์ ความน่ารักของซูเสี่ยวเป่าพร้อมจะพิชิตใจทุกคนแล้ว!หลังจากภูตพฤกษาตัวน้อยตายลง นางก็มาเกิดในยุคสมัยโบราณ และหลงคิดไปว่าตนเองเป็นเพียงเด็กลูกชาวบ้านแถบชนบทธรรมดา ๆ แต่คาดไม่ถึงเลยว่าท่านพ่อที่นางไม่เคยพบหน้ามาก่อนจะมีภูมิหลังยิ่งใหญ่ปานนี้เขา…ถึงกับเป็นราชาของแผ่นดิน!เสี่ยวเป่าที่อายุเพียงสามขวบถูกพาตัวไปยังพระราชวังทันทีหลังจากที่แม่ของนางสิ้นชีพลง แล้วนางก็กลายเป็นองค์หญิงน้อย สตรีเพียงหนึ่งเดียวท่ามกลางพี่ชายแปดคน!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท