เมื่อข้าเป็นองค์หญิงน้อยของฮ่องเต้ทรราช – บทที่ 246 หอมแก้มอรุณสวัสดิ์

เมื่อข้าเป็นองค์หญิงน้อยของฮ่องเต้ทรราช

บทที่ 246 หอมแก้มอรุณสวัสดิ์

บทที่ 246 หอมแก้มอรุณสวัสดิ์

เมื่อจบวัน หนานกงสือเยวียนที่เหนื่อยล้าก็กลับมายังกระโจมที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น พอได้เห็นบุตรสาวของตนนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงพร้อมกอดสุนัขจิ้งจอกเอาไว้ในอ้อมแขน ความเหนื่อยล้าก็พลันอันตรธานหายไป แววตาเฉียบคมอ่อนแสงลง ทั่วร่างกายเองก็ผ่อนคลายกว่าเดิม

สายตาของเขาจับจ้องไปทางสุนัขจิ้งจอกที่เสี่ยวเป่ากอดเอาไว้อยู่

สุนัขจิ้งจอกที่กำลังนอนหลับสบาย จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าตนเองถูกเงาขนาดใหญ่ทาบทับปกคลุม ความหนาวเหน็บแล่นไปทั่วร่าง

มันเพิ่งจะกระดิกหูและลืมตาขึ้นมาก็ถูกมือใหญ่คว้าเอาไว้ ร่างปุกปุยพลันลอยอยู่กลางอากาศ

“งี้ด งี้ด?”

เกิดเรื่องอันใดขึ้น!

จิ้งจอกน้อยพยายามบิดตัวเพื่อมองผู้ที่จับมัน ทำเกินไปแล้ว เจ้าคนสารเลวบังอาจมารบกวนการนอนของมัน!

แต่เจ้าคนสารเลวที่ว่ายังทำได้มากกว่านั้นอีก…

มันถูกโยนออกไปด้านนอกกระโจน ตกลงไปในอ้อมแขนของทหารเฝ้าทางเข้ากระโจม

เสียงของหนานกงสือเยวียนดังขึ้นมาจากด้านใน “ดูมันให้ดี ๆ”

สุนัขจิ้งจอกน้อยและทหารยามสบตากัน

หงหง “???”

หงหง “!!!”

มันโมโหเสียจนขนพอง ส่งเสียงร้องออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว คิดจะกลับเข้าไปภายในกระโจมอีกครั้ง ทว่ากลับถูกทหารยามที่หูตาไวคว้าจับตัวไว้ได้อย่างรวดเร็ว

“อย่าเข้าไป ไม่เช่นนั้นฝ่าบาทอาจตุ๋นเจ้านะ” ทหารยามเอ่ยเตือนเสียงเบาด้วยความเคร่งเครียด

จิ้งจอกน้อยใช้อุ้งเท้าตะกุยกระโจมด้วยความเกรี้ยวกราด พ่อของเจ้านายตัวน้อยจะใจร้ายเกินไปแล้ว!

ส่วนหนานกงสือเยวียนแม้จะนำสุนัขจิ้งจอกออกไปแล้ว แต่ก็ยังคงมองตำแหน่งที่มันเคยนอนอยู่ด้วยความไม่ชอบใจ ผู้ใดจะรู้เล่าว่ามีขนร่วงอยู่มากเพียงใด

เขาจึงอุ้มบุตรสาวที่กำลังหลับสบายขึ้นมาเปลี่ยนตำแหน่ง

เสี่ยวเป่าที่หลับอยู่ก็กลิ้งเข้าไปในอ้อมกอดของท่านพ่อด้วยความเคยชิน มือเล็ก ๆ กำชายเสื้อของเขาไว้ ขณะที่หัวทุย ๆ ซุกเข้าไปในอ้อมกอดของเขา

หนานกงสือเยวียนนอนลงโดยมีเด็กน้อยอยู่ในอ้อมแขน แต่เขาไม่ได้หลับทันที ทว่ากลับหวนนึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อตอนกลางวัน

เสี่ยวเป่าช่วยเขาไว้อีกครั้งแล้ว

ลูกสาวคนนี้ราวกับเป็นสมบัติล้ำค่าที่สวรรค์ประทานให้กับเขา

ภายในใจหนานกงสือเยวียนบังเกิดอารมณ์ซับซ้อน คิดถึงเรื่องความผิดปกติของเสี่ยวเป่าและยาแก้พิษ

หากไม่มีเสี่ยวเป่า เกรงว่าตัวเขาคงอดทนรอจนพบวัตถุดิบทำยาทั้งหมดไม่ได้ ตัวตนจะต้องได้รับผลกระทบจากกู่กัดกินหัวใจ จมดิ่งลงสู่อารมณ์ด้านลบอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ทำให้รุนแรงและกระหายเลือดมากยิ่งขึ้น เกรงว่าต้าเซี่ยในตอนนี้จะต้องกลายเป็นเฉกเช่นที่มหาปุโรหิตวางแผนเอาไว้

หากต้องการจะกำจัดการควบคุมของกู่อย่างสมบูรณ์ ก็มีแต่ต้องหายามาให้ไวที่สุด

เช้าวันรุ่งขึ้น ร่างกายของเสี่ยวเป่านอนอยู่บนเตียงเพียงแค่ครึ่งหนึ่ง หากขยับตัวอีกนิดเดียวก็จะตกจากเตียงในทันที

หลังจากนั้นนางก็ขยับตัวจริง ๆ แต่เดิมที่ร่างอยู่กลางอากาศครึ่งหนึ่งพลันร่วงหล่นจากเตียงทันที

ทว่าเมื่อร่างของเสี่ยวเป่ากำลังจะแตะพื้น ก็มีมือหนึ่งยืนมาคว้าเสื้อนางไว้อย่างชำนาญ แล้วดึงเจ้าก้อนแป้งกลับขึ้นไปบนเตียง

หนานกงสือเยวียนลืมตาขึ้น ก่อนจะห่มผ้าให้เด็กน้อยที่ยังคงหลับสบายหลังจากถูกดึงกลับขึ้นมา ฮ่องเต้หนุ่มก็ลุกขึ้นนั่งด้วยสีหน้าเรียบเฉย

ยามเหมันตฤดู รุ่งอรุณมาเยือนอย่างแช่มช้า เมื่อคืนหิมะตกโปรยปรายลงมาอย่างแผ่วเบา ทำให้ด้านนอกขาวโพลน ลมหายใจที่ออกจากปากควบแน่นเป็นไอขาว

หนานกงสือเยวียนผลัดอาภรณ์อย่างดี จากนั้นจึงออกจากกระโจม โดยมีฝูไห่และเหล่าข้าราชบริพารอยู่ด้านนอกพร้อมน้ำร้อน

“ฝ่าบาท บรรทมอีกหน่อยเถิดพ่ะย่ะค่ะ ราชทูตจากอาณาจักรอื่นล้วนแต่ยังไม่ตื่นกัน”

หนานกงสือเยวียนกล่าวเสียงเรียบ “นอนไม่หลับ”

ยามนี้อารมณ์เขาดีขึ้นแล้ว ทำให้ฝูไห่ยิ่งพูดมากขึ้นเรื่อย ๆ หากเป็นก่อนหน้า ฝูไห่คงไม่กล้าพูดเรื่องพวกนี้กับตนแน่นอน

ทว่าหนานกงสือเยวียนไม่ได้ตำหนิฝูไห่แต่อย่างใด

เขามองไปทางนางกำนัลขององค์หญิงน้อย พลางเอ่ยออกมา “เข้าไปด้านในแล้วดูนางไว้ อย่าปล่อยให้องค์หญิงน้อยกลิ้งตกเตียง”

“เพคะ”

ชุนสี่และคนอื่น ๆ คำนับ หลังจากเดินเข้าไปข้างในแล้ว จิ้งจอกน้อยที่ซ่อนตัวอยู่ในชุดของชุนสี่ก็กระโดดออกมาทันที จากนั้นก็ใช้อุ้งเท้าเล็ก ๆ ทั้งสี่วิ่งกระโจนเข้าใส่เสี่ยวเป่าอย่างรวดเร็ว

“งี้ด ๆ ๆ ๆ!”

มันจะฟ้อง!

“หงหงรีบลงมาเร็วเข้า” ชุนสี่รีบก้าวออกมาหมายจะนำมันลงจากตัวองค์หญิง ทว่าจู่ ๆ เสี่ยวเป่าก็คว้าเจ้าตัวน้อยเข้าไปกอดใต้ผ้าห่ม

“อืม…หงหงเด็กดี อย่ากวนสิ”

เสี่ยวเป่าลืมตาขึ้นมาเล็กน้อย กอดสุนัขจิ้งจอกพลางลูบหัวของมัน พร้อมเอ่ยพึมพำออกมาอย่างแผ่วเบา จากนั้นก็นอนต่อโดยกอดมันเอาไว้ในอ้อมแขน

ในฤดูหนาวเช่นนี้ การได้นอนบนเตียงถือเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

จากนั้นนางก็นอนต่อจนถึงเวลาอาหาร

“น้องหญิง น้องหญิงตื่นเร็ว ไปกินข้าวได้แล้ว!”

ม่านกระโจมถูกเปิดออกอย่างกะทันหัน หนานกงฉีจวินวิ่งเข้ามาเป็นผู้แรก ร้องเรียกน้องหญิงตลอดเวลา

องค์ชายคนอื่น ๆ ก็ตามเข้ามาเช่นเดียวกัน

มองดูหัวทุย ๆ ของเจ้าก้อนแป้งที่โผล่ออกมาครึ่งเดียว ประกอบกับใบหน้านุ่มนิ่มยามหลับใหล ทำให้ดูน่ารักเป็นอย่างยิ่ง!

หนานกงฉีจวินก้มมองด้วยดวงตาเปล่งประกาย ก่อนจะบีบแก้มกล้ม ๆ ของนางอย่างแผ่วเบา

มันดูนุ่มนิ่มและขึ้นสีชมพูราวกับลูกท้อ น่ารักเป็นอย่างยิ่ง

เสี่ยวเป่าลืมตาขึ้นมาด้วยความง่วงงุน ก่อนจะพบว่ามีใบหน้าของใครบางคนอยู่เบื้องหน้าตน

นางกอดผ้าห่มเอาไว้แล้วถูไถไปมา ทำให้ผมของนางฟูฟ่อง

“พี่ชาย~”

หลังจากหาวเสร็จ เสี่ยวเป่าก็เอ่ยเรียก ‘พี่ชาย’ ออกมาเสียงแผ่วเบาติดง่วงงุน

หนานกงฉีจวินโน้มตัวเข้าไปใกล้ “หอมแก้มพี่ชายเร็ว จากนั้นก็ลุกมากินข้าว”

หากเขามีหาง ตอนนี้ก็มิรู้ว่าจะแกว่งถึงเพียงใดแล้ว

เสี่ยวเป่าส่งเสียงอืมออกมาเบา ๆ จากนั้นก็ขยับเข้าไปหอมแก้มอีกฝ่ายด้วยดวงตาง่วงปรือ

ดวงตาของหนานกงฉีจวินพลันเปล่งประกาย น้องหญิงของเขาว่าง่ายมาก!

หลังจากนั้น เขาก็ชี้ไปที่แก้มอีกข้าง “หอมแก้มข้างนี้ด้วย”

ทว่าก่อนที่เสี่ยวเป่าจะทันได้หอมแก้ม ร่างของเขาก็ถูกลากออกไป

หนานกงฉีโม่แย้มยิ้มที่ไม่ใช่รอยยิ้ม “ต้องการให้พี่รองช่วยหอมแก้มหรือไม่”

น้องแปด “…”

เขาไม่เอา!

ความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิภายนอกกับภายในมีมากเกินไป เสี่ยวเป่าขดตัวอยู่ด้านในไม่เต็มใจที่จะตื่นขึ้น

หนานกงฉีโม่ไม่ได้เร่งเร้านาง เพียงแค่นั่งลงแล้วเริ่มร่ายชื่อรายการอาหาร

ทั้งหมดล้วนเป็นของที่เสี่ยวเป่าชื่นชอบ เจ้าแมวจอมตะกละตัวนี้ไม่มีทางอดทนกับอาหารได้แม้แต่น้อย

“อยากตื่นแล้วหรือ”

หัวของเสี่ยวเป่าโผล่ออกมาจากใต้ผ้าห่ม อีกทั้งยังมีหัวน้อย ๆ ของหงหงโผล่ออกมาพร้อมกัน

ดวงตาฉ่ำวาวของทั้งคู่กำลังจับจ้องมาทางเขา

หนานกงฉีโม่ขยับมือไปลูบหัวนางอย่างอดไม่ได้

หนานกงฉีอวิ๋นที่อยู่ด้านข้างมองดูด้วยความอิจฉา

สุนัขจิ้งจอกน้อยส่งเสียงร้องออกมา จากนั้นก็กระโจนเข้าใส่อ้อมแขนของเขา

หนานกงฉีอวิ๋น: ส…สวรรค์ จิ้งจอกน้อย!

นุ่มนิ่มดีต่อใจยิ่งนัก!

หากสามารถกอดน้องหญิงเอาไว้ได้ด้วยก็คงจะมีความสุขมากกว่านี้

ชายหนุ่มมองเสี่ยวเป่าที่กำลังแต่งตัว ระหว่างนั้นก็สางขนจิ้งจอกน้อยอย่างอดทน พลางเกาคางและบีบอุ้งเท้าน้อย ๆ ของมัน

หลังจากเสี่ยวเป่าแต่งตัวเสร็จก็ถูกอุ้มขึ้นไปทันที

“อรุณสวัสดิ์พี่รอง”

เสี่ยวเป่ากอดคอของพี่รอง ก่อนจะหอมแก้มอรุณสวัสดิ์

หนานกงฉีเฉิน “ให้ข้าอุ้มบ้าง พี่รองให้ข้าอุ้มเสี่ยวเป่าเถิด”

เขาก็อยากให้น้องหญิงหอมแก้มบ้างนะ!

เวลานี้ในหมู่พี่ชาย ความสำรวมตัวของคนโบราณได้สลายหายไปจนสิ้นแล้ว

อย่างไรเสียจะมีใครกันที่ไม่อยากได้การหอมแก้มจากน้องหญิงที่สุดแสนจะน่ารัก

เมื่อข้าเป็นองค์หญิงน้อยของฮ่องเต้ทรราช

เมื่อข้าเป็นองค์หญิงน้อยของฮ่องเต้ทรราช

Status: Ongoing
จากลูกเป็ดขี้เหร่สู่การเป็นองค์หญิงคนสุดท้องแห่งราชวงศ์ ความน่ารักของซูเสี่ยวเป่าพร้อมจะพิชิตใจทุกคนแล้ว!หลังจากภูตพฤกษาตัวน้อยตายลง นางก็มาเกิดในยุคสมัยโบราณ และหลงคิดไปว่าตนเองเป็นเพียงเด็กลูกชาวบ้านแถบชนบทธรรมดา ๆ แต่คาดไม่ถึงเลยว่าท่านพ่อที่นางไม่เคยพบหน้ามาก่อนจะมีภูมิหลังยิ่งใหญ่ปานนี้เขา…ถึงกับเป็นราชาของแผ่นดิน!เสี่ยวเป่าที่อายุเพียงสามขวบถูกพาตัวไปยังพระราชวังทันทีหลังจากที่แม่ของนางสิ้นชีพลง แล้วนางก็กลายเป็นองค์หญิงน้อย สตรีเพียงหนึ่งเดียวท่ามกลางพี่ชายแปดคน!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท