ตอนที่ 13 ภารกิจแบบสุ่ม
ไป๋เยี่ยพลิกตัวไปมาบนเตียง คงเป็นเพราะเครียดหรือตื่นเต้นไปหน่อย จึงนอนไม่หลับ
ลู่เผยอี้ยังคงอ่านหนังสือต่อไป คงจะกำลังอ่านโจทย์ของเซียวซิ่วหรงอยู่
ต้วนเย่ว์เองก็กำลังอ่านเรียงความภาษาอังกฤษ ตอนบ่ายพรุ่งนี้ต้องสอบวิชาภาษาอังกฤษ เที่ยงก็เป็นเวลากินข้าว เวลาจึงกระชั้นชิดเข้ามามากๆ
พ่างจื่อเป็นคนเดียวที่ไม่เครียดเลย เขานอนลงบนเตียงเพียงไม่กี่นาทีก็หลับไปแล้ว จากนั้นก็กรนออกมาเป็นระยะ ดังเบาสลับกันไป…
ไป๋เยี่ยรู้สึกจนปัญญาทั้งยังนอนไม่หลับ จึงเปิดหน้าจอโปร่งแสงขึ้นมา เขาทำภารกิจอัปเลเวลวิชาที่หน้าภารกิจเสร็จแล้ว ทว่าหลังหน้าภารกิจกลับมีข้อความบางอย่าง
[เหลือจำนวนครั้งจับรางวัลสามครั้ง]
จู่ๆ ไป๋เยี่ยก็นึกอะไรขึ้นมาได้ ลองดูหน่อยดีไหมนะ เมื่อความคิดนั้นได้ผุดขึ้นมา เขาก็ดับมันลงไม่ได้อีก
ไป๋เยี่ยตั้งสติให้มั่น แล้วกดจับรางวัลทันที!
จานหมุนเริ่มหมุนไปเรื่อยๆ จนไป๋เยี่ยสัมผัสได้ถึงความโชคดี หยุด!
เข็มหยุดลงในทันใด ก่อนที่ถุงโชคดีจะปรากฏขึ้นมาตรงนั้น
ไป๋เยี่ยอึ้ง นี่คืออะไร
เขาเปิดถุงโชคดีออก พร้อมกับมีเสียง ปัง! ดังออกมา ก่อนที่ดอกไม้ไฟจะปรากฏขึ้นบนหน้าจอ
[ติ๊ง! ได้รับถุงค่าประสบการณ์ เมื่อเปิดถุงจะได้รับค่าประสบการณ์ห้าพันแต้ม]
ถุงค่าประสบการณ์เหรอ มีของดีแบบนี้ด้วยแฮะ
อีกอย่างเรายังเลือกแบ่งห้าพันแต้มนี้เองได้ด้วย ปกติถ้าไป๋เยี่ยตะบี้ตะบันอ่านหนังสือหนึ่งวันเต็มๆ จะได้ค่าประสบการณ์แค่ร้อยสองร้อยแต้มเท่านั้น ฉะนั้นห้าพันแต้มนี้จึงเท่ากับการอ่านหนังสือครึ่งเดือนกว่าๆ
สุดยอด!
ได้เจ้านี่มาเร็วแล้วยังจะเศร้าอะไรอีก
จะแบ่งยังไงดีล่ะเนี่ย
รอก่อนแล้วกัน…ไม่รีบอยู่แล้ว
เริ่มต้นได้สวยเช่นนี้แล้ วไป๋เยี่ยก็ไม่รีรอที่จะจับรางวาลครั้งต่อไป
เข็มหยุดลงพร้อมกับค่อยๆ มีข้อความปรากฏขึ้นตรงหน้า
[การ์ดค่าประสบการณ์ห้าเท่า x 5
คำเตือน: หลังจากกดใช้จะได้รับค่าประสบการณ์ห้าเท่าภายในเวลาสองชั่วโมง หากใช้ร่วมกับโหมดเด็กเรียน ค่าประสบการณ์จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น หากใช้ในเวลาที่เหมาะสมจะเกิดผลลัพธ์ที่ดีขึ้น!]
ไป๋เยี่ยมองดูการ์ดค่าประสบการณ์ห้าเท่าพร้อมกับสูดหายใจเข้า นี่…ยังจะเพิ่มได้อีกเหรอ เป็นสมาชิกก็ได้สองเท่าแล้ว ถึงจะไม่รู้ว่าตอนใช้โหมดเด็กเรียนนั้นเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ แต่ก็คงไวแน่นอน แล้วถ้าใช้บัตรค่าประสบการณ์ห้าเท่านี่อีกล่ะ…
จะได้สักกี่แต้มเชียว…
ไป๋เยี่ยคิดไปคิดมาก็รู้สึกตื่นเต้นนิดๆ แค่ห้าใบมันน้อยเกินไป หนึ่งใบมีผลสองชั่วโมง รวมๆ กันก็แค่สิบชั่วโมงเอง
ดูทรงวันนี้ดวงจะดีแฮะ ฮ่าๆ ไปต่อเลยแล้วกัน!
จับรางวัล!
ติ๊ง!
หยุด!
ไป๋เยี่ยตาพร่าไปหมดเมื่อได้อ่านข้อความตรงหน้า
[การ์ดภารกิจระดับไม่มีดาวแบบสุ่ม หลังจากได้รับโอกาสจะสุ่มเปิดใช้ภารกิจหนึ่งรายการ คำเตือน: จะได้รับรางวัลหลังจากสำเร็จภารกิจนี้แล้ว ระดับของรางวัลจะขึ้นอยู่กับคะแนนภารกิจ หากปฏิเสธจะไม่ส่งผลใดๆ แต่จะถือว่าเป็นการละทิ้งภารกิจ รับภารกิจหรือไม่!]
ไป๋เยี่ยเพิ่งเคยได้รับการ์ดภารกิจระดับไม่มีดาว ก่อนหน้านี้ล้วนเป็นภารกิจหนึ่งหรือสองดาวทั้งนั้น ซึ่งเขาเองก็พอใจกับรางวัลแล้ว!
รางวัลจากภารกิจไม่มีดาวจะดีว่างั้นเหรอ
คิดได้ดังนั้น ไป๋เยี่ยก็ตั้งหน้าตั้งตารอ อย่างไรเสียตรงภารกิจก็บอกอยู่ว่าถ้าทิ้งไปจะไม่เกิดผลใดๆ อีกอย่าง แค่ทำๆ ไปก็คงมีความคืบหน้าอยู่แล้ว ถึงจะได้คะแนนน้อย แต่อย่างน้อยก็มีรางวัลแหละนะ!
หลังจากที่เข้าใจแล้ว ไป๋เยี่ยก็ตื่นเต้นมาก ของดีชัดๆ!
เขาถูมือตนเองและเป่าลมใส่มือทั้งสองข้าง อื้ม นี่แหละพลังเทพ!
เปิดถุง!
[ติ๊ง! กำลังจับคู่ภารกิจตามสภาพปัจจุบันของผู้ใช้วีไอพี…ติ๊ง! เปิดใช้งานภารกิจ ภารกิจระดับไม่มีดาวแบบสุ่ม: ภารกิจพิชิตคะแนนสอบ หลังจากการสอบจบลง ระบบจะทำการคำนวณคะแนนโดยอัตโนมัติ และจะทำการประเมินคะแนนออกมาตามคะแนนสูงต่ำที่ท่านได้ ยิ่งได้คะแนนสูง รางวัลก็ยิ่งเยอะ! สู้ๆ เด็กเรียน ชีวิตของท่านยังอีกยาวไกลนัก!]
คะแนนสอบ? คิดคะแนนตามผลสอบเหรอ ฟังดูเหมือนจะยุติธรรมดี แต่เราจะสอบได้กี่คะแนนกันนะ
ไป๋เยี่ยไม่มั่นใจเลยจริงๆ ถึงปกติเขาจะทำแบบทดสอบได้คะแนนเยอะก็เถอะ แต่คนเรามักจะกังวลกับสิ่งที่ยังไม่รู้
ผู้สอบสาขาแพทย์จะต้องสอบสามวิชาได้แก่ ภาษาอังกฤษ รัฐศาสตร์ และวิชารวมของแพทย์
วิชาภาษาอังกฤษเป็นวิชาที่คนกังวลในทุกๆ ปี เพราะว่าคะแนนไม่ผ่านเกณฑ์ ไม่ว่าจะทำคะแนนได้มากเพียงใดก็ไม่มีมหาวิทยาลัยไหนรับเข้าเรียนเลย อีกอย่างแต่ละมหาวิทยาลัยต่างก็มีเกณฑ์คะแนนที่แตกต่างกัน มหาวิทยาลัยยิ่งดีเกณฑ์ก็ยิ่งสูงตามไปด้วย
ทุกปีมีคนตกม้าตายตรงนี้ตั้งกี่คนก็ไม่รู้!
องค์กรเกี่ยวกับการสอบแห่งใหญ่ๆ ต่างก็ออกคอร์สเรียนภาษาอังกฤษมามากมาย ทั้งคอร์สเนื้อหาครบ คอร์สพื้นฐาน คอร์สเร่งด่วน คอร์สเก็งข้อสอบ…
และต่อให้จะมีนักศึกษาหลายคนที่ไม่สมัครคอร์สวิชาอื่นเลย แต่ก็ต้องไปสมัครวิชาภาษาอังกฤษอยู่ดี
ไป๋เยี่ยไม่รู้ว่าต้องได้กี่คะแนนจึงจะได้รางวัล ทำได้เพียงพยายามให้เต็มที่เท่านั้น!
คิดได้เช่นนั้นแล้ว เขาก็ค่อยๆ หลับตาลงนอน…
ไป๋เยี่ยถูกพ่างจื่อปลุกแต่เช้าตรู่ ทั้งสี่คนตื่นเช้าและไปกินข้าวเช้าที่โรงอาหารด้วยกัน
งานวิจัยบอกว่า การรับประทานอาหารเช้าที่เหมาะสมจะทำให้มีเรี่ยวแรงในตอนบ่าย ซึ่งมีประโยชน์ต่อการใช้ความคิด
นี่ถือเป็นครั้งแรกในรอบห้าปีที่ทั้งสี่คนมานั่งกินข้าวด้วยกันที่โรงอาหาร
วันนี้ไป๋เยี่ยตื่นมาพร้อมความหิวกว่าปกติ จึงกินปาท่องโก๋ไปหลายตัว
“เยี่ยจื่อ นายว่านายจะกินได้สักเท่าไหร่ ชิ…ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็…เรื่องกินฉันน่ะได้คะแนนเต็มแน่นอน!” พ่างจื่อมองไป๋เยี่ยด้วยท่าทีเย้ยหยัน
สิบห้านาทีก่อนเข้าห้องสอบ ทุกคนต่างรออยู่ด้านหน้าประตู ด้านนอกนั้นเต็มไปด้วยพนนักงานรักษาความปลอดภัยคอยตรวจตรา
พ่างจื่อเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นฝูงชนด้านนอก “นายว่าคงไม่มีใครโชคร้ายถึงขั้นมาสอบสายหรอกเนอะ เริ่มสอบได้สิบห้านาทีก็ไม่ให้เข้าห้องสอบแล้ว”
ลู่เผยอี้ส่ายหัว “อย่าว่าแต่มาสายเลย ยังมีอีกหลายคนที่ไม่มาสอบ แค่สมัครไปงั้นๆ เดี๋ยวเข้าไปนายก็รู้เอง”
ความจริงก็เป็นแบบนั้น คนสมัครสอบเรียนต่อในแต่ละปีมีจำนวนเยอะมาก แต่คนที่ยืนหยัดจนสอบเสร็จนั้นมีน้อยมาก
ตอนปีสี่ ในคาบเตรียมสอบเคยมีอาจารย์บอกว่า “จริงๆ แล้ว การสอบเรียนต่อของทุกปีนั้น มีคนสมัครร้อยคน จะมีสักสามสิบคนที่สมัครไว้พอเป็นพิธี และในอีกเจ็ดสิบคนที่เหลือ จะมีสักสี่สิบคนที่ไม่ตั้งใจทบทวน มาสอบแบบไม่คาดหวังอะไร สอบติดก็เรียน สอบไม่ติดก็ไปสมัครคอร์ส ส่วนอีกสามสิบคนที่เหลือนั้น บางคนก็ยอมแพ้ตั้งแต่สอบวิชาแรกเสร็จ เพราะฉะนั้น…คุณมีโอกาสสอบติดสูงมาก!”
ไป๋เยี่ยรู้ดี ตอนนั้นเป็นเพียงการประชุมจึงไม่ได้จริงจังมากนัก แต่เขากลับนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาได้
ที่นี่คือวิทยาลัยแพทย์ คนมาสอบจึงเยอะกว่าหน่อย ถ้าไม่สอบก็คงมีหนทางต่อไปที่ไม่ดีสักเท่าไหร่…