ตอนที่ 16 ความสำเร็จระดับสี่ดาว
เมื่อทั้งคู่มาถึงโรงอาหารก็พบว่ามีรถตำรวจจอดอยู่ ทั้งยังวุ่นวายโกลาหลอีกด้วย
เกิดอะไรขึ้น
ทุกคนเพิ่งออกมาจากห้องสอบก็เห็นว่าข้างนอกเกิดเรื่องวุ่นวาย จึงรีบไปมุงดูว่าเกิดเรื่องอะไร
หลังจากที่ทั้งสองคนเบียดเข้าไปได้ก็พบว่ามีชายคนหนึ่งถูกรถตำรวจชน
รอบข้างมีอาจารย์ในมหาวิทยาลัยหลายคน บ้างก็เป็นอาจารย์จากมหาวิทยาลัยของไป๋เยี่ย พ่างจื่ออดใจถามออกไปไม่ได้ “เกิดอะไรขึ้นเหรอ”
ในขณะที่ผู้คนรอบๆ ต่างก็พูดคุยกัน ผู้หญิงอายุราวๆ ห้าสิบปีดูภูมิฐานคนหนึ่งก็หันกลับมามองทุกคนและเอ่ยขึ้น “วันนี้ตอนสอบ ดิฉันพบเห็นการกระทำทุจริตจึงรีบแจ้งตำรวจ ดิฉันจะไม่ประนีประนอมการกระทำเช่นนี้แน่นอน!”
ไป๋เยี่ยรู้จักผู้หญิงคนนี้ เธอคือผู้อำนวยการมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีน เป็นหญิงแกร่งและไม่ยอมใครคนหนึ่ง
ที่แท้ก็เรื่องโกงข้อสอบนี่เอง ไม่แปลกใจ…
ปรากฏการณ์การโกงข้อสอบนี้มีให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ เป็นเรื่องที่ทั้งประเทศกำลังจับตามอง จึงมีการบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน ปี 2015 เป็นต้นมา มีการแก้ไขมาตรากฎหมายและประกาศใช้อย่างเป็นทางการในสนามสอบทั่วประเทศรวมทั้งการสอบเรียนต่อระดับปริญญาโท การสอบเข้ามหาวิทยาลัยทั่วไป การสอบเข้ามหาวิทยาลัยสำหรับผู้ใหญ่ การสอบสำหรับผู้ที่ศึกษาด้วยตนเอง การสอบเข้ารับราชการ และการสอบบรรจุเป็นครู เป็นต้น หากพบการทุจริตในสนามสอบดังกล่าว จะถือว่าเป็นการกระทำผิดทางอาญา ซึ่งมีโทษสูงสุดคือการจำคุกถึงเจ็ดปี
ตอนนี้จึงมีการต่อต้านพฤติกรรมทุจริตมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว!
ผู้อำนวยการเห็นว่าคนเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ ก็ตะโกนเสียงดังด้วยน้ำเสียงจริงจัง “การสอบมีความสำคัญต่อชีวิตของตัวผู้สอบอย่างหาที่สุดไม่ได้ พวกเราย่อมต่อต้านการกระทำทุจริตเช่นนี้! ประเทศของเรามีการบัญญัติการทุจริตไว้ในกฎหมาย ดิฉันหวังว่าทุกคนจะระวังการกระทำและคำพูดของตนเองนะคะ”
หลังพวกเขากลับมาจากไปกินมื้อเย็น เขาก็พบว่าลู่เผยอี้และต้วนเย่ว์ต่างก็กลับมาแล้ว
ทั้งสองคนดูมืดมน ไม่มีความสุข
พ่างจื่อถามขึ้น “เป็นอะไรไป ทำไมเอาแต่ถอนหายใจล่ะ”
ลู่เผยอี้ถอนหายใจ “บนเน็ตเฉลยคำตอบแล้วน่ะสิ ฉันเลยลองตรวจดู ผลคือ…ฉันผิดไอ้ข้ออ่านบ้านั่นไปสิบห้าข้อแล้ว! จบกัน…”
ต้วนเย่ว์กล่าวด้วยสีหน้าเศร้าหมอง “ฉันไม่เชื่อเรื่องลางร้ายๆ ก็เลยลองตรวจบ้าง ผิดไปแล้วสิบสี่ข้อ…จบกันกับภาษาอังกฤษ ถึงจะไม่ได้โง่ก็เถอะ แต่คงไม่ผ่านเกณฑ์ระดับประเทศหรอก!”
ไป๋เยี่ยชะงัก “คำตอบจากที่ไหนเหรอ”
ลู่เผยอี้ยื่นโทรศัพท์มา “มีองค์กรการสอบบางที่ปล่อยเฉลยออกมาบนเน็ตแล้ว ฉันเลยอดใจตรวจไม่ได้น่ะ…รู้งี้ไม่น่าตรวจเลย เฮ้อ…”
ไป๋เยี่ยรับโทรศัพท์มาผ่านดูผ่านๆ นี่คือเฉลยที่องค์กรไม่คุ้นชื่อเป็นผู้อัปโหลดเอง
ไป๋เยี่ยดูที่ส่วนข้อสอบอ่าน เพียงแต่ว่า…เฉลยนั้นก็ไม่เหมือนกับคำตอบของเขาเหมือนกัน
มีต่างกันประมาณสี่ห้าข้อ
อีกทั้งไป๋เยี่ยยังมั่นใจว่าคำตอบนั้นถูกด้วย!
ไป๋เยี่ยยกยิ้มก่อนจะเอ่ยขึ้น “พวกนายจะร้อนรนกันทำไม นี่พวกนายเชื่อเฉลยที่ใครก็ไม่รู้เป็นคนเขียนขึ้นแล้วอัปลงเน็ตเหรอ เฉลยนี้มันผิดโอเคไหม!”
ทุกคนอึ้ง เฉลยผิดงั้นเหรอ
ลู่เผยอี้เบิกตากว้าง “นายหมายความว่าคำตอบพวกนี้ผิดเหรอ”
ไป๋เยี่ยพยักหน้า “ใช่แล้ว! ตั้งหลายข้อเลยด้วย…ไม่เชื่อก็ลองเปิดดิกต์ดู”
ต้วนเย่ว์รีบคว้าโทรศัพท์มาค้นหาตามที่ไป๋เยี่ยบอก ครึ่งชั่วโมงผ่านไป ทุกคนก็ค่อยโล่งใจหน่อย
ต้วนเย่ว์ “ให้ตายเถอะ…ใจหายหมดเลย ฉันตื่นตูมไปเองแหละ ก็ยังดี ผิดไปเก้าข้อก็ถือว่าโอเคละ! พอใจแล้ว”
ลู่เผยอี้ก็สบายใจขึ้น “ตอนนี้พวกองค์กรใหญ่ๆ ก็ออกมาพูดแล้วว่าข้อสอบภาษาอังกฤษของปีนี้คือชุดที่ยากที่สุดในรอบสิบปี”
ไป๋เยี่ยพยักหน้าโดยที่ไม่ได้พูดอะไร
วันต่อมา เมื่อทุกคนมาถึงสนามสอบก็พบว่ามีป้ายขนาดใหญ่แขวนอยู่ด้านหน้า
‘ซื่อสัตย์ต่อการสอบ ห้ามทุจริต!’
วันนี้เป็นการสอบวิชาสุดท้ายแล้ว ซึ่งเป็นวิชาที่สำคัญที่สุด ไป๋เยี่ยจึงตั้งใจไม่กินข้าวเช้าเพราะกลัวว่าจะท้องเสียอีก
วิชารวมแพทย์แผนจีนคะแนนเต็มสามร้อยคะแนน ข้อเลือกตอบหนึ่งตัวเลือก ข้อละหนึ่งจุดห้าคะแนน มีทั้งหมดหนึ่งร้อยยี่สิบข้อ ข้อเลือกตอบหลายตัวเลือก ข้อละสองคะแนน ทั้งหมดหกสิบข้อ ครอบคลุมเนื้อหาเรื่องทฤษฎีพื้นฐานการแพทย์แผนจีน การวินิฉัยโรค เวชกรรม วิชายาจีน อายุรศาสตร์ภายใน และวิชาฝังเข็ม
จากการอ่านหนังสือช่วงนี้ วิชาแพทย์แผนจีนคือวิชาที่ไป๋เยี่ยถนัดมากที่สุด
เขาพบว่าข้อสอบครั้งนี้มีการแบ่งระดับความยาก ตั้งแต่ระดับง่าย กลาง จนถึงยาก เป็นระดับๆ ไป!
เช่นข้อนี้ อวัยวะตันทั้งห้าส่วนใดบ้างที่มีบทบาทสำคัญในการขับของเหลว
ไป๋เยี่ยนึกคำตอบขึ้นมาในใจ ปอด ตับ ไต
ปอดเป็นแหล่งกำเนิดของน้ำ และเป็นทางผ่านของน้ำ ตับมีหน้าที่ในการขับของเหลว ซึ่งไตจะขับน้ำเป็นหลัก นี่คือคำตอบมาตรฐาน
ส่วนคำถามต่อไปนั่นก็คือ การขับเหงื่อทำให้ลมปราณมีการทำงานอย่างไรบ้าง
ข้อนี้ค่อนข้างยาก แค่น้ำกับเหงื่อก็ไม่เหมือนกันแล้ว
ไป๋เยี่ยทำข้อสอบอย่างรอบคอบ เพราะว่าจำนวนข้อนั้นเยอะมาก จึงต้องตั้งใจ
เขาใช้เวลาไปเพียงหนึ่งชั่วโมงครึ่งก็ทำข้อสอบเสร็จแล้ว เขาตรวจคำตอบดูอีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะฝนกระดาษคำตอบ
การฝนคำตอบสองร้อยกว่าข้อช่างเป็นงานใหญ่เหลือเกิน!
ไป๋เยี่ยใช้เวลาครึ่งชั่วโมงไปกับการฝนคำตอบจนทั่งกระดาษมีแต่จุดสีดำ!
เมื่อสอบเสร็จ ขณะที่ไป๋เยี่ยเพิ่งเดินออกมาจากห้องสอบก็ได้ยินเสียงแจ้งเตือนจากระบบ
[ติ๊ง! ทำภารกิจสุ่มระดับไม่มีดาวสำเร็จแล้ว
คะแนนที่ได้: รัฐศาสตร์ หกสิบเอ็ดคะแนน
ภาษาอังกฤษหนึ่งร้อยคะแนน
วิชารวมแพทย์แผนจีนสามร้อยคะแนน
คะแนนรวมสี่ร้อยหกสิบเอ็ดคะแนน
ระดับความสำเร็จ: ★★★★ ความสำเร็จระดับสี่ดาว
ได้รับรางวัล: ทักษะ: การอ่านเร็ว เลเวลสอง]
[ติ๊ง! ได้รับสกิลใหม่: การอ่านเร็ว ในฐานะที่เป็นเด็กเรียนย่อมต้องมีคุณลักษณะพิเศษของเด็กเรียน นั่นคือการมีความรู้อู้ฟู่ การอ่านเร็วจึงเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับการอ่านหนังสือนับหมื่นหน้า]
[เลเวลสกิลปัจจุบัน: การอ่านเร็ว เลเวลสอง: 0/5000
มีผล: อ่านสิบบรรทัดได้ในทีเดียว
คำเตือน: การอ่านสิบบรรทัดได้ในทีเดียวนั้นเป็นสถานะการอ่านเร็ว การเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด โปรดเริ่มต้นการเรียนรู้ของคุณ]
ไป๋เยี่ยสั่นไปทั้งร่าง จู่ๆ ก็รู้สึกว่าตนเองนั้นมีพรสวรรค์ สุดยอดเลย ระบบไม่หลอกลวงจริงด้วย
ขอบคุณมากนะระบบ…
[การแบ่งเลเวลอาชีพ]
มาตรฐานการแบ่งเลเวลทักษะทางวิชาการ:
เลเวลศูนย์: ระดับเริ่มต้น: มีความเข้าใจในตัววิชา มีพื้นฐานซึ่งจะนำไปสู่การสร้างทักษะ
เลเวลหนึ่ง: ระดับชำนาญ: มีความชำนาญในวิชานำมาประยุกต์ใช้ได้อย่างช่ำชอง
เลเวลสอง: ระดับเชี่ยวชาญ: มีความเชี่ยวชาญในวิชานั้นๆ ถใช้ประโยชน์จากข้อดีของตัววิชาได้
เลเวลสาม: ระดับอาชีพ: มีความรู้เหนือชั้นในวิชา สามารถเป็นผู้ถูกเลือกในสาขาอาชีพได้
เลเวลสี่: ระดับผู้เชี่ยวชาญ: เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงในสาขาวิชา เป็นผู้นำทางด้านวิชาการ
เลเวลห้า: ระดับอาจารย์: มีความเข้าใจในวิชาอย่างทะลุปรุโปร่ง มีแบบแผนของตนเอง เป็นดั่งอาจารย์
เลเวลหก: ระดับปรมาจารย์: สร้างสรรค์ศาสตร์ใหม่ขึ้นมา และก่อให้เกิดผลอันกว้างไกล
เลเวลเจ็ด: ระดับราชัน: อยู่บนจุดสูงสุดของศาสตร์นั้นๆ
เลเวลแปด: ระดับดาวเคราะห์: ผลักดันให้โลกเกิดการพัฒนาและสร้างยุคสมัยใหม่ขึ้น ตัวคุณคือเทพผู้สร้าง
เลเวลเก้า: ระดับดาวฤกษ์: เป็นผู้นำยุคสมัยไปนับหลายร้อยปี
(ไม่ใช่ทุกวิชาที่จะเรียนรู้ถึงเลเวลเก้าได้ หลายวิชาต่างก็มีขีดจำกัดเลเวลสูงสุด)