ตอนที่ 37 แหล่งฟาร์มค่าประสบการณ์ในตำนาน
ไม่มีความบังเอิญในชีวิตของคนเรา
ทางโรงแรมได้จัดแบ่งห้องพักไว้เป็นอย่างดี ทว่าไป๋เยี่ยกลับบังเอิญได้พักห้องเดียวกันกับสวี่จงเหล่ย
ทั้งคู่สบตากันทันทีที่ก้าวขาเข้ามาในห้อง สวี่จงเหล่ยเป็นฝ่ายตอบโต้ก่อนโดยพยักหน้าให้ไป๋เยี่ย
ถือเป็นการแสดงทัศนคติอย่างหนึ่ง
ชีวิตคนเราไม่ใช่นิยาย ไม่ต้องการคำชมเชย หรือการแสดงออกมากมาย
แต่จะว่าไป ไป๋เยี่ยกับสวี่จงเหล่ยมีความแค้นอะไรต่อกันหรือ แน่นอนว่าไม่ ระยะห่างระหว่างทั้งคู่นั้นเกิดจากเจตนาของหลิวเจิ้นซีต่างหาก
ไป๋เยี่ยเอาชนะตนเองครั้งแล้วครั้งเล่า แม้ว่าเขาจะไม่ได้ยอมรับมัน แต่เขาย่อมรู้อยู่แก่ใจว่าตัวเขานั้นพิเศษกว่าคนทั่วไป
สวี่จงเหล่ยเองก็ครองตนอยู่บนความมีสติหลังจากที่โดนหวังเหมิ่งทุบรถไปตอนนั้น
เช้าวันต่อมา ทุกคนตื่นมารับประทานอาหารเช้าที่โรงอาหารของโรงแรม และมายังห้องประชุมที่จองไว้
ทันทีที่เข้ามาก็ได้พบกับชายสูงอายุคนหนึ่งยืนอยู่บนโพเดียมพร้อมกับถือไม้เท้าไว้ เขายืนตัวตรงสวมชุดสูทสีเทาและรองเท้าหนัง ภาพลักษณ์ดูมีภูมิฐาน
เขามีนามว่า ‘หลีว์จิ่งเทียน’ ไป๋เยี่ยเคยเห็นเขาจากในโทรทัศน์มาก่อน เป็นหนึ่งในสิบแปดยอดอาจารย์แพทย์จากทั้งทั่วประเทศ ปีนี้เขาก็อายุได้แปดสิบห้าปีแล้ว
พูดแบบไม่อวย ปรมาจารย์ด้านการแพทย์แต่ละท่านถือเป็นสมบัติของชาติและประชาชน
ชายสูงอายุเห็นว่าทุกคนนั่งลงแล้วก็ไม่รอเสียเวลา เขาพยักหน้าก่อนจะเอ่ยขึ้นช้าๆ “ทุกท่านโปรดชี้แนะ”
ทั้งห้องประชุมมีคนอยู่เพียงสิบสองคน ได้แก่ หลีว์จิ่งเทียน ผู้เข้าแข่งขันทั้งสิบคน และหญิงสาวที่คอยพยุงหลีว์จิ่งเทียนอยู่ข้างๆ
“ก่อนอื่น ผมอยากถามทุกท่านว่า ‘การแพทย์แผนจีนคืออะไร’”
ชายสูงอายุพูดต่อ “ทำไมประเทศเราถึงเรียกแพทย์แผนจีนว่าแพทย์แผนจีนนั้น อันที่จริงแล้วมีนิยามอยู่มากมาย บางคนบอกว่าเพราะมันมาจากประเทศจีนและเป็นของชนชาติจีนอย่างเราๆ จึงเรียกว่าแพทย์แผนจีน หรือ ‘ฮั่นอี’ หรืออีกนิยามหนึ่ง คำว่า ‘จง’ มาจากตำรา ‘จงยง’[1] ซึ่งเป็นแก่นความคิดอย่างหนึ่งของปรัชญาและวัฒนธรรมจีนยุคโบราณ และปรัชญาเหล่านี้ก็ล้วนกระทบต่อชีวิตประจำวันของเราในทุกๆ ด้าน ทั้งด้านการปฏิบัติตน การทำงาน และการศึกษา ซึ่งรวมกันอยู่ในตัวอักษร ‘จง’ ตัวเดียว จึงเรียกแพทย์แผนจีนว่า ‘จงอี’ นั่นเอง
ส่วนในคัมภีร์ ‘หวงตี้เน่ยจิง’ มีคำกล่าวว่า ‘แพทย์ผู้มากวิชาจะป้องกันไม่ให้เกิดโรคร้าย’ ถือเป็นมุมมองอย่างหนึ่ง แต่สำหรับผมแล้ว ที่เราเรียกแพทย์แผนจีนว่า ‘จงอี‘ นั้น มีที่มาจากแนวคิดเรื่องการรักษาโรค ‘จง’ ในที่นี้มาจากคำว่า ‘จงเจิ้ง’ (ความสมดุล) และการปรับสมดุลของธาตุหยินและหยาง การไหลเวียนของลมปราณและโลหิต คือความสมดุลของร่างกายเราที่แปรเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
ส่วนการแพทย์แผนจีนนั้นใช้การรักษาโรคโดยการปรับสมดุลของหยินหยาง ลมปราณ โลหิต และของเหลวในร่างกาย ทำให้สมดุลของหยินหยางอยู่ในจุดที่เหมาะสม ซึ่งนี่ก็คือความหมายของการแพทย์แผนจีนในความคิดของผม”
“ในวงการแพทย์แผนจีนมีทั้ง ‘หลี่ตงหยวน[2]’ จากโรงเรียนแพทย์ปู๋ถู่, ‘หลิวหวานซู่[3]’ จากโรงเรียนแพทย์หานเหลียง, ‘จางฉงเจิ้ง[4]’ จากโรงเรียนแพทย์กงเสียและ ‘จูตันซี[5]’ จากโรงเรียนแพทย์ซือหยิน เป็นต้น ส่วนในสมัยใหม่ก็มี ‘หลีเข่อ[6]’ จากโรงเรียนแพทย์หั่วเสิน มีศาสตร์แพทย์แผนจีนมากมายหลายแขนง แต่แพทย์แผนจีนในความคิดของผมนั้นคือแพทย์จากโรงเรียนแพทย์จงเหอ!”
“แน่นอนว่า คนไข้หนึ่งคนจะมีแพทย์จีนหนึ่งคนประจำตัว คนพันคนก็มีแพทย์จีนทั้งสิ้นพันคน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความรู้ด้านการรักษาโรค…”
อาจารย์หลีว์บรรยายเรื่องแนวคิดของโรงเรียนแพทย์แต่ละแห่งพ่วงด้วยเนื้อหาจากตำรา ‘หวงตี้เน่ยจิง’ และ ‘โจวอี้’[7] ได้อย่างลึกซึ้ง
ไป๋เยี่ยตกอยู่ในภวังค์
ค่าประสบการณ์พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ทุกๆ ชั่วโมง ค่าประสบการณ์จะเพิ่มขึ้นถึงห้าร้อยแต้ม! หรือว่านี่จะเป็นแหล่งฟาร์ม[8]ค่าประสบการณ์ในตำนานกันนะ
แม้ว่าจะมีโบนัสค่าประสบการณ์จากวีไอพีอยู่แล้ว แต่ความรู้ที่อาจารย์หลีว์สอนนั้นเยอะมาก ค่าประสบการณ์จึงอู้ฟู่ตามไปด้วย
แล้วค่าประสบการณ์ที่ได้จากการอ่านหนังสือจะเหมือนกับที่ได้จากการฟังอาจารย์บรรยายไหมนะ
มันต้องไม่เหมือนกันแน่ๆ!
โอกาสหายากแบบนี้ทำให้ไป๋เยี่ยต้องหันมาใช้ความคิดบ้างแล้ว เราควรจะเปิดโหมดเร่งค่าประสบการณ์ห้าเท่าหรือเปล่า!
คิดได้ดังนั้น ไป๋เยี่ยก็เลือกใช้การ์ดค่าประสบการณ์ห้าเท่าทันที!
เขาจำได้ว่าตนเองมีการ์ดใบนั้นจึงตัดสินใจใช้มันตอนนั้นเลย
ไม่มีโหมดสวมร่างเด็กเรียนแล้ว แต่ว่าวีไอพีสองมีโหมดเปลี่ยนบรรยากาศมาแทน
คงจะไม่ต่างกับโหมดเด็กเรียนมากหรอกมั้ง
[เปิดโหมดเปลี่ยนบรรยากาศ เวลาคงเหลือ 4 วัน 23 ชั่วโมง…]
[ใช้การ์ดเร่งค่าประสบการณ์ห้าเท่า เวลาคงเหลือ 1 ชั่วโมง 59 นาที…]
หลังจากนั้นไป๋เยี่ยก็รู้สึกว่าภาพตรงหน้าเริ่มเปลี่ยนไป
ราวกับว่าไป๋เยี่ยได้ก้าวเข้าไปยังโลกอีกใบหนึ่ง ที่นี่คือโลกจำลองของอาจารย์หลีว์ เขาสัมผัสได้ถึงความรู้อันลึกซึ้งที่มีต่อการแพทย์แผนจีน ทุกประโยคของอาจารย์หลีว์ที่เขาได้ยินนั้นชวนให้เขานึกถึงเคสผู้ป่วยหลากหลายเคส ทำให้เขายิ่งเข้าใจได้ลึกซึ้งกว่าเดิม
นี่แหละของจริง!
ถ้าไม่มีประสบการณ์ทางคลินิกจะเป็นยอดปรมาจารย์ได้ไง
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงแล้ว เสียงของอาจารย์หลีว์แผ่วลงเรื่อยๆ ก็เล่นสอนรวดเดียวสี่ชั่วโมง ไม่เหนื่อยสิแปลก!
อีกอย่าง อาจารย์หลีว์ก็อายุแปดสิบห้าแล้ว เขาคงไม่ได้แกล้งเหนื่อยเล่นหรอก
ไป๋เยี่ยเหลือบมองค่าประสบการณ์ก่อนจะอึ้งไปในทันที
[ทฤษฎีพื้นฐานการแพทย์แผนจีน 16000/30000]
เช้านี้ได้ค่าประสบการณ์มาตั้งหมื่นหก!
ไป๋เยี่ยแทบไม่เชื่อสายตาตนเอง
เขาใช้การ์ดเร่งค่าประสบการณ์ไปสองใบ เปิดโหมดเปลี่ยนบรรยากาศซึ่งเป็นสิทธิพิเศษของวีไอพี ทำให้ค่าประสบการณ์พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว!
อีกทั้งยังไม่ใช่แค่ค่าประสบการณ์เท่านั้นที่เพิ่มขึ้น แต่ค่าประสบการณ์ทุกแต้มนั้นล้วนแฝงด้วยความรู้วิชาทฤษฎีพื้นฐานการแพทย์แผนจีน!
น่าเสียดายที่เขามีการด์เร่งค่าประสบการณ์แค่ห้าใบ ไม่อย่างนั้นภายในห้าวันนี้เขาคงได้สร้างตำนานแล้วแท้ๆ!
หลังจากที่ทุกคนกลับมาจากการพักผ่อนแล้ว อาจารย์หลีว์ก็เริ่มสอนต่อ ไป๋เยี่ยจึงเปิดใช้ ‘โหมดเปลี่ยนบรรยากาศ’ และ ‘การ์ดเร่งค่าประสบการณ์ห้าเท่า’ โดยไม่ลังเล
โอกาสแบบนี้ไม่ได้มาง่ายๆ ต้องรักษาไว้ดีๆ
วันแรกจบลงโดยที่ค่าประสบการณ์วิชาทฤษฎีพื้นฐานการแพทย์แผนจีนของไป๋เยี่ยขึ้นเป็น เลเวลสี่ 25000/30000 แต่หลังๆ ค่าประสบการณ์ก็ค่อยๆ เพิ่มช้าลง
อาจเป็นเพราะประสิทธิภาพในการรับความรู้นั้นน้อยลง แต่เท่านี้ก็ได้ประโยชน์มากแล้ว!
เพียงวันเดียว ค่าประสบการณ์วิชาทฤษฎีพื้นฐานการแพทย์แผนจีนก็เพิ่มขึ้นตั้งสองหมื่นห้าพันแต้ม
ที่สำคัญคือความเข้าใจในศาสตร์แพทย์แผนจีนได้เพิ่มขึ้นอีกระดับหนึ่ง ซึ่งช่วยไป๋เยี่ยในการสร้างแนวคิดของตนเองได้มากเลยทีเดียว
นี่แหละปรมาจารย์ของแท้
อาจารย์หลีว์ปิดหนังสือพร้อมกับหลับตาลงครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อยๆ ยืนขึ้นและโค้งคำนับให้ทั้งสิบคน
“ผมอายุมากแล้ว ขอส่งต่อความรู้ด้านการแพทย์แผนจีนนี้ให้พวกคุณ โปรดดูแลไว้ตราบชั่วชีวิต!”
เมื่อได้ฟังคำพูดของอาจารย์หลีว์ ทั้งสิบคนก็ตะลึง แม้จะเป็นเพียงคำพูดสั้นๆ แต่กลับทำให้ทุกคนขนลุกได้!
โดยเฉพาะไป๋เยี่ย เพราะเขาเปิดโหมด ‘เปลี่ยนบรรยากาศ’ จึงรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของอาจารย์หลีว์จนน้ำตาแทบจะไหลออกมา
โปรดดูแลไว้ตราบชั่วชีวิต!
ดูแลอะไรเหรอ
ดูแลคนแก่อะนะ ไม่โว้ย!
ดูแลการแพทย์แผนจีนต่างหาก!
นี่แหละสิ่งที่แพทย์แผนจีนรุ่นใหม่ต่างปรารถนา!
หญิงสาวพยุงร่างอาจารย์หลีว์ขึ้น โดยมีทั้งสิบคนกำลังโค้งคำนับให้เขา หลังจากที่อาจารย์หลีว์ออกไปไม่นาน ทุกคนก็หันมาด้วยแววตาที่เปี่ยมด้วยความจริงใจ!
จางจี๋เซียนเดินมาหาไป๋เยี่ยช้าๆ แล้วเอ่ยขึ้น “ฝากด้วยนะไป๋เยี่ย! สู้ๆ ล่ะ! สู้เพื่อจิ้นซีของพวกเรา!”
ไป๋เยี่ยชะงัก เขากำลังจะปริปากเอ่ยบางอย่าง ทว่าสวี่จงเหล่ยกลับเดินมาข้างๆ เขาและพูดขึ้น “ก่อนหน้านี้ผมผิดเอง ผมไม่ควรหาเรื่องคุณเลย ผมรู้ว่าคุณเป็นอัจฉริยะ เพราะงั้นต้องสู้ๆ นะ! สู้เพื่อการแพทย์ของจิ้นซี อย่าทรยศต่อความจริงใจและความเหนื่อยยากของอาจารย์หลีว์ล่ะ!”
คนอื่นๆ ก็พากันพูดตาม “ฝากด้วยนะไป๋เยี่ย!”
ดวงใจของไป๋เยี่ยสั่นไหว เขารู้สึกว่าตนมีภารกิจสำคัญที่ต้องจัดการแล้ว!
[1] จงยง เป็นคำภีร์ที่ว่าด้วยเป็นหลักการสำคัญของชนชาติจีนตั้งแต่อดีตสืบมาจนถึงปัจจุบัน ในการบริหารประเทศชาติบ้านเมือง
[2] หลี่ตงหยวน เป็นแพทย์จีนในยุคราชวงศ์จิน
[3] หลิวหวานซู่ เป็นแพทย์จีนในยุคราชวงศ์จิน
[4] จางฉงเจิ้ง เป็นแพทย์และนักเขียนในยุคราชวงศ์จิน
[5] จูตันซี เป็นแพทย์และนักเขียนในยุคราชวงศ์หยวน
[6] หลีเข่อ เป็นแพทย์จีนท่านหนึ่ง เกิดในปี 1930 ที่มณฑลซานซี
[7] โจวอี้ คัมภีร์หรือตำราอธิบายกว้าหรือฉักลักษณ์ทั้ง 64 และลายเส้นทั้งหมดภายในกว้าหรือฉักลักษณ์ ซึ่งเขียนขึ้นโดย โจวเหวินหวัง แห่งราชวงค์โจว
[8] ฟาร์ม ศัพท์ทางการเล่นเกม หมายถึงการตั้งใจเก็บสะสมค่าประสบการณ์, เลเวล เงิน หรือไอเทมในเกม