ตอนที่ 68 สมบัติจากท้องสุนัข
สุนัขตัวนี้ขนาดตัวกลางๆ สูงประมาณครึ่งตัวของคน ขนของมันยุ่งเหยิงและแหว่งไปหลายจุด อีกทั้งยังเป็นขี้เรื้อนด้วย
มันผอมโซจนหนังหุ้มกระดูก แถมยังเดินช้าจนแทบจะทรุดลงไปกับพื้นได้ทุกเมื่อ เห็นได้ชัดว่ามันอ่อนแรงมากๆ
มันหันมาทางไป๋เยี่ยและมองเขาด้วยดวงตาที่คล้ำดำและแดงระเรื่อ
สุนัขตัวนี้ป่วยหนักและกำลังจะหิวตาย!
ไป๋เยี่ยไม่รอช้า เขาเทเครื่องในหมูในถุงออกและเรียกมันมา
ทันทีที่สุนัขตัวนั้นได้กลิ่นคาวเลือด มันก็เร่งฝีเท้าเข้ามาตามสัญชาตญาณ
มันเร่งฝีเท้าและล้มลงกับพื้น แล้วจึงค่อยๆ ตะเกียกตะกายลุกขึ้นมาใหม่
ไป๋เยี่ยเห็นมันกินก็ได้แต่คิดว่ามันคงมีชีวิตอยู่อีกไม่นาน
แต่…อย่างน้อยก็ดีกว่าปล่อยให้มันหิวตาย
ไป๋เยี่ยรอสุนัขตัวนั้นกินเสร็จแล้วถึงค่อยกลับบ้าน
วันนี้เป็นวันสิ้นปี ผู้คนต่างพากันแขวนโคมไฟและติดกลอนคู่ หลังจากที่กินข้าวเที่ยงแล้ว ไป๋เยี่ยและไป๋หลิงก็เดินถือแป้งเปียกและแปรงตามเถ้าแก่ไป๋ไปติดกลอนคู่
อากาศในฤดูหนาวเย็นเยือก ยิ่งถ้าเป็นตอนค่ำ แป้งเปียกจะแข็งตัวไวจนแปะไม่ได้ ทุกคนจึงรอติดกลอนคู่ตอนช่วงเช้าแทน
ในหมู่บ้านมีธรรมเนียมปฏิบัติช่วงปีใหม่ค่อนข้างมาก จึงครึกครื้นกว่าในเมืองหลายเท่า
หลังจากที่ไป๋ตงหลินติดกลอนคู่ที่บ้านของตนเสร็จแล้วก็แวะไปติดให้ที่บ้านของเหล่าเหอบ้าง
ไป๋ตงหลินเป็นคนเขียนกลอนคู่ทั้งหมดด้วยตนเอง ไป๋เยี่ยต้องยอมรับว่าเถ้าแก่ไป๋เขียนกลอนคู่สวยขึ้นเรื่อยๆ จริงๆ
ไป๋ตงหลินกำลังก่อไฟด้วยกิ่งไม้และกิ่งหม่อนอยู่ที่สวนหลังบ้าน การก่อไฟในตอนเช้าของวันขึ้นปีใหม่หมายความถึงปีใหม่อันรุ่งเรือง ซึ่งนี่ก็เป็นหนึ่งในธรรมเนียมของตระกูลไป๋
ทันทีที่ไป๋เยี่ยก้าวขาออกจากบ้านก็ได้พบกับสุนัขตัวนั้นอีกครั้ง
ทว่า…มันกลับกลายเป็นร่างไร้วิญญาณท่ามกลางหิมะไปแล้ว
ศพของมันแข็งทื่อ ไป๋เยี่ยถอนหายใจ ตายแล้วเหรอเนี่ย เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกลบฝังร่างของมันไว้
ขณะที่ไป๋เยี่ยกำลังลากร่างของมันมาข้างๆ เขาก็รู้สึกว่าลักษณะของสุนัขตัวนี้คล้ายกับคำอธิบายในตำราหลายเล่ม
‘โก๋วเป่า[1]เป็นก้อนหินที่เกิดในท้องของสุนัขขี้เรื้อน มีสีขาวอมเขียว ฝังอยู่ในชั้นเนื้อ ถือเป็นสิ่งหายาก’
‘โก๋วเป่าจะเกิดในสุนัขขี้เรื้อนที่ป่วยหนัก ขนแหว่ง ตัวซีด’
นี่คือคำอธิบายของหลี่สือเจินเกี่ยวกับ ‘โก๋วเป่า’ ในตำรา ‘เปิ๋นเฉ่ากังมู่’
ไป๋เยี่ยยิ่งมองก็ยิ่งคิดว่าลักษณะของสุนัขตัวนี้เหมือนกับในคำอธิบาย ตัวนี้จะมีไหมนะ
โก๋วเป่าถือเป็นของหายาก ไป๋เยี่ยที่อ่านบันทึกเกี่ยวกับมันจากในตำราโบราณมามากก็เริ่มรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อย
คิดได้ดังนั้น ไป๋เยี่ยก็ไปหยิบมีดมาจากในบ้าน
โก๋วเป่าคือหินที่อยู่ในท้องของสุนัข
เขาผ่าท้องสุนัขตัวนั้นออก
เขาผ่าได้อย่างคล่องมือเพราะหัดเชือดหมูมาก่อนหน้านี้ เมื่ผ่าไปถึงส่วนกระเพาะของสุนัขแล้วก็ผ่าเปิดออก
ไป๋เยี่ยเห็นว่ามีก้อนหินอยู่ในนั้น!
เขาหยิบก้อนหินออกมาก่อนจะฝังสุนัขตัวนั้นไปพร้อมกับมีด แล้วกลับบ้านไปพร้อมกับก้อนหินก้อนนั้น!
เมื่อกลับมาถึงบ้าน ไป๋เยี่ยก็ล้างก้อนหินด้วยน้ำ มันเป็นก้อนหินทรงรีสีเทาๆ ขาวๆ มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณสี่เซนติเมตร มีเนื้อหนัก แน่นและละเอียด ไป๋เยี่ยลองใช้เล็บขูดๆ ดูและพบว่ามันเป็นรอย
นี่ต้องเป็นโก๋วเป่าแน่ๆ!
ไป๋เยี่ยไม่คิดเลยว่าแค่ให้อาหารหมาจะทำให้เขาได้พบกับของล้ำค่าเช่นนี้ เป็นเรื่องเหลือเชื่อจริงๆ
ทั้งโก๋วเป่า หนิวหวง[2] และหมาเป่า[3]ถือเป็นสามสมบัติอันล้ำค่า เป็นยาที่มีมูลค่าสูงจนตีราคาไม่ได้
มันมีราคาสูงมากในตลาดมืด แต่ถึงกระนั้นไป๋เยี่ยก็ไม่ต้องการขาย!
เขาคิดว่าโก๋วเป่าที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติย่อมมีคุณค่าต่อการวิจัยมากกว่าการขายทอดสู่ตลาด อีกทั้งโก๋วเป่ายังนำไปใช้รักษาอาการต่างๆ ได้ เช่น ขับลมปราณ ย่อยอาหารตกค้าง แก้พิษ แก้อาการกลืนลำบาก แก้คลื่นไส้ บรรเทาอาการแน่นหน้าอก รักษาตุ่มฝีตามผิวหนัง เป็นต้น
อีกทั้งในปัจจุบันยังมีคนนำโก๋วเป่ามาใช้ในการรักษาโรคมะเร็งทางเดินอาหารและได้ผลอีกด้วย
ไป๋เยี่ยคิดว่าการที่เขาได้รับสมบัติชิ้นนี้มานั้นเป็นเรื่องน่าทึ่งซึ่งเขาคาดไม่ถึง
ตกค่ำ ครอบครัวไป๋ต่างกำลังห่อเกี๊ยวปีใหม่ ในขณะที่กลุ่มแชทห้องไป๋เยี่ยกำลังสนุกสนานกันอยู่
ทุกคนแย่งอั่งเปาและพูดคุยหยอกล้อกัน
ทว่า…จู่ๆ พ่างจื่อก็โพล่งขึ้นมา
[หึๆ…พรุ่งนี้ผลสอบจะออกแล้ว รู้สึกเครียดยังไงก็ไม่รู้! ไม่เห็นจะดีใจเลย!]
ทันใดนั้นทั้งกลุ่มแชทก็เงียบกริบ
ไป๋เยี่ยรู้สึกประทับใจพ่างจื่อตรงที่เขาเป็นคนพูดจาไม่คิดร้ายกับใครเลย
แต่เขากลับทำให้คนอื่นรู้สึกอึดอัดได้ตลอดเวลาจริงๆ!
ทันทีที่ทุกคนเงียบไป พ่างจื่อก็ส่งข้อความมาอีก
[เฮ้อ ว่าแต่สมัครสอบรอบสองกันหรือยังน่ะ ปีหน้าทุกคนเตรียมสอบกันยัง มาสมัครเป็นเพื่อนฉันเถอะนะ!]
ไอ้หมอนี่…ปีใหม่แท้ๆ กะจะไม่ให้คนอื่นมีความสุขกับวันปีใหม่เลยหรือไง
คิดว่าทุกอย่างจบแล้วงั้นเหรอ
ไม่ ไม่ ไม่! อย่าได้ประเมินพ่างจื่อต่ำไปเด็ดขาด!
พ่างจื่อแท็กชื่อไป๋เยี่ยในกลุ่ม [ไป๋เยี่ย พ่อบอกว่าถ้าปีนี้ฉันสอบไม่ผ่านจะให้ไปสานต่อกิจการที่บ้านน่ะ เฮ้อ…ถึงฉันจะอยากเป็นหมอก็เถอะ แต่…พ่อก็ยังยืนกรานให้กลับไปเป็นผู้จัดการเงินเดือนสามแสนหยวนต่อปีอยู่ดีนั่นแหละ เฮ้อ…น่ารำคาญชะมัดเลย!]
ไป๋เยี่ยเบ้ปาก ไอ้หมอนี่…สมควรโดนสักหมัดจริงๆ!
ขณะที่ทุกคนกำลังพร้อมใจกันเตะพ่างจื่อออกจากกลุ่มนั้น เขาก็โยนอั่งเปามาหนึ่งซอง
อืม ไม่เลว อั่งเปา 0.01 หยวน สี่สิบซอง
และในขณะที่คนจัดการกลุ่มแชทกำลังเปิดหน้าจัดการกลุ่มแชทขึ้นมา เขาก็ส่งอั่งเปามาอีกซอง
อืม ครั้งนี้ไป๋เยี่ยดวงไม่ดีเท่าไหร่จึงได้แค่ 1.99 หยวน ในขณะที่คนอื่นได้กันสี่ห้าหยวน
แล้วเจ้าหมอนั่นก็ส่งอั่งเปาสองร้อยหยวนมาหนึ่งซอง!
ตามมาด้วยอั่งเปาสองร้อยหยวนจากพ่างจื่ออีกสองซอง กลุ่มแชทจึงกลับมาครึกครื้นอีกครั้งหนึ่ง อย่างไรเสียพ่างจื่อก็มีชื่อเสียงเรื่องชอบทำอะไรแปลกๆ อยู่แล้ว ซึ่งทุกคนก็ชินแล้ว และรู้ว่าเขาไม่ใช่คนคิดร้ายอะไรเลย
ไป๋เยี่ยปิดโทรศัพท์ เขาคิดว่าเขาควรใช้ช่วงเวลานี้กับคนในครอบครัวมากกว่า
แม้ว่าจะแค่พูดคุยกันสบายๆ ดูงานฉลองปีใหม่ ห่อเกี๊ยวด้วยกัน แต่ไป๋เยี่ยกลับรู้สึกว่านี่คือความสุขที่แท้จริง
เมื่อปี 2007 ไป๋เยี่ยก็เคยไปดูงานฉลองปีใหม่กับเถ้าแก่ไป๋ ซึ่งตอนนั้นพวกเขาได้นั่งแถวหน้าสุด
คืนนี้ไป๋เยี่ยไม่ได้ดูงานฉลองปีใหม่จึงตัดสินใจนอน พอวันรุ่งขึ้นก็ถูกไป๋หลิงปลุกมาจุดไฟฉลองปีใหม่ตั้งแต่ยังไม่ตีห้า
วันต่อมาเขาก็ต้องไปเยี่ยมญาติ
ไป๋เยี่ยมีญาติหลายคน แต่ต่างคนก็ต่างย้ายไปอยู่ในเมือง มีเพียงเถ้าแก่ไป๋ที่ย้ายจากในเมืองกลับมาในหมู่บ้านแห่งนี้ ความคิดความอ่านของเขาจึงต่างจากคนทั่วๆ ไปเล็กน้อย
เวลาสิบเอ็ดโมง ไป๋เยี่ยได้รับสายจากพ่างจื่อ เขาโทรมาอวยพรปีใหม่ก่อนจะเข้าเรื่อง “เยี่ยจื่อ ผลสอบออกมาแล้วนะ นายพร้อมไปออกศึกกับฉันไหม”
เมื่อไป๋เยี่ยได้ยินว่าผลสอบออกแล้วก็รีบเข้าเว็บไซต์ กรอกเลขประจำตัวสอบและกดค้นหา
ผลสอบปรากฏขึ้นต่อหน้าเขาทันที!
[วิชาภาษาอังกฤษ: 100 คะแนน
วิชารัฐศาสตร์: 61 คะแนน
วิชาแพทย์แผนจีน: 300 คะแนน
คะแนนรวม: 461 คะแนน]
[1] โก๋วเป่า คือ ก้อนหินที่เกิดในท้องของสุนัข ทางการแพทย์แผนจีนนำมาใช้เป็นยารักษาโรค
[2] หนิวหวง คือ นิ่วแห้งของวัว นำมาใช้เป็นยาได้
[3] หมาเป่า คือ ก้อนหินที่เกิดในท้องม้า นำมาใช้เป็นยาได้เช่นกัน